พระโพธิสัตว์ผู้ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ
อนิยตโพธิสัตว์ และ นิยตโพธิสัตว์

๑. อนิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่ยังไม่เคยได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ เลย
เพียงแต่มีความตั้งใจที่จะสร้างบารมี ด้วยการคิดอยู่ในใจ และการเปล่งวาจา ซึ่งใช้เวลาหลายอสงไขย
แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตเมื่อไหร่

๒. นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ย่อมเที่ยงแท้ว่าจักได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ซึ่งนิยตโพธิสัตว์นี้จะต้องประกอบด้วย ธรรมสโมธาน ๘ ประการ

พระพุทธเจ้าของเราองค์ที่เป็นปัจจุบัน มีจิตปณิธาน นับได้ ๗ อสงไขย
และสร้างบารมีในพระพุทธเจ้า ๑๒๕,๐๐๐ พระองค์

และได้เปร่งวาจาต่อพระพักต์ของพระพุทธเจ้าแต่ก็ไม่ได้รับคำพยากรณ์ ถึง ๙ อสงไขย
และสร้างบารมีในพระพุทธเจ้า ๓๘๗,๐๐๐ พระองค์

และได้รับพยากรณ์แล้วว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนจากพระทีปังกร
บำเพ็ญบารมีมาอีก ๔ อสงไขยแสนกัปป์ ในพระพุทธเจ้าถึง ๒๓ พระองค์

ได้อ่านมาจากคัมภีร์อนาคตวงศ์

พระโพธิสัตว์ที่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ในอนาคตมาแล้วก็จริง แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่ตกนรกหรือรอดพ้นไปจากอบายภูมิได้
ดูตัวอย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทียังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าทีปังกร
ช่วงที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่นั้นท่านก็ยังถลำลงอบายไปไม่รู้เท่าไหร่ เช่นในยุคของพระพุทธเจ้า
ที่ชื่อว่าสุมนะพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นพยานาค ในยุคของพระพุททเจ้าที่ชื่อว่าปทุมะ
พระโพธิสัตว์ของเราไดไปเกิดเป็นราชสีห์

หรือจะเห็นได้พระโพธสัตว์จะได้เป็นพระพุทธในอาคตนั้นก็มี เช่นช้างนาฬาคิริงที่ไล่ชนพระพุทธเจ้า
ของเราในอนาคตจะได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าที่ชื่อติสสะ หรือช้างปาลิเลยกะที่เรามักจะรู้จักกันมาก
ในภาพของพระป่าเลไลยช้างที่หมอบถวายน้ำนั่นแหละ ที่ได้อุปถัมพระพุทธเจ้าที่ไปจำพรรษาอยู่ในป่า
เลยกะ ช้างตัวนี้จะได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตชื่อว่าพระพุทธเจ้าสุมังคละ

เป็นสัตว์..พอเข้าใจได้

แต่..ไม่น่าจะตกนรกได้..นะ..พอมีหลักฐานการตกนรกของนิตยโพธิสัตว์บ้างมั้ยคับลุงหมาน

พระโพธิสัตว์ที่ได้รับคำพยากรณ์แล้ว ศีล ๕ ท่านรักษาได้ข้อเดียวคือ ข้อมุสา
อีก ๔ ข้อท่านรักษาไม่ได้ เมื่อรักษาไม่ได้ท่านก็ย่อมมีสิทธิ์ที่ต้องลงนรกหรืออบายภูมิ

แสดงเรื่องเปรตประเภทต่างๆ ตามที่พระอรรถกถา และพระคัมภีร์ แสดงไว้
แสดงเรื่องเปรตไว้ ๔ จำพวก คือ

๑. ปรทัตตุปชีวิกเปรต เป็นเปรตที่มีชีวิตอยู่ ด้วยการอาศัยส่วนบุญที่ญาติมิตร เขาอุทิศให้
ถ้าไม่มีผู้อุทิศให้ ก็ต้องอดอยากหิวโหย ได้รับทุกขเวทนาอยู่เช่นนั้น

๒. ขุปปีปาสิกเปรต เป็นเปรตที่อดอยาก หิวข้าวหิวน้ำอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลุกขึ้น
ต้องนอนแซ่วอยู่เหมือนคนป่วยที่ใกล้จะตาย

๓. นิชฌามตัณหิกเปรต เป็นเปรตที่มีไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ

๔. กาลกัญจิกเปรต เป็นเปรตจำพวกอสุรกาย หรือ อสุรา

ปรทัตตุปชีวิกเปรต ประเภทเดียวเท่านั้นที่สามารถจะรับส่วนกุศลที่มนุษย์แผ่ไปให้ได้
เพราะอยู่ใกล้ๆ กับมนุษย์ และสามารถที่จะรู้ว่าเขาแผ่ส่วนกุศลให้ และอนุโมทนาส่วนบุญนั้น
ถ้าไม่รู้หรือไม่ได้อนุโมทนา ก็ไม่ได้รับส่วนบุญที่ญาติมิตรแผ่ไปให้

พระโพธิสัตว์เมื่อได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ถ้าจะเกิดเป็นเปรต ก็จะเกิดเป็นเปรต
ได้ประเภทเดียวเท่านั้นคือ ปรทัตตุปชีวิกเปรต เปรตอีก ๓ ชนิดที่เหลือจะไม่ไปเกิด ถ้าเกิดเป็นสัตว์
เดรัจฉาน ก็จะเกิดเป็นสัตว์ตัวใหญ่ไม่เกินช้าง เป็นสัตว์ตัวเล็กก็ไม่เล็กเกินกว่านกกระจาบ

ดูตามลิ้งค์นี้เลื่อนลงไปดูเรื่องเปรต ๔ จำพวก

http://www.thepathofpurity.com/%E0%B8%9 ... %E0%B9%91/

หรือดูตัวอย่างพระเทวฑัตท่านได้ไปเกิดในนรก แล้วท่านพ้นกรรมในนรกท่านก็จะได้มาเกิด
เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทั้งที่พระเทวทัตได้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า

ลุง หนูนะจิตใจไม่แข็งแกร่ง ขอเป็นแค่ปกติสาวกพอ
หนูนับถือความกล้าหาญเลยนะ ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ท่านเสียสละจริงๆ กล้าลงนรก กล้าไปอบาย
เพราะทั้งๆที่รู้ว่าช่วงบำเพ็ญบารมีอันยาวนานนั้น อย่างไรก็ไม่รอดจากอบายภูมิไปได้ค่ะ

อีกอย่างหนึ่งที่ลุงลืมบอก คือ นิยตโพธิสัตว์ จะไม่เกิดเป็นผู้หญิงแล้ว
นิยตโพธิสัตว์จะเกิดเป็นเพศชายอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ

พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีไปแล้ว ล้มเลิกความตั้งใจไปก็มี และบรรลุเป็นพระอรหันต์ขอเป็นสาวกพอ
มีใครบ้างคะลุง หนูจำชื่อไม่ได้ ลุงเล่าต่อค่ะ

เกี่ยวกับธรรมสโมธาน ๘ หรือเปล่า ถ้าใช่ก็มีดังนี้

ธรรม ๘ ประการ ของความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อบุคคลปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าอยู่ ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่นั้น จักสำเร็จได้
ก็เพราะประมวลมาซึ่งธรรม ๘ ประการ ที่เรียกว่า "อัฏฐธรรมสโมธาน" คือ

๑. มนุสสัตตะ ความเป็นมนุษย์
๒. ลิงคสัมปัตติ ความถึงพร้อมด้วยเพศ คือบุรุษเพศ
๓. เหตุ มีอุปปนิสยสมบัติบรรลุมรรคผลได้
๔. สัตถารทัสสนะ ได้พบพระพุทธเจ้าในขณะที่ยังทรงพระชนม์อยู่
๕. ปัพพัชชา ได้บรรพชาอุปสมบท
๖. คุณสมบัติ สมบูรณ์ด้วยคุณ คือ เป็นผู้ได้อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘
๗. อธิการ การกระทำยิ่งใหญ่ คืออาจสละชีวิตแก่พระพุทธเจ้าได้
๘. ฉันทตา ความมีฉันทะ อุตสาหะ บำเพ็ญพุทธการกธรรม

พระโพธิสัตว์ ประมวลธรรม ๘ ประการนี้แล้ว ทรงสร้างอภินิหาร (อำนาจแห่งบารมี) แทบบาทมูล
ของพระพุทธเจ้าทีปังกร ดังนี้เรื่อยมา จวบจนถึงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร พระองค์ได้บรรลุ
อานิสงส์สำหรับพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ผู้ได้สร้างอภินิหารไว้แล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย ทรงได้รับพยากรณ์ในสำนักของพระพุทธเจ้า ๒๔ พระองค์
มาตลอดถึง ๔ อสงไขย หนึ่งแสนกัลป์ ด้วยประการฉะนี้

(คัดจากหนังสือ พระอภิธรรมมัตถสังคหะ)

ส่วนผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วเกิดการล้มเลิกยังอ่านไม่เคยเจอตรงไหน
มีแต่หลวงตา หลวงลุง หลวงพี่ กล่าวกันเอง ในคัมภีร์หรือในอรรถกถาก็ไม่เคยเจอ

พอมีนะท่านกบฯ .. ตอนที่พระโพธิสัตว์ก่อนลงมาเสวยพระชาติเป็นพระเตมีใบ้

.. กาลนั้น พระโพธิสัตว์ครองราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสีได้ยี่สิบปี เคลื่อนจากมนุษยโลกนั้น บังเกิดในอุสสุทนรก เสวยทุกข์อยู่ในนรกนั้นแปดหมื่นปี เคลื่อนจากนรกนั้น บังเกิดในพิภพดาวดึงส์ ตั้งอยู่ในดาวดึงส์นั้นตลอดอายุ เคลื่อนจากดาวดึงส์นั้น ประสงค์จักไปเทวโลกชั้นสูง. ครั้งนั้น ท้าวสักกะเสด็จไปสู่สำนักของพระโพธิสัตว์ ตรัสว่า ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ เมื่อท่านเกิดในมนุษยโลก บารมีทั้งหลายของท่านจักเต็มเปี่ยม ความเจริญจักมีแก่ท่านและแก่พระชนกชนนีของท่าน ..

เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว พระนิยตโพธิสัตว์จะไม่ตก "อเวจีมหานรก"

http://www.84000.org/tipitaka/atita10/jataka10.php?i=1