วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 21:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2016, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...ป้าแกมีอาการของคนเสียสติ แกพูดคนเดียวและหัวเราะคนเดียวมาตลอดทาง ผมก็ว่าง เลยลองฟังว่าแกพูดอะไร เท่าที่ฟังคร่าวๆ แกพูดจาบจ้วงนะครับ แต่แกไม่ได้พูดจาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่อย่างใด

แกพูดถึงเจ้าเมืองบาดาลบ้าง เจ้าอยู่หัวสมัยล้านนา รึเจ้าอยู่หัวในละครบ้าง พูดไปหัวเราะไปตามแบบของคนจิตไม่ปกติ


รูปภาพ

สติก็ดี จิตก็ดี เป็นศัพท์ทางศาสนาซึ่งตามบอร์ดธรรมะก็นำมาสนทนากันอย่างกว้างขวาง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2016, 19:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ในหลวงทรงงานเป็นวิทยากร แก้ปัญหาน้ำท่วม ปี2538



https://www.facebook.com/byduangkamol/v ... 892523018/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2016, 19:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.posttoday.com/world/news/460768
ชาวไทยในซิดนีย์ร่วมพิธีแสดงความอาลัยในหลวงร.9


รูปภาพ

อ้างคำพูด:
คนไทยในนครซิดนีย์ จำนวนมาก ร่วมพิธี "น้อมถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสู่สวรรคาลัย" ณ Tambalong Park ใจกลางเมืองซิดนีย์



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2016, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไล่ตืบไล่ล่ากันอยู่ในขณะนี้ :b14: รมว.ยธ. ให้ความเห็นว่า

https://www.facebook.com/10000564205829 ... 632553467/


http://prachatai.org/journal/2016/10/68417

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 03:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


กักกาย.....ไปตั้งกระทู้มใหม่..ไป๊...

ไปยกความดีคนที่กักกายกราบ...คนอื่นจะได้โมทนาตาม...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 03:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้กาละเทศะ...

ทูตไทยฉะทีวีออสชี ล้อเลียนคนไทย ร่ำไห้อาลัยในหลวงสวรรคต
http://www.naewna.com/inter/240779
รูปภาพ

อ้างคำพูด:
18 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทยประจำออสเตรเลีย มีหนังสือท้วงติงไปยังสถานีโทรทัศน์ เน็ตเวิร์ก 10 ของประเทศออสเตรเลีย หลังเทปรายการ "Have You Been Paying Attenion?" ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา มีเนื้อหาล้อเลียนความเศร้าโศกเสียใจของคนไทย ที่อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในพระบรมโกศ โดยใจความสรุปว่า การล้อเลียนความรู้สึกของผู้อื่นนั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นการดูหมิ่น และไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้รายการดังกล่าวถอดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งทางสถานีโทรทัศน์และสื่อโซเชียลมีเดียออกไปหากมีอีกในอนาคต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 04:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


คำเตือน....อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกความรักความศรัทธาของคนอื่น

ไม่รักไม่ศรัทธา..ก็อยู่เงียบๆไป...ให้เกียรติคนอื่นอื่น..แล้วใครจะไปว่าอะไร

เมื่อไม่ให้เกียรติคนอื่น..คนอื่นบ้าขึ้นมาบ้าง...แล้วจะไปว่าใครได้

หนุ่มชลบุรีโพสต์จาบจ้วง เจอประชาทัณฑ์ คสช ขอตร.ดูแ

http://www.naewna.com/local/240676

รูปภาพ
อ้างคำพูด:
18 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกสังคมออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ ข้อความที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ในลักษณะจาบจ้วงเบื้องสูง จนมีผู้เข้ามาท้วงติงและเกิดวิวาทะโต้ตอบกันไปมา ต่อมาปรากฎว่าชาวบ้านใน จ.ชลบุรี ได้สืบค้นจนพบบ้านพักของผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว จึงนำตัวลงมาเพื่อให้กราบพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อเป็นการขอขมาที่กระทำมิบังควร โดยระหว่างนั้นชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์มีความไม่พอใจเป็นอย่างมาก บางคนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายผู้โพสต์รายนี้ และมีการถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊กต่างๆ เป็นจำนวนมาก

าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีการนำตัวผู้ต้องหาไปขอขมาตามสถานที่ต่างๆ ว่า คสช.มีความเป็นห่วงเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลและดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม รวดเร็ว แยกตัวบุคคลที่กระทำผิดออกมาเพื่อไม่ให้ถูกทำร้ายร่างกาย เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นคนไทยทำร้ายกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ ระมัดระวังเป็นพิเศษ และไม่ปล่อยปละละเลยนำบุคคลไปขอขมาในสถานที่ที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการถูกทำร้าย หากเห็นว่าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยก็ควรเลื่อนออกไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 04:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.naewna.com/scoop/240765

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “ในหลวงรัชกาลที่ 9” พระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวไทยต่างพร้อมใจกันเคารพยกย่องพระองค์ในฐานะ“พ่อของแผ่นดิน” จากหลากหลายโครงการในพระราชดำริของพระองค์ซึ่งมุ่งหวังให้คุณภาพชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารดีขึ้น นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมี “พระบรมราโชวาท-พระราชดำรัส” พระราชทานแก่คณะบุคคลในโอกาสต่างๆ อันถือเป็น..

“คำสอน” ทรงคุณค่ายิ่ง!!!

แม้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช“พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย” จะเสด็จสวรรคตแล้ว แต่ “คำสอน” ของพระองค์ จะยังคงอยู่ในใจคนไทยตลอดไป“สกู๊ปแนวหน้า” จึงขอรวบรวมบางส่วนจากพระบรมราโชวาท-พระราชดำรัส ในหัวข้อเกี่ยวกับ “คุณธรรมประจำตน” มาไว้ ณ ที่นี้ ด้วยมุ่งหวังให้เป็นดั่ง..

“แสงประทีป” นำทางชีวิต!!!

1.ความประหยัด

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”

(พระราชดำรัสเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 31 ธันวาคม 2502)

2.ความเพียรและอดทน

“การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้งถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ”

(พระราชดำรัสพระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา 27 มีนาคม 2523)

3.ความมีระเบียบวินัย

“คนที่มีระเบียบมีวินัยนั้นเป็นผู้ที่เข้มแข็ง เป็นผู้ที่หวังดีต่อตัวเอง เป็นผู้ที่จะมีความสำเร็จในอนาคต อันนี้เป็นระเบียบอย่างหนึ่ง เป็นวินัยอย่างหนึ่งคือว่าถ้าคนใดมี ระเบียบมีวินัยในร่างกาย คือได้หาอะไรก็มีความสำเร็จ คือหาสิ่งที่ตัวกำลังมุ่งที่จะปฏิบัติการปฏิบัติด้วยความมีระเบียบมีวินัย การปฏิบัตินั้นสำเร็จอันนี้เป็นระเบียบวินัยชนิดหนึ่ง

ระเบียบวินัยอีกชนิดที่กล่าวเมื่อตะกี้ ก็คือระเบียบในใจ นั้นก็คือการกระทำอะไร ทำต้องคิด เมื่อมีระเบียบในความคิด คือมีเหตุผล สิ่งใดที่คิดก็คิดออก สมมุติว่าเราคิดเรื่องหนึ่งแล้วก็ไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วไปคิดถึงเรื่องที่สาม เรื่องที่สี่ เรื่องทั้งสามสี่เรื่องนี้ก็ไม่มีความสำเร็จแน่นอนเพราะว่ามันฟุ้งซ่าน ฉะนั้นต้องมีระเบียบในความคิด ที่เรียกว่าระเบียบในใจหรือวินัยในความคิด”

(พระราชดำรัสพระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตภาคใต้ จังหวัดสงขลา ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จังหวัดสงขลา 10 กันยายน 2524)

4.ความซื่อสัตย์สุจริต

“คนที่ไม่มีความสุจริต คนที่ไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ”

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 กรกฎาคม 2522)

5.ความใฝ่รู้ใฝ่เรียน

“การศึกษาหาความรู้จึงสำคัญตรงที่ว่า ต้องศึกษาเพื่อให้เกิด ความฉลาดรู้ คือรู้แล้วสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ โดยไม่เป็นพิษเป็นโทษ การศึกษาเพื่อความฉลาดรู้ มีข้อปฏิบัติที่น่ายึดเป็นหลักอย่างน้อยสองประการ ประการแรก เมื่อจะศึกษาสิ่งใดให้รู้จริง ควรจะให้ศึกษาให้ตลอด ครบถ้วนทุกแง่ทุกมุม ไม่ใช่เรียนรู้แต่เพียงบางส่วนบางตอน หรือเพ่งเล็งเฉพาะบางแง่บางมุม

อีกประการหนึ่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติประกอบพร้อมกันไปด้วยเสมอ คือต้องพิจารณา ศึกษาเรื่องนั้นๆ ด้วยความคิดจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปรกติ และเที่ยงตรงเป็นกลาง ไม่ยอมให้รู้เห็นและเข้าใจ ตามอำนาจความเหนี่ยวนำของอคติ ไม่ว่าจะเป็นอคติฝ่ายชอบหรือฝ่ายชัง มิฉะนั้น ความรู้ที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นความรู้แท้ หากแต่เป็นความรู้ที่ถูกอำพรางไว้ หรือที่คลาดเคลื่อนวิปริตไปต่างๆ จะนำไปใช้ประโยชน์จริงๆ โดยปราศจากโทษไม่ได้”

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 22 มิถุนายน 2524)

6.ความเมตตาเอื้อเฟื้อ

“สังคมใดก็ตามถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นก็ย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่”

(พระราชดำรัสพระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในนิตยสารที่ระลึกครบ 36 ปี ของสโมสรไลออนส์แห่งกรุงเทพฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 31 มีนาคม 2538)

7.ความมีสติ

“หลักของคุณธรรม คือการคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนจะพูดจะทำสิ่งไร จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่น และให้จิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดจนคุ้นเคยชำนาญแล้ว จะกระทำได้คล่องแคล่ว ช่วยให้สามารถแสดงความรู้ ความคิด ในเรื่องต่างๆ ให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิดทั้งหลักวิชาทั้งหลักคุณธรรม”

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10 กรกฎาคม 2535)

8.ความสามัคคี

“ความสามัคคีนี้ หมายถึงว่ามีสิ่งใดที่อาจขัดแย้งซึ่งกันและกันบ้าง ก็ต้องปรองดองกันเสีย และหาทางออกโดยที่ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะความสามัคคีเป็นกำลังอย่างสูงสุดของหมู่ชน”

(พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่กลุ่มชาวไร่ หมู่บ้านตัวอย่างโครงการไทย-อิสราเอล จังหวัดเพชรบุรี 25 พฤษภาคม 2513)

9.ความพอเพียง

“คนเราถ้าพอใจในความต้องการก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข”

(พระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย 4 ธันวาคม 2541)

“9 ข้อคิด 9 คุณธรรม” จากพระราชดำรัส-พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชถือเป็นคำสอนที่ “เป็นมงคล” แก่ชีวิต หากผู้ใดน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติจนเป็นนิสัย ย่อมทำให้มีแต่ความ..

เจริญรุ่งเรือง..ร่มเย็นเป็นสุข!!!

SCOOP@NAEWNA.COM



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 04:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าไปดู YouTubeจะเห็นอะไรแปลกๆ...ทำนองไม่ดี..ปนอยู่ในลิสต์เสมอๆ...

เขายังทำอยู่..ทำมานาน..และก็คงยังทำต่อไป..

เพาะเม็ดเชื้อ..หว่านไปเรื่อย...ผลของมัน...งอกบ้างไม่งอกบ้าง...ก็อย่าที่เห็น..มีประปรายอยู่ทั่วไป

นี้แหละ...เขาใช้ทฤษฎสมคบคิด...ปลูกเม็ดเชื้อเหล่านี้...เพื่อเป้าหมายทำลาย..โดยเฉพาะระบบการมีกษัตริย์..

เขาทำทำไม?....มันอยู่ในสายเลือด...เขาก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมเขาทำ...

มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์..มีกรรมเป็นแดนเกิด..
...............................................
ขบวนการหน้าเดิมเหิมไม่หยุด...ยังเคลื่อนไหวบ่อนทำลายเบื้องสูง

http://www.naewna.com/creative/240756

อ้างคำพูด:
ขณะที่คนไทยทั้งประเทศแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความโศกเศร้าและมุ่งมั่นทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน แต่ขบวนการอุบาทว์ที่มุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูงที่สุมหัวกันอยู่ในต่างแดน รวมทั้งสื่อต่างชาติประเภทผีโม่แป้งบางสำนักยังคงเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริม

ทั้งนี้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เปิดเผยว่า มีรายงานขบวนการจาบจ้วงเบื้องสูง 6 ราย ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือพวกนี้อยู่นอกประเทศทำให้ยากที่จะจับกุมดำเนินคดี

...........................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 04:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ย้อนเรื่องราว "โตโยต้า โซลูน่า" รถยนต์พระที่นั่งในหลวงรัชกาลที่9

http://www.posttoday.com/auto/news/460720

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
วรพล สิงห์เขียวพงษ์ คอลัมนิสต์ชื่อดังด้านยานยนต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว วรพล สิงห์เขียวพงษ์ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภาพถ่ายดังกล่าว โดยระบุว่า เรื่องนี้นำมาจากสารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2550 เล่าโดยคุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คือ ช่วงปี 2540 หลังไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ วันที่ 5 พ.ย. 2540 มีข่าวลือในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าโตโยต้าจะปิดโรงงาน-ลอยแพพนักงาน5,500 คน บริษัทฯ จึงจัดแถลงข่าวว่าไม่เคยคิดปิดโรงงาน

ต่อมามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยพนักงานโตโยต้า วันที่ 6 พ.ย. 2540 เลขานุการส่วนพระองค์ได้โทรศัพท์แจ้งว่า พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ 'สั่งซื้อ' รถโตโยต้า โซลูน่า 1 คันโดยให้พนักงานใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ พนักงานคนไทยจะได้มีงานทำนานๆ เมื่อนำรถไปถวายพระองค์ในเดือน ธ.ค.2540 พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 600,000 บาท..

ทางโตโยต้าไม่รับเงิน จึงทรงมีพระราชดำริใหม่ว่า...ให้นำเงินไปตั้งโรงสีข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนาละแวกใกล้เคียงโรงงานผลิตรถเพราะโตโยต้ามีการบริหารจัดการที่ดี จึงควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่างขึ้นเอง แล้วขายในราคาสวัสดิการให้แก่พนักงานหรือชาวบ้าน และขายผลพลอยได้ เช่น แกลบและรำ ให้แก่เกษตรกรชุมชนที่เลี้ยงหมู จึงเป็นที่มาของโรงสีข้าวรัชมงคล ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 05:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


"แค่จม.ฉบับเดียวพระองค์ท่านยังเมตตาขนาดนี้" เมื่อเด็ก7ขวบถวายฎีกาถึงในหลวง
http://www.posttoday.com/local/scoop/460630

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ โพสต์ข้อความถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีที่ให้สัมภาษณ์เรื่องชาวภูเก็ตฮือล้อมบ้านผู้ต้องหกาโพสต์หมิ่น ว่าเป็นมาตรการทางสังคม โดยระบุว่า

ที่จริงอยากจะตำหนิ ไม่ใช่สิ ต้องใช้คำว่า ขอตำหนิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ออกมาพูดเชิงสนับสนุนให้คนในสังคมใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายเพื่อคุกคามคนอื่นที่พูดหรือโพสต์ข้อความอันเป็นการพาดพิงถึงสถาบันในทางที่มิบังควร

ถึงจะอ้างว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นมาตรการการลงโทษทางสังคม ย่อมฟังไม่ขึ้นเลยทีเดียว และผิดจากความหมายของคำว่า มาตรการทางสังคมไปมาก ท่านเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หน้าที่ของท่านคือต้องปกป้องคนจากความอยุติธรรม อันนี้เป็นหัวใจเลยนะ

คนทำผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ต้องได้รับการคุ้มครองตามหลักของสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่ให้คนในสังคมมาตัดสินกันเอง ลงโทษกันเอง ถ้าจะใช้มาตรการทางสังคมจริงจริง ท่านต้องขอความร่วมมือให้คนในสังคม หยุดให้ความสนใจ หยุดแชร์ต่อหยุดพูดถึงคนที่หมิ่นหรือพาดพิงถึงสถาบันในทางที่มิบังควร ถ้าจะเอาเรื่องหรือรับกับการะทำของคนพวกนั้นไม่ได้ ก็ขอไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้จัดการกันตามกฎหมาย นี่ต่างหาก คือมาตรการทางสังคม

แต่การที่ท่านออกมาพูดถึงคำว่า “มาตรการทางสังคม” ภายใต้บริบทของสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ นั่นกลายเป็นการที่ท่านกำลังไปรับรองความชอบธรรมว่า การข่มขู่คุกคามคนอื่น จนถึงทำร้ายร่างกาย อย่างการล้อมบ้าน การตบหน้า การถีบหัว กลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องไปเสียแล้ว การละเมิดสิทธิทางร่างกายของคนอื่น เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ในสังคมเวลานี้ ท่านกำลังทำให้คนในสังคมลืมที่จะตั้งคำถามว่า การแอบอ้างความจงรักภักดีเพื่อการคุกคามทำร้ายคนอื่นนั้น เป็นเรื่องที่บังควรแล้วหรือไม่ เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือเปล่า การใช้อารมณ์และความรู้สึกเกลียดชัง มากกว่าการใช้เหตุผล เพื่อถามหาที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นผลดีต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน

ก่อนหน้านี้อาตมาออกจะชื่นชมรัฐบาล ที่อย่างน้อยก็ยังมีกรุณาคุณและเรียนรู้ที่จะเห็นใจชาวบ้านมากขึ้น โดยออกมาชี้แจงว่า การไว้ทุกข์ หรือการถวายความอาลัยต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าสีดำ (ซึ่งตอนนี้มีราคาแพงมาก) ก็ได้ เพียงแต่ติดริบบิ้นเป็นสัญลักษณ์ก็ได้ อันนี้ถือว่า รัฐบาลทำถูก และเข้าใจว่า ความรู้สึกของคนรวยและคนจนมีคุณค่าเท่ากัน ท่านนายกรัฐมนตรีเอง ก็ดูจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีมากขึ้นอยู่ไม่น้อย

อาตมาเห็นว่า ในโมงยามเช่นนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำนอกจากการถวายความอาลัยต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ นั่นก็คือการออกมาเตือนสติประชาชน ให้ทุกคนเลิกคลุ้มคลั่งกันเสียที แล้วหันมาใช้ปัญญาและเหตุผล การเรียกร้องหรือขอความร่วมมือให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย ทำหน้าที่ของตนอย่างที่ควรจะทำ เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้ การไม่เห็นด้วย หรือตำหนิใครก็ตามที่พยายามสร้างความวุ่นวายเดือดร้อน ในการคุกคามหรือทำร้ายเพื่อนร่วมสังคมคนอื่น เพียงเพราะอ้างถึงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ อันนี้คือสิ่งที่ท่านรัฐมนตรีต้องทำ

ถ้าคนในรัฐบาลนี้ มีสติปัญญามากพอ สามารถที่จะเรียนรู้เข้าใจประชาชนได้ เห็นอกเห็นใจประชาชนทุกฝั่งทุกฝ่ายมากขึ้น ห้ามปรามไม่ให้ใครแอบอ้างความจงรักภักดี เพื่อสร้างความวุ่นวายหรือทำลายภาพลักลักษณ์ของประเทศชาติโดยรวม นี่จะถือว่าเป็นคุณอย่างมาก ทั้งยังเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ อย่างควรแก่การยกย่องและทำตาม

http://www.matichon.co.th/news/326864

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 05:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

อ้างคำพูด:
แจ๊ค หม่า' ยกย่อง 'ในหลวง ร.9' เป็นกษัตริย์ที่น่าเคารพนับถือที่สุดในโลก

18 ต.ค. 2559 15:52

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2559 เฟซบุ๊กของกระทรวงการต่างประเทศ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ นายแจ๊ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัท อาลีบาบา ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกอี-คอมเมิร์ซ (e-commerce) รายใหญ่ของจีน กล่าวแสดงความอาลัย ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า

สวัสดีครับทุกคน ผม Jack Ma จาก Alibaba.com ผมเสียใจที่ได้ทราบข่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือที่สุดในโลก พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของพวกเราทุกคน และของผมด้วยเช่นกัน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผมเดินทางไปประเทศไทยมากกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งที่ไปประเทศไทย ผมเห็นผู้คนรักและเทิดทูนพระองค์ เพราะเรารู้ว่าพระองค์ได้ทรงทำสิ่งต่างๆ มากมายเพื่อประเทศไทย เพื่อเอเชีย และเพื่อโลกของเรา เพื่อสร้างสันติภาพ และทำให้ผู้คนในทุกศาสนาประพฤติและปฏิบัติดีตามความเชื่อในศาสนาของตน

ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมรู้จักประเทศไทย พระองค์ทรงช่วยให้ประชากรหลุดพ้นจากความยากจน ทรงให้เกียรติผู้อื่น ผมคิดว่าพระองค์จะทรงเป็นที่เคารพรัก และเทิดทูนของปวงชนต่อไปอีกนานเท่านาน ผมเชื่อว่า ความเชื่อ ความปรารถนา และความฝันของพระองค์ จะถูกสานต่อโดยประชาชนของพระองค์ และโดยพวกเรา เพื่อดวงวิญญาณเสด็จสู่สวรรคาลัย ผมมาที่นี่เพื่อถวายความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแทนเจ้าหน้าที่และพนักงาน Alibaba ทุกคน ผมเสียใจที่เราได้สูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”


http://www.thairath.co.th/content/757612


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2016, 05:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปชช.ระยองปิดล้อมบ้านกลางดึกผู้ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นฯ พบใบนัดจิตเวช


รูปภาพ


http://www.prachatai.com/journal/2016/10/68421

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2016, 06:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้าไม่มีในหลวง ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง" จากปากชาวม้งซาบซึ่งในพระมหากรุณาธิคุณ
รูปภาพ

อ้างคำพูด:
19 ต.ค.59 สมาชิกพันทิปชื่อ chffew ได้ตั้งกระทู้โดยใช้ชื่อว่า "ถ้าไม่มีในหลวง พวกผมก็ไม่รู้จะเป็นยังไงครับ.." โดยได้เล่าเรื่องราวขณะเดินทางไปเที่ยวที่ ผาสองฤดู จ.เชียงใหม่ และได้มีคนนำทางเป็นวัยรุ่นชาวม้งคนหนึ่ง ซึ่งได้พูดถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวม้ง

โดยเล่าว่า ในหลวงทรงวางผังท่อประปาให้ทุกหมู่บ้าน และจากเมื่อก่อนที่ต้องปลูกฝิ่นกัน ก็เปลี่ยนมาเป็นทำไร่ทำสวน ปลูกพืชผักออร์แกนิก ผลไม้เมืองหนาวสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างดี จนทำให้คุณภาพชีวิตยั่งยืนและดีมากขึ้น จนชาวม้งได้พูดว่า "ถ้าไม่มีในหลวง พวกผมก็ไม่รู้จะเป็นยังไงครับ ท่านทำอะไรเยอะจริงๆ"


คนรุ่นใหม่..อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพปัญหาเรื่องฝิ่นซักเท่าไร..
คงต้องเป็นคนรุ่นเก่า..รึ..กลางเก่าเกลางใหม่..คงจะรู้ซึ่งถึงปัญหานี้ดี...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 59 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron