ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=51021 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 20 |
เจ้าของ: | asoka [ 19 ก.ย. 2015, 18:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
เครื่องมือที่ใช้ตรวจวัด หรือมิเตอร์วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมที่หาได้ง่ายและชี้วัดได้ค่อนข้างจะแม่นยำคือ ความโกรธและความขุ่นมัว(ปฏิฆะ)ในจิตใจ ท่านนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายถ้าอยากจะรู้ว่าตนเองหรือใครก็ตามภาวนาปฏิบัติธรรมมาแล้วเจริญก้าวหน้าขึ้นไปมากน้อยเพียงไร ให้สังเกตดูที่ความโกธความขุ่นมัวของจิตเมื่อกระทบผัสสะและอารมณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจเช่นเสียงด่า การถูกสบประมาทด้วยคำพูด ข้อเขียนหรือท่าทาง กระทบปุ๊บ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที = ปุถุชน กระทบปุ๊บ จิตขุ่นมัว ร้อนวาบ หน้าแดง หูแดง สายตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ท่าทางฮึดฮัด = คนมีความอดทน ข่มใจ กระทบปุ๊บ จิตขุ่นมัวแต่สติเกิดขึ้นมารู้ทัน มีปัญญาคิดหาเหตุผลมาระงับความขุ่นมัว จนระงับได้ไม่โกรธ = กัลยาณชน คนดี กระทบปุ๊บ จิตวูบขุ่นขึ้นมานิดหนึ่งสายตาท่าทางเปลี่ยนแปลงเข็งกร้าวขึ้นมานิดหนึ่ง สติรู้ทัน ปัญญาจับอารมณ์ขุ่นมัวนั้นมานิ่งรู้อยู่เฉยๆจนมันดับไป = นักวิปัสสนาภาวนา กระทบปุ๊บ จิตขุ่น สายตา ท่าทางเปลี่ยน สติตัดปั๊บ ไม่สนใจ = นักสมถะภาวนา กระทบปุ๊บ จิตแวบขุ่น สายตาท่าทางไม่เปลี่ยน สติรู้ทัน ปัญญารู้พร้อม ไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ = อริยบุคคลชั้นต้น กระทบปุ๊บ จิตไหวแวบ แล้วเงียบเฉย = อริยบุคคลชั้นกลาง กระทบปุ๊บ ไร้ปฏิกิริยา เหมือนเอาก้อนหินขว้างเข้าไปในสุญญากาศ = พระอริยะชั้นสูง ลองเอาไปจิ้มวัดตนเองและใครต่อใครดูนะครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ด้วยครับ |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 19 ก.ย. 2015, 19:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
ผู้ได้ชื่อว่า อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ อานนท์ ! อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ (อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา) ในอริยวินัย เป็นอย่างไรเล่า ? อานนท์ ! ในกรณีนี้ อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ – ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเพราะเห็นรูปด้วยตา. ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า “อารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแก่เรานี้ เป็นสิ่งมีปัจจัยปรุงแต่ง (สงฺขต) เป็นของหยาบ ๆ (โอฬาริก) เป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น (ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺน); แต่มีสิ่งโน้นซึ่งรำงับและประณีต, กล่าวคือ อุเบกขา” ดังนี้. (เมื่อรู้ชัดอย่างนี้) อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ - ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป, อุเบกขายังคงดำรงอยู่. อานนท์ ! อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ - ทั้งเป็นที่ชอบใจ และไม่เป็นที่ชอบใจ อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป เร็วเหมือนการกระพริบตาของคน อุเบกขายังคงดำรงอยู่. อานนท์ ! นี้แล เราเรียกว่า อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศในอริยวินัย ในกรณีแห่ง รูปที่รู้แจ้งด้วยจักษุ. (ในกรณีแห่ง เสียงที่รู้แจ้งด้วยโสตะ กลิ่นที่รู้แจ้งด้วยฆานะ รสที่รู้แจ้งด้วยชิวหา โผฎฐัพพะที่รู้แจ้งด้วยผิวกาย และ ธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งด้วยใจ ทรงตรัสอย่างเดียวกัน ต่างกันแต่อุปมาแห่งความเร็วในการดับแห่งอารมณ์นั้น ๆ, คือ กรณีเสียง เปรียบด้วยความเร็วแห่งการดีดนิ้วมือ, กรณีกลิ่น เปรียบด้วยความเร็วแห่งหยดน้ำตกจากใบบัว, กรณีรส เปรียบด้วยความเร็วแห่งน้ำลายที่ถ่มจากปลายลิ้นของคนแข็งแรง, กรณีโผฏฐัพพะ เปรียบด้วยความเร็วแห่งการเหยียดแขนพับแขนของคนแข็งแรง, กรณีธรรมารมณ์ เปรียบด้วยความเร็วแห่งการแห้งของหยดน้ำบนกระทะเหล็ก ที่ร้อนแดงอยู่ตลอดวัน) |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ก.ย. 2015, 07:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
ในอาการเหล่านี้... ผมเห็นด้วย...ใน อริยะบุคคลชั้นกลาง (อนาคามี)...กับ..อริยะชั้นสูง (อรหันต์)..ครับ ส่วน...กัลยาณชน คนดี...นักสมถะ..นักภาวนา..อริยะเบื้องต้น (โสดา..สกทาคามี)...พอพอกัน...แยกกันด้วยปัจจุบันอารมณ์ไม่ออกครับ ส่วนที่โกรธทันทีเป็นฟืนเป็นไฟ....ก็เป็นได้ทั้งกัลยาณชนคนดี...ปุถุชน..นักภาวนา...โสดาบัน...ถ้าผู้มีโทสะจริตครอบงำอยู่นะ...(ถ้าไม่มีก็เป็นอย่างอโสกะว่ามา).. แต่ต่างกันที่ โสดาบันโกรธยังงัยก็ไม่ก้าวล่วงศีล5.... โกรธแล้วหายเร็ว...ไม่เก็บมาอาฆาต (ใครบอกว่าฉันไม่อาฆาตแต่แช่งในใจนิดหน่อยนี้ก็..ไม่ใช่แล้วนะครับ..อาฆาตแล้วละนั้น.. ) |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 21 ก.ย. 2015, 07:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: เครื่องมือที่ใช้ตรวจวัด หรือมิเตอร์วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมที่หาได้ง่ายและชี้วัดได้ค่อนข้างจะแม่นยำคือ ความโกรธและความขุ่นมัว(ปฏิฆะ)ในจิตใจ ท่านนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายถ้าอยากจะรู้ว่าตนเองหรือใครก็ตามภาวนาปฏิบัติธรรมมาแล้วเจริญก้าวหน้าขึ้นไปมากน้อยเพียงไร ให้สังเกตดูที่ความโกธความขุ่นมัวของจิตเมื่อกระทบผัสสะและอารมณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจเช่นเสียงด่า การถูกสบประมาทด้วยคำพูด ข้อเขียนหรือท่าทาง กระทบปุ๊บ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที = ปุถุชน กระทบปุ๊บ จิตขุ่นมัว ร้อนวาบ หน้าแดง หูแดง สายตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ท่าทางฮึดฮัด = คนมีความอดทน ข่มใจ กระทบปุ๊บ จิตขุ่นมัวแต่สติเกิดขึ้นมารู้ทัน มีปัญญาคิดหาเหตุผลมาระงับความขุ่นมัว จนระงับได้ไม่โกรธ = กัลยาณชน คนดี กระทบปุ๊บ จิตวูบขุ่นขึ้นมานิดหนึ่งสายตาท่าทางเปลี่ยนแปลงเข็งกร้าวขึ้นมานิดหนึ่ง สติรู้ทัน ปัญญาจับอารมณ์ขุ่นมัวนั้นมานิ่งรู้อยู่เฉยๆจนมันดับไป = นักวิปัสสนาภาวนา กระทบปุ๊บ จิตขุ่น สายตา ท่าทางเปลี่ยน สติตัดปั๊บ ไม่สนใจ = นักสมถะภาวนา กระทบปุ๊บ จิตแวบขุ่น สายตาท่าทางไม่เปลี่ยน สติรู้ทัน ปัญญารู้พร้อม ไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ = อริยบุคคลชั้นต้น กระทบปุ๊บ จิตไหวแวบ แล้วเงียบเฉย = อริยบุคคลชั้นกลาง กระทบปุ๊บ ไร้ปฏิกิริยา เหมือนเอาก้อนหินขว้างเข้าไปในสุญญากาศ = พระอริยะชั้นสูง ลองเอาไปจิ้มวัดตนเองและใครต่อใครดูนะครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ด้วยครับ ในอาการเหล่านี้... ผมเห็นด้วย...ใน อริยะบุคคลชั้นกลาง (อนาคามี)...กับ..อริยะชั้นสูง (อรหันต์)..ครับ ส่วน...กัลยาณชน คนดี...นักสมถะ..นักภาวนา..อริยะเบื้องต้น (โสดา..สกทาคามี)...พอพอกัน...แยกกันด้วยปัจจุบันอารมณ์ไม่ออกครับ ส่วนที่โกรธทันทีเป็นฟืนเป็นไฟ....ก็เป็นได้ทั้งกัลยาณชนคนดี...ปุถุชน..นักภาวนา...โสดาบัน...ถ้าผู้มีโทสะจริตครอบงำอยู่นะ...(ถ้าไม่มีก็เป็นอย่างอโสกะว่ามา).. แต่ต่างกันที่ โสดาบันโกรธยังงัยก็ไม่ก้าวล่วงศีล5.... โกรธแล้วหายเร็ว...ไม่เก็บมาอาฆาต (ใครบอกว่าฉันไม่อาฆาตแต่แช่งในใจนิดหน่อยนี้ก็..ไม่ใช่แล้วนะครับ..อาฆาตแล้วละนั้น.. ) |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 21 ก.ย. 2015, 09:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
ดูด้วย สังโยชน์ ดีกว่าครับ ง่ายสุดนะผมว่า ผมว่าจิตบางคน ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมดนะครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ก.ย. 2015, 20:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
ศิริพงศ์ เขียน: นั้นไปวินิจฉัย ของสูง วินิจฉัยตนเองดีมั้ยเวลาท่องคาถาเงินล้านนะคิดอะไรอยู่ เละจริงๆ ผมวินิจฉัยตนเอง..แล้วละว่า...ดีพอใช้ได้ ไม่มุสา.. ไม่จิบเหล้าเอาใจสังคม... ไม่บิดเบือนธรรมที่พระองคกล่าว.... ไม่ได้กล่าวตู่ว่าพระองค์กล่าวเมื่อพระองค์ไม่ได้กล่าว... สบ๊าย...สบาย... |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 21 ก.ย. 2015, 21:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
กบนอกกะลา เขียน: ศิริพงศ์ เขียน: นั้นไปวินิจฉัย ของสูง วินิจฉัยตนเองดีมั้ยเวลาท่องคาถาเงินล้านนะคิดอะไรอยู่ เละจริงๆ ผมวินิจฉัยตนเอง..แล้วละว่า...ดีพอใช้ได้ ไม่มุสา.. ไม่จิบเหล้าเอาใจสังคม... ไม่บิดเบือนธรรมที่พระองคกล่าว.... ไม่ได้กล่าวตู่ว่าพระองค์กล่าวเมื่อพระองค์ไม่ได้กล่าว... สบ๊าย...สบาย... |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ก.ย. 2015, 11:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
เอาหลักอะไรมาจับ.. ถ้าเอาหลักพวกมิจฉาทิฏฐิมาจับ...กระผมก็ต้องถูกจัดในประเภทที่คนเหล่านี้ไม่ต้องการ ถ้าเอาหลักพวกผิดศีลมาจับ..พวกมุสาอยู่..พวกกินเหล้าเข้าสังคมอยู่....กระผมคงอยู่ในพวกนอกรีต.. ถ้าเอาหลักของพวกชอบบิดเบือนพระธรรม...ชอบกล่าวตู่ว่าพระองค์กล่าว...กระผมคงถูกหมายหัวว่าเป็นศัตรูของพวกเขา... |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 22 ก.ย. 2015, 11:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
กบนอกกะลา เขียน: เอาหลักอะไรมาจับ.. ถ้าเอาหลักพวกมิจฉาทิฏฐิมาจับ...กระผมก็ต้องถูกจัดในประเภทที่คนเหล่านี้ไม่ต้องการ ถ้าเอาหลักพวกผิดศีลมาจับ..พวกมุสาอยู่..พวกกินเหล้าเข้าสังคมอยู่....กระผมคงอยู่ในพวกนอกรีต.. ถ้าเอาหลักของพวกชอบบิดเบือนพระธรรม...ชอบกล่าวตู่ว่าพระองค์กล่าว...กระผมคงถูกหมายหัวว่าเป็นศัตรูของพวกเขา... คุยธรระเขาคุยกันให้รู้ว่าทางใดคือทางที่ถูกหรือสัมมาทิฎฐิ. อย่างน้อยกบก็บอกตนเองเป็นปุถึชน. นั้นหมายความว่ากบยังมีมิจฉาทิฎฐิ. เช่านทีองคาถาเรียกเงิน. รดน้ำมนต์ แขวนวัตถุมงคลก็เป็นเรื่อวปรกติ. ทำได้ตามสบายไม่ผิดอะไร. แต่ถ้าจะขยับมาเป็นอริยะ กบต้องประกสตนว่าข้าพเจ้าเลิกหมดแล้ว. ข้าพเจ้ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนะขอรับ |
เจ้าของ: | asoka [ 22 ก.ย. 2015, 22:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
เอากันให้มันเลยนะครับคุณกบกับคุณศิริพงษ์ วันนี้ผมจะขอเอาตัวอย่างที่ว่าความโกรธเป็นเครื่องมือช่วยชี้วัดความก้าวหน้าหรือความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมของผู้คนได้อย่างไร? ที่วัดป่าของหลวงปู่ครูบาชื่อดังรูปหนึ่งทางอีสาณแถวใกล้ๆแม่น้ำโขง ในวัดมีโยมผู้หญิงขี้คุยคนหนึ่งเช้าวันหนึ่งเธอได้วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมากราบเรียนหลวงปู่ว่า หลวงปู่คะหลวงปู่เมื่อคืนนี้อิฉันภาวนาดีมาก ตัวตนหายลมหายใจไม่มี เหลือแต่จิตรู้กับแสงสว่างโพล่งไปหมดทั่วขอบฟ้าจักรวาล อิฉันคงบันลุธรรมแล้วคะเป็นโสดาบันแล้วคะ เธอกล่าวออกมาด้วยความดีใจ หลวงปู่มองหน้าเธอแล้วเงียบพิจารณาไปสักพักหนึ่ง จากนั้นหลวงปู้ก็พูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่า "อีตอแหล" ผู้หญิงคนนี้พอได้ยินสีหน้าท่าทางเธอเปลี่ยนไปทันทีกลายเป็นบูดบึ้งแล้วยืนขึ้นเดินลงส้นเท้าดังปึงๆลงจากศาลาใหญ่ที่หลวงปู่พัก หายไปเกือบหนึ่งเดือน จึงมีสติสัมปชัญญะกลับคืนมารู้ตัวว่านั่นเป็นการสอนตรงๆของหลวงปู่ให้รู้ว่าถ้าได้เป็นอริยบุคคลจริงๆความโกรธมันต้องลดน้อยถอยลงไม่กะฟัดกะเฟียดตึงตังอย่างที่ตนเองเป็น เลยกลับขึ้นมากราบขอขมาหลวงปูเมื่อรู้ตัว |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ก.ย. 2015, 22:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
กบนอกกะลา เขียน: เอาหลักอะไรมาจับ.. ถ้าเอาหลักพวกมิจฉาทิฏฐิมาจับ...กระผมก็ต้องถูกจัดในประเภทที่คนเหล่านี้ไม่ต้องการ ถ้าเอาหลักพวกผิดศีลมาจับ..พวกมุสาอยู่..พวกกินเหล้าเข้าสังคมอยู่....กระผมคงอยู่ในพวกนอกรีต.. ถ้าเอาหลักของพวกชอบบิดเบือนพระธรรม...ชอบกล่าวตู่ว่าพระองค์กล่าว...กระผมคงถูกหมายหัวว่าเป็นศัตรูของพวกเขา... ศิริพงศ์ เขียน: คุยธรระเขาคุยกันให้รู้ว่าทางใดคือทางที่ถูกหรือสัมมาทิฎฐิ. อย่างน้อยกบก็บอกตนเองเป็นปุถึชน. นั้นหมายความว่ากบยังมีมิจฉาทิฎฐิ. เช่านทีองคาถาเรียกเงิน. รดน้ำมนต์ แขวนวัตถุมงคลก็เป็นเรื่อวปรกติ. ทำได้ตามสบายไม่ผิดอะไร. แต่ถ้าจะขยับมาเป็นอริยะ กบต้องประกสตนว่าข้าพเจ้าเลิกหมดแล้ว. ข้าพเจ้ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนะขอรับ ถ้าจะประกาศ..นะ...ผมไม่ประกาศอะไรติ้งต๊องพวกนี้หรอกคับ... ถ้าจะประกาส..ผมจะประกาสว่า...สีลาของผมไม่สีลัพตปรามาสแล้ว...ไม่มุสา..ไม่จิบเหล้าเข้าสังคมแล้ว...วิจิกิจฉาในพระรัตนตรัยไม่มีแล้ว..กล่าวตู่ไม่เกิดแล้ว...บิดเบือนธรรมก็ไม่มีแล้ว...รู้แล้วว่าฉันตายแน่.. |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ก.ย. 2015, 22:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
asoka เขียน: เอากันให้มันเลยนะครับคุณกบกับคุณศิริพงษ์ หลวงปู่มองหน้าเธอแล้วเงียบพิจารณาไปสักพักหนึ่ง จากนั้นหลวงปู้ก็พูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่า "อีตอแหล" ผู้หญิงคนนี้พอได้ยินสีหน้าท่าทางเธอเปลี่ยนไปทันทีกลายเป็นบูดบึ้งแล้วยืนขึ้นเดินลงส้นเท้าดังปึงๆลงจากศาลาใหญ่ที่หลวงปู่พัก หายไปเกือบหนึ่งเดือน จึงมีสติสัมปชัญญะกลับคืนมารู้ตัวว่านั่นเป็นการสอนตรงๆของหลวงปู่ให้รู้ว่าถ้าได้เป็นอริยบุคคลจริงๆความโกรธมันต้องลดน้อยถอยลงไม่กะฟัดกะเฟียดตึงตังอย่างที่ตนเองเป็น เลยกลับขึ้นมากราบขอขมาหลวงปูเมื่อรู้ตัว โกรธ..หายไปเป็นเดือน...นี้...เวทนาเกิดแล้ว...ตัญหาเกิดแล้ว...อุปาทานเกิดแล้ว...จนถึงกับ..ภพเกิดขึ้นแล้ว... พอเธอคนนี้...มีสติสัมปชัญญะ..รู้ตัว...จนถึงกับมากราบขอขมาหลวงปู่ได้..นี้...อะไรอะไรมันก็ลดลงไปเยอะแล้วละ.. ในตัวอย่างไม่ได้บอกละเอียดว่า..ละได้ถึงขั้นไหน..จนละภพที่เกิดขึ้นมาได้มั้ย?.. แต่หากโยนิโส..จนเห็นธรรมผุด...ภพ(จากเหตุการณนี้)ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้...ก็ละจากจิตใจได้ เมื่อละภพที่เกิดมาได้....ความปราโมทย์..ความปีติ...ความสุขย่อมเกิดตามมาไม่มีประมาณ... และถ้าการเห็นจริงนั้น..แจ้งแทงตลอด...ก็สามารถละภพทั้งหลายทั้งหมดลงได้..ก็พ้นทุกข์ได้เหมือนกัน |
เจ้าของ: | asoka [ 23 ก.ย. 2015, 06:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
เจริญงอกงามไปไกลเลยนะ จิตสังขาร ของกบ ก็ยังดีที่พยายามจะพูดแทนคุณยายคุณป้าคนนั้นว่า อะฮั้นก็ไปปฏิบัติต่อจนบรรลุธรรมจริงๆได้ แต่เรื่อง "อีตอแหล . ที่ยกมาให้พิจารณากันนี้ก็เพื่อให้เห็นว่า โทสะมันชี้วัดได้ว่าใครเป็นอริยะจริงใครเป็นอริยะปลอม เพียงแค่นั้นแหละครับ มีของฝากให้ดูว่าเด็กอย่างนี้น่าจะใกล้อริยะมากๆลองดูนะครับ เห็นเด็กคนนี้ แล้วไม่ธรรมดา คำพูดเด็ก 6 ขวบ คนนี้ไม่ธรรมดา น่าจะได้โสดาบันมาก่อนในภพที่แล้ว พ่อแม่เค้าทะเลาะกัน เค้าบอกพ่อแม่อย่างนี้ https://www.facebook.com/rednowapp/vide ... 758592366/ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 23 ก.ย. 2015, 06:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
asoka เขียน: เจริญงอกงามไปไกลเลยนะ จิตสังขาร ของกบ ก็ยังดีที่พยายามจะพูดแทนคุณยายคุณป้าคนนั้นว่า อะฮั้นก็ไปปฏิบัติต่อจนบรรลุธรรมจริงๆได้ ..... : ว่าไปโน้น.. ไม่ตลกเลยคับ..อโสกะ.. ไม่ได้พยายามพูดแทนป้าแกครับ..พูดตามธรรมดา.. |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 23 ก.ย. 2015, 06:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม |
กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: เจริญงอกงามไปไกลเลยนะ จิตสังขาร ของกบ ก็ยังดีที่พยายามจะพูดแทนคุณยายคุณป้าคนนั้นว่า อะฮั้นก็ไปปฏิบัติต่อจนบรรลุธรรมจริงๆได้ ..... : ว่าไปโน้น.. ไม่ตลกเลยคับ..อโสกะ.. ไม่ได้พยายามพูดแทนป้าแกครับ..พูดตามธรรมดา.. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 20 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |