ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

รู้แล้วเดือดร้อน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=51969
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  muisun [ 22 ก.พ. 2016, 20:53 ]
หัวข้อกระทู้:  รู้แล้วเดือดร้อน

ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุจะคิดหนอๆ ก็จะไม่ได้รู้เห็นเรื่องจริง เสียเวลาทั้งชีวิตก็วนอยู่ในวงกลมแห่งความสงสัยดิ้นรนเดือดร้อน มุ่งร้ายริษยาเพ่งโทษ เพราะผู้ที่รู้มากๆ ต้องรู้ทันดับ ถ้าไม่ดับจะพาบ้าแน่นอน เป็นความจริงที่ต้องเจอ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 23 ก.พ. 2016, 04:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

muisun เขียน:
ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุจะคิดหนอๆ ก็จะไม่ได้รู้เห็นเรื่องจริง เสียเวลาทั้งชีวิตก็วนอยู่ในวงกลมแห่งความสงสัยดิ้นรนเดือดร้อน มุ่งร้ายริษยาเพ่งโทษ เพราะผู้ที่รู้มากๆ ต้องรู้ทันดับ ถ้าไม่ดับจะพาบ้าแน่นอน เป็นความจริงที่ต้องเจอ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


แล้วทำไมต้องรู้ทันความคิดเพื่อที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อข่าว..ละคับ

บอกประโยชน์ของการรู้ความจริงของข่าว..หน่อยซิคับ..มันดียังงัย?

เจ้าของ:  muisun [ 23 ก.พ. 2016, 10:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

เราถูกความคิดมันหลอกเพราะรู้ไม่ทัน ไม่ต้องไปกล่าวไปถึงความคิดของผู้อื่น แล้วจะไปเจอเรื่องจริงอันเป็นอัจฉริยะได้อย่างไร จะคิดหนอๆ พระพุทธเจ้าเรียกว่าหลงมงคลตื่นข่าวแล้วจะเดือดร้อน

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 23 ก.พ. 2016, 11:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

เคยคุยกับชาวบ้านรู้เรื่องซะทีมั้ยคับ..

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 23 ก.พ. 2016, 12:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

กบนอกกะลา เขียน:
muisun เขียน:
ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุจะคิดหนอๆ ก็จะไม่ได้รู้เห็นเรื่องจริง เสียเวลาทั้งชีวิตก็วนอยู่ในวงกลมแห่งความสงสัยดิ้นรนเดือดร้อน มุ่งร้ายริษยาเพ่งโทษ เพราะผู้ที่รู้มากๆ ต้องรู้ทันดับ ถ้าไม่ดับจะพาบ้าแน่นอน เป็นความจริงที่ต้องเจอ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


แล้วทำไมต้องรู้ทันความคิดเพื่อที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อข่าว..ละคับ
บอกประโยชน์ของการรู้ความจริงของข่าว..หน่อยซิคับ..มันดียังงัย?

กบนอกกะลา เขียน:
เคยคุยกับชาวบ้านรู้เรื่องซะทีมั้ยคับ..



ผมว่าเป็นคุณต่างหากที่คุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง
จขกทเขาก็บอกอยู่ทนโท่ว่า ...."ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุ"
ผมอ่านแล้วก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ แต่คุณกลับไม่รู้เรื่อง แบบนี้มันไม่ใช่จขกทพูดไม่รู้เรื่อง
แต่เป็นเพราะคุณ...ไม่รู้ฟังต่างหากครับ

คุณกบครับคุณรู้จักคำว่าต้นเหตุหรือเปล่าครับ
ยกตัวอย่าง ถ้ามีข่าวในหนัาหนังสือพิมพ์ว่า "นายmuisunเป็นคนไม่ดี ขณะทำข่าวนี้ นักข่าวเห็นนายmuisun กำลังชกหน้าและเตะถีบนายกบนอกกะลาอยู่ คาหนังคาเขา"

ถ้าเราอ่านแค่ข่าว ย่อมต้องเข้าใจว่า นายmuisunเป็นคนไม่ดีตามข่าว
เหตุนี้คนมีปัญญาเขาจะต้องหาต้นเหตุของเรื่องที่เกิดมีการเตะถีบกันก่อน
ไม่ใช่มาเชื่อตามข่าว......ซึ่งต้นเหตุของเรื่องอาจจะเป็นได้ว่า นายกบนอกะลาไปหาเรื่องด่าทอนายmuisunก่อน หรือนายกบอาจจะยืมเงินแล้วไม่ใช้ก็เป็นได้....เข้าใจหรือยังล่ะ!

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 25 ก.พ. 2016, 19:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

โฮฮับ เขียน:



ผมว่าเป็นคุณต่างหากที่คุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง
จขกทเขาก็บอกอยู่ทนโท่ว่า ...."ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุ"
ผมอ่านแล้วก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ แต่คุณกลับไม่รู้เรื่อง แบบนี้มันไม่ใช่จขกทพูดไม่รู้เรื่อง
แต่เป็นเพราะคุณ...ไม่รู้ฟังต่างหากครับ

คุณกบครับคุณรู้จักคำว่าต้นเหตุหรือเปล่าครับ
ยกตัวอย่าง ถ้ามีข่าวในหนัาหนังสือพิมพ์ว่า "นายmuisunเป็นคนไม่ดี ขณะทำข่าวนี้ นักข่าวเห็นนายmuisun กำลังชกหน้าและเตะถีบนายกบนอกกะลาอยู่ คาหนังคาเขา"

ถ้าเราอ่านแค่ข่าว ย่อมต้องเข้าใจว่า นายmuisunเป็นคนไม่ดีตามข่าว
เหตุนี้คนมีปัญญาเขาจะต้องหาต้นเหตุของเรื่องที่เกิดมีการเตะถีบกันก่อน
ไม่ใช่มาเชื่อตามข่าว......ซึ่งต้นเหตุของเรื่องอาจจะเป็นได้ว่า นายกบนอกะลาไปหาเรื่องด่าทอนายmuisunก่อน หรือนายกบอาจจะยืมเงินแล้วไม่ใช้ก็เป็นได้....เข้าใจหรือยังล่ะ!


โฮแน่ใจนะ...ว่าเข้าใจตรงตามความหมายที่คุณ muisun สื่อ...
:b32: :b32:

muisun เขียน:
ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุจะคิดหนอๆ ก็จะไม่ได้รู้เห็นเรื่องจริง เสียเวลาทั้งชีวิตก็วนอยู่ในวงกลมแห่งความสงสัยดิ้นรนเดือดร้อน มุ่งร้ายริษยาเพ่งโทษ เพราะผู้ที่รู้มากๆ ต้องรู้ทันดับ ถ้าไม่ดับจะพาบ้าแน่นอน เป็นความจริงที่ต้องเจอ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


:b32: :b32:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 26 ก.พ. 2016, 03:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้แล้วเดือดร้อน

กบนอกกะลา เขียน:
โฮฮับ เขียน:



ผมว่าเป็นคุณต่างหากที่คุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง
จขกทเขาก็บอกอยู่ทนโท่ว่า ...."ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุ"
ผมอ่านแล้วก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ แต่คุณกลับไม่รู้เรื่อง แบบนี้มันไม่ใช่จขกทพูดไม่รู้เรื่อง
แต่เป็นเพราะคุณ...ไม่รู้ฟังต่างหากครับ

คุณกบครับคุณรู้จักคำว่าต้นเหตุหรือเปล่าครับ
ยกตัวอย่าง ถ้ามีข่าวในหนัาหนังสือพิมพ์ว่า "นายmuisunเป็นคนไม่ดี ขณะทำข่าวนี้ นักข่าวเห็นนายmuisun กำลังชกหน้าและเตะถีบนายกบนอกกะลาอยู่ คาหนังคาเขา"

ถ้าเราอ่านแค่ข่าว ย่อมต้องเข้าใจว่า นายmuisunเป็นคนไม่ดีตามข่าว
เหตุนี้คนมีปัญญาเขาจะต้องหาต้นเหตุของเรื่องที่เกิดมีการเตะถีบกันก่อน
ไม่ใช่มาเชื่อตามข่าว......ซึ่งต้นเหตุของเรื่องอาจจะเป็นได้ว่า นายกบนอกะลาไปหาเรื่องด่าทอนายmuisunก่อน หรือนายกบอาจจะยืมเงินแล้วไม่ใช้ก็เป็นได้....เข้าใจหรือยังล่ะ!


โฮแน่ใจนะ...ว่าเข้าใจตรงตามความหมายที่คุณ muisun สื่อ...
:b32: :b32:

muisun เขียน:
ไม่ควรเชื่อข่าวตราบเท่าที่ยังรู้ไม่ทันต้นเหตุจะคิดหนอๆ ก็จะไม่ได้รู้เห็นเรื่องจริง เสียเวลาทั้งชีวิตก็วนอยู่ในวงกลมแห่งความสงสัยดิ้นรนเดือดร้อน มุ่งร้ายริษยาเพ่งโทษ เพราะผู้ที่รู้มากๆ ต้องรู้ทันดับ ถ้าไม่ดับจะพาบ้าแน่นอน เป็นความจริงที่ต้องเจอ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


:b32: :b32:


สอนยากสอนเย็นก็ตามแต่...........

รูปภาพ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/