วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เชื่อว่าหลายๆ คนสงสัย ว่าการทำบุญทำทาน บริจาคเงินให้ขอทานตามข้างถนนต่างๆ ถือเป็นการทำบุญ หรือช่วยคนชั่วทำบาปกันแน่ เพราะสมัยนี้ขอทานที่เราเห็นกันก็ไม่ใช่ขอทานที่ชีวิตเขาลำบากจริงๆ บางคนแกล้งทำตัวพิการเพื่อที่จะเรียกความสงสารจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หรือบางคนอาจจะโดนค้ามนุษย์ ถูกขโมยมาจากครอบครัวอื่น จับตัดแขนตัดขานั่งขอทาน เช้าจับขึ้นรถแล้วปล่อยลงข้างถนน ตอนเย็นขับรถมารับกลับก็มี

เราเองก็แยกไม่ได้ว่าเขาน่าสงสารจริง หรือเขาจงใจทำตัวน่าสงสารกันแน่ เพราะสังคมสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยเก่า สมัยนี้เต็มไปด้วยมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ เราจึงต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิดพินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อนเชื่อ หรือตัดสินใจทำสิ่งใด
แล้วคราวนี้ การที่เรามีใจบริจาคเงินแก่ขอทาน หวังจะให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น จริงๆ แล้วเป็นการทำบุญที่ดี หรือเป็นการส่งเสริมการค้ามนุษย์กันแน่?

ให้เงินขอทาน บุญหรือบาป?

การทำบุญนั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง เราทำบุญเพื่ออะไร ทำบุญด้วยอะไร แล้วสุดท้ายแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการทำบุญเป็นเช่นไร เป็นไปตามจุดประสงค์ของการทำบุญที่เราหวังไว้แต่แรกไหม

หากเราทำบุญแล้วเราเกิดความไม่สบายใจ เช่น เรารู้ว่าเรากำลังให้เงินขอทานที่อยู่ในแก๊งโจรชั่ว เรารู้ว่าขอทานคนนั้นไม่ได้รับชีวิตที่ดีขึ้นอย่างที่เราตั้งใจจะบริจาคเงินให้ การทำบุญแบบนี้จึงไม่เรียกว่าการทำบุญ หรือทำบุญแต่ไม่ได้บุญนั่นเอง เช่นเดียวกันกับการปล่อยนกปล่อยปลา หากเราเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา ว่านกกับปลาที่เราปล่อยไป เขาไม่ได้มีชีวิตเป็นอิสระอย่างที่เราเข้าใจ แต่กลับถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจับขึ้นมา เพื่อนำมาปล่อยอีก วนอยู่อย่างนั้น บุญที่เราทำก็ไม่นับว่าเป็นบุญ

ดังนั้น ก่อนจะทำบุญ อยากให้เช็คจนแน่ใจว่าสิ่งที่เราทำไป เขาเหล่านั้นได้บุญ ได้สิ่งดีๆ ตอบแทนไปอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้หรือไม่ ไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำจนไม่ได้มีสติไตร่ตรองให้ดีว่าทำบุญไปแล้วได้อะไร ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีเหตุมีผล ฉะนั้นจะทำบุญก็ต้องมีเหตุมีผลที่สมกันด้วย จึงจะเรียกว่าเป็นการทำบุญที่แท้จริง

Cr.Sanook.com

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เอามาให้พิจารณากันเล่นๆนะครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 16:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้กับสัตว์เดรัชฉานได้ 500 เท่า
ให้กับคนไม่มีศีลได้ 1,000 เท่า
ให้กับคนมีศีลได้ 10,000 เท่า
ให้กับคนที่รู้ทัน 100,000 เท่า

ถึงอย่างไรการให้ก็ดีกว่าการห้าม เพราะทำให้เมตตาเจริญ แต่การห้ามมันมีริษยาเจริญ ส่วนมากผู้ริษยาเท่านั้นที่จะห้ามการบริจาคทาน

พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสว่า ความริษยายังโลกใหฉิบหาย เพราะว่า ผู้ห้ามได้ชื่อว่าทำลายบุคคลถึง 3 คน ผู้รับเขาก็ไม่ได้ทานนั้น ผู้ให้ก็ไม่ได้เจริญเมตตา ผู้ห้ามก็มีแต่ความริษยาและเดือดร้อนสงบจิตไม่ลง ในภาษาธรรมะเรียกว่าอารมณ์แห่งนรกอายตนะ เมตตาเท่านั้นที่ค้ำจุนโลก อย่ามาวิจัยผิดๆ ว่า เมตตาทำโลกให้ฉิบหาย

ส่วนมากคนที่ทำก็ไม่ได้ว่า แต่คนที่ว่าก็ไม่ได้ทำ ได้แต่อิจฉทล้วนๆ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 17:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ

แต่ยังทำบุญเพราะมีเหตุ มันก้ไม่พ้นจากทุกข์ ไปได้ดอก ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


muisun เขียน:
ให้กับสัตว์เดรัชฉานได้ 500 เท่า
ให้กับคนไม่มีศีลได้ 1,000 เท่า
ให้กับคนมีศีลได้ 10,000 เท่า
ให้กับคนที่รู้ทัน 100,000 เท่า


???

ที่ว่าให้ ให้อะไร

ที่ว่าได้เท่าๆๆๆๆ ได้อะไร

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


deecup เขียน:
ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ

แต่ยังทำบุญเพราะมีเหตุ มันก้ไม่พ้นจากทุกข์ ไปได้ดอก ครับ


ไม่มีเหตุให้ทำบุญ แล้วทำไมถึงทำ

ทำแล้วทำไมถึงทุกข์

แล้วทำยังไงถึงจะไม่ทุกข์ล่ะ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2015, 21:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่ากับของที่ตัวเองให้ เช่นให้เค้าได้อิ่มหนึ่งเราก็ได้ 500 อิ่ม ให้เค้าไปคำเราก็ได้ 500 คำ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร