ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50596 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ก.ค. 2015, 09:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
![]() ...เช้านี้ฟังเทศนาธรรมครูบาอาจารย์เมื่อเวลา9นาฬิกาทางวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนวัดป่าบ้านตาด... ...หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ตอบข้อสงสัยธัมมะ มีผู้ถามท่านว่าจะรู้สภาวะที่รูป-นามเกิด-ดับได้อย่างไร... ...ท่านว่า...การทำสมาธิจนจิตไปสู่สภาวะที่รู้ว่ากายหายไปหมด เรียกว่า นามเกิด-รูปดับ นามเกิด-รูปดับ... ...ท่านรู้อย่างนี้...ของท่านอื่นว่าอย่างไร... ![]() ...ที่ข้าพเจ้าเคยรู้ก็ตรงกับที่หลวงพ่อพุธตอบค่ะ...ตรงนี้แหละจำไม่ลืมเป็นอจลศรัทธาของข้าพเจ้า... ...เป็นอย่างงี้จิตรวมสงบรู้ว่ากายหายไปเหลือแต่ว่างๆ...พยายามสูดลมหายใจก็ไม่รู้อาการของกาย... ...ความรู้สึกตอนนั้นคือกายก็มี ใจก็คิดไม่หายใจก็ไม่ตาย โปร่งโล่งเบา รู้ว่ากายกับจิตคนละอันกันนะ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 29 ก.ค. 2015, 12:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
Rosarin เขียน: ...ที่ข้าพเจ้าเคยรู้ก็ตรงกับที่หลวงพ่อพุธตอบค่ะ...ตรงนี้แหละจำไม่ลืมเป็นอจลศรัทธาของข้าพเจ้า... ที่เล่ามายังไกลความจริงมากนั่นขั้นสมาธิ
...เป็นอย่างงี้จิตรวมสงบรู้ว่ากายหายไปเหลือแต่ว่างๆ...พยายามสูดลมหายใจก็ไม่รู้อาการของกาย... ...ความรู้สึกตอนนั้นคือกายก็มี ใจก็คิดไม่หายใจก็ไม่ตาย โปร่งโล่งเบา รู้ว่ากายกับจิตคนละอันกันนะ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ก.ค. 2015, 12:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
![]() Rosarin เขียน: ...ที่ข้าพเจ้าเคยรู้ก็ตรงกับที่หลวงพ่อพุธตอบค่ะ...ตรงนี้แหละจำไม่ลืมเป็นอจลศรัทธาของข้าพเจ้า... ...เป็นอย่างงี้จิตรวมสงบรู้ว่ากายหายไปเหลือแต่ว่างๆ...พยายามสูดลมหายใจก็ไม่รู้อาการของกาย... ...ความรู้สึกตอนนั้นคือกายก็มี ใจก็คิดไม่หายใจก็ไม่ตาย โปร่งโล่งเบา รู้ว่ากายกับจิตคนละอันกันนะ... ![]() ![]() ![]() ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 29 ก.ค. 2015, 12:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
Rosarin เขียน: ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ขั้นปฏิบัตินะยังไม่ถึงปฏิเวธ ถ้ายังมีโปร่งโลงสบายก็เอามาพิจารณาได้ัขั้นจินตาญาน
![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ก.ค. 2015, 12:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ขั้นปฏิบัตินะยังไม่ถึงปฏิเวธ ถ้ายังมีโปร่งโลงสบายก็เอามาพิจารณาได้ัขั้นจินตาญาน![]() ![]() ...การพิจารณาสติปัฏฐานเป็นวิปัสสนาภาวนา...การทำสมาธิเป็นสมถภาวนาคือการพักงานวิปัสสนา... ...พิจารณาสติปัฏฐาน4ให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้ก็ต่อเมื่อทำสมาธิจนถึงจิตรวมสงบรู้นามเกิด-รูปดับ.. ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 29 ก.ค. 2015, 13:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
Rosarin เขียน: bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ขั้นปฏิบัตินะยังไม่ถึงปฏิเวธ ถ้ายังมีโปร่งโลงสบายก็เอามาพิจารณาได้ัขั้นจินตาญาน![]() ![]() ...การพิจารณาสติปัฏฐานเป็นวิปัสสนาภาวนา...การทำสมาธิเป็นสมถภาวนาคือการพักงานวิปัสสนา... ...พิจารณาสติปัฏฐาน4ให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้ก็ต่อเมื่อทำสมาธิจนถึงจิตรวมสงบรู้นามเกิด-รูปดับ.. ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ก.ค. 2015, 14:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ขั้นปฏิบัตินะยังไม่ถึงปฏิเวธ ถ้ายังมีโปร่งโลงสบายก็เอามาพิจารณาได้ัขั้นจินตาญาน![]() ![]() ...การพิจารณาสติปัฏฐานเป็นวิปัสสนาภาวนา...การทำสมาธิเป็นสมถภาวนาคือการพักงานวิปัสสนา... ...พิจารณาสติปัฏฐาน4ให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้ก็ต่อเมื่อทำสมาธิจนถึงจิตรวมสงบรู้นามเกิด-รูปดับ.. ![]() เป็นความจริงหรือตัวหนังสือล่ะรู้ได้ไง รึจะให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าบิกทู่ถึงแล้วว่างั้นเถอะ หุหุ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 29 ก.ค. 2015, 14:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
Rosarin เขียน: bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: ...อันนี้แหละที่หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงจิตว่างว่าเป็นสติปัฎฐานสี่ดีๆนี่เอง(กาย เวทนา จิต ธรรม)... ขั้นปฏิบัตินะยังไม่ถึงปฏิเวธ ถ้ายังมีโปร่งโลงสบายก็เอามาพิจารณาได้ัขั้นจินตาญาน![]() ![]() ...การพิจารณาสติปัฏฐานเป็นวิปัสสนาภาวนา...การทำสมาธิเป็นสมถภาวนาคือการพักงานวิปัสสนา... ...พิจารณาสติปัฏฐาน4ให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้ก็ต่อเมื่อทำสมาธิจนถึงจิตรวมสงบรู้นามเกิด-รูปดับ.. ![]() เป็นความจริงหรือตัวหนังสือล่ะรู้ได้ไง รึจะให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าบิกทู่ถึงแล้วว่างั้นเถอะ หุหุ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | student [ 29 ก.ค. 2015, 14:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
Rosarin เขียน: tongue ...เช้านี้ฟังเทศนาธรรมครูบาอาจารย์เมื่อเวลา9นาฬิกาทางวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนวัดป่าบ้านตาด... ...หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ตอบข้อสงสัยธัมมะ มีผู้ถามท่านว่าจะรู้สภาวะที่รูป-นามเกิด-ดับได้อย่างไร... ...ท่านว่า...การทำสมาธิจนจิตไปสู่สภาวะที่รู้ว่ากายหายไปหมด เรียกว่า นามเกิด-รูปดับ นามเกิด-รูปดับ... ...ท่านรู้อย่างนี้...ของท่านอื่นว่าอย่างไร... ![]() ![]() ![]() เป็นธรรมชาติของธรรม เราเอาจิตเข้าไปรู้ กายดับ นามเกิด แต่กายไหนล่ะครับดับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจิตเข้าไปรู้อะไร ถ้ารู้ธาตุดิน ธาตุอื่นก็ดับ น้ำดับ ไฟดับ ลมดับ คือ จะดับทั้ง4ก็คือ จิตไปรู้สังขารขันธ์ (นาม) กายก็ดับ ธาตุ4ดับหมด เพราะเหตุคือจิตรู้ไม่ได้ตั้งอยู่ ถ้าจิตไปรู้สัญญา(นาม) กายก็ดับ เพราะจิตไม่ได้ตั้งอยู่ที่กาย แต่ปัจจัยยังเกื้อหนุนอยู่ ดับเฉพาะเหตุ แต่ปัจจัยเกื้อหนุน(ชีวิต)ยังดำเนินอยู่ คือยังไม่ตาย เวทนา ก็เช่นเดียวกัน จิตตั้งอยู่เวทนา นามเกิด รูปดับ เป็นการชี้เฉพาะในเรื่องของขันธ์5 เกี่ยวกับธรรมชาตของธรรม คือ พระไตรลักษณ์ โดยมี ธรรมหมวดอื่น เกื้อหนุนอยู่รอบๆ เช่น ปัญญา ความตั้งใจ สมาธิ สติ และความผ่องใสของอารมณ์นั่นเอง |
เจ้าของ: | student [ 29 ก.ค. 2015, 14:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
ถ้ากล่าวถึงเรื่องอารมณ์ หรือ เจตสิก กุศลธรรมเกิด อกุศลธรรมดับ บางตัวเกิดร่วมกัน แต่อกุศลและกุศลไม่เกิดร่วมกัน เป็นเรื่องของเจตสิกที่จิตเข้าไปรู้ แต่ไม่เกี่ยวกับกาย แต่กายเกื้อหนุนเพราะชีวิตยังดำรงอยู่นั่นเอง |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ก.ค. 2015, 20:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
bigtoo เขียน: สภาวะนิพพาน ไม่มีการมาการไป ไม่มีการพิจารณาใดๆไม่มีรูปนามเกิดหรือดับ ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน ![]() ![]() ![]() แกงโฮ๊ะ....เน๊าะ..คิดอะไรได้ก็ใส่เข้าไป.. ![]() อ้างคำพูด: แกงโฮะ เป็นอาหารประจำภาคเหนือซึ่งคำว่า โฮะ ในภาษาเหนือแปลว่า “รวม” สรุปแล้วก็คือแกงที่เอาอาหารหลายๆอย่างมารวมกันนั่นเอง คนภาคเหนือเรียกแกงโฮะว่า “คั่วโฮะ” ว่ากันว่า สมัยก่อนแกงโฮะจะทำกันที่วัด เพราะว่า เมื่อมีเทศกาลงานบุญต่างๆ ชาวบ้านจะเอากับข้าวกับปลามาถวายทานทำบุญที่วัดเยอะมาก จนพระฉันไม่หมด พระและชาวบ้านก็เลยเอาแกงต่างๆ มาผัดรวมกันเพื่อเป็นการถนอมอาหาร โดยใส่หน่อส้มหรือหน่อไม้ดอง วุ้นเส้น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโกสน และที่ขาดไม่ได้ก็คือแกงฮังเล หัวใจเด็ดของแกงฮังเล คือ แกงโฮะ นั่นเองครับ ว่าแล้วเรามาทำแกงโฮะกันเลยครับ ส่วนผสม 1. แกงฮังเล 1 ถ้วย 2. วุ้นเส้น 1 ถุง 3. หน่อส้ม (หน่อไม้ดอง) 1 ถุง 4. ผักนานาชนิดใส่ได้หมด แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมก็จะเป็น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโกสน มะเขือพวง ถั่วฝักยาว ฯลฯ http://www.chiangrai108.com/2015/03/21/ ... %E0%B8%B0/ |
เจ้าของ: | bigtoo [ 30 ก.ค. 2015, 05:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
กบนอกกะลา เขียน: bigtoo เขียน: สภาวะนิพพาน ไม่มีการมาการไป ไม่มีการพิจารณาใดๆไม่มีรูปนามเกิดหรือดับ ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน ![]() ![]() ![]() แกงโฮ๊ะ....เน๊าะ..คิดอะไรได้ก็ใส่เข้าไป.. ![]() อ้างคำพูด: แกงโฮะ เป็นอาหารประจำภาคเหนือซึ่งคำว่า โฮะ ในภาษาเหนือแปลว่า “รวม” สรุปแล้วก็คือแกงที่เอาอาหารหลายๆอย่างมารวมกันนั่นเอง คนภาคเหนือเรียกแกงโฮะว่า “คั่วโฮะ” ว่ากันว่า สมัยก่อนแกงโฮะจะทำกันที่วัด เพราะว่า เมื่อมีเทศกาลงานบุญต่างๆ ชาวบ้านจะเอากับข้าวกับปลามาถวายทานทำบุญที่วัดเยอะมาก จนพระฉันไม่หมด พระและชาวบ้านก็เลยเอาแกงต่างๆ มาผัดรวมกันเพื่อเป็นการถนอมอาหาร โดยใส่หน่อส้มหรือหน่อไม้ดอง วุ้นเส้น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโกสน และที่ขาดไม่ได้ก็คือแกงฮังเล หัวใจเด็ดของแกงฮังเล คือ แกงโฮะ นั่นเองครับ ว่าแล้วเรามาทำแกงโฮะกันเลยครับ ส่วนผสม 1. แกงฮังเล 1 ถ้วย 2. วุ้นเส้น 1 ถุง 3. หน่อส้ม (หน่อไม้ดอง) 1 ถุง 4. ผักนานาชนิดใส่ได้หมด แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมก็จะเป็น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโกสน มะเขือพวง ถั่วฝักยาว ฯลฯ http://www.chiangrai108.com/2015/03/21/ ... %E0%B8%B0/ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 30 ก.ค. 2015, 06:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
bigtoo เขียน: กบเคยป่าว ลองใช้บทอธิฐานความเพียรดูซิ. จะได้ลิ้มธรรมรสที่อยู่เหนือโลก อาการหลง..แบบนี้..ผมไม่เคยเป็น..ครับ ![]() ![]() bigtoo เขียน: สภาวะนิพพาน ไม่มีการมาการไป ไม่มีการพิจารณาใดๆไม่มีรูปนามเกิดหรือดับ ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน อาการคิด..คิด...คิด...นึกคิดเอาเอง จับเอาคำนั้นนิด..คำนั้นหน่อย..มาผสมกัน..แล้วก็ใส่ความนึกคิดเอาเอง..ว่า.."ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน" ดููดูไปก็สวยงามดีนะ.... แต่ผมอายแทน... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | muisun [ 30 ก.ค. 2015, 10:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
บัณฑิตเขาไม่ว่าใครหรอก เค้าได้แต่บอกกันเตือนกันเค้าก็สุขใจกันทั้งคู่ เค้าดับการว่าด้วยการรู้ทันต้นจิต จะคิดดับๆ จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์ |
เจ้าของ: | bigtoo [ 30 ก.ค. 2015, 11:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สภาวะที่เรียกว่ารูปดับนามเกิดรู้ได้อย่างไร |
กบนอกกะลา เขียน: bigtoo เขียน: กบเคยป่าว ลองใช้บทอธิฐานความเพียรดูซิ. จะได้ลิ้มธรรมรสที่อยู่เหนือโลก อาการหลง..แบบนี้..ผมไม่เคยเป็น..ครับ ![]() ![]() bigtoo เขียน: สภาวะนิพพาน ไม่มีการมาการไป ไม่มีการพิจารณาใดๆไม่มีรูปนามเกิดหรือดับ ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน อาการคิด..คิด...คิด...นึกคิดเอาเอง จับเอาคำนั้นนิด..คำนั้นหน่อย..มาผสมกัน..แล้วก็ใส่ความนึกคิดเอาเอง..ว่า.."ใครถึงจุดนั้นครั้งแรกก็โสดาบัน" ดููดูไปก็สวยงามดีนะ.... แต่ผมอายแทน... ![]() ![]() อดทนนะกบ ของดีไม่ได้ด้วยการคิด |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |