ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50483 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 10 ก.ค. 2015, 07:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ ![]() ทำไม มันยากจัง ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 10 ก.ค. 2015, 08:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนรอยนิ้วมือหรือ รอยนิ้วหัวแม่มือ ย่อมปรากฏอยู่ที่ด้ามเครื่องมือของพวก ช่างไม้ หรือลูกมือของพวกช่างไม้ แต่เขาก็ไม่มีความรู้ว่า ด้ามเครื่องมือของเรา วันนี้สึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สึกไปเท่านี้ ๆ คงรู้แต่ว่ามันสึกไป ๆ เท่านั้น, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบภาวนาอยู่ ก็ ไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้ อาสวะของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้น ไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สิ้นไปเท่านี้ ๆ รู้แต่เพียงว่า สิ้นไปใน เมื่อมันสิ้นไป ๆ เท่านั้น, ฉันใดก็ฉันนั้น. สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๘/๖๘. |
เจ้าของ: | idea [ 10 ก.ค. 2015, 09:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
แค่แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ ![]() รู้แบบไหนเหรอคะ ![]() วิธีปฏิบัติ มีเยอะนะ แต่ต้องศึกษา..และรู้ให้ถึง..ใจตน.........เป็นดีที่สุด กิเลส..มันกำเริบ..เพราะอะไร..ตรงไหน..ดูให้ดี..จี้ให้ถูกจุด จะตามมันไป..ก็ให้ตามเห็น..การกระทำที่น่าละอายของตน..ที่มันยังกำเริบ.. พิจารณาบ่อยๆ..... มันก็เห็นแต่ทุกข์ จริงๆเลยค่ะ เพราะงั้นตอนนี้ "กำลัง"ตัวไหนมันบกพร่อง........แรงส่งก็สำคัญ จะมาเอาแต่มองคนอื่น แค่นี้เขาดี..แค่นี้เขาพอ..แค่นี้เขาก็ไปได้แล้ว แต่เราเอา..แล้วยังไปไม่ได้...ก็ต้องหาอุบายให้กับตัวเองค่ะ เอาให้จริง..สู้กับมันบ่อยๆ..ทุกเวลาเลยยิ่งดี กิเลสจะลดหรือไม่ลด อย่าเพิ่งไปมองหามัน ![]() ให้กิเลสแค่สงบ..ก็อย่าง ให้ขุดรากถอนโคนทิ้ง..ก็อย่าง แต่ในมุมมองของไอเดีย.....เมื่อ"รู้"ปัจจุบันขณะ กำลังไม่พอ ก็ลงสนามเองเลย ![]() ความรู้สึกตอนนี้..มันสื่อออกมาได้..ประมานว่า...ลงไปสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเลย เหนื่อยหน่อย..แต่ก็ทำให้เรา..ไม่ห่างจากความเพียรค่ะ..กาย เวทนา จิต ธรรม พอรอบมันเต็ม...เห็นอะไร...มันก็บอกว่า..เป็นทุกข์ๆๆๆๆ ความเบื่อหน่ายมันก็มา...แบบ..ชะแว๊บๆๆๆให้เห็นอยู่เนื่องๆ ![]() ![]() ![]() ![]() เพราะก็อยู่ในขั้น..ต่อสู้..อยู่ค่ะ..ก็แค่ประคับประคองอยู่เหมือนกัน ![]() ![]() กิเลสจะลดหรือไม่ลด..ช่างมัน..ถึงเวลา..มันจะเป็นผลพลอยได้เอง ได้เอง,,รู้เอง...เห็นมันเกิด-ดับไปแค่นั้น ![]() ก็เหมือนเราพยายามสูดลมหายใจยังไงก็ไม่เข้า ![]() ![]() ![]() ![]() เพราะฉะนั้นถ้าจะ..อยาก..ให้ความอยากมันลด ก็เหมือนไปพยายามหยุดลมหายใจ....แล้วจะทนทุกข์ไหวเหรอ....เมื่อยังไม่รู้จักทุกข์จริงๆ ![]() ![]() ![]() คุยสนุกๆนะ..รู้สึกอย่างนี้..เมื่อคุยกับคุณเปลี่ยนชื่อ ไม่เข้าใจก็...ถือซะว่า เข้ามาทักทาย เป็นกำลังใจให้จร้าาาาา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | sirinpho [ 10 ก.ค. 2015, 09:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
หลักปฏิบัติ 3 ขั้น ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งต้องเกื้อหนุนกัน...ปฏิบัติขั้นศีล รักษาศีล...กิเลสก็ลดไปเยอะพอควรแล้วค่ะ...ขั้นภาวนา หากปฏิบัติถูกต้อง กิเลสจะต้องลดลงไปตามลำดับค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 10 ก.ค. 2015, 17:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
walaiporn เขียน: ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนรอยนิ้วมือหรือ รอยนิ้วหัวแม่มือ ย่อมปรากฏอยู่ที่ด้ามเครื่องมือของพวก ช่างไม้ หรือลูกมือของพวกช่างไม้ แต่เขาก็ไม่มีความรู้ว่า ด้ามเครื่องมือของเรา วันนี้สึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สึกไปเท่านี้ ๆ คงรู้แต่ว่ามันสึกไป ๆ เท่านั้น, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบภาวนาอยู่ ก็ ไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้ อาสวะของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้น ไปเท่านี้ วันอื่น ๆ สิ้นไปเท่านี้ ๆ รู้แต่เพียงว่า สิ้นไปใน เมื่อมันสิ้นไป ๆ เท่านั้น, ฉันใดก็ฉันนั้น. สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๘/๖๘. ![]() |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 10 ก.ค. 2015, 17:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
sirinpho เขียน: หลักปฏิบัติ 3 ขั้น ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งต้องเกื้อหนุนกัน...ปฏิบัติขั้นศีล รักษาศีล...กิเลสก็ลดไปเยอะพอควรแล้วค่ะ...ขั้นภาวนา หากปฏิบัติถูกต้อง กิเลสจะต้องลดลงไปตามลำดับค่ะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 10 ก.ค. 2015, 17:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
idea เขียน: แค่แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ ![]() รู้แบบไหนเหรอคะ ![]() วิธีปฏิบัติ มีเยอะนะ แต่ต้องศึกษา..และรู้ให้ถึง..ใจตน.........เป็นดีที่สุด กิเลส..มันกำเริบ..เพราะอะไร..ตรงไหน..ดูให้ดี..จี้ให้ถูกจุด จะตามมันไป..ก็ให้ตามเห็น..การกระทำที่น่าละอายของตน..ที่มันยังกำเริบ.. พิจารณาบ่อยๆ..... มันก็เห็นแต่ทุกข์ จริงๆเลยค่ะ เพราะงั้นตอนนี้ "กำลัง"ตัวไหนมันบกพร่อง........แรงส่งก็สำคัญ จะมาเอาแต่มองคนอื่น แค่นี้เขาดี..แค่นี้เขาพอ..แค่นี้เขาก็ไปได้แล้ว แต่เราเอา..แล้วยังไปไม่ได้...ก็ต้องหาอุบายให้กับตัวเองค่ะ เอาให้จริง..สู้กับมันบ่อยๆ..ทุกเวลาเลยยิ่งดี กิเลสจะลดหรือไม่ลด อย่าเพิ่งไปมองหามัน ![]() ให้กิเลสแค่สงบ..ก็อย่าง ให้ขุดรากถอนโคนทิ้ง..ก็อย่าง แต่ในมุมมองของไอเดีย.....เมื่อ"รู้"ปัจจุบันขณะ กำลังไม่พอ ก็ลงสนามเองเลย ![]() ความรู้สึกตอนนี้..มันสื่อออกมาได้..ประมานว่า...ลงไปสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเลย เหนื่อยหน่อย..แต่ก็ทำให้เรา..ไม่ห่างจากความเพียรค่ะ..กาย เวทนา จิต ธรรม พอรอบมันเต็ม...เห็นอะไร...มันก็บอกว่า..เป็นทุกข์ๆๆๆๆ ความเบื่อหน่ายมันก็มา...แบบ..ชะแว๊บๆๆๆให้เห็นอยู่เนื่องๆ ![]() ![]() ![]() ![]() เพราะก็อยู่ในขั้น..ต่อสู้..อยู่ค่ะ..ก็แค่ประคับประคองอยู่เหมือนกัน ![]() ![]() กิเลสจะลดหรือไม่ลด..ช่างมัน..ถึงเวลา..มันจะเป็นผลพลอยได้เอง ได้เอง,,รู้เอง...เห็นมันเกิด-ดับไปแค่นั้น ![]() ก็เหมือนเราพยายามสูดลมหายใจยังไงก็ไม่เข้า ![]() ![]() ![]() ![]() เพราะฉะนั้นถ้าจะ..อยาก..ให้ความอยากมันลด ก็เหมือนไปพยายามหยุดลมหายใจ....แล้วจะทนทุกข์ไหวเหรอ....เมื่อยังไม่รู้จักทุกข์จริงๆ ![]() ![]() ![]() คุยสนุกๆนะ..รู้สึกอย่างนี้..เมื่อคุยกับคุณเปลี่ยนชื่อ ไม่เข้าใจก็...ถือซะว่า เข้ามาทักทาย เป็นกำลังใจให้จร้าาาาา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 ก.ค. 2015, 20:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 ก.ค. 2015, 21:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ ![]() ทำไม มันยากจัง ![]() ดีแล้ว....ที่รู้ ![]() คนอื่นมอง..ก็มองว่าคนเข้าวัดนี้...คงเป็นคนมีความสุขมาก แต่คนปฏิบัติ..นี้..ทุกข์...ชิ..เป้ง..ใครจะรู้...555 ![]() ทำไป..ทำไป..แต่ก็ยังทุกข์อยู่นั้นแหละ... พอเพื่อน ๆ มาปรับทุกข์..นะ... "เธอ...แฟนฉันมีกิ๊ก" "เธอ...ผัวฉันไม่ค่อยช่วยฉัน..เพื่อนที่ทำงานไม่ช่วยงานฉัน..เจ้านายไม่ทำงานผลักมาให้แต่ฉัน " "เธอ...ฉันอ้วน..ทำงัย" "เธอ...ฉันเครียด" "เธอ...ฉันถูกนินทา" "เธอ..............." ฯลฯ.. เราก็ถึงบางอ้อ...เฮ้ย...ไอ้ความทุกข์แบบเดิมๆ ..เก่า ๆ ..แบบทั่ว ๆ ไปที่เขาเป็นกัน....เราไม่เจอมันมานานเท่าไรแล้วนี้?.. ![]() ![]() ไม่ทุกข์..ไม่พบธรรม..ครับ ก็ต้องใช้ปัญญาแก้ไขไปทีละเปลาะ..แก้ทีละข้อ...อย่าไปตั้งใว้เยอะ...เอาทีละข้อ..ครับ แต่ความตั้งใจต้องตั้งใว้จุดที่สูง ๆ เข้าใว้..แต่เดินที่ละขั้น สู้...สู้... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 10 ก.ค. 2015, 21:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
กบนอกกะลา เขียน: เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ ![]() ทำไม มันยากจัง ![]() ดีแล้ว....ที่รู้ ![]() คนอื่นมอง..ก็มองว่าคนเข้าวัดนี้...คงเป็นคนมีความสุขมาก แต่คนปฏิบัติ..นี้..ทุกข์...ชิ..เป้ง..ใครจะรู้...555 ![]() ทำไป..ทำไป..แต่ก็ยังทุกข์อยู่นั้นแหละ... พอเพื่อน ๆ มาปรับทุกข์..นะ... "เธอ...แฟนฉันมีกิ๊ก" "เธอ...ผัวฉันไม่ค่อยช่วยฉัน..เพื่อนที่ทำงานไม่ช่วยงานฉัน..เจ้านายไม่ทำงานผลักมาให้แต่ฉัน " "เธอ...ฉันอ้วน..ทำงัย" "เธอ...ฉันเครียด" "เธอ...ฉันถูกนินทา" "เธอ..............." ฯลฯ.. เราก็ถึงบางอ้อ...เฮ้ย...ไอ้ความทุกข์แบบเดิมๆ ..เก่า ๆ ..แบบทั่ว ๆ ไปที่เขาเป็นกัน....เราไม่เจอมันมานานเท่าไรแล้วนี้?.. ![]() ![]() ไม่ทุกข์..ไม่พบธรรม..ครับ ก็ต้องใช้ปัญญาแก้ไขไปทีละเปลาะ..แก้ทีละข้อ...อย่าไปตั้งใว้เยอะ...เอาทีละข้อ..ครับ แต่ความตั้งใจต้องตั้งใว้จุดที่สูง ๆ เข้าใว้..แต่เดินที่ละขั้น สู้...สู้... ![]() ![]() การปฎิบัติ มันก็มีช่วงที่ก้าวหน้า และบางช่วงมันก็อยู่กับที่ บางช่วงมันก็ถอยหลัง ![]() เราก็ไปบังคับ สั่งไม่ได้เสียด้วยว่าให้ถึงที่หมายเร็วๆ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 ก.ค. 2015, 21:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: การปฎิบัติ มันก็มีช่วงที่ก้าวหน้า และบางช่วงมันก็อยู่กับที่ บางช่วงมันก็ถอยหลัง ![]() เราก็ไปบังคับ สั่งไม่ได้เสียด้วยว่าให้ถึงที่หมายเร็วๆ ![]() ![]() ใช่ครับ... |
เจ้าของ: | student [ 10 ก.ค. 2015, 21:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ ![]() ทำไม มันยากจัง ![]() ก็ได้เยอะแล้วนิครับ ความเห็นอาจเปลี่ยนไปบ้างแล้ว แบบใครมาบอกอย่างไรก็ไม่หลงเชื่ออีกต่อไปไงครับ เช่น คนเราเกิดมาชาติเดียว ตายแล้วสูญ ไม่ต้องไปชดใช้อะไร จบแล้วจบเลย มันเป็นชีวิตเรา ถ้ามีคนมาบอกคุณ เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างนี้ คุณเปลี่ยนชื่อใหม่จะลังเลสงสัยไหมครับ หรือมานั่งทบทวนไหมครับว่า เออ อาจจะจริงอย่างที่เขาว่าแฮะ แต่เราปฎิบัติมาได้แล้ว ไม่สงสัยแล้ว ชาติหน้ามีจริงแน่นอนเพราะสร้างเหตุเอาไว้ ต่อให้เอามีดมาจี้คอหอย เราก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดนี้ได้ เพราะความเห็นเราเปลี่ยนแล้ว เหมือนเกลือเค็ม คนทั้งโลกรู้แล้วว่ารสเค็มเป็นอย่างไร ความเห็นว่ารสเค็มนั้นติดตัวเขาเหล่านั้นไปตลอดชีวิตแล้ว มันเป็นปัญญาแบบสัญชาติญาณ ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเราเป็นคนที่เข้าใจความจริงขั้นสูงได้ แต่ชาติหน้ามีจริง ทำอย่างไรก็ต้องพบกับผลที่ทำไว้ นี่เป็นความเห็นที่ละเอียดขึ้น เป็นปัญญาขั้นที่สูงขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะซาบซึ้ง มันไม่ใช่สัญชาติญาณอีกต่อไป มันเป็นสัมมาทิฎฐิ ที่เปลี่ยนความเห็นเราตลอดชีวิตนั่นเอง กิเลสที่หนาก็ต้องอาศัยความตั้งมั่น ความเพียร ค่อยๆทำกันไป มันจะค่อยๆหายไปพร้อมกับความเห็นถูกของเรานั่นเอง |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 11 ก.ค. 2015, 08:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
student เขียน: เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ทั้งๆที่รู้ วิธีการภาวนาแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่เห็นจะลดลงเลยละ ![]() ทำไม มันยากจัง ![]() ก็ได้เยอะแล้วนิครับ ความเห็นอาจเปลี่ยนไปบ้างแล้ว แบบใครมาบอกอย่างไรก็ไม่หลงเชื่ออีกต่อไปไงครับ เช่น คนเราเกิดมาชาติเดียว ตายแล้วสูญ ไม่ต้องไปชดใช้อะไร จบแล้วจบเลย มันเป็นชีวิตเรา ถ้ามีคนมาบอกคุณ เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างนี้ คุณเปลี่ยนชื่อใหม่จะลังเลสงสัยไหมครับ หรือมานั่งทบทวนไหมครับว่า เออ อาจจะจริงอย่างที่เขาว่าแฮะ แต่เราปฎิบัติมาได้แล้ว ไม่สงสัยแล้ว ชาติหน้ามีจริงแน่นอนเพราะสร้างเหตุเอาไว้ ต่อให้เอามีดมาจี้คอหอย เราก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดนี้ได้ เพราะความเห็นเราเปลี่ยนแล้ว เหมือนเกลือเค็ม คนทั้งโลกรู้แล้วว่ารสเค็มเป็นอย่างไร ความเห็นว่ารสเค็มนั้นติดตัวเขาเหล่านั้นไปตลอดชีวิตแล้ว มันเป็นปัญญาแบบสัญชาติญาณ ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเราเป็นคนที่เข้าใจความจริงขั้นสูงได้ แต่ชาติหน้ามีจริง ทำอย่างไรก็ต้องพบกับผลที่ทำไว้ นี่เป็นความเห็นที่ละเอียดขึ้น เป็นปัญญาขั้นที่สูงขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะซาบซึ้ง มันไม่ใช่สัญชาติญาณอีกต่อไป มันเป็นสัมมาทิฎฐิ ที่เปลี่ยนความเห็นเราตลอดชีวิตนั่นเอง กิเลสที่หนาก็ต้องอาศัยความตั้งมั่น ความเพียร ค่อยๆทำกันไป มันจะค่อยๆหายไปพร้อมกับความเห็นถูกของเรานั่นเอง เรื่องชาติหน้าจากที่อยากรู้ มันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายละครับ เรื่องผี เทวดา จากที่อยากรู้อยากเห็นก็ไม่ได้สนใจเพราะ เมื่อลองปฎิบัติไป เราก็จะไปเห็นว่าทางพ้นทุกข์มันมีอยู่จริง เรื่องอื่นๆ มันก็ดูมีความสำคัญน้อยไป อย่างถนัดตา ทางเดินมันก็ตรงๆนะครับ แต่เรานี่ละคอยจะออกนอกเส้นเอง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | muisun [ 11 ก.ค. 2015, 09:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
คุณมีวิธีพิสูจน์แล้วหรือว่าอะไรลด อะไรไม่ลด แล้วอะไรคือกิเลส อะไรไม่ใช่กิเลส พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า การละกิเลสต้องละด้วยการรู้การเห็น กิเลสเมื่อจะเกิดก็เกิดที่ตา เมื่อจะดับก็ดับที่ตา เมื่อจะเกิดก็เกิดที่ใจ จะดับก็ดับที่ใจ ต้นเหตุกิเลสอยู่ที่ชอบ ชัง เฉย ตราบใดที่ยังมีชอบ ชัง เฉย อยู่ กิเลสก็ยังมีอยู่ ถ้าดับความชอบ ชัง เฉย ได้ก็ดับกิเลสได้ จะคิดดับๆ จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์ |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 11 ก.ค. 2015, 14:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้วิธี ปฎิบัติแล้ว แต่ทำไมกิเลสไม่ลดลง |
muisun เขียน: คุณมีวิธีพิสูจน์แล้วหรือว่าอะไรลด อะไรไม่ลด แล้วอะไรคือกิเลส อะไรไม่ใช่กิเลส พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า การละกิเลสต้องละด้วยการรู้การเห็น กิเลสเมื่อจะเกิดก็เกิดที่ตา เมื่อจะดับก็ดับที่ตา เมื่อจะเกิดก็เกิดที่ใจ จะดับก็ดับที่ใจ ต้นเหตุกิเลสอยู่ที่ชอบ ชัง เฉย ตราบใดที่ยังมีชอบ ชัง เฉย อยู่ กิเลสก็ยังมีอยู่ ถ้าดับความชอบ ชัง เฉย ได้ก็ดับกิเลสได้ จะคิดดับๆ จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |