วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เงิน เงิน เงิน :b14:

https://www.youtube.com/watch?v=p0OwgOcVXF4

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทายาทของ"ลุงปั่น" ขอทานเงินล้าน โผล่ โชว์หลักฐานยัน ยินดีตรวจดีเอ็นเอ

จากกรณี ที่มีความพยายามในการตามหาทายาทของนายปั่น อะโนมา วัย 85 ปี ขอทานเงินล้าน ที่เสียชีวิตลงที่วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 23 พ.ค. เพื่อมารับมรดกหลังพบว่านายปั่น มีเงินฝากกว่า 1.5 ล้านบาท และ เงินสดติดตัวอีกหลายหมื่นบาท โดยก่อนหน้านี้ข้อมูลทะเบียนราษฏพบผู้ที่มีนามสกุลตรงกันกับนายปั่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงสองราย คือ นายกำธร อโนมา อายุ 46 ปี ที่ อ.แม่ออน และ นายชอน อโนมา อายุ 79 ปี ที่ อ.แม่แตง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นลูก แต่สุดท้ายจากการตรวจสอบทั้งสองก็ไม่ใช่ทายาทและไม่เคยรู้จักกับนายปั่น มาก่อน


ล่าสุดนางเพ็ญ ตุ่นตามเชื้อ อายุ 64 ปี ชาวบ้านตีนธาตุ ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับนาย นายวิราช นางสาววรรณิภา และ นางสาวนงคราญ อะโนมา ลูกชายและลูกสาว ออกมายืนยันว่าเป็นญาติที่แท้จริงของนายปั่น นางเพ็ญ บอกว่านายปั่น เป็นน้องชายของ นายตา อะโนมา สามีที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน ในวัย 89 ปี โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนและใบมรณะบัตรของนายตามาแสดงให้กับสื่อมวลชนได้ดู


นางเพ็ญ กล่าวว่า จำได้ว่านายปั่น เคยมาเที่ยวที่บ้านสมัยอยู่จอมทองเมื่อ 30 ปี ก่อน มาพักด้วย 1 เดือน จากนั้นนายปั่น บอกว่าจะไปทำงานที่ภูเก็ตและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งครอบครัวย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านตีนธาตุ ตำบลแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และมาทราบข่าวการเสียชีวิตจากสื่อมวลชน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... 1464764500

นางเพ็ญ บอกว่า ตอนแรกไม่อยากแสดงตัวเพราะกลัวจะถูกมองว่าต้องการสมบัติของนายปั่น แต่คิดแล้วอยากจะทำบุญให้นายปั่น เป็นครั้งสุดท้าย เพราะคงไม่มีญาติที่ไหน แต่ยอมรับว่าครอบครัวฐานะยากจน หากจะเดินทางไปร่วมงานศพก็ติดขัดเรื่องค่าเดินทาง อย่างไรก็ตาม ยินดีที่จะให้ลูกชายและลูกสาวตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือด

ด้านพ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า ในกรณีที่มีบุคคลออกมายืนยันว่าเป็นญาติของลุงปั่น ตำรวจไม่มีสิทธิ์จะตรวจสอบว่าบุคคลนั้นเป็นญาติตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ เรื่องนี้บุคคลที่อ้างว่าเป็นญาติต้องนำเอกสารและหลักฐานไปยื่นร้องต่อศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอจัดการมรดก จากนั้นศาลจะพิจารณาตามขั้นตอนและหลักฐานว่าบุคคลนั้นเป็นญาติตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ โดยในช่วงนี้ตำรวจจะทำหน้าที่เก็บทรัพย์สินทั้งหมดไว้ก่อน จนกระทั่งถ้าศาลมีความเห็นว่าบุคคลนั้นเป็นญาติจริงและมีคำสั่งออก ตำรวจก็จะส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาจารย์กับศิษย์ที่แสดงกายกรรมก็เพื่อเงินแล้วก็ต้องมีสติใช้สติฝึกฝนจนชำนาญที่ไม่ตกลงมาตาย

https://www.youtube.com/watch?v=xBGTyNWyDGM


สติโดยคุณค่าทางสังคม

พุทธพจน์แสดงคุณค่าของสติในเสทกสูตรต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีแห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงให้เห็นความหมาย และคุณค่าในทางปฏิบัติที่ใกล้ชิดกันของอัปปมาทกับสติ ช่วยให้เข้าใจความหมายของธรรมทั้งสองข้อชัดเจนยิ่งขึ้น และในเวลาเดียวกัน จะแสดงให้เห็นท่าทีของพุทธธรรมต่อชีวิตในทางสังคม ยืนยันว่า พุทธธรรมมองเห็นชีวิตด้านในของบุคคลโดยสัมพันธ์กับคุณค่าด้านนอก คือ ทางสังคมด้วย และถือว่าคุณค่าทั้งสองด้านนี้ เชื่อมโยงเนื่องถึงกัน ไม่แยกจากกัน และสอดคล้อง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

“ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว นักกายกรรม ยกลำไม้ไผ่ขึ้นตั้งแล้ว เรียกศิษย์มาบอกว่า มานี่แน่ะเธอ เจ้าไต่ไม้ไผ่ขึ้นไปแล้วจง เลี้ยงตัวอยู่เหนือต้นคอของเรา”

“ศิษย์รับคำแล้ว ก็ไต่ลำไม้ไผ่ขึ้นไปยืน เลี้ยงตัวอยู่บนต้นคอของอาจารย์

“คราวนั้น นักกายกรรม ได้พูดกับศิษย์ว่า ‘นี่แน่ะเธอ เธอจงรักษาฉันนะ ฉันก็จะรักษาเธอ เราทั้งสองระวังรักษากันและกันไว้อย่างนี้ จักแสดงศิลปะได้ด้วย จักได้เงินด้วย และจักลงจากลำไม้ไผ่ได้โดยสวัสดีด้วย

“ครั้นอาจารย์กล่าวดังนี้แล้ว ศิษย์จึงกล่าวบ้างว่า ‘ท่านอาจารย์ขอรับ จะทำอย่างนั้นไม่ได้ ท่านอาจารย์นั่นแหละ จงรักษาตัวเองไว้ ผมก็จักรักษาตัวผมเอง เราทั้งสองต่างระวังรักษาตัวของเราไว้อย่างนี้ จักแสดงศิลปะได้ด้วย จักได้เงินด้วย และจักลงจากลำไม้ไผ่ได้โดยสวัสดีด้วย

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า: “นั้นเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในเรื่องนั้น ดุจดังที่ศิษย์พูดกับอาจารย์นั่นเอง เมื่อคิดว่า ‘เราจะรักษาตัวเอง’ ก็พึงต้องใช้สติปัฏฐาน (มีสติไว้) เมื่อคิดว่า ‘เราจะรักษาผู้อื่น’ ก็พึงต้องใช้สติปัฏฐานเหมือนกัน”

“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อรักษาตน ก็ชื่อว่ารักษาผู้อื่น เมื่อรักษาผู้อื่น ก็ชื่อว่ารักษาตน”

“เมื่อรักษาตน ก็ ชื่อว่ารักษาผู้อื่น นั้น อย่างไร ? ด้วยการหมั่นปฏิบัติ ด้วยการเจริญอบรม ด้วยการทำให้มาก อย่างนี้แล เมื่อรักษาตน ก็ชื่อว่ารักษาผู้อื่นด้วย”

“เมื่อรักษาผู้อื่นก็ชื่อว่ารักษาตน นั้น อย่างไร ? ด้วยขันติ ด้วยอวิหิงสา ด้วยความมีเมตตาจิต ด้วยความเอ็นดูกรุณา อย่างนี้แล เมื่อรักษาผู้อื่น ก็ชื่อว่ารักษาตนด้วย”

“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อคิดว่า ‘เราจะรักษาตน’ ก็พึงต้องใช้สติปัฏฐาน เมื่อคิดว่า ‘เราจะรักษาผู้อื่น ’ก็พึงต้องใช้สติปัฏฐาน เมื่อรักษาตน ก็ชื่อว่ารักษาคนอื่น เมื่อรักษาคนอื่น ก็ชื่อว่ารักษา ตนเอง”

(สํ.ม.19/758-762/224-225)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ขอเสนอคำว่า "ปัจจัย" คิดดีๆ

“ปัจจัย” มี ๒ ความหมาย คือ

ปัจจัย ๑ ของสำหรับอาศัยใช้, เครื่องอาศัยของชีวิต, สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต มี ๔ อย่าง คือ จีวร =ผ้านุ่งห่ม บิณฑบาต =อาหาร เสนาสนะ = ที่อยู่อาศัย) คิลานเภสัช =ยารักษาโรค = จตุปัจจัย

ปัจจัย ๒ เหตุที่ให้ผลเป็นไป, เหตุเครื่องหนุนให้เกิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก

ความจน เป็นทุกข์ในโลก

รูปภาพ


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความจนเป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม."

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า"

จึงตรัสต่อไปว่า
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนไม่มีทรัพย์ของตนเอง ไม่มั่งคั่ง ย่อมกู้หนี้. แม้การกู้หนี้ก็เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม."

"คนจนกู้หนี้ ก็จะต้องเสียดอกเบี้ย. แม้การเสียดอกเบี้ย ก็เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม."

"คนจนที่จะต้องเสียดอกเบี้ย ไม่ให้ดอกเบี้ยตามกำหนด ก็ถูกเขาทวง แม้การถูกทวง ก็เป็นทุกข์ ในโลกของผู้บริโภคกาม."

"คนจนถูกทวง ไม่ให้เขา ก็ถูกเขาตามตัว แม้การถูกตามตัว ก็เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม."

"คนจนถูกตามตัว ไม่ให้เขา ย่อมถูกจองจำ แม้การถูกจองจำ ก็เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม."

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความจนก็ดี, การกู้หนี้ก็ดี, การเสียดอกเบี้ยก็ดี, การถูกทวงก็ดี, การถูกตามตัวก็ดี, การถูกจองจำก็ดี เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม ด้วยประการฉะนี้.

http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/i ... rt5.1.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธธรรมมองเห็นชีวิตด้านในของบุคคลโดยสัมพันธ์กับคุณค่าด้านนอก คือทางสังคมด้วย และถือว่าคุณค่าทั้งสองด้านนี้ เชื่อมโยงเนื่องถึงกัน ไม่แยกจากกัน และสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 07:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

บิ๊กตู่สั่งคลังแก้ กม.เข็น "หวยบนดิน" ตีกรอบออกสลากบำรุงการกุศล-เข้มใช้เงินรายได้


http://prachachat.net/news_detail.php?newsid=1464769572

ทักษิณทำแล้วนำเงินส่งนักเรียนเรียนดีไปเรียนต่อต่างประเทศ ผิด

นี่จะแก้ กม. แล้วทำตามอย่างนั้น จับตามดู การกุศลอะไร

ปีหน้า รบ.นี้ออก แล้ว รบ.ทีได้รับฉันทามติจาก ปชช. แต่ไม่ใช่พวกตัว จะประท้วงกันอีกไหม จะปว.อีกไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

Kiss :b32:
รบกวนคุณกรัชกายช่วยอธิบายคำว่าลดโมหะลงให้เข้าใจชัดๆหน่อยค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

Kiss :b32:
รบกวนคุณกรัชกายช่วยอธิบายคำว่าลดโมหะลงให้เข้าใจชัดๆหน่อยค่ะ
:b13:
:b4: :b4:



คุณโรสต้องเข้าใจโมหะก่อนว่าได้แก่อะไร :b1:

โมหะ ได้แก่ อะไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อีก 20 ปี รบ. คสช. จะทำให้คนไทยมีเฮินเดือนๆสี่หมื่นบาท :b20:

รูปภาพ


แต่ภายใน 19 ปีนี้ ทนๆกันไปก่อน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2016, 01:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

Kiss :b32:
รบกวนคุณกรัชกายช่วยอธิบายคำว่าลดโมหะลงให้เข้าใจชัดๆหน่อยค่ะ
:b13:
:b4: :b4:



คุณโรสต้องเข้าใจโมหะก่อนว่าได้แก่อะไร :b1:

โมหะ ได้แก่ อะไรครับ

:b1:
ลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรม8
:b32:
ตกลงใครถามใครตอบคะ
:b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2016, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

Kiss :b32:
รบกวนคุณกรัชกายช่วยอธิบายคำว่าลดโมหะลงให้เข้าใจชัดๆหน่อยค่ะ
:b13:
:b4: :b4:



คุณโรสต้องเข้าใจโมหะก่อนว่าได้แก่อะไร :b1:

โมหะ ได้แก่ อะไรครับ


ลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรม 8

ตกลงใครถามใครตอบคะ


เราเข้าใจคำๆนัั้้น ความหมายของคำนั้นๆไม่ตรงกัน จำต้องถามอีกฝ่ายว่า เข้าใจคำที่ตนนำมาพูดมากล่าวยังไง แค่ไหน เบื้องต้นคุณโรสเองต้องเข้าใจว่า ศัพท์และความหมายทางธรรมที่เราๆท่านๆเอามาพูดมากล่าวกันนี่ เขามีความหมายเฉพาะของเขา เราจะมาคิดมามโนเอาเองหาได้ไม่ :b32:

อ้างคำพูด:
ลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรม 8


ว่าโดยความหมายสูงสุดของศัพท์ โมหะ = อวิชชา ซึ่งตรงข้ามกับปัญญา หมายถึงความไม่รู้ในอริยสัจ เวลาใช้ท่านใช้เป็นชุด เช่น โลภ (ราคะ) โทสะ โมหะ

ถ้าใช้แบบพอรู้กัน ก็อย่างที่ท่านใช้

ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี
ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และ
ลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก

(ทำความเข้าใจ มนุษย์ ด้วยนะ เพราะที่กระทู้หนึ่งเราเถียงกันเรื่อง มนุษย์ คน ปุถุชน)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2016, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภ และยศนั้น เป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และดำเนินชีวิต โลกนี้ จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให่น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"

Kiss :b32:
รบกวนคุณกรัชกายช่วยอธิบายคำว่าลดโมหะลงให้เข้าใจชัดๆหน่อยค่ะ
:b13:
:b4: :b4:



คุณโรสต้องเข้าใจโมหะก่อนว่าได้แก่อะไร :b1:

โมหะ ได้แก่ อะไรครับ


ลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรม 8

ตกลงใครถามใครตอบคะ


โลกธรรม สิ่งที่ครอบงำสัตว์โลก มี ๘ อย่าง คือ

๑. สุข ๒ ทุกข์ ๓.ลาภ ๔.เสื่อมลาภ ๕. ยศ ๖. เสื่อมยศ ๗. สรรเสริญ ๘.นินทา

ท่านจัดคู่ๆ เช่น

สุข กับ ทุกข์ คู่หนึ่ง

ลาภ กับ.เสื่อมลาภ คู่หนึ่ง

ยศ กับ. เสื่อมยศ คู่หนึ่ง

สรรเสริญ กับ นินทา คู่หนึ่ง

มนุษย์,คน,ปุถุชน (ใช้คำไหนก็ได้ มีค่าเท่ากัน ใช้แทนกันได้) ซึ่งดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ จะต้องประสบพบเจอะไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่เมื่อประสบกับมันเข้าแล้ว ท่านให้ใช้ปัญญารู้เท่าทัน (ว่าสิ่งนี้เกิดแล้วแก่เรา) ไม่ยินดี ต่ออิฏฐารมณ์ (สุข ลาภ ยศ สรรเสริญ) ไม่ยินร้าย ในอนิฏฐารมณ์ (ทุกข์, เสื่อมลาภ,เสื่อมยศ, นินทา)

อนิ่ง มนุษย์,คน,ปุถุชน ทางธรรมเรียกว่า สัตว์ คำเดียว เป็นอันรู้กัน (แต่ภาษาไทยใช้เป็นคำด่ากัน)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2016, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกายถาม

โมหะ ได้แก่ อะไรครับ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรม 8


คุณโรสเทียบความเข้าใจคุณ กับ พุทธวจนะนี้ดู

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตใจที่ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม คือ นินทา สรรเสริญนั้น เป็นจิตใจที่ประเสริฐยิ่ง ภิกษุทั้งหลาย ในหมู่มนุษย์นี้ ผู้ใดฝึกตนให้เป็นคนอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้อื่นได้จัดว่าเป็นผู้ประเสริฐสุด ม้าอัสดร ม้าสินธพ พญาช้างตระกูลมหานาคที่ได้รับการฝึกดีแล้ว จัดเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ แต่บุคคลที่ฝึกตนดีแล้วยังประเสริฐกว่าสัตว์เหล่านั้น"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร