ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เขาคุยกันเรื่องทุกข์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=52999 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ส.ค. 2016, 08:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
![]() http://pantip.com/topic/35471071 ความเห็นประกอบหัวกระทู้ครับว่า...............ตลก! ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2016, 14:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ส.ค. 2016, 15:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
Rosarin เขียน: Kiss ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พี่โฮตลกที่จขกทเขาบอกว่า......"นิพพานมีจริง" ...."การแยกธาตุขันธ์"...."ทุกข์สั้นลง" แถมยังบอกอีกว่า....ทุกข์มันดับไปเอง สรุปก็คือ.....มันไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่ต้น หยิบเอาคำพูดของคนเพ้อเจ้อมาปรุงแต่ง จนตัวเองหลงเคลิ้ม......แบบนี่แหละที่เรียกว่าตกเหว จะสรุปให้ฟังสั้นๆก่อนว่า ทุกข์ไม่ใช่แบบที่จขกทเข้าใจ ธาตุขันธ์มันแยกไม่ได้ ส่วนนิพพานจะเอาคำพูดที่ว่ามีจริงหรือไม่มีจริงมาพูดไม่ได้ เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่ นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2016, 17:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
![]() พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่ากายกับจิตมันแยกกันชัดเจน เหลือแม้แต่รูปขันธ์และนามขันธ์ก็แสดงไว้ละเอียด ถึงจิต เจตสิก รูป นิพพานเป็นคนละอันไม่ปนกัน แต่ความหลงผิดในอุปาทานขันธ์ที่เข้าไปยึดมั่น ผู้ที่ยังไม่สามารถแยกได้คือมีอัตตาตัวตนมาก ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ส.ค. 2016, 18:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
Rosarin เขียน: Kiss พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่ากายกับจิตมันแยกกันชัดเจน เหลือแม้แต่รูปขันธ์และนามขันธ์ก็แสดงไว้ละเอียด ถึงจิต เจตสิก รูป นิพพานเป็นคนละอันไม่ปนกัน แต่ความหลงผิดในอุปาทานขันธ์ที่เข้าไปยึดมั่น ผู้ที่ยังไม่สามารถแยกได้คือมีอัตตาตัวตนมาก ![]() ![]() ![]() พูดจาเลอะเทอะแบบนี้ก็อย่างอ้างพระพุทธเจ้า กะอีแค่บัญัติยังมั่ว ยังกล้าเสนอหน้า ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ส.ค. 2016, 18:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์ โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2016, 18:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: Rosarin เขียน: Kiss ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พี่โฮตลกที่จขกทเขาบอกว่า......"นิพพานมีจริง" ...."การแยกธาตุขันธ์"...."ทุกข์สั้นลง" แถมยังบอกอีกว่า....ทุกข์มันดับไปเอง สรุปก็คือ.....มันไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่ต้น หยิบเอาคำพูดของคนเพ้อเจ้อมาปรุงแต่ง จนตัวเองหลงเคลิ้ม......แบบนี่แหละที่เรียกว่าตกเหว จะสรุปให้ฟังสั้นๆก่อนว่า ทุกข์ไม่ใช่แบบที่จขกทเข้าใจ ธาตุขันธ์มันแยกไม่ได้ ส่วนนิพพานจะเอาคำพูดที่ว่ามีจริงหรือไม่มีจริงมาพูดไม่ได้ เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่ นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล ![]() อ้างคำพูด: นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2016, 18:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์ โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง ![]() อ้างคำพูด: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2016, 20:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์ โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง ![]() อ้างคำพูด: ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด ยิ่งทบทวนอ่านความรู้สึกนึกคิดของโฮฮับแล้ว นึกสงสารจับใจ ![]() มิจฉาทิฏฐิเต็มกะบาล คิกๆๆ อ้างคำพูด: ขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเ เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 10 ส.ค. 2016, 07:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: อ้างคำพูด: นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย ![]() ![]() ขุดไม่ขึ้นจริงๆ!! มาอีหรอบเดิม แบบนี้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลยแล้ว ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 10 ส.ค. 2016, 07:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์ โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง ![]() อ้างคำพูด: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง ![]() ท่านเรียกว่า....."จำแนกแจกแจง" คือบอกให้รู้ว่า กายใจของบุคคลหรือชีวิตประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง ธาตุทุกตัวต้องสมดุลย์.....จะแยกเอาธาตุใดธาตุหนึ่งมาแล้วบอกว่าเป็นชีวิตไม่ได้ ตัวอย่าง ถ้าบอกว่า จักขุธาตุคือชีวิต นั้นต้องหมายถึงธาตุที่เหลืออีก๑๗ธาตุด้วย |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 10 ส.ค. 2016, 07:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
กรัชกาย เขียน: เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ เอ็งจะเอากายใจไปจำแนกได้ไง พระอรหันต์ก็มีกายใจ ที่เอ็งคิด(ไม่ใช่ซิ)ที่หลวงพ่อปยุตท่านกล่าวเช่นนี้ก็เพราะ ท่านคิดว่าพระอรหันต์ยังมีขันต์ห้า ความคิดเช่นนี้เกิดจากอวิชชา เป็นวิจิกิจฉาในพุทธพจน์ ชีวิตของบุคคลมีแต่กายใจ สภาวธรรมที่เกิดขึ้นมันเกิดจากเหตุปัจจัยภายนอก กายใจของบุคคล พระพุทธองค์ทรงแยกและให้บัญญัติไว้ว่า....ธรรมฐิติเป็นอสังขตธรรม ส่วนขันต์ห้าเป็นสภาวธรรมที่เกิดจาก สังขตธรรมเป็นเหตุ อสังขตธรรมไม่เกิดดับ แต่สังขตธรรมมันเกิดดับ กรัชกาย เขียน: ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว ไอ้นี่ไม่รู้จักคำว่า "จำแนกแจกแจง" คำๆนี้หมายถึงการบอกให้รู้ว่า ธรรมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เราไม่สามารถแยกธรรมเ้หล่านั้นให้เป็นเอกเทศได้ ถ้าเอามากล่าวเพียงโดดๆจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ยังมีธรรมตัวอื่นประกอบอยู่ด้วย กรัชกาย เขียน: ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ ว่างั้นหรือ แล้วไอ้วิธีลอกบทความเขามาโพสทั้งดุ้น จะแย้งใครก็ก๊อบคำพูดคนอื่นมาเถียง แบบนี้ไม่เรียกรู้แบบงูๆปลาๆหรอกเขาเรียก.............โง่แล้วทลึ่งนึกว่าตนฉลาด ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: อ้างคำพูด: นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย ![]() ![]() ขุดไม่ขึ้นจริงๆ!! มาอีหรอบเดิม แบบนี้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลยแล้ว ![]() อ้าว แล้วมันหมายควายว่ายังไงล่ะ เนี่ย อ้างคำพูด: นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล ไหนลองว่าไปสิ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์ โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง ![]() อ้างคำพูด: ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง ![]() ท่านเรียกว่า....."จำแนกแจกแจง" คือบอกให้รู้ว่า กายใจของบุคคลหรือชีวิตประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง ธาตุทุกตัวต้องสมดุลย์.....จะแยกเอาธาตุใดธาตุหนึ่งมาแล้วบอกว่าเป็นชีวิตไม่ได้ ตัวอย่าง ถ้าบอกว่า จักขุธาตุคือชีวิต นั้นต้องหมายถึงธาตุที่เหลืออีก๑๗ธาตุด้วย พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย ไหนบอกแยกไม่ได้ไงล่ะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เขาคุยกันเรื่องทุกข์ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ เอ็งจะเอากายใจไปจำแนกได้ไง พระอรหันต์ก็มีกายใจ ที่เอ็งคิด(ไม่ใช่ซิ)ที่หลวงพ่อปยุตท่านกล่าวเช่นนี้ก็เพราะ ท่านคิดว่าพระอรหันต์ยังมีขันต์ห้า ความคิดเช่นนี้เกิดจากอวิชชา เป็นวิจิกิจฉาในพุทธพจน์ ชีวิตของบุคคลมีแต่กายใจ สภาวธรรมที่เกิดขึ้นมันเกิดจากเหตุปัจจัยภายนอก กายใจของบุคคล พระพุทธองค์ทรงแยกและให้บัญญัติไว้ว่า....ธรรมฐิติเป็นอสังขตธรรม ส่วนขันต์ห้าเป็นสภาวธรรมที่เกิดจาก สังขตธรรมเป็นเหตุ อสังขตธรรมไม่เกิดดับ แต่สังขตธรรมมันเกิดดับ กรัชกาย เขียน: ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว ไอ้นี่ไม่รู้จักคำว่า "จำแนกแจกแจง" คำๆนี้หมายถึงการบอกให้รู้ว่า ธรรมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เราไม่สามารถแยกธรรมเ้หล่านั้นให้เป็นเอกเทศได้ ถ้าเอามากล่าวเพียงโดดๆจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ยังมีธรรมตัวอื่นประกอบอยู่ด้วย กรัชกาย เขียน: ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ ว่างั้นหรือ แล้วไอ้วิธีลอกบทความเขามาโพสทั้งดุ้น จะแย้งใครก็ก๊อบคำพูดคนอื่นมาเถียง แบบนี้ไม่เรียกรู้แบบงูๆปลาๆหรอกเขาเรียก.............โง่แล้วทลึ่งนึกว่าตนฉลาด ![]() คคห.ก่อน บอกแยกได้ พอมา คคห.แยกไม่ได้ อุ๊ต๊ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |