สวัสดีค่ะ เรากำลังจะไปเปิดเนตรหรือเปิดตาที่ 3 ซึ่งท่านบอกว่าเรายังศีลไม่พอบารมีไม่ถึง ผู้ที่จะเปิดตา 3 เห็นทั้งโลกวิญญาณและเทวดา จะต้องจิตแข็งมากๆ และมีบุญบารมีมากพอสมควร ไม่อย่างนั้นเมื่อจิตไม่แข็งแล้วไปสุ่มสี่สุ่มห้าเปิดเนตร พอเห็นวิญญาณจะทำให้กลายเป็นบ้า ยิ่งศีลไม่ครบบารมีไม่พออาจจะโดนสมพเวสีวิญญาณที่เขารู้ว่าเราเห็นเข้ามาทำร้าย ซึ่งท่านบอกเราว่าจิตต้องแกร่งเหมือนพระอรหันต์ ซึ่งแปลว่ามันยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เราพยายามสะสมบุญโดยการบวชชีพราหมณ์เป็นเวลา 3 เดือนช่วงเข้าพรรณษาจนออกพรรณษา บวชอยู่ที่บ้านค่ะ ถือศีล 8 ครบ ไม่ทานอาหารหลังเที่ยง นั่งสมาธิ และสวดมนต์
ที่เราอยากเปิดเนตรเพราะว่าเราอยากเห็นวิญญาณ ท่านก็บอกว่าวิญญาณนั้นเราแทบจะเดินชนอยู่ทุกวัน มีอยู่ทุกที่เหมือนคนเดินตลาดนัด ทำไมอยากจะเห็น เราบอกว่าเพราะเราอยากรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ ท่านก็ถามว่าอยากรู้อะไร เราก็ตอบว่าอยากรู้ว่าวิญญาณหน้าตาอย่างไร เทวดาหน้าตาอย่างไร สวรรค์เป็นอย่างไร นรกเป็นอย่างไร ท่านก็ถามต่อว่า ถ้ารู้แล้วจะทำอย่างไร เราก็บอกว่าถ้าเรารู้เราอาจจะช่วยวิญญาณที่เดือดร้อน ท่านก็บอกกับเราว่า ถ้าอย่างนั้นคงช่วยไม่หมด เพราะวิญญาณที่เดือดร้อนมีมากมายยิ่งกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทร เราก็บอกว่าเราอยากเห็นเทวดา ท่านบอกว่าเทวดาไม่ลงมาวุ่นวายกับมนุษย์ เราก็บอกว่าเราเป็นคนขี้สงสัย เราอยากรู้ทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับกฎเกณฑ์สวรรค์หรือนรก ท่านก็บอกว่าดีแล้วที่สงสัย เพราะปัญญาจะเกิดจากคำถามไม่ได้เกิดจากคำตอบ เพราะทุกสรรพสิ่งมีกฎเกณฑ์และเหตุผลในตัวมัน การที่มนุษย์ไม่เห็นโลกทั้งสามก็ต้องมีเหตุผมในตัวของมันเอง เหมือนการที่มนุษย์ต้องตายก็เป็นกฎธรรมชาติ ท่านบอกว่าถ้าเรายังอยากเปิดเนตรอยู่ก็ให้นั่งสมาธิทำจิตให้แข็งถือศีลให้ครบ เมื่อบารมีเรามากพอให้ แต่ตอนนี้เราเริ่มลังเลใจว่าจะเปิดดีหรือเปล่า หรืออาจจะไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ ท่านบอกว่าคนที่เปิดเนตรนั้น จะสามารถมารถสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ได้และก็อาจจะสร้างบาปที่หนักมหาศาลได้เช่นกัน หากรู้เห็นอะไรก็จงเงียบไว้เพราะมนุษย์ทุกคนมีชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง หากเราเข้าไปยุ่ง จะส่งผลต่อเราภายหน้า
เพื่อนๆคิดว่าไงคะ ถ้าเป็นเพื่อนๆจะอยากเปิดเนตรหรือเปล่า...

(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

ตามความรู้สึกส่วนตัวถ้าดิฉัน เป็นผู้ตัดขาดจากโลกภายนอก ถือศีล บวชชีพราม ตลอดชีวิต ก็อยากเห็นเหมือนกัน สิ่งที่เหนือธรรมชาติ อยากเห็นวิญญาน เทวดา สวรรค์ นรกเหมือนกัน แต่ถ้ายังเป็นฆราวาสอยู่ แค่เรื่องทางโลกก็ทุกข์มากพอแล้ว คงไม่หาทุกข์ใส่ตัวเพิ่ม ถึงจะเห็นไม่เห็น แต่สิ่งนั้นก็ไม่ใช่เครื่องขัดขวางการ ปฏิบัติบนทางสายกลางเลยค่ะ ขนาดไม่ตั้งใจปฏิบัติ ยังเกิดญานรู้ เรื่องของตน แต่เพราะเชื่อคำหลวงปู่ที่บอกว่า ถ้ามีญานรู้..จะรู้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ เลยปลงๆแล้วค่ะ

เราไม่เคยเห็นผู้ใดทำได้เหมือนพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลตอนเปิดโลกทั้ง3หลังจากเสด็จลงจากสวรรค์ตอนโปรดพระมารดาให้สัตว์โลกทั้งหลายได้เห็นพร้อมกัน

หลังจากนั้นก็เป็นได้แค่นิมิตรต่างๆที่เหล่าสาวกทั้งหลายนำมาเล่าขาน วกกลับไปหาอ่านได้เลยครับ

วิญญาณทั้งหลายมีภพเป็นแดนอาศัย ต่างอยู่กันคนละภพ การที่จะเดินชนกันนั้นเป็นฐานะที่เป็นไปไม่ได้และมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะเปิดภพทั้ง3ให้คนทั้งหลายได้เห็นได้ นอกนั้น ไม่มี

สิ่งที่ควรเห็นมากที่สุก คือ การเห็น เกิดดับครับ

อย่างอื่นยังเป็นของนอกตัว ไม่ได้เป็นเพื่อการดับทุกข์อย่างแท้จริงครับ

ถ้าได้เห็นการเกิดดับอย่างเข้าใจ ก็อาจจะมีความคิดที่เปลี่ยนไป ไม่อยากเห็นพวกเทวดา ผี หรืออะไรต่างๆอีกต่อไปครับ



เห็นเกิดดับ ดีกว่าเห็นเทวดา มีประโยชน์มากกว่าอีกนะครับ