ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การติดสุขทางใจ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50095
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  bbby [ 15 พ.ค. 2015, 23:14 ]
หัวข้อกระทู้:  การติดสุขทางใจ

การติดสุขทางใจ จากการที่เป็นผู้ให้ หรือการเป็นผู้ที่ให้อภัย
ถือว่าเป็นกิเลสได้ยังไงค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 15 พ.ค. 2015, 23:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การติดสุขทางใจ

bbby เขียน:
การติดสุขทางใจ จากการที่เป็นผู้ให้ หรือการเป็นผู้ที่ให้อภัย
ถือว่าเป็นกิเลสได้ยังไงค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:

การให้ เป็นการขัดเกลา ความตระหนี่
การให้อภัย เป็นการละลดมานะ ความถือตัว ความผูกโกรธ
เป็นกุศล ไม่ใช่กิเลส เป็นตัวขัดเกลากิเลส
ความสุขที่เกิดขึ้นเป็นผลจาก กุศลที่ได้กระทำ
อย่างนี้ กรณีหนึ่ง

แต่ความพึงพอใจ ที่เสพย์สุขเวทนา ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง
ความสุขโสมนัส ไม่ใช่กิเลส
แต่ความพึงใจติดใจยินดีต่อสุขโสมนัสที่เกิดขึ้น จึงเป็นกิเลส

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 16 พ.ค. 2015, 03:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การติดสุขทางใจ

bbby เขียน:
การติดสุขทางใจ จากการที่เป็นผู้ให้ หรือการเป็นผู้ที่ให้อภัย
ถือว่าเป็นกิเลสได้ยังไงค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


การให้..นี้ลด..กิเลสโลภะ
ให้อภัย....ลด..กิเลสโทสะ

การที่อยากจะให้..อีก...เพราะติดใจในสุขที่ได้ละ..ได้วาง..หากมีจุดหมายของการกระทำเพื่อ..ลด..ละ..เลิก...เพื่อพระนิพพาน..(จะสะสมบารมีเพื่อชาติต่อไปหรือ...จะเอาชาตินี้เลย..ก็ไม่ว่ากัน)....จะเป็นฉันทะ..ใน อิทธิบาท 4....ส่วนหนึ่งของโพธิปักขิยธรรม 37

ความพอใจ..ชนิดนี้...ย่อมไม่ใช่กิเลส..แต่เป็นมรรค..คือ..หนทาง..

แต่...หากว่า..ไม่ได้ทำแล้วมีอาการกลุ้มใจ..ทุกข์ใจ..อยู่..หรือทำไปแล้ว...ผู้รับไม่ตอบสนองเท่าที่ควร...ก็ตะหงิด..ตะหงิดในใจ.....อันนี้เพราะอุเบกขายังพร่อง..ต้องมีปัญญามากขึ้น....ตรงนี้..ตามความเห็นของผม...ก็น่าจะอนาคามีขึ้นไป..นั้นแหละนะ..ถึงจะไม่มีอาการแบบนี้

เป็นผม..จะไม่แปลกใจและไม่กังวลใจ....หากเรายังมีกิเลสที่ละเอียดของพระอริยะเจ้าขั้นสูงอยู่
จะชิว..ชิว....
ก็มันธรรมดา...นิ
wink wink

เจ้าของ:  bbby [ 16 พ.ค. 2015, 10:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การติดสุขทางใจ

คือเรา ขอยก คำพูดของคนอื่นมานะคะ

คือเราไม่เข้าใจ ว่าหมายถึงอะไร ถ้าทางบอร์ด เห็นว่าไม่สมควร
ลบได้นะคะ



อ้างคำพูด:
ความสุขก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งนะครับ....หากวันไหนคุณขาดมัน คุณจะเห็นเนื้อแท้ของใจคุณ..




ความสุขที่เค้าหมายถึงในที่นี้ ก้อหมายถึงความสุขจากการเป็นผู้ให้นี่หล่ะค่ะ


คือเราก้อทำการเป็นผู้ให้มานานแล้วนะ แล้วถ้าขาดมัน
ใช่หมายถึงว่า " ถ้าถึงช่วงที่บางครั้ง เราไม่สามรถที่จะเป็นผู้ให้ได้ คือต้องหยุด "
คือตรงนี้ใช่หมายถึง ว่าขาดมันใช่หรือปล่าวค่ะ


อ้างคำพูด:
แล้วจะเห็นเนื้อแท้ในใจของคุณ


คือยังไงค่ะ แล้วเนื้อแท้ในใจ มันจะเป็นยังไงอ่ะ
แล้วทีนี้ สำหรับเรา ถ้าเราไม่สามารถ ที่จะช่วย หรือให้ได้
คือเราก้อ ปล่อยวางค่ะ เรามักจะคิดว่า เราต้องสะสมบุญบารมี
ของเราให้เยอะกว่านี้อีก เพื่อที่จะได้ช่วยพวกเค้าได้


คือคำพูด ที่เรายกมาวางนี่ เค้ำไม่ใช่หมายถึงเราหรอกนะค่ะ
คือเค้าเขียน ให้คนอื่น ที่เป็นผู้ให้น่ะค่ะ :b41: :b55: :b48:

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 16 พ.ค. 2015, 11:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การติดสุขทางใจ

bbby เขียน:
คือเรา ขอยก คำพูดของคนอื่นมานะคะ

คือเราไม่เข้าใจ ว่าหมายถึงอะไร ถ้าทางบอร์ด เห็นว่าไม่สมควร
ลบได้นะคะ



อ้างคำพูด:
ความสุขก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งนะครับ....หากวันไหนคุณขาดมัน คุณจะเห็นเนื้อแท้ของใจคุณ..




ความสุขที่เค้าหมายถึงในที่นี้ ก้อหมายถึงความสุขจากการเป็นผู้ให้นี่หล่ะค่ะ


คือเราก้อทำการเป็นผู้ให้มานานแล้วนะ แล้วถ้าขาดมัน
ใช่หมายถึงว่า " ถ้าถึงช่วงที่บางครั้ง เราไม่สามรถที่จะเป็นผู้ให้ได้ คือต้องหยุด "
คือตรงนี้ใช่หมายถึง ว่าขาดมันใช่หรือปล่าวค่ะ


อ้างคำพูด:
แล้วจะเห็นเนื้อแท้ในใจของคุณ


คือยังไงค่ะ แล้วเนื้อแท้ในใจ มันจะเป็นยังไงอ่ะ
แล้วทีนี้ สำหรับเรา ถ้าเราไม่สามารถ ที่จะช่วย หรือให้ได้
คือเราก้อ ปล่อยวางค่ะ เรามักจะคิดว่า เราต้องสะสมบุญบารมี
ของเราให้เยอะกว่านี้อีก เพื่อที่จะได้ช่วยพวกเค้าได้


คือคำพูด ที่เรายกมาวางนี่ เค้ำไม่ใช่หมายถึงเราหรอกนะค่ะ
คือเค้าเขียน ให้คนอื่น ที่เป็นผู้ให้น่ะค่ะ :b41: :b55: :b48:


ผมว่าน่าจะหมายถึง การให้เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่พอให้แล้วใจเรามีความสุขขึ้นมา

แล้วเราไปยึดความสุขนั่น คือมันอาจไปยึดแบบไม่รู้ตัว หรือจงใจอยากได้ความสุขนั้นอีก

เราต้องดูให้ทันอีกที

พอใจเราให้แล้วความสุขเกิดขึ้น ถ้าเราไม่มีสติรู้ทัน เราก็ติดกับดักความสุขเข้าไปแล้วครับ

แล้วเราจะโหยหาความสุขแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันก็ไม่ผิดครับ แต่มันจะไม่หลุดพ้นครับ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 16 พ.ค. 2015, 15:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การติดสุขทางใจ

bbby เขียน:
คือเรา ขอยก คำพูดของคนอื่นมานะคะ

คือเราไม่เข้าใจ ว่าหมายถึงอะไร ถ้าทางบอร์ด เห็นว่าไม่สมควร
ลบได้นะคะ



อ้างคำพูด:
ความสุขก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งนะครับ....หากวันไหนคุณขาดมัน คุณจะเห็นเนื้อแท้ของใจคุณ..




ความสุขที่เค้าหมายถึงในที่นี้ ก้อหมายถึงความสุขจากการเป็นผู้ให้นี่หล่ะค่ะ


คือเราก้อทำการเป็นผู้ให้มานานแล้วนะ แล้วถ้าขาดมัน
ใช่หมายถึงว่า " ถ้าถึงช่วงที่บางครั้ง เราไม่สามรถที่จะเป็นผู้ให้ได้ คือต้องหยุด "
คือตรงนี้ใช่หมายถึง ว่าขาดมันใช่หรือปล่าวค่ะ


อ้างคำพูด:
แล้วจะเห็นเนื้อแท้ในใจของคุณ


คือยังไงค่ะ แล้วเนื้อแท้ในใจ มันจะเป็นยังไงอ่ะ
แล้วทีนี้ สำหรับเรา ถ้าเราไม่สามารถ ที่จะช่วย หรือให้ได้
คือเราก้อ ปล่อยวางค่ะ เรามักจะคิดว่า เราต้องสะสมบุญบารมี
ของเราให้เยอะกว่านี้อีก เพื่อที่จะได้ช่วยพวกเค้าได้


คือคำพูด ที่เรายกมาวางนี่ เค้ำไม่ใช่หมายถึงเราหรอกนะค่ะ
คือเค้าเขียน ให้คนอื่น ที่เป็นผู้ให้น่ะค่ะ :b41: :b55: :b48:

ผู้เขียน เขาไม่เข้าใจ
ความแตกต่างของ เวทนา และอุปาทานในเวทนา
จึงเขียนอย่างนั้น
ไม่มีไรมากครับ เท่านั้นเอง

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/