วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 19:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2015, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


พบของดีวิเศษแล้ว

“อาจารย์บุญธรรม เป็นคนจังหวัดสุรินทร์บวชกับเพิ่นครูอาจารย์สิงห์ (ขนฺตยาคโม) ประสงค์อยากฟังเทศน์กับเพิ่นครูอาจารย์มั่น จึงติดตามขึ้นเมืองเหนือไปรวมชุมนุมอยู่วัดบ้านป่ง”
...ท่านอาจารย์ชอบเล่าสู่ฟังว่า

บ่นแต่อยากฟังเทศน์ของเพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ว่าหากผมได้ฟังแล้วผมต้องได้สำเร็จธรรมแน่นอน พูดคุยกับใครๆ ก็พูดบ่นอยู่อย่างนั้น หมู่คณะก็ปรามเอาไว้ว่า...
“ระวังนะ เวลาได้ฟังแล้วจะประมาทได้”

อาจารย์บุญธรรมคนนี้ไม่เคยเห็นเพิ่นครูอาจารย์มั่นมาก่อน แต่อยากฟังเทศน์อุบายธรรมแรงเกินไป เพราะห่วงแต่จะไม่ได้สำเร็จ

ในพรรษานั้นอยู่กับท่านอาจารย์เทสก์ (เทสรงฺสี) ท่านอาจารย์ชอบ (ฐานสโม) กับหมู่อีก ๔ - ๕ องค์ พอออกพรรษา เพิ่นครูอาจารย์มั่นก็ลงมาแต่บ้านแม่กอยกับท่านอาจารย์น้อย (สุภโร) มารวมคณะอยู่บ้านป่งแม่แตง วัดเก่าของท่านเจ้าคุณ อุบาลีฯ

ท่านอาจารย์ชอบว่า...

“พออาจารย์บุญธรรมได้เห็นเพิ่นครูอาจารย์มั่น ได้ฟังธรรมเทศนาของเพิ่นครูอาจารย์มั่นแล้ว มีความเห็นผิด มีความเห็นไม่ลงในธรรม ไม่พอใจในอุบายธรรม หาว่าเพิ่นครูอาจารย์มั่นว่าให้ว่าใส่น้อยอกน้อยใจ บ่นว่าไม่สมกับที่ดั้นด้นขึ้นมาค้นหา ไม่สมกับความตั้งใจอยากฟังธรรม หนีจากหมู่ไปโดยไม่ลาใคร ไปองค์เดียวกระเซอะกระเซอไปตามเรื่อง

ภายหลังท่านอาจารย์ชอบไปเจอบอกให้กลับใจกลับเข้าหาหมู่ก็ไม่กลับ สอนอย่างใดก็ไม่เอาความ

ต่อมาท่านอาจารย์เหรียญ (วรลาโภ) ไปเจอนอนป่วยอยู่วัดบ้าน จึงหอบเข้าเจดีย์หลวง ไปตายอยู่โรงพยาบาลเมืองเชียงใหม่ มาลาเรียขึ้นสมอง

เมื่อจะตายได้แต่พร่ำเพ้อบ่นว่า เสียดาย เสียดาย ไม่รู้ว่าเสียดายอะไรกันแน่

ท่านอาจารย์ชอบว่า...

“นี่ล่ะ จาม คนเราได้พบของดีวิเศษแล้ว แต่ตัวคนไม่ทำใจให้วิเศษตาม มันเลยเป็นแต่เศษ เป็นแต่เดน”

อยากได้ธรรมชั้นสูง เพิ่นครูอาจารย์มั่นสอนให้แต่ต้นธรรมเป็นลำดับไป แต่ไม่ชอบนับ ๑ – ๒ – ๓ อยากได้ทีเดียว การคบพบปะครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด”

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ





"จิต มันยังไม่ยอมอยู่กับเจ้าของ จิต ไม่มีสมาธิก็ย่อมไม่อิ่มไม่พอ จึงมีแนวโน้มแล่นไปตามความอยาก ดูแต่ที่ชอบใจ ดูจิตอย่างนี้แล้วจะยังไงต่อหละ มันไม่ได้ดูเพื่อปล่อยเพื่อวาง นักปฏิบัติสมัยนี้ไม่ฟังคำสอนขอพระพุทธเจ้าว่าการปฏิบัติต้องมีขั้นมีตอน และต้องครบถ้วนทั้งศีล สมาธิ และปัญญา จะเอาแต่ปัญญาๆ ท่านอัญญาโกณทัญญะท่านฟังธรรมบรรลุธรรม ก็เพราะท่านมีทุนเดิมคือ ศีล สมาธิ ที่มากพอแล้ว ไม่ใช่ไม่มี หรือไม่ต้องใช้"

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหาย จ.อุดรธานี




ระลึกพระคุณ...ท่านอาจารย์มั่นไม่สร่างซา
หลวงตากล่าวกับพระเณรเสมอๆ ว่า ผลแห่งธรรมที่พากเพียรปฏิบัติมาจนประจักษ์ใจก็ด้วยอุบายคำแนะนำสั่งสอนจากท่านอาจารย์มั่น ด้วยเหตุนี้ท่านจึงให้ความเคารพบูชา และระลึกบุญระลึกคุณต่อท่านอาจารย์มั่นอย่างสุดจิตสุดใจ ชนิดมอบกายถวายชีวิตแก่ท่านได้ ท่านเคยกล่าวยกย่องคุณธรรมและคุณสมบัติของท่านอาจารย์มั่นว่าเป็นผู้พรั่งพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดตกเรี่ยเสียหายเลย ไม่ว่าจะเรื่องหลักธรรมหลักวินัย ไม่มีสิ่งใดตกเรี่ยเสียหายเลย ไม่ว่าจะเรื่องหลักธรรมหลักวินัย ท่านอาจารย์มั่นสามารถเก็บหอมรอมริบได้หมด เรื่องญาณหยั่งทราบหรือความรู้ภายในก็สุดเลิศเลอ
ความเคารพบูชาอย่างสูงสุดของท่านที่มีต่อท่านอาจารย์มั่นนั้น ท่านเคยกล่าวไว้อย่างจับจิตจับใจผู้ฟังว่า
"...พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นท่านเป็นทั้งพ่อเราแม่เรา ทุกอย่างรวมอยู่ในนั้นหมดให้อรรถให้ธรรม ให้ข้อคิดเห็นที่จะเป็นศิริมงคล สิ่งใดไม่ดีปัดเป่าออกไปด้วยคำแนะนำสั่งสอนทุกแง่ทุกมุม จึงเป็นเหมือนกับพ่อกับแม่ของเรา เหมือนเรามีพ่อมีแม่นี่แหละ...
เราเคารพท่านสุดขีด ในหัวใจของเรานี้อยู่กับพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นหมดเลย เราพูดจริงๆ ในบรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหลายเราไม่ได้ประมาทท่าน เราไม่ได้คบค้าสมาคมกับท่านสนิทติดจมจริงๆ ฝากเป็นฝากตายเหมือนพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น นี่ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ กิ แต่ กา แต่ เอะ แต่ อา เรื่อยไป ท่านสอนหมดในภาคปฏิบัติธรรมนะ
ส่วนภาคปริยัติเราก็เรียน เรียนไปแล้วแต่ไม่เป็นท่าเป็นทางอะไร เพียงแค่จิตจดได้มา จำได้มาเฉยๆ ไม่รู้วิธีภาคปฏิบัติเป็นยังไงท่านต้องบอก อันนี้ทำอย่างนี้ เครื่องมืออันนี้เอาไปทำอย่างนั้น เครื่องมืออันนี้ไปใช้อย่างนี้ๆ ที่เราเรียนมาเราจำได้ แต่ปฏิบัติไม่ถูก ปฏิบัติไม่เป็น อาศัยท่านพาปฏิบัติดำเนินการเรียนมานั้น เราจำได้แต่ไม่รู้จักวิธีปฏิบัติ ท่านก็หยิบออกมา อันนี้ให้ทำประโยชน์อย่างนั้น อันนั้นให้ทำประโยชน์อย่างนั้นๆ เราก็ยึดก็จับเอาได้จากท่านเรื่อยมาจนเป็นภาคปฏิบัติ
ภาคปฏิบัติเราก็ เอาอีกเหมือนกัน ต้องให้ท่านเป็นแม่เหล็ก เป็นเครื่องดึงดูด เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เหมือนกับจับภูเขาทอง... เหลืองอร่ามไปเลยกิเลสมันกลัวเวลามาอยู่กับท่าน กิเลสมันก็หมอบ อยู่กับท่านสบายๆ นี่ก็เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอันหนึ่ง เป็นแม่เหล็กดึงดูดเราให้มีแก่ใจประกอบความพากเพียรเอาเป็นเอาตายหนักเบาออกมาจากท่าน ได้รับการศึกษาจากท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างท่านแนะนำเต็มภูมิ และพาปฏิบัติเต็มกำลังทุกด้าน....อันนี้ท่านสอนละเอียดลออมากทีเดียว..."
ความเคารพผูกพันระลักถึงพระคุณของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่แนบแน่นฝังจิตของท่านนั้น จะทราบได้ชัดเจนจากเทศน์ของท่านตอนหนึ่งว่า
"..ผมไปอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ได้กราบท่านอาจารย์มั่นแล้วนอนไม่ได้ อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน แม้ที่สุดจะเดินจงกรม ก็ต้องหันหน้าไปไหว้ท่านเสียก่อน
ถ้ามีรูปท่านเป็นเป็นที่หมายของสมมุติ ก็กราบไหว้รูปของท่าน หากไม่มีอะไรเลย ก็เอาคุณธรรมของท่านประกอบเรื่องของสมมุติน้อมนมัสการไป
พระคุณของท่านไม่มีวันจืดจางประหนึ่งว่าท่านไม่ได้ล่วงลับไป ธรรมชาติอันหนึ่งเป็นอย่างนั้น เหมือนกับดูเราอยู่ตลอดเวลา..."

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน




ความไม่รู้ทำให้ยิ่งทุกข์ ยิ่งเข้าใจผิด ยิ่งกังวล
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความสับสน ความอิจฉา ความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของความไม่รู้

มายาล่อหลอกในเพศตรงข้ามมีสองหน้าจงอยู่ตรงกลาง...

จงอย่าให้ร่างกายอดอยาก หรืออย่าสนองกิเลสของมัน...

จงแน่วแน่อยู่ตรงกลาง เมือเราตระหนักและเข้าใจในกิเลสชั่วร้ายของมายาล่อหลอกความกังวลก็จะหายไปเราก็จะสัมผัสถึงความรักและการยอมรับ ความรู้สึกสองอย่างเหมือนกันเราจะไม่รู้สึกเกียจใครอีกเลย แม้แต่คนที่โหดร้ายกับเราก็จะไม่รู้สึกเกียจ แต่ในทางตรงกันข้ามเราจะพยายามวิเคราะหฺ์คนคนนั้นในแง่ของทางโลกที่มีการยึดติด เมือประตูความรู้เกิดขึ้น ความกรุณาเท่านั้นที่จะอยู่กับเรา ความคิดสร้างภาพลวงตาในสมาธิ ปัญญาแยกความจริงระหว่างเป้าหมายและสิ่งอื่นๆ มันอยู่ในตัวข้าและตัวท่าน มันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในชีวิต มนุษย์มีเรื่องราวต่างๆเพราะอารมณ์ ความโลภ การยึดติดและความปรารถนา จับเราเอาไว้ วงจรการเกิดการแก่ การเจ็บ การตาย ทำให้ความคิดฝังแน่นในใจเราฝังแน่นไม่ไปไหน จงสลัดภาพลวงตาทิ้งไปซะ เมื่อเราออกจากภาพลวงตาได้

เราได้ชีวิตของเราก็จะเป็นอิสระและไม่ถูกคุมขังด้วยการมีศีล สมาธิ ปัญญา





ภาวนาก็ให้ทำติดต่อกันอยู่ทุกอิริยาบถ
มันจะรวมหรือไม่รวม
มันจะว่างหรือไม่ว่าง
ไม่ต้องอาศัย
ไม่ต้องหากินทางคัดค้าน
ถ้าทำไม่พอ...มันก็ไม่ลง
ถ้าทำถึงที่ของมัน มันก็ลงของมันเองไม่ต้องบังคับ
ถ้าไปเป็นไปพบสิ่งใด อย่าไปพะวงกับมัน ให้วางเฉยเสีย ถ้านึกกลัวก็ให้คว้าคำภาวนามาภาวนาอีก
อย่าได้โลภไปในนโยบายอันอื่นเลย

คำสอน
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต




เรื่อง อย่าเห็นแก่คน

"หัดวางหัดคิดหัดยับยั้งใจ ค่อยคิดค่อยทำค่อย ๆ อบรมตัวเอง อย่าหวังวาจาของคนอื่นอบรม ทำอย่างนั้นเอาตัวไม่รอด ต้องคอยจับผิดตัวเอง คอยลงโทษตัวเอง คอยเป็นโจทก์ฟ้องตัวเองเอาธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นตุลาการ จงถือธรรมเป็นสำคัญ อย่าถือคนถ้ายังติดคนก็จะไม่ถึงธรรม ถ้าถึงธรรมก็พ้น จากการติดคน ถ้าติดคน ติดยศของคน ติดฐานะของคน ติดศักดิ์ศรีของคน ไม่มีอะไรดี เราก็ ไม่เข้าถึงธรรมทุกอย่างที่ทำไปควรปรารภธรรมอย่าเห็นแก่คน"

คำสอน ... หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2015, 21:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:

"จิต มันยังไม่ยอมอยู่กับเจ้าของ จิต ไม่มีสมาธิก็ย่อมไม่อิ่มไม่พอ จึงมีแนวโน้มแล่นไปตามความอยาก ดูแต่ที่ชอบใจ ดูจิตอย่างนี้แล้วจะยังไงต่อหละ มันไม่ได้ดูเพื่อปล่อยเพื่อวาง นักปฏิบัติสมัยนี้ไม่ฟังคำสอนขอพระพุทธเจ้าว่าการปฏิบัติต้องมีขั้นมีตอน และต้องครบถ้วนทั้งศีล สมาธิ และปัญญา จะเอาแต่ปัญญาๆ ท่านอัญญาโกณทัญญะท่านฟังธรรมบรรลุธรรม ก็เพราะท่านมีทุนเดิมคือ ศีล สมาธิ ที่มากพอแล้ว ไม่ใช่ไม่มี หรือไม่ต้องใช้"

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหาย จ.อุดรธานี



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2015, 21:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
พบของดีวิเศษแล้ว

ภายหลังท่านอาจารย์ชอบไปเจอบอกให้กลับใจกลับเข้าหาหมู่ก็ไม่กลับ สอนอย่างใดก็ไม่เอาความ

ต่อมาท่านอาจารย์เหรียญ (วรลาโภ) ไปเจอนอนป่วยอยู่วัดบ้าน จึงหอบเข้าเจดีย์หลวง ไปตายอยู่โรงพยาบาลเมืองเชียงใหม่ มาลาเรียขึ้นสมอง

เมื่อจะตายได้แต่พร่ำเพ้อบ่นว่า เสียดาย เสียดาย ไม่รู้ว่าเสียดายอะไรกันแน่

ท่านอาจารย์ชอบว่า...

“นี่ล่ะ จาม คนเราได้พบของดีวิเศษแล้ว แต่ตัวคนไม่ทำใจให้วิเศษตาม มันเลยเป็นแต่เศษ เป็นแต่เดน”

อยากได้ธรรมชั้นสูง เพิ่นครูอาจารย์มั่นสอนให้แต่ต้นธรรมเป็นลำดับไป แต่ไม่ชอบนับ ๑ – ๒ – ๓ อยากได้ทีเดียว การคบพบปะครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด”


ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2015, 21:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:



ความไม่รู้ทำให้ยิ่งทุกข์ ยิ่งเข้าใจผิด ยิ่งกังวล
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความสับสน ความอิจฉา ความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของความไม่รู้

มายาล่อหลอกในเพศตรงข้ามมีสองหน้าจงอยู่ตรงกลาง...

จงอย่าให้ร่างกายอดอยาก หรืออย่าสนองกิเลสของมัน...

จงแน่วแน่อยู่ตรงกลาง เมือเราตระหนักและเข้าใจในกิเลสชั่วร้ายของมายาล่อหลอกความกังวลก็จะหายไปเราก็จะสัมผัสถึงความรักและการยอมรับ ความรู้สึกสองอย่างเหมือนกันเราจะไม่รู้สึกเกียจใครอีกเลย แม้แต่คนที่โหดร้ายกับเราก็จะไม่รู้สึกเกียจ แต่ในทางตรงกันข้ามเราจะพยายามวิเคราะหฺ์คนคนนั้นในแง่ของทางโลกที่มีการยึดติด เมือประตูความรู้เกิดขึ้น ความกรุณาเท่านั้นที่จะอยู่กับเรา ความคิดสร้างภาพลวงตาในสมาธิ ปัญญาแยกความจริงระหว่างเป้าหมายและสิ่งอื่นๆ มันอยู่ในตัวข้าและตัวท่าน มันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในชีวิต มนุษย์มีเรื่องราวต่างๆเพราะอารมณ์ ความโลภ การยึดติดและความปรารถนา จับเราเอาไว้ วงจรการเกิดการแก่ การเจ็บ การตาย ทำให้ความคิดฝังแน่นในใจเราฝังแน่นไม่ไปไหน จงสลัดภาพลวงตาทิ้งไปซะ เมื่อเราออกจากภาพลวงตาได้

เราได้ชีวิตของเราก็จะเป็นอิสระและไม่ถูกคุมขังด้วยการมีศีล สมาธิ ปัญญา





ภาวนาก็ให้ทำติดต่อกันอยู่ทุกอิริยาบถ
มันจะรวมหรือไม่รวม
มันจะว่างหรือไม่ว่าง
ไม่ต้องอาศัย
ไม่ต้องหากินทางคัดค้าน
ถ้าทำไม่พอ...มันก็ไม่ลง
ถ้าทำถึงที่ของมัน มันก็ลงของมันเองไม่ต้องบังคับ
ถ้าไปเป็นไปพบสิ่งใด อย่าไปพะวงกับมัน ให้วางเฉยเสีย ถ้านึกกลัวก็ให้คว้าคำภาวนามาภาวนาอีก
อย่าได้โลภไปในนโยบายอันอื่นเลย


คำสอน
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต





:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 168 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร