ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ทำไม...มีแต่รูปแบบ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=52873 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | tongka [ 21 ก.ค. 2016, 09:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
มีแต่รูปแบบ บางท่านคงจะเคยได้ยินคำๆนี้ "มีแต่รูปแบบ" เป็นคำที่ได้ยินเค้าพูดกันหลายครั้งทีเดียวทั้งที่คุยกับเหล่าบรรดานักแสวงบุญและครูบาอาจารย์หลายท่านแต่เมื่อฟังน้ำเสียงแล้วมักจะเป็นไปในทำนองยกตนข่มท่านตำหนิผู้อื่นไป ในทางโอ้อวดครูบาอาจารย์ตนข่มครูบาอาจารย์อื่น ยกย่องสำนักตนข่มสำนักอื่นฯ อยู่มาวันหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงปู่ทองใบที่อุดร ปรารภถึงสิ่งนี้ขึ้นท่านจึงอธิบายให้ฟังว่า แนวทางในการทำงานศาสนานั้นต้องเป็นไปตามการถือประมาณของบุคคลชุมชนซึ่งมีบุคคลอยู่สี่ประเภทในโลกใบนี้เมื่อมาทำความเข้าใจด้วยตังเองแล้วจึงตัดความกังขาไปได้มากทีเดียวจึงมีความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยจึงนำมาเขียนไว้ณ ที่นี้ การถือประมาณของบุคคลชุมชนในโลกนี้มีสี่ประเภทคือ ๑ รูปปัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอารูปเป็นใหญ่ พวกนี้โน้มเอียงไปตามรูปแบบบุคคลิกลักษณะของบุคคลเพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยรูปแบบ อาศัยรูปลักษณ์ฯ อาศัยบุคลิกภาพของผู้ทำงานศาสนา อาศัยรูปแบบสถานที่สะดวกสบายเป็นต้นจึงสามารถโน้มนำเอาคนกลุ่มนี้เข้ามาศรัทธาศาสนาได้ฯ ๒ โฆสัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอาเสียงเป็นใหญ่กลุ่มนี้โน้มเอียงไปตามเสียงโฆษณา เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อาศัยวาทะน้ำเสียงของบุคคล กลุ่มชนชักจูงเข้ามาฯ ๓ ลูขัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอาวัตรปฏิบัติขัดเกลาเป็นใหญ่ พวกนี้จะต้องอาศัยข้อวัตรปฏิบัติทำให้ดูเป็นอยู่ให้เห็นเยือกเย็นให้เขาสัมผัสจึงจักนำพาเขาเข้าสู่ศาสนาได้ฯ ๔ ธัมมัปปมาณิกา ประเภทถือเอาธรรมเป็นใหญ่ พวกนี้อาศัยธรรม อาศัยหลักการ วิธีการ หลักวิชา หลักสูตรมาพูดกันศึกษากันฯ เมื่อเรามารู้หลักอย่างนี้แล้วจึงเข้าใจได้ว่าทั้งหมดก็คือรูปแบบหรือขอบเขตในการทำงานศาสนานั่นเอง ครูบาอาจารย์แต่ละท่านล้วนมีความถนัด ความชำนาญไม่เหมือนกันนั่นเองจะหาบุคคลที่เข้าใจแล้วทำครบทั้งสี่ประเภทนั้นก็หายากมาก ส่วนบุคคลที่มักกล่าวตำหนิผู้อื่นสำนักอื่นในทำนองว่า "มีแต่รูปแบบ"เป็นต้นนั้นทำให้เราเข้าใจได้ว่า ท่านไม่เข้าใจอย่างนี้ไม่รู้รอบอย่างนี้นั่นเอง และที่ยิ่งร้ายไปกว่านั้นก็มีจนกระทั่งยึดถือสิ่งที่ตนเข้าใจนั้นเป็นใหญ่สำคัญไปว่าของตนถูกต้องของผู้อื่นผิดหมดไปเลยก็มี.จนกระทั่งเอาเป็นเหตุทะเลาะวิวาททำลายล้างกันและกันอยู่จนทุกวันนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความปรารถาอยากให้ท่านผู้รู้ได้หยิบยกเอาธรรมเหล่านี้ไปขยายความต่อเป็นร่วมด้วยช่วยกันเผื่อจะบรรเทาทัศนะคติอันเลวร้ายบางอย่างลงไปได้บ้าง ขอขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์อ่านจนจบ มีความคิดเห็นประการใดโปรดวิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นได้ฯ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 21 ก.ค. 2016, 18:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
![]() ทำไมถึงได้ห่างเหินการสนทนาไปซะนานเลย เอกอนจำชื่อนี้ได้ พอเห็นก็อดไม่ได้ที่จะรีบเข้ามาทักทาย ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ก.ค. 2016, 21:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
tongka เขียน: มีแต่รูปแบบ บางท่านคงจะเคยได้ยินคำๆนี้ "มีแต่รูปแบบ" เป็นคำที่ได้ยินเค้าพูดกันหลายครั้งทีเดียวทั้งที่คุยกับเหล่าบรรดานักแสวงบุญและครูบาอาจารย์หลายท่านแต่เมื่อฟังน้ำเสียงแล้วมักจะเป็นไปในทำนองยกตนข่มท่านตำหนิผู้อื่นไป ในทางโอ้อวดครูบาอาจารย์ตนข่มครูบาอาจารย์อื่น ยกย่องสำนักตนข่มสำนักอื่นฯ เป็นเรื่องธรรมดา..ของปุถุชน..มากมาก.. เมื่อปัญญา...ยังไม่พอ..ก็เป็นธรรมดา คับ.. |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 22 ก.ค. 2016, 03:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
ทำไม....มีแต่รูปแบบ เพราะ รูปแบบ เป็นวิธีการที่จัดระเบียบไว้แล้ว ง่ายแก่การเข้าใจในความรู้ความเห็นของผู้สอน จำเป็นต้องมีไว้สำหรับให้ผู้ตามได้ปฏิบัติไปเพื่อบรรลุจุดประสงค์ ไม่มีรูปแบบ ก็อาจจะมีได้ เช่นทฤษฎีความโกลาหล แต่เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก สอนได้ยาก ต้องอาศัยสติปัญญาจากการศึกษาตามรูปแบบก่อนอยู่ดี |
เจ้าของ: | tongka [ 22 ก.ค. 2016, 08:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
eragon_joe เขียน: :b1: ...สวัสดีคุณ ทองกล้า ^^ ทำไมถึงได้ห่างเหินการสนทนาไปซะนานเลย เอกอนจำชื่อนี้ได้ พอเห็นก็อดไม่ได้ที่จะรีบเข้ามาทักทาย ![]() ![]() ![]() หายหน้าไปนาน ก็เพราะว่าออกไปศึกษาเรียนรู้บางอย่างในที่ห่างไกลความเจริญทางเทคโนโลยีซะนานนะซี ขอบพระคุณมากที่ยังจำกันได้ |
เจ้าของ: | tongka [ 22 ก.ค. 2016, 08:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
กบนอกกะลา เขียน: tongka เขียน: มีแต่รูปแบบ บางท่านคงจะเคยได้ยินคำๆนี้ "มีแต่รูปแบบ" เป็นคำที่ได้ยินเค้าพูดกันหลายครั้งทีเดียวทั้งที่คุยกับเหล่าบรรดานักแสวงบุญและครูบาอาจารย์หลายท่านแต่เมื่อฟังน้ำเสียงแล้วมักจะเป็นไปในทำนองยกตนข่มท่านตำหนิผู้อื่นไป ในทางโอ้อวดครูบาอาจารย์ตนข่มครูบาอาจารย์อื่น ยกย่องสำนักตนข่มสำนักอื่นฯ เป็นเรื่องธรรมดา..ของปุถุชน..มากมาก.. เมื่อปัญญา...ยังไม่พอ..ก็เป็นธรรมดา คับ.. จริงอย่างนั้น |
เจ้าของ: | tongka [ 22 ก.ค. 2016, 08:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
เช่นนั้น เขียน: ทำไม....มีแต่รูปแบบ เพราะ รูปแบบ เป็นวิธีการที่จัดระเบียบไว้แล้ว ง่ายแก่การเข้าใจในความรู้ความเห็นของผู้สอน จำเป็นต้องมีไว้สำหรับให้ผู้ตามได้ปฏิบัติไปเพื่อบรรลุจุดประสงค์ ไม่มีรูปแบบ ก็อาจจะมีได้ เช่นทฤษฎีความโกลาหล แต่เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก สอนได้ยาก ต้องอาศัยสติปัญญาจากการศึกษาตามรูปแบบก่อนอยู่ดี นั่นซีน่ะ มีกรอบใส่ก็ทำให้รูปภาพดูดีขึ้นได้มากทีเดียว |
เจ้าของ: | Rosarin [ 22 ก.ค. 2016, 14:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
tongka เขียน: มีแต่รูปแบบ บางท่านคงจะเคยได้ยินคำๆนี้ "มีแต่รูปแบบ" เป็นคำที่ได้ยินเค้าพูดกันหลายครั้งทีเดียวทั้งที่คุยกับเหล่าบรรดานักแสวงบุญและครูบาอาจารย์หลายท่านแต่เมื่อฟังน้ำเสียงแล้วมักจะเป็นไปในทำนองยกตนข่มท่านตำหนิผู้อื่นไป ในทางโอ้อวดครูบาอาจารย์ตนข่มครูบาอาจารย์อื่น ยกย่องสำนักตนข่มสำนักอื่นฯ อยู่มาวันหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงปู่ทองใบที่อุดร ปรารภถึงสิ่งนี้ขึ้นท่านจึงอธิบายให้ฟังว่า แนวทางในการทำงานศาสนานั้นต้องเป็นไปตามการถือประมาณของบุคคลชุมชนซึ่งมีบุคคลอยู่สี่ประเภทในโลกใบนี้เมื่อมาทำความเข้าใจด้วยตังเองแล้วจึงตัดความกังขาไปได้มากทีเดียวจึงมีความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยจึงนำมาเขียนไว้ณ ที่นี้ การถือประมาณของบุคคลชุมชนในโลกนี้มีสี่ประเภทคือ ๑ รูปปัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอารูปเป็นใหญ่ พวกนี้โน้มเอียงไปตามรูปแบบบุคคลิกลักษณะของบุคคลเพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยรูปแบบ อาศัยรูปลักษณ์ฯ อาศัยบุคลิกภาพของผู้ทำงานศาสนา อาศัยรูปแบบสถานที่สะดวกสบายเป็นต้นจึงสามารถโน้มนำเอาคนกลุ่มนี้เข้ามาศรัทธาศาสนาได้ฯ ๒ โฆสัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอาเสียงเป็นใหญ่กลุ่มนี้โน้มเอียงไปตามเสียงโฆษณา เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อาศัยวาทะน้ำเสียงของบุคคล กลุ่มชนชักจูงเข้ามาฯ ๓ ลูขัปปมาณิกา ประเภทที่ถือเอาวัตรปฏิบัติขัดเกลาเป็นใหญ่ พวกนี้จะต้องอาศัยข้อวัตรปฏิบัติทำให้ดูเป็นอยู่ให้เห็นเยือกเย็นให้เขาสัมผัสจึงจักนำพาเขาเข้าสู่ศาสนาได้ฯ ๔ ธัมมัปปมาณิกา ประเภทถือเอาธรรมเป็นใหญ่ พวกนี้อาศัยธรรม อาศัยหลักการ วิธีการ หลักวิชา หลักสูตรมาพูดกันศึกษากันฯ เมื่อเรามารู้หลักอย่างนี้แล้วจึงเข้าใจได้ว่าทั้งหมดก็คือรูปแบบหรือขอบเขตในการทำงานศาสนานั่นเอง ครูบาอาจารย์แต่ละท่านล้วนมีความถนัด ความชำนาญไม่เหมือนกันนั่นเองจะหาบุคคลที่เข้าใจแล้วทำครบทั้งสี่ประเภทนั้นก็หายากมาก ส่วนบุคคลที่มักกล่าวตำหนิผู้อื่นสำนักอื่นในทำนองว่า "มีแต่รูปแบบ"เป็นต้นนั้นทำให้เราเข้าใจได้ว่า ท่านไม่เข้าใจอย่างนี้ไม่รู้รอบอย่างนี้นั่นเอง และที่ยิ่งร้ายไปกว่านั้นก็มีจนกระทั่งยึดถือสิ่งที่ตนเข้าใจนั้นเป็นใหญ่สำคัญไปว่าของตนถูกต้องของผู้อื่นผิดหมดไปเลยก็มี.จนกระทั่งเอาเป็นเหตุทะเลาะวิวาททำลายล้างกันและกันอยู่จนทุกวันนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความปรารถาอยากให้ท่านผู้รู้ได้หยิบยกเอาธรรมเหล่านี้ไปขยายความต่อเป็นร่วมด้วยช่วยกันเผื่อจะบรรเทาทัศนะคติอันเลวร้ายบางอย่างลงไปได้บ้าง ขอขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์อ่านจนจบ มีความคิดเห็นประการใดโปรดวิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นได้ฯ ![]() ![]() ว่าที่จริงแล้วรูปแบบก็ไม่ได้มีอยู่จริงหรอกค่ะ เป็นโลกของจินตนาการที่หลงคิดนึกไปตามการติดรูปแบบ เพราะการติดในรูปแบบก็คือการเข้าไปยึดถือตามรูปแบบนั้นๆว่าเป็นรูปแบบที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | tongka [ 23 ก.ค. 2016, 10:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
คุณ Rosarin ![]() ![]() ว่าที่จริงแล้วรูปแบบก็ไม่ได้มีอยู่จริงหรอกค่ะ เป็นโลกของจินตนาการที่หลงคิดนึกไปตามการติดรูปแบบ เพราะการติดในรูปแบบก็คือการเข้าไปยึดถือตามรูปแบบนั้นๆว่าเป็นรูปแบบที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ![]() ![]() ![]() โปรดมองดูความจริงที่ปรากฎเฉพาะตามลำดับๆไป จริงโดยสมมติ จริงโดยสัจจะมันมีอยู่น่ะ อย่าเพิ่งกระโดดไปไกล. เดี๋ยวตามไม่ทัน ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 10:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
tongka เขียน: คุณ Rosarin ![]() ![]() ว่าที่จริงแล้วรูปแบบก็ไม่ได้มีอยู่จริงหรอกค่ะ เป็นโลกของจินตนาการที่หลงคิดนึกไปตามการติดรูปแบบ เพราะการติดในรูปแบบก็คือการเข้าไปยึดถือตามรูปแบบนั้นๆว่าเป็นรูปแบบที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ![]() ![]() ![]() โปรดมองดูความจริงที่ปรากฎเฉพาะตามลำดับๆไป จริงโดยสมมติ จริงโดยสัจจะมันมีอยู่น่ะ อย่าเพิ่งกระโดดไปไกล. เดี๋ยวตามไม่ทัน ![]() ![]() ![]() ![]() ทุกอย่างมีจริงตามสมมุติและปรมัตถ์ แต่ที่จริงยิ่งกว่าคือจริงที่กายกับจิตใจ ที่ไม่ติดรูปแบบเพราะเป็นธัมมะเป็นอนัตตา กำหนดหรือออกแบบให้เป็นไปตามอยากไม่ได้น๊า ก็ธรรมทั้งหลายเกิดดับตามเหตุปัจจัยที่กายและจิตตน ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 24 ก.ค. 2016, 06:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
การไม่มีรูปแบบ...นี้...เป็นเหตุอันหนึ่งให้อายุพระศาสนา..สั้น..เสื่อมจากใจคนได้เร็ว เพราะ..มานะ..เป็นกิเลส แม้ไม่มีรูปแบบ..แต่มานะกิเลสก็มีได้เป็นปกติ...ก็มีข้าดีกว่าเอ็ง...เอ็งแย่กว่าข้า..อยู่ดี และจะว่าไปแล้ว..รูปแบบ....นี้ดีนะครับ... กระผมก็ยังติดในรูปแบบอยู่... ก่อนจะไร้กระบวนท่า...ก็เพราะมันช่ำชองทุกกระบวนท่ามาแล้ว...นั้นแหละคับ |
เจ้าของ: | tongka [ 24 ก.ค. 2016, 09:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
กบนอกกะลา เขียน: การไม่มีรูปแบบ...นี้...เป็นเหตุอันหนึ่งให้อายุพระศาสนา..สั้น..เสื่อมจากใจคนได้เร็ว เพราะ..มานะ..เป็นกิเลส แม้ไม่มีรูปแบบ..แต่มานะกิเลสก็มีได้เป็นปกติ...ก็มีข้าดีกว่าเอ็ง...เอ็งแย่กว่าข้า..อยู่ดี และจะว่าไปแล้ว..รูปแบบ....นี้ดีนะครับ... กระผมก็ยังติดในรูปแบบอยู่... ก่อนจะไร้กระบวนท่า...ก็เพราะมันช่ำชองทุกกระบวนท่ามาแล้ว...นั้นแหละคับ ![]() ![]() ![]() แจ๋วเจ๋ง.....เห็นด้วยอย่างยิ่งลย กษัตริย์ ก็มีรูปแบบเครื่องทรง พระสงฆก็มีรูปแบบ ทหารตำรวจ พยาบาล แพทย์ แม้กระทั่งโรงเรียนสถานศึกษาแต่ละสถาบันก็มีรูปแบบเฉพาะและอีกมากมาย ภายนอกเครื่องแต่งกาย ภายในทัศนะ อุดมคติฯลฯ ถ้าต่างคนต่างแก้ผ้ากันหมดก็คงหมดรูปแบบไปมากโขทีเดียว. แล้วอะไรจะเกิดขึ้นไม่อยากคิดเลย..... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ก.ค. 2016, 11:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
tongka เขียน: กบนอกกะลา เขียน: การไม่มีรูปแบบ...นี้...เป็นเหตุอันหนึ่งให้อายุพระศาสนา..สั้น..เสื่อมจากใจคนได้เร็ว เพราะ..มานะ..เป็นกิเลส แม้ไม่มีรูปแบบ..แต่มานะกิเลสก็มีได้เป็นปกติ...ก็มีข้าดีกว่าเอ็ง...เอ็งแย่กว่าข้า..อยู่ดี และจะว่าไปแล้ว..รูปแบบ....นี้ดีนะครับ... กระผมก็ยังติดในรูปแบบอยู่... ก่อนจะไร้กระบวนท่า...ก็เพราะมันช่ำชองทุกกระบวนท่ามาแล้ว...นั้นแหละคับ ![]() ![]() ![]() แจ๋วเจ๋ง.....เห็นด้วยอย่างยิ่งลย กษัตริย์ ก็มีรูปแบบเครื่องทรง พระสงฆก็มีรูปแบบ ทหารตำรวจ พยาบาล แพทย์ แม้กระทั่งโรงเรียนสถานศึกษาแต่ละสถาบันก็มีรูปแบบเฉพาะและอีกมากมาย ภายนอกเครื่องแต่งกาย ภายในทัศนะ อุดมคติฯลฯ ถ้าต่างคนต่างแก้ผ้ากันหมดก็คงหมดรูปแบบไปมากโขทีเดียว. แล้วอะไรจะเกิดขึ้นไม่อยากคิดเลย..... ![]() ![]() ![]() ![]() จะรูปแบบไหนสำคัญที่รู้จักการเป็นรูปแบบที่เป็น คนเดียวมันหลายรูปแบบตามบทบาทที่ได้รับ เป็นปูย่าตายายพ่อแม่พี่น้องลูกหลานต่างก็ มีรูปมีหน้าที่ตามรูปแบบของตนๆเป็นไป อาชีพก็อีกรูปแบบที่ต้องเป็นนายชีวิต ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | tongka [ 25 ก.ค. 2016, 16:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไม...มีแต่รูปแบบ |
![]() ![]() ![]() รูปแบบทำให้มีศาสนา รูปแบบทำให้มีภาษา รูปแบบทำให้มีชนชาติ รูปแบบทำให้มีวัฒนธรรม รูปแบบทำให้มีประเทศ รูปแบบทำให้มี..... สุดท้ายรูปแบบทำให้มีความหลุดพ้น ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |