แล้วมนุษย์ต่างดาว ช่วยมนุษย์ยังไงบ้าง

ช่วยรับซื้อพืชไร่เหล่านี้ได้ไหม

มนุษย์มักจะกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เคยเห็น แต่จะวิตกไปก่อนว่าตนเองจะไม่ปลอดภัย จากสิ่งที่ตนไม่รู้..
ถ้ามนุษย์ต่างดาวสื่อสารกับมนุษย์โลกเราได้จริง แสดงว่า เค้ามีวิวัฒนาการทางจิตที่ก้าวหน้ากว่าโลกเราเปนแสนล้านเท่า..แล้วคนที่สื่อสารกับต่างดาวได้ เค้าก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆนั่งนึกมโนเอา..แต่เค้าไม่มาประกาศบอกชาวโลกหรอกค่ะว่าเค้าสื่อสารกับเอเลี่ยนได้..คิดว่าเอเลี่ยนไม่เคยมาสำรวจโลกเราหรอ? เค้าไม่รุกรานโลกเราหรอกค่ะ..เพราะเค้าไม่ได้ใช้ทรัพยากรและพลังงานแบบมนุษย์โลก..เค้ากับเรามันคนละระดับกัน..เค้าสำรวจดวงดางของเรา เหมือนมนุษย์เราทำสารคดีสัตว์โลกดึกดำบรรพ์ อะไรทำนองนั้น แล้วอยากอนุรักษ์ไว้นั่นแหละค่ะ..ไม่รู้นะ คุนน้องมองต่างมุม..และคุนน้องเชื่อว่า เอเลี่ยนก็มีทั้งดีและไม่ดี พวกไม่ดีเค้าก็คงจะเป็นพวกเหยียดสีผิว คือเหม็นสาปไม่อยากข้องแวะคบค้าสมาคมด้วยส่วนพวกดี เค้าก็พยายามช่วยเราอยู่ห่างๆ อย่างนักวิทยาศาสตร์บางคนที่ คิดค้นและวิจัยและสร้างเครื่องจักกลสำเร็จได้ จากความฝันของตน เพราะเค้าจูนคลื่นความคิดเข้ามาในฝันของมนุษย์..แต่มนุษย์มักจะคิดเข้าข้างตนเองว่า เป็นความคิดของเค้าเองที่คิดค้นขึ้นจากความฝันตน..อยางใครนะที่ผลิตเครื่องจักรเย็บผ้า กับน้ำมันเบนซิน แล้วคิดค้นสำเร็จเพราะตนฝัน ลืมแล้ว..

http://m.pantip.com/topic/31700180?

คุนน้องไปค้นหามาให้อ่าน ข้อมูลน่าสนใจมากนะ
และมีเรื่องที่คุนน้องเคยอ่านเจอ..คือคุนน้องเคยคิดว่า ต้องมีใครจูนคลื่นความคิดเข้ามาในสมองเรา เวลาเราหลับ..เพราะตอนเราหลับ สมองเราสามารถจูนกับคลื่นแทรกสอดเข้ามาทางความฝันหรือทางสมองความคิดได้ง่ายกว่าตอนเราตื่น.. คุนน้องก็เคยฝันว่า..คุนน้องคิดค้นเพลงและดนตรีขึ้นมา และทำนองมันไพเราะมากๆในฝัน..(พอตื่นมาอ้าวลืม มะกี้ตอนฝัน ตูยังร้องเพลงเป็นต่อยหอย ) และเคยฝันว่ามีคนมาสอนเลข แล้วให้หาค่าของเลขนี้ เหมือนถอดค่าของเลขนั้นออกมา ถอดออกมาได้อะไร ซึ่งตอนนั้นคุนน้องคิดไม่ออก แล้วเค้าสอนวิธีทำ..ซึ่งสูตรเลขนี้ คุนน้องไขปริศนาออกมาว่า..เราสามารถแยกของชิ้นนั้นออกมา..โดยการถอดค่าของมัน ว่ามีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง.. คุนน้องลองคิดเล่นไปเรื่อยๆเกี่ยวกับสิ่งของที่เราใช้สอยในชีวิต..มันมีส่วนประกอบ แปรรูป มาจากอะไร..
และคุนน้องก็ไม่รู้อะไรมาดลใจ ให้เชื่อว่าฝีมือเพื่อนต่างดาว เค้าพยายามช่วยเราห่างๆทางความฝัน

“ม.ล.รุ่งคุณ” ซัด ยางฯ กิโลละ 100 ให้ไปขายดาวอังคาร แต่ตัวเองยัดคาเวียร์-ทำกองทัพให้เหนือ ก.ม.

(10 ต.ค.) ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หรือ หม่อมโจ้ ในนามเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน
ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็นค่าใช้จ่ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา อย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN-US Defense Informal Meeting) ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-1 ตุลาคม 2559 ณ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา รวมทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท ว่า


“ระหว่างที่ประชาชนทำมาหากินด้วยความยากลำบาก
ข้าวโพด ราคากิโลละ 3-4 บาท ต้องยอมขายขาดทุน
ยางพารา ราคากิโลละ 100 ต้องไปขายที่ดาวอังคาร
ตัวเองกลับเอาเงินภาษีที่ขูดรีดประชาชนซํํ้าเติม
ไปสำราญยัดไข่ปลาคาเวียร์ ราคากิโลละ 2-3 แสน

ค่าตั๋วเครื่องบินจาก กรุงเทพ ไปกลับ Honolulu ฮาวาย
Korean Air ราคา 24,449 บาท
Japan Airlines ราคา 36,655 บาท

แต่มันไม่ยิ่งใหญ่พอสำหรับผู้ที่เหลิงระรื่นอำนาจเหล่านี้ ที่ทะลึ่งต้องการจะสร้่างความสำราญ แสดงความยิ่งใหญ่ ให้ตนเอง ให้เพื่อนฟูง ให้นายทุนเอกชน และสาวคนพิเศษ โดยเป็นที่ชัดเจนว่าตัวเองวางแผนจะ entertain ทุกคนด้วยเงินทองที่พวกตัวเองได้ขุดรีดชาวบ้านประชาชนมา

เมื่อมีการตั้งคำถาม กลับไร้สำนึก ไร้ความละอาย โกหกต่างต่างนานา ว่าผู้นั้นในคำถามมิได้เกี่ยวข้อง ว่าอาหารที่รับประทานเป็นอาหารไทยธรรมดา จนกระทั่งมีหลักฐานมามัดตนกับมุสาวาท

แม้กระนั้น แทนที่จะรับผิดชอบ ขจัดพวกตนเองที่เกี่ยวข้องออกไปเพื่อลบมลทินจากระบบ กลับมาใช้อำนาจแทรกแซง บิดเบือนปรับลดมาตรฐานความโปร่งใสของทั้งประเทศ ของทั้งระบบแทน เพื่อให้พวกพ้องตัวเองพ้นผิด ถึงขั้นนำเอาวัฒนธรรมกินโกง เอ์ื้อประโยชน์อันมิควรของกองทัพมาเป็นบรรทัดฐานสูงสุดเหนือกฏหมาย เหนือจรรยาบรรณ

ม.ล.รุ่งคุณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนั้นคือ “ปราบโกง โดยการสร้างรัฐที่ล้มเหลว”

https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_10909

ว่ากันเองแล้วกัน

ถ้าฝ่ายตรงข้ามพูดค่อนขนาดนี้ โอ้...ไม่อยากคิด

โพสต์ผิดกระทู้แล้ว..คับ..

ต้องไปโพสต์..ใน...

มท.จัดอบรม คุณธรรม-จริยธรรม 'ครู-บุคลากรการศึกษา'
viewtopic.php?f=1&t=53148

ซะนะคับ...

เอานี้ไปเลยคุณน้อง...

...พลังงาน...^^



มันเป็นหน้าที่นี่เน๊อะ

ทำให้นึกถึง..หนังสืออะไรก็ไม่รู้..คำทำนายประเภท.ที่ว่า
.....................................................................
......จังหวัดนี้จะเกิดภูเขาไฟ..จังหวัดนั้นจะเกิดแผ่นดินไหว..จังหวัดไหนจะตายกี่คน..
เหล่าอรรยาสิทธิลงมา..เข้าระบบใว้แล้ว..บางคนก็รู้ตัวแล้ว..บางคนยังไม่รู้ตัว...

......................................................................

ไม่ผิดหรอก ตั้งใจโพสต์เลย เอาไปขายดาวอังคาร อิอิ เพราะกระทู้นี้ ออกไปต่างดาว

คือ...ถ้าเป็นเอกอนก็คงไม่ค่อยจะอยากคุยกับมนุษย์ต่างดาวหรอก

เพราะถ้าคุยแล้วพลอยทำให้เราคิดไปโน่น นี่ นั่น ก็...ไม่ต้องคุยกันหรอก
แค่เรื่องราวบนโลก ก็เยอะพอแล้ว ... ^^

ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาวจะมารุกราน ก็...

กับบรรดาพวกปลวก เขาก็คงไม่อยากให้มนุษย์ไปรุกรานความเป็นสุขของเขาเช่นกัน
แต่ก็ไม่วายที่จะถูกรุกราน

ซึ่งถ้าสักวันหนึ่งมนุษย์จะถูกกระทำเหมือนอย่าง ปลวก ที่ถูกกระทำ

ก็เป็นเรื่องที่ต้อง ยอมรับ ในกฏเกณฑ์ของ ธรรมชาติ

เป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อมีสัตว์สูญพันธ์มาก็มากแล้ว
มนุษย์จะสูญพันธ์บ้าง มันก็เป็นไปได้ นั่นล่ะ



ทำใจเถอะ ถ้ามันจะเป็นนะ

หาก มนุษย์ต่างดาว โผล่หน้ามาคุยกันรู้เรื่อง ก็สนทนาไป

หรือหากเป็นอภิมหาเศรษฐี ว่างจัดไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร จะใช้เงินสนองความอยากที่จะรู้จะเห็นก็ไม่เป็นไร

มนุษย์ต่างดาว ในความหมายของชาวโลกน่าจะเป็นเหล่าอารยธรรมที่ฉลาดเท่าเทียมมนุษย์หรือมากกว่า
สามารถสื่อสารเข้าใจด้วยภาษาและการใช้เครื่องมือต่างๆ

มนุษย์ต่างดาวในความหมายของผมคือ อยู่ในภพเดียวกัน เช่น ดาวอังคาร กับ โลก อยู่ในภพเดียวกัน
ไม่ต้องอาศัยพลังจิตอภิญญาพิเศษก็สามารถถ่ายรูป เดินทางสำรวจได้

จึงต่างกับภพอื่นๆ เช่น ภพของเทวดา ภพของอสูรกาย

ในเมื่ออยู่ในภพเดียวกันการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวคงเป็นเรื่องของอารยธรรมที่ทำให้มนุษย์ที่อยากรู้อยากเห็นสามารถมองภาพออกถึงความเป็นอยู่ของมนุษย์ต่างดาว

ควรติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาธรรมว่า ที่แท้แล้วก็เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน
ไม่ได้มีอำนาจพิเศษที่สร้างโลกทั้งใบได้

...

มนุษย์ต่างดาวในทัศนะของเอกอน คือ เอกอน ... ในภาคหลอน ๆ
ที่มันคอยจะโผล่เป็นภาพหลอนตาหลอนใจ



แบบว่าเอกอนเห็นตัวเองมองออกมาแล้วเห็นดวงดาวต่าง ๆ
และ โลก ก็ไม่ได้ชื่อ โลก หรือ THE EARTH หรืออะไร

ไม่มีชื่อเรียก แต่สื่อกันรู้ด้วยการรับรู้ในรูปแบบ องศา ที่สรรพสิ่งกระทำต่อกัน

ซึ่งเพื่อน ๆ บนดาวก็มีนะ พอได้รู้สึกว่ามีการมาทักทายกันบ้าง



คือ ถ้าเราสงสัยในสิ่งที่ปรากฎ เราก็จะพยายามค้นหา
และเราก็จะพบกับสิ่งต่าง พบกับเรื่องราวที่นำไปสู่ปรากฎการณ์ต่าง ๆ
ที่ทำให้เราเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น มากขึ้น

แต่...หากว่าเราวางใจได้...ใจเราก็จะไม่เดินทางออกไปค้นหาตัวตนอื่นใด
ใจเราก็จะทรงตัวอยู่บนพื้นฐานตัวตนในปัจจุบัน ที่เป็นไป

และเราก็พอจะเห็นได้ว่า สิ่งเหล่านั้นไม่มีอะไรยึดถือได้
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม

เห็นด้วยคับ..ที่จะมองว่าเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย..เหมือนกัน