วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 08:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2015, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเราทุกคนเกิดในโลกนี้นะ
ถ้าไม่มีทุกข์อย่างเดียวเสียแล้วนะ คนประมาทหมด
เพราะทุกข์นั่นเองคนถึงไม่ประมาท

ดิ้นรนกระเสือกกระสนทำมาหาเลี้ยงชีพก็เพราะ "ทุกข์"
คนทำบุญสุนทานก็เพราะ "ทุกข์"
ฝึกหัดภาวนาอันใดก็เพราะ "ทุกข์" ก็คำว่าทุกข์

พระพุทธเจ้าท่านจึงยกทุกข์ขึ้นเป็น "เหตุ" ให้พิจารณา
ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ปฐมเทศนา
ที่พระองค์เทศนา ณ ป่าอิสิปมฤคทายวัน
กัณฑ์แรก คำแรกคือ ยก "ทุกข์" ขึ้นพิจารณา
ในธรรมเทศนาอื่นๆหมวดอื่นๆ กัณฑ์อื่นๆ ก็ตาม
ที่จะยก "สุข" ขึ้นมาแสดงนั้นน้อยเหลือเกิน

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง



จากตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานที่ต้นสาละคู่ ในสาลวโนทยาน เมืองกุสินารา
พระอานนท์จึงได้แจ้งข่าวปรินิพพานแก่เจ้ามัลละเมืองกุสินารา
พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระ
ผู้มีพระภาคเจ้าด้วยการฟ้อนรำ ขับร้องประโคม ของหอมดอกไม้ เป็นเวลา ๖ วัน
ครั้นถึงวันที่ ๗ พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารามีพระดำริว่า พวกเราสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยการฟ้อนรำขับร้อง
ประโคม ของหอมดอกไม้ จักเชิญไปทางทิศทักษิณแห่งพระนครเชิญไปภาย
นอกพระนคร ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทางทิศทักษิณ
แห่งพระนคร.
สมัยนั้น มัลลปาโมกข์ ๘ องค์ สระสรงเกล้าแล้วทรงนุ่งผ้าใหม่ด้วยทรงดำริว่า
เราจักยกพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมไม่อาจจะยกขึ้นได้.
เพราะเทวดามีความประสงค์ว่า เราสักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระ
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคม ดอกไม้ ของหอม
อันเป็นทิพย์จักเชิญไปทางทิศอุดรแห่งพระนคร แล้วเข้าสู่พระนครโดยทวารทิศอุดร
เชิญไปท่ามกลางพระนคร แล้วออกโดยทวารทิศบูรพา แล้วถวายพระเพลิงพระสรีระ
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่มกุฏพันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละ ทางทิศบูรพาแห่งพระนคร.
เจ้ามัลละกล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพวกเทวดาเถิด. จึงยกขึ้นได้



แจ้งข่าวปรินิพพาน
สมัยนั้น พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ประชุมกันที่สัณฐคาร
ด้วยเรื่องพระนิพพานนั้น. ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ไปยังสัณฐาคารของเจ้า
มัลละเมืองกุสินารา ได้บอกแก่เจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว ขอท่านทั้งหลายจงสำคัญกาลอันควร
ในบัดนี้เถิด. เจ้ามัลละ โอรส สุณิสา และปชาบดีฟังคำนี้ของท่านพระอานนท์
แล้ว มีความทุกข์ เสียพระทัยเปี่ยมด้วยทุกข์ใจ บางพวกสยายผมประคอง
พระหัตถ์ทั้งสองคร่ำครวญ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมาเหมือนมีพระบาทขาดแล้ว
ทรงรำพันว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานเร็วนัก พระสุคตปรินิพพานเร็วนัก
พระองค์ผู้มีจักษุในโลกอันตรธานเร็วนัก.

ครั้งนั้น เจ้ามัลละเมืองกุสินารารับสั่งกะพวกบุรุษว่า พวกท่านจง
เตรียมของหอมดอกไม้ และเครื่องดนตรีทุกชนิดในเมืองกุสินาราให้พร้อม.
เจ้ามัลละเมืองกุสินารา ถือเอาของหอมดอกไม้เครื่องดนตรีทุกชนิดและผ้า
๕๐๐ คู่ เสด็จไปยังสาลวันอันเป็นที่แวะพักของพวกเจ้ามัลละ เสด็จเข้าถึงสรีระ
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระผู้มี
พระภาคเจ้าด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคม ของหอม ดอกไม้ ดาดเพดานผ้า
ตกแต่งโรงมณฑล ยังวันนั้นให้ล่วงไปด้วยประการอย่างนี้. พวกเจ้ามัลละมี
พระดำริว่า การถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าในวันนี้หมด
เวลาเสียแล้ว พรุ่งนี้พวกเราจักถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระ
ผู้มีพระภาคเจ้าด้วยการฟ้อนรำ ขับร้องประโคม ของหอมดอกไม้ ดาดเพดานผ้า
ตกแต่งโรงมณฑล ยังวันแม้ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ที่ ๖ ให้ล่วงไปแล้ว
ครั้นถึงวันที่ ๗ พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารามีพระดำริว่า พวกเราสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยการฟ้อนรำขับร้อง
ประโคม ของหอมดอกไม้ จักเชิญไปทางทิศทักษิณแห่งพระนครเชิญไปภาย
นอกพระนคร ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทางทิศทักษิณ
แห่งพระนคร.

มัลลปาโมกข์ ๘
สมัยนั้น มัลลปาโมกข์ ๘ องค์ สระสรงเกล้าแล้วทรงนุ่งผ้า
ใหม่ด้วยทรงดำริว่า เราจักยกพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมไม่อาจจะยก
ขึ้นได้. พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินราได้ถามท่านพระอนุรุทธะว่า ท่านอนุรุทธะ
อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอเป็นปัจจัย มัลลปาโมกข์ ๘ องค์นี้ ผู้สระสรง
เกล้าแล้ว ทรงนุ่งผ้าใหม่ด้วยดำริว่า เราจักยกพระสรีระของพระผู้มีพระภาคจ้า
ย่อมไม่อาจยกขึ้นได้. พระอนุรุทธะกล่าวว่า ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย พวกท่าน
มีความประสงค์อย่างหนึ่ง พวกเทวดามีความประสงค์อย่างหนึ่ง. เจ้ามัลละกาม
ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พวกเทวดามีความประสงค์อย่างไร.

พระอนุรุทธะกล่าวว่า ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย พวกท่านมีความประสงค์
ว่า เราสักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยการ
ฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคม ดอกไม้ ของหอม จักเชิญไปทางทิศทักษิณแห่งพระ
นคร แล้วเชิญไปภายนอกพระนคร ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้า ทางทิศทัณษิณแห่งพระนคร เทวดามีความประสงค์ว่า เราสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง
ประโคม ดอกไม้ ของหอม อันเป็นทิพย์จักเชิญไปทางทิศอุดรแห่งพระนคร
แล้วเข้าสู่พระนครโดยทวารทิศอุดร เชิญไปท่ามกลางพระนคร แล้วออกโดย
ทวารทิศบูรพา แล้วถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่มกุฏ-
พันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละ ทางทิศบูรพาแห่งพระนคร. เจ้ามัลละกล่าวว่า
ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพวกเทวดาเถิด.

สมัยนั้น เมืองกุสินาราดารดาษไปด้วยดอกมณฑารพ โดยถ่องแถวประมาณ
แค่เข่า จนตลอดที่ต่อแห่งเรือนบ่อของโสโครกและกองหยากเยื่อ ครั้งนั้น
พวกเทวดาและพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระ
สรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคม ดอกไม้ ของ
หอม ทั้งที่เป็นทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ เชิญไปทางทิศอุดรแห่งพระนคร
แล้วเชิญไปสู่พระนครโดยทวารทิศอุดร เชิญไปท่ามกลางพระนคร แล้วออก
ไปโดยทวารทิศบูรพา แล้ววางพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ มกุฏพันธน
เจดีย์ของพวกเจ้ามัลละ ทางทิศบูรพาแห่งพระนคร. ลำดับนั้น พวกเจ้ามัลละ
ได้ถามท่านพระอานนท์ว่า พวกข้าพเจ้าจะพึงปฏิบัติในพระสรีระของพระตถาคต
อย่างไร. ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย พวกท่านพึงปฏิบัติ
ในพระสรีระพระตถาคต เหมือนที่เขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิ
ฉะนั้น. เขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นอย่างไรเล่า.

ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย เขาห่อพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิด้วย
ผ้าใหม่ แล้วซับด้วยสำลี แล้วห่อด้วยผ้าใหม่ โดยอุบายนี้ห่อพระสรีระของ
พระเจ้าจักรพรรดิด้วยผ้า ๕๐๐ คู่แล้ว เชิญพระสรีระลงในรางเหล็กอันเต็ม
ด้วยน้ำมันครอบด้วยรางเหล็กอื่น แล้วกระทำจิตกาธานด้วยไม้หอมทุกชนิด
ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว สร้างพระสถูปของพระเจ้า
จักรพรรดิไว้ที่ที่ทางใหญ่ ๔ แพร่ง เขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิ
ด้วยประการฉะนี้แล พวกท่านพึงปฏิบัติในพระสรีระพระตถาคต เหมือนที่เขา
ปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิฉะนั้น พึงสร้างพระสถูปพระตถาคต
ไว้ในหนทางใหญ่ ๔ แพร่ง ชนเหล่าใดจักยกขึ้นซึ่งพวงมาลัยของหอมหรือจุณ
จักอภิวาท หรือจักยังจิตให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้น ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน.

ลำดับนั้น พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารารับสั่งกะพวกบุรุษว่า ดูก่อน
พนาย ถ้าอย่างนั้น พวกท่านจงเตรียมสำลีไว้พร้อมเถิด. พวกเจ้ามัลละเมือง
กุสินาราห่อพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยผ้าใหม่ แล้วซับด้วยสำลี แล้วห่อ
ด้วยผ้าใหม่โดยอุบายนี้ ห่อพระสรีระพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยผ้า ๕๐๐ คู่ แล้ว
เชิญลงในรางเหล็กอันเต็มด้วยน้ำมัน ครอบด้วยรางเหล็กอื่น แล้วกระทำจิต
กาธานด้วยไม้หอมทุกชนิด แล้วจึงเชิญพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าขึ้นสู่
จิตกาธาน.



บุญกฐินทุนการศึกษานักเรียนโรงเรียนมูลมังหลวงปู่ชอบฐานสโม‬
คณะศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และกลุ่มเด็กวัดป่าฯมดงาน ขอเรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี วัดท่าแขก อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อบำรุงเสนาสนะ และสมทบทุนการศึกษานักเรียนโรงเรียนมูลมังหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
ในวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม อ.วังสะพุง จ.เลย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วยครูอาจารย์ศิษย์องค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพ กองละ 999 บาท จะได้รับหนังสือ "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยุค 1 เล่ม"
โดยโอนปัจจัยเข้าบัญชี"กองทุนเพื่อการศึกษานักเรียนโรงเรียนมูลมังหลวงปู่ชอบ ฐานสโม" ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 404-479380-5 สาขาเชียงคาน (เลย) ประเภทออมทรัพย์
รายละเอียดติดต่อสอบถามได้ที่
อ.กล้วย วีระศักดิ์ โพธิสัตย์
หรือคุณโอ๋ 081 274 4056




ขอเชิญร่วมบุญตามกำลัง พ่อแม่ครูอาจารย์มาช่วยรับผ้าป่าหลายรูปด้วย
* บำรุงภิกษุอาพาธ ร.พ.วานรนิวาส จ.สกลฯ
* สร้างตึกทันตกรรม ร.พ.ส่องดาว จ.สกลฯ
* อาคาร ร.ร.บ้านสุมณฑา อ.สว่างฯ จ.สกลฯ
* กำแพงศูย์เด็กเล็ก บ้านโคกสวัสดิ์
คืน17 - เช้า18 ตุลาคมนี้ ท่านที่สะดวกเชิญไปร่วมงานได้ที่จรัลสนิทวงศ์ ซ.57 แยก3-7
หรือถ้าไม่สะดวกไปร่วมงาน สามารถโอนปัจจัยได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช เลขที่ 016-4-07801-8 ชื่อบัญชี กองทุนทำบุญถวายพระกรรมฐาน





ขอรับบริจาค อาหารแห้ง และอุปกรณ์จำเป็นให้กับน้อง ๆ
นักเรียนร่วม 65 ชีวิต แห่งโรงเรียนไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
...
- ข้าวสาร/เส้นหมี่/ปลากระป๋อง/มาม่า/วุ้นเส้น
- เครื่องปรุงต่าง ๆ อาทิ รสดี/หัวหอม/กระเทียม
- น้ำยาล้างจาน
- ยาสามัญประจำบ้าน/อุปกรณ์ล้างแผล
- ร่ม/รองเท้าบูท/เสื้อกันฝน/มุ้ง/เทียนไข
- ชุดนักเรียน/ชุดชั้นใน สำหรับเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย
- ลูกฟุตบอล/ลูกวอลเลย์บอล/ลูกตะกร้อ
- ดินน้ำมัน/สีไม้
...
เมตตาติดต่อบริจาคได้ที่ครูมด (ครูอาสา ..คุณไพรวัลย์ ยาบัญ)
50/2 หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 160 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร