วันเวลาปัจจุบัน 25 ส.ค. 2025, 22:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 178 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2016, 04:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
ทางสายกลางนั้นอยู่ระหว่าง ความยินดี กับ ความยินร้าย

ในภาคปฏิบัติจริงๆของการทำวิปัสสนาภาวนาหรือการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าสามารถรักษาจิตใจให้อยู่ตรง เฉย หรือ นิ่งเฉย ได้ในทุกการกระทบสัมผัส นั่นคือการเดินจิตหรือรักษาจิตไว้บนทางสายกลาง

สังเกตพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่า กลางตรงเฉยนั้น สัมพันธ์สอดคล้องกับ สติปัฏฐาน 4 เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

อันมัชฌิมาปฏิปทาทางสายกลางคือการเจริญมรรค 8 นั้น เป็นตัวทฤษฎีของการเดินทางสายกลาง ซึ่งจะมีสัมมาทั้ง 8 ข้อเป็นหลักในการปฏิบัติ ย่อลงมาเป็น

ปัญญามรรค 2 ข้อ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ

ศีลมรรค 3 ข้อ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ

สมาธิมรรค 3 ข้อ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

มรรคทั้ง 8 เป็นการระดมเอา ปัญญา ศีล สมาธิ หรือ ปัญญา ศีล สติ มาใช้งานทำให้จิตใจตั้งมั่นอยู่ระหว่างกลางความยินดีกับความยินร้าย หรือ เฉย ได้กับทุกสถานะการณ์ ทุกสัมผัส ของกาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งก็คือการเจริญสติปัฏฐานทั้ง 4 นั่นเอง

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2016, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




1400134552-4521-o.jpg
1400134552-4521-o.jpg [ 141.26 KiB | เปิดดู 4215 ครั้ง ]
ปฐมโพธิกาล ได้ทรงแสดงธรรมแก่พระปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี เป็นครั้งแรก
เป็นปฐมเทศนา เรียกว่า ธรรมจักร เบื้องต้นทรงยกส่วนสุด ๒ อย่างอันบรรพชิตไม่ควรเสพขึ้นมาแสดงว่า
เทว เม ภิกฺขเว อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา

ภิกษุทั้งหลาย ส่วนที่สุด ๒ อย่างอันบรรพชิตไม่พึงเสพ คือ กามสุขัลลิกา และอัตตกิลมถา
กล่าวโดยสรุป ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ส่วนที่สุดสองอย่าง ที่พระพุทธศาสนาปฏิเสธ
อันได้แก่ "กามสุขัลลิกานุโยค" คือการหมกมุ่นอยู่ในกามสุข และ "อัตตกิลมถานุโยค" คือการ
ทรมานตนให้ลำบากโดยเปล่าประโยชน์ มัชฌิมาปฏิปทา คือปฏิปทาทางสายกลางที่พระพุทธองค์
ได้ทรงตรัสรู้ ได้แก่ มรรคมีองค์แปด
อริยสัจสี่ คือธรรมที่เป็นความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ

ถ้าเราจะกล่าวกันแบบบ้านๆให้เข้าใจง่ายๆตามเข้าใจในลักษณะของสุดโต่ง กามสุขัลลิกา ก็คือ
ความสุขที่เกิดจากทางหูทางตาทางจมูกทางลิ้นทางกายทางใจเหล่านี้ ควรเสพให้มากๆขึ้น เมื่อสุข
เกิดมากๆขึ้นเรื่อยๆก็จะเข้าถึงความสุขที่สุด

และความเข้าใจในอัตตกิลมถานุโยค คือการทำตนให้เข้าถึงการลำบากมีการทรมานกาย
เช่น การเพียรนั่งให้นานๆหรือการโดยการไม่ยอมนอน เพียรอดอาหาร เหล่านี้ เข้าใจว่าเข้าถึงทุกข์
ถึงที่สุดแล้วก็จะถึงความสุขเอง

และทางสายกลางอยู่ตรงไหน ? นั่นก็คือการไม่เข้าไปแตะในในส่วนที่สุดทั้ง ๒ อย่าง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 05:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 05:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b4:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 05:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ตื่นเช้าเหมือนกันนะกบ
:b4:
ตื่นเช้ามาได้หัวเราะก็ต่ออายุให้ยืนยาวไปได้อีกหลายปี อนุโมทนา ถ้าหัวเราะด้วยใจบริสุทธิ์และเป็นสุข
:b27:
แต่ถ้า หัวเราะเยาะ กลับจะถ่วงให้อายุสั้นและติดหลงอยู่ในวัฏฏะนานแสนนานด้วยอำนาจแห่งมิจฉาทิฏฐิ มานะทิฏฐิ อิจฉา มัจฉริยะ อันนี้น่ากลัว ต้องวิเคราะห์ทบทวนตรวจสอบดูจิต วัดจิตของตนเองให้มากและบ่อยๆครั้งนะครับ
:b13:
แต่กบคงไม่เป็นอย่างนั้นแน่ กบตัวนี้เป็นกบบันเทิง มากกว่ากบในกะลา จริงไหมครับ?
:b17: :b17: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 05:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
ตื่นเช้าเหมือนกันนะกบ
:b4:
ตื่นเช้ามาได้หัวเราะก็ต่ออายุให้ยืนยาวไปได้อีกหลายปี อนุโมทนา ถ้าหัวเราะด้วยใจบริสุทธิ์และเป็นสุข
:b27:
แต่ถ้า หัวเราะเยาะ กลับจะถ่วงให้อายุสั้นและติดหลงอยู่ในวัฏฏะนานแสนนานด้วยอำนาจแห่งมิจฉาทิฏฐิ มานะทิฏฐิ อิจฉา มัจฉริยะ อันนี้น่ากลัว ต้องวิเคราะห์ทบทวนตรวจสอบดูจิต วัดจิตของตนเองให้มากและบ่อยๆครั้งนะครับ
:b13:
แต่กบคงไม่เป็นอย่างนั้นแน่ กบตัวนี้เป็นกบบันเทิง มากกว่ากบในกะลา จริงไหมครับ?
:b17: :b17: :b12:


ไปเปิดดูว่า..มัจฉริยะ..แปลวว่าอะไร

เขาแปลว่า..ตระหนี่ขี้เหนียว...นะ

หัวเราะด้วยมิจฉาทิฏฐิ..ด้วยมานะทิฏฐิ...อันนี้พอเข้าใจว่า..คงเกิดขึ้นได้

แต่หัวเราะ..ด้วยความอิจฉา...ด้วยความขี้เหนียว..นี้...ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร...นะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 06:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b4:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


:b32: :b32: :b32:


การสรุปง่าย ๆ แบบนี้...ดูท่าจะผิดความหมายไปมาก...และคงไม่เคยหรือมีประสพการน้อย...

จึงไม่เคยรู้ว่า...มันก็มีอารมณ์ยินร้าย...ในกามสุขัลลิกานุโยค..และยินดีใน..อัตตกิลมถานุโยค..ได้ด้วย

แค่นี้ไม่รูู้...จึงไม่ต้องไปพูดถึง...เรื่องเฉย..= มัชฌิมาปฏิปทา เพราะจะยิ่งเข้าป่าที่ไม่เคยเดินลึกมากไป
:b32: :b32:

กลับไปอ่านแล้วทำใจพิจารณาน้อมนำตามพระสูตร..ธัมมจักกัปปวัตนสูตร...อย่างมีสมาธิ..อย่ามีอารมณ์ดื้อ..อย่ายึดมั่นความคิดอย่างที่สรุปมานี้ของตนมากนัก...คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากนะคับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 07:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
ตื่นเช้าเหมือนกันนะกบ
:b4:
ตื่นเช้ามาได้หัวเราะก็ต่ออายุให้ยืนยาวไปได้อีกหลายปี อนุโมทนา ถ้าหัวเราะด้วยใจบริสุทธิ์และเป็นสุข
:b27:
แต่ถ้า หัวเราะเยาะ กลับจะถ่วงให้อายุสั้นและติดหลงอยู่ในวัฏฏะนานแสนนานด้วยอำนาจแห่งมิจฉาทิฏฐิ มานะทิฏฐิ อิจฉา มัจฉริยะ อันนี้น่ากลัว ต้องวิเคราะห์ทบทวนตรวจสอบดูจิต วัดจิตของตนเองให้มากและบ่อยๆครั้งนะครับ
:b13:
แต่กบคงไม่เป็นอย่างนั้นแน่ กบตัวนี้เป็นกบบันเทิง มากกว่ากบในกะลา จริงไหมครับ?
:b17: :b17: :b12:


ไปเปิดดูว่า..มัจฉริยะ..แปลวว่าอะไร

เขาแปลว่า..ตระหนี่ขี้เหนียว...นะ

หัวเราะด้วยมิจฉาทิฏฐิ..ด้วยมานะทิฏฐิ...อันนี้พอเข้าใจว่า..คงเกิดขึ้นได้

แต่หัวเราะ..ด้วยความอิจฉา...ด้วยความขี้เหนียว..นี้...ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร...นะ
:b32: :b32: :b32:


เมื่อเห็นคนอื่นไม่เป็นอันที่น่ารักของตน เมื่อเขาได้ลาภก็ไม่พอใจไม่อยากจะให้เขาได้ลาภนั้น
เป็นการอิจฉาโดยความตระหนี่ไม่อยากจะให้ลาภเกิดขึ้นกับเขา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 07:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


:b32: :b32: :b32:


การสรุปง่าย ๆ แบบนี้...ดูท่าจะผิดความหมายไปมาก...และคงไม่เคยหรือมีประสพการน้อย...

จึงไม่เคยรู้ว่า...มันก็มีอารมณ์ยินร้าย...ในกามสุขัลลิกานุโยค..และยินดีใน..อัตตกิลมถานุโยค..ได้ด้วย

แค่นี้ไม่รูู้...จึงไม่ต้องไปพูดถึง...เรื่องเฉย..= มัชฌิมาปฏิปทา เพราะจะยิ่งเข้าป่าที่ไม่เคยเดินลึกมากไป
:b32: :b32:

กลับไปอ่านแล้วทำใจพิจารณาน้อมนำตามพระสูตร..ธัมมจักกัปปวัตนสูตร...อย่างมีสมาธิ..อย่ามีอารมณ์ดื้อ..อย่ายึดมั่นความคิดอย่างที่สรุปมานี้ของตนมากนัก...คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากนะคับ


มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งแปลว่า ทางสายกลาง ไม่ใช่แปลว่า "เฉย" นะจะผิดความหมาย
เป็นการเข้าใจผิด เฉยเป็นเวทนาอันหนึ่งคืออุเบกขาเวทนา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 08:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


:b32: :b32: :b32:


การสรุปง่าย ๆ แบบนี้...ดูท่าจะผิดความหมายไปมาก...และคงไม่เคยหรือมีประสพการน้อย...

จึงไม่เคยรู้ว่า...มันก็มีอารมณ์ยินร้าย...ในกามสุขัลลิกานุโยค..และยินดีใน..อัตตกิลมถานุโยค..ได้ด้วย

แค่นี้ไม่รูู้...จึงไม่ต้องไปพูดถึง...เรื่องเฉย..= มัชฌิมาปฏิปทา เพราะจะยิ่งเข้าป่าที่ไม่เคยเดินลึกมากไป
:b32: :b32:

กลับไปอ่านแล้วทำใจพิจารณาน้อมนำตามพระสูตร..ธัมมจักกัปปวัตนสูตร...อย่างมีสมาธิ..อย่ามีอารมณ์ดื้อ..อย่ายึดมั่นความคิดอย่างที่สรุปมานี้ของตนมากนัก...คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากนะคับ


ลุงหมาน เขียน:
มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งแปลว่า ทางสายกลาง ไม่ใช่แปลว่า "เฉย" นะจะผิดความหมาย
เป็นการเข้าใจผิด เฉยเป็นเวทนาอันหนึ่งคืออุเบกขาเวทนา


ก็นั้นแหละคับ..แต่ไม่อยากพูดไปก่อน..
ให้อโสกะแก้ความเห็นเรื่อง...ยินดี = กามสุขัล..กับ ยินร้าย=อัตตกิลมถานุโยค..ไปก่อน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...เริ่มต้นที่สุตมยปัญญา...คือการฟังคำตรงคำจริง...เพื่อคิดเห็นถูกต้องในสิ่งที่มีทุกวันเป็นสัมมาทิฐิ...
...เพราะชีวิตประจำวันที่แต่ละบุคคลดำเนินไปด้วยอวิชชาคือกิเลสคือความไม่รู้และลืมธัมมะเป็นปกติ...
:b40: :b40: :b40:
:b16: :b12:
:b44:
https://www.youtube.com/watch?v=fh5Honeef5s


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 22:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กามสุขัลลิกานุโยโค = ยินดี

อัตตกิลมถานุโยโค = ยินร้าย

มัชฌิมาปฏิปทา = เฉย

เฉยมากเข้าๆจนเป็นนิสัยอุปนิสัย = ปกติ = ศีล

:b38:


:b32: :b32: :b32:


การสรุปง่าย ๆ แบบนี้...ดูท่าจะผิดความหมายไปมาก...และคงไม่เคยหรือมีประสพการน้อย...

จึงไม่เคยรู้ว่า...มันก็มีอารมณ์ยินร้าย...ในกามสุขัลลิกานุโยค..และยินดีใน..อัตตกิลมถานุโยค..ได้ด้วย

แค่นี้ไม่รูู้...จึงไม่ต้องไปพูดถึง...เรื่องเฉย..= มัชฌิมาปฏิปทา เพราะจะยิ่งเข้าป่าที่ไม่เคยเดินลึกมากไป
:b32: :b32:

กลับไปอ่านแล้วทำใจพิจารณาน้อมนำตามพระสูตร..ธัมมจักกัปปวัตนสูตร...อย่างมีสมาธิ..อย่ามีอารมณ์ดื้อ..อย่ายึดมั่นความคิดอย่างที่สรุปมานี้ของตนมากนัก...คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากนะคับ

:b12:
ลอกมาก็ยังผิดนะกบไม่ต้องรีบร้อนครับ

กามสุขัลลิกา นี่ ยินดี

อัตตกิลมถานี่ ยินร้าย

เพราะกบไม่เคยนั่งสัมผัสของจริงในกายและจิตเอาแต่คิดค้นในตำรามาเทียบมันเลยไม่รู้และไม่เข้าใจนะครับ

:b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 22:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งแปลว่า ทางสายกลาง ไม่ใช่แปลว่า "เฉย" นะจะผิดความหมาย
เป็นการเข้าใจผิด เฉยเป็นเวทนาอันหนึ่งคืออุเบกขาเวทนา

ก็นั้นแหละคับ..แต่ไม่อยากพูดไปก่อน..
ให้อโสกะแก้ความเห็นเรื่อง...ยินดี = กามสุขัล..กับ ยินร้าย=อัตตกิลมถานุโยค..ไปก่อน

:b12:
เฉย มันเป็นกลางระหว่างยินดีกับยินร้ายนะครับ ลุงหมาน ผมไม่ได้แปลแต่เทียบความหมายให้คิดครับ
smiley
ดูหยาบๆ คล้ายกับจะผิดความหมาย แต่สภาวะมันใช่นะครับเพราะอยู่ตรงกลาง
ยินดี......เฉย......ยินร้าย
s004 :b13:


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 19 ม.ค. 2016, 22:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2016, 22:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ตื่นเช้าเหมือนกันนะกบ
:b4:
ตื่นเช้ามาได้หัวเราะก็ต่ออายุให้ยืนยาวไปได้อีกหลายปี อนุโมทนา ถ้าหัวเราะด้วยใจบริสุทธิ์และเป็นสุข
:b27:
แต่ถ้า หัวเราะเยาะ กลับจะถ่วงให้อายุสั้นและติดหลงอยู่ในวัฏฏะนานแสนนานด้วยอำนาจแห่งมิจฉาทิฏฐิ มานะทิฏฐิ อิจฉา มัจฉริยะ อันนี้น่ากลัว ต้องวิเคราะห์ทบทวนตรวจสอบดูจิต วัดจิตของตนเองให้มากและบ่อยๆครั้งนะครับ
:b13:
แต่กบคงไม่เป็นอย่างนั้นแน่ กบตัวนี้เป็นกบบันเทิง มากกว่ากบในกะลา จริงไหมครับ?
:b17: :b17: :b12:


ไปเปิดดูว่า..มัจฉริยะ..แปลวว่าอะไร

เขาแปลว่า..ตระหนี่ขี้เหนียว...นะ

หัวเราะด้วยมิจฉาทิฏฐิ..ด้วยมานะทิฏฐิ...อันนี้พอเข้าใจว่า..คงเกิดขึ้นได้

แต่หัวเราะ..ด้วยความอิจฉา...ด้วยความขี้เหนียว..นี้...ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร...นะ
:b32: :b32: :b32:


เมื่อเห็นคนอื่นไม่เป็นอันที่น่ารักของตน เมื่อเขาได้ลาภก็ไม่พอใจไม่อยากจะให้เขาได้ลาภนั้น
เป็นการอิจฉาโดยความตระหนี่ไม่อยากจะให้ลาภเกิดขึ้นกับเขา

:b12: :b13: :b13:
อิจฉา ไม่อยากเห็นใครดีกว่า เก่งกว่า

มัจฉฉริยะ ตระหนี่เหนียวแน่นไม่ยอมสละความเห็นผิดของตนเอง

:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2016, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ทางสายกลางคือทางสายตรงเป็นทางสายเดียวที่มีอริยสัจจ์สี่กับอริยมรรคมีองค์แปด
การไม่อยู่บนทางสายกลางคือความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนที่ไปรู้สึกว่าชอบใจไม่ชอบใจ
ความยินดีคือเราพอใจทำ(ความชอบ)ส่วนความยินร้ายคือเราไม่พอใจทำ(ความไม่ชอบ)
การดำเนินทางสายกลางคือการสะสมปัญญาที่ปราศจากความหลงว่ามีตัวตนไปยึดถือทุกสิ่ง
เป็นจิตเจตสิกเกิด-ดับสืบต่อสะสมวิชชาดับอวิชชาคือทำชีวิตประจำวันให้ละความรู้สึกสุข-ทุกข์
:b1: :b16:
:b12:
onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 178 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร