วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 13:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2020, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 06:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:



แล้วใครที่โพสต์อยู่นั่น ถ้าไม่ใช่เม ไม่ใช่คุณโรส ไม่ใช่กรัชกาย แล้วใคร ตอบสิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ในทางธรรม เมื่อว่าถึงการปฏิบัติทางจิต ปัจจุบัน หมายถึงขณะเดียวที่กำลังเกิดขึ้นเป็นอยู่.

หมายถึงมีสติทันอยู่กับสิ่งที่รับรู้ เกี่ยวข้อง หรือ ต้องทำในเวลานั้นๆ แต่ละขณะ ทุกๆขณะ ถ้าจิตรับรู้สิ่งใดแล้ว เกิดความชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจขึ้น ก็ติดวนเวียนอยู่กับภาพของสิ่งนั้นที่สร้างขึ้นใจ เป็นอันตกไปในอดีต (เรียกว่า ตกอดีต) ตามไม่ทันของจริง หลุดหลงพลาดไปจากขณะปัจจุบันแล้ว หรือ ถ้าจิตหลุดลอยจากขณะปัจจุบัน คิดฝันไปตามความรู้สึกที่เกาะเกี่ยวกับภาพเลยไปข้างหน้าของสิ่งที่ยังไม่มา ก็เป็นอันฟุ้งไปในอนาคต.

ตัวอย่างเทียบเคียง เช่น ขณะเดินจงกรม. ซ้าย ย่าง หนอ. ขวา ย่าง หนอ. สมมติเท้าขวา ก้าวไป แต่ใจไปคิดถึงเรื่องอื่น เช่น คิดถึงแฟน :b12: เป็นต้น นั่นก็พลาดจากปัจจุบันธรรมในขณะนั้นแล้ว พลาดจากขณะปัจจุบันแล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้นทำไงดี ก็ให้กำหนดความคิดนั่นเสียด้วย คิดหนอ แล้วก็ดึงให้สติมาอยู่กับการเดินจงกรม ขวา ย่าง หนอ ซ้าย ย่าง หนอ ต่อไปใหม่ นี่คือการฝึกจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันอารมณ์

เมื่อเราฝึกให้จิตอยู่กับอารมณ์ได้บ้างแล้ว เขาก็เรียกว่า จิตมีสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิบ้าง ความสุขก็เกิดตามมา สุขนี้เขาเรียกว่า นิรามิสสุข เรื่องของเรื่องมันก็เท่านี้

นอกจากนี้ โยคีทำอะไรอยู่ก็ตาม เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ซักผ้า รีดผ้า ก็ให้สติเกาะจับรับรู้สิ่งที่กำลังทำนั่น. ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงมันยาก ไม่ง่ายหรอก ไม่เชื่อลองทำดูปฏิบัติดูดิ


ยังมีประเด็นอีก แม้ขณะจงกรม ซ้าย ย่าง หนอ. ขวา ย่าง หนอ กลับไปกลับมาอยู่ ขณะน้้น เท้าข้างขวาก้าวไป แต่เผลอไปว่าซ้าย นี่ก็พลาดอีกแล้ว สรุปก็คือ ขวาก็ขวา ซ้ายก็ซ้าย ไม่สับสน เพราะฉะนั้น ต้องฝึกสติสัมปชัญญะรู้สึกตัวต่อไป

อนึ่ง แม้ผู้ใช้ พุทโธ ก็ทำนองเดียวกับหนอ อันเดียวกันเลย พุทโธว่าพร้อมกับลมหายใจเข้า-ออก ลมเข้าลมออกนั่นปัจจุบันอารมณ์ ปัจจุบันขณะแต่ละขณะ ไม่ใช่พุทโธ ก็เหมือนกับพองหนอ ยุบหนอ ท้องพอง กับ ท้องยุบนั่นปัจจุบันอารมณ์ ไม่ใช่หนอ อย่าติดพุทโธ อย่าติดหนอ ตามลมเข้า-ออกให้ทันแต่ละขณะ ออกก็ออก เข้าก็เข้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:



แล้วใครที่โพสต์อยู่นั่น ถ้าไม่ใช่เม ไม่ใช่คุณโรส ไม่ใช่กรัชกาย แล้วใคร ตอบสิ

:b32:
อ้าว...ไม่มีเรา...มีแต่ธัมมะ...ก็บอกว่าให้เข้าใจตามไง...มองให้ลึกลงไปที่กายกำลังเป็น
ไม่เข้าใจเหรอว่าความจริงคิดถูกตรงจริงตามได้ตรงที่มีตัวตนตัวเองสิงสถิตย์อยู่ได้เท่านั้น
บอกว่าไม่มีเรา...เข้าใจไหมเนี่ย...คิด ถูก ตรง จริง ตรง ที่ กาย ตัว มี เพื่อ ให้ ใจ รู้ ตัว ตาม ได้ ว่า มีอะไรที่ตัว
ถ้าไม่คิดตามให้เข้าใจถูกตรงตามที่กายตัวเองกำลังปรากฏว่ามีแล้วตรงตามคำสอนได้อยู่ก็แปลว่ามีอวิชชา
มีเหตุปัจจัยของธัมมะทำกิจหน้าที่กระทบผัสสะที่กายใจตลอดเวลาไม่มีตัวตนมีแต่จิเจรุนิทำกิจแต่ละหน้าที่
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในทางธรรม เมื่อว่าถึงการปฏิบัติทางจิต ปัจจุบัน หมายถึงขณะเดียวที่กำลังเกิดขึ้นเป็นอยู่.

หมายถึงมีสติทันอยู่กับสิ่งที่รับรู้ เกี่ยวข้อง หรือ ต้องทำในเวลานั้นๆ แต่ละขณะ ทุกๆขณะ ถ้าจิตรับรู้สิ่งใดแล้ว เกิดความชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจขึ้น ก็ติดวนเวียนอยู่กับภาพของสิ่งนั้นที่สร้างขึ้นใจ เป็นอันตกไปในอดีต (เรียกว่า ตกอดีต) ตามไม่ทันของจริง หลุดหลงพลาดไปจากขณะปัจจุบันแล้ว หรือ ถ้าจิตหลุดลอยจากขณะปัจจุบัน คิดฝันไปตามความรู้สึกที่เกาะเกี่ยวกับภาพเลยไปข้างหน้าของสิ่งที่ยังไม่มา ก็เป็นอันฟุ้งไปในอนาคต.

ตัวอย่างเทียบเคียง เช่น ขณะเดินจงกรม. ซ้าย ย่าง หนอ. ขวา ย่าง หนอ. สมมติเท้าขวา ก้าวไป แต่ใจไปคิดถึงเรื่องอื่น เช่น คิดถึงแฟน :b12: เป็นต้น นั่นก็พลาดจากปัจจุบันธรรมในขณะนั้นแล้ว พลาดจากขณะปัจจุบันแล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้นทำไงดี ก็ให้กำหนดความคิดนั่นเสียด้วย คิดหนอ แล้วก็ดึงให้สติมาอยู่กับการเดินจงกรม ขวา ย่าง หนอ ซ้าย ย่าง หนอ ต่อไปใหม่ นี่คือการฝึกจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันอารมณ์

เมื่อเราฝึกให้จิตอยู่กับอารมณ์ได้บ้างแล้ว เขาก็เรียกว่า จิตมีสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิบ้าง ความสุขก็เกิดตามมา สุขนี้เขาเรียกว่า นิรามิสสุข เรื่องของเรื่องมันก็เท่านี้

นอกจากนี้ โยคีทำอะไรอยู่ก็ตาม เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ซักผ้า รีดผ้า ก็ให้สติเกาะจับรับรู้สิ่งที่กำลังทำนั่น. ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงมันยาก ไม่ง่ายหรอก ไม่เชื่อลองทำดูปฏิบัติดูดิ


ยังมีประเด็นอีก แม้ขณะจงกรม ซ้าย ย่าง หนอ. ขวา ย่าง หนอ กลับไปกลับมาอยู่ ขณะน้้น เท้าข้างขวาก้าวไป แต่เผลอไปว่าซ้าย นี่ก็พลาดอีกแล้ว สรุปก็คือ ขวาก็ขวา ซ้ายก็ซ้าย ไม่สับสน เพราะฉะนั้น ต้องฝึกสติสัมปชัญญะรู้สึกตัวต่อไป

อนึ่ง แม้ผู้ใช้ พุทโธ ก็ทำนองเดียวกับหนอ อันเดียวกันเลย พุทโธว่าพร้อมกับลมหายใจเข้า-ออก ลมเข้าลมออกนั่นปัจจุบันอารมณ์ ปัจจุบันขณะแต่ละขณะ ไม่ใช่พุทโธ ก็เหมือนกับพองหนอ ยุบหนอ ท้องพอง กับ ท้องยุบนั่นปัจจุบันอารมณ์ ไม่ใช่หนอ อย่าติดพุทโธ อย่าติดหนอ ตามลมเข้า-ออกให้ทันแต่ละขณะ ออกก็ออก เข้าก็เข้า

rolleyes
ยังจะมาแบ่งทางโลกทางธรรมอะไรอีก
โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับ
ธรรมแปลว่าสิ่งที่มีจริง
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้
ความจริงของโลกที่มี
คือขันธ์ที่กำลังเกิดดับ
ขันธ์แปลว่าการเกิดดับ
ตถาคตตรัสรู้ความจริง
ที่เป็นอริยสัจจะธัมมะ
โลกว่างเปล่าจากตัวตน
เพราะขันธ์เกิดแล้วดับ
ตรงตามเหตุตามปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุทำปัจจัย
ที่กำลังมีและกำลังเกิดดับ
มีแต่อุปาทานในขันธ์ทั้งห้า
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ที่ว่างเปล่า
เป็นตัวตนของเราเพราะไม่รู้
แปลว่าคุณกำลังมีกิเลสอวิชชา
จนกว่าจะเริ่มฟังพระพุทธพจน์
แล้วเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้เอง...ไม่มีเรา
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:


คริคริ

การเข้าถึง

สัพเพ ธัมมา อนัตตา

ที่ถูกต้องตามคำสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

คือ การเข้าถึงพระนิพพาน ด้วยการเห็นแจ้ง

คือ การเข้าถึงพระนิพพาน ด้วยการเห็นแจ้ง ค่ะ

คือ การเข้าถึงพระนิพพาน ด้วยการเห็นแจ้ง ค่ะ


และเห็นแจ้ง ในอนัตตลักษณะ ของรูปนามขันธ์ 5

ไม่ใช่การพูดพล่อยๆลอยๆ เพ้อเจ้อ ว่า ไร้ตัวตน แบบที่คุณยายกำลังพร่ำ
ด้วยคิดว่าเข้าใจ

เป็นความคิด วิปัสสนึก อย่างเลื่อนลอย ไร้สาระ

อันนั้นมัน ว่างเปล่าๆปลี้ๆ ไม่ได้ไร้ตัวตนตามพระธรรมแท้จริง

เพราะ ไอ้ความเข้าใจ วิปัสสนึกว่าเข้าใจ นี่แหละค่ะ คนบื้อๆๆๆๆ ไม่รู้ว่า มันเป็น สังขาร เกิดจากอวิชชา

ฉะนั้น อย่ามายัดเยียดความเข้าใจ บื้อๆ วิปัสสนึก ให้เม เรย

555 เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนพระไตรปิฎก เรยวิปัสสนึกไปเอง ว่าเข้าใจ

สัพพเพ ธรรมา อนัตตา โดยไม่เข้าถึงพระนิพพาน เรย

ก๊ากๆๆๆ ขำกลิ้งค่ะ
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2020, 23:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


คริคริ

เข้าใจมั๊ยคะ คุณยาย โรสสสสสส

คำว่า "สัพเพ "

หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งปวง ทั้งหมด ทั้งสิ้น

ตามคำสอนพระพุทธองค์ อันแท้จริง

นั่น หมายถึง เมื่อถึงพระนิพพานแล้ว จึงเห็น ธรรมา ทั้งหมด เป็น อนัตตา

เห็นอนิจจลักษณะ ของ รูป นาม ขันธ์ 5 เป็น อนัตตา

ไม่ใช่คำพูด เพ้อเจ้า ลอยๆ โดยไม่มีสภาวะธรรม มารองรับ ว่าถึงพระนิพพานแล้ว

อย่างที่คุณยายโรส คุณยายยูทูป และหลายๆคน ชอบยกคำนี้มา

โดยไม่อิโหน่ อิเหน่ ในธรรม

ถ้าคุณยายโรส ถึงพระนิพพานแล้ว

เม จะไม่กล่าวว่า คุณยายโรส พูด พล่อยๆ ไร้สาระ เรย

ยืนยันตัวเองหน่อยสิ คุณยายโรส ว่าถึงพระนิพพานแล้ว

แค่พระโสดาบันน่ะ ยืนยันสภาวะได้มั๊ยคะ ว่าคุณยายได้แล้ว

คนจริง ต้องพูด ของจริง แบบเม นะคะ ๆๆๆ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2020, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:



แล้วใครที่โพสต์อยู่นั่น ถ้าไม่ใช่เม ไม่ใช่คุณโรส ไม่ใช่กรัชกาย แล้วใคร ตอบสิ

:b32:
อ้าว...ไม่มีเรา...มีแต่ธัมมะ...ก็บอกว่าให้เข้าใจตามไง...มองให้ลึกลงไปที่กายกำลังเป็น
ไม่เข้าใจเหรอว่าความจริงคิดถูกตรงจริงตามได้ตรงที่มีตัวตนตัวเองสิงสถิตย์อยู่ได้เท่านั้น
บอกว่าไม่มีเรา...เข้าใจไหมเนี่ย...คิด ถูก ตรง จริง ตรง ที่ กาย ตัว มี เพื่อ ให้ ใจ รู้ ตัว ตาม ได้ ว่า มีอะไรที่ตัว
ถ้าไม่คิดตามให้เข้าใจถูกตรงตามที่กายตัวเองกำลังปรากฏว่ามีแล้วตรงตามคำสอนได้อยู่ก็แปลว่ามีอวิชชา
มีเหตุปัจจัยของธัมมะทำกิจหน้าที่กระทบผัสสะที่กายใจตลอดเวลาไม่มีตัวตนมีแต่จิเจรุนิทำกิจแต่ละหน้าที่
:b12:
:b32: :b32:


ถ้ายังงั้น ธัมมะก็ฆ่าคนได้ ลักขโมยได้ ดื่มเหล้าได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2020, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาที่สวดมนต์เนี่ย
รู้ป่าวว่าคำไหนแปลว่า...หนอ(อุทะปาทิ)
ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อโลโก อุทปาทิ
:b12:
ลองนึกตามนะ
เวลาที่อาตมาพูดว่าอาตมา
อาตมารู้สึกถึงความมีเป็นของอาตมาว่ามีตัวตน
แสดงว่าอาตมาพูดและคิดตามความรู้สึกถึงความมีตัวอาตมาคืออัตตาตรงๆเลยน๊า
:b16:
แต่ตถาคตตรัสรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้แหละที่หลงผิดคิดว่ามีตัวเราทำอะไรจิปาถะนั้นน่า
คือไม่มีเรา...คือไม่มีทั้งผู้พูดและไม่มีทั้งผู้ฟังและไม่มีอะไรเลยเพราะมีแต่ธัมมะทีละ1แต่ละ1ดับไม่กลับมาเลย
ฟังบ้างนะ...ตายแล้วหมดโอกาสฟังและถ้าไม่คิดให้เข้าใจความจริงตั้งแต่ตอนยังมีลมหายใจก็ไม่มีทางคิดถูก
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b4: :b4:

"ลองนึกตามนะ"

คริคริ

ปรมาจารย์แห่ง วิปัสสนึก

ติดใจนึกตาม ยินดีนึกตาม ยินดีไม่นึกตาม ไม่ยินดีนึกตาม ไม่ยินดีไม่นึกตาม

ยังไม่ต้องตายก็หมดโอกาส แระหละค่ะ คุณยายโรส

ตัณหาอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ

ตัณหาเกิดตลอด หนาแน่นเกิ๊นน หละค่ะ

tongue

:b32:
สัพเพ ธัมมา อนัตตา=ทั้งหมดเป็นความจริงที่ไร้ตัวตน
เมคะลองพูดสิคะว่าอนัตตาเข้าใจไหมไม่มีตัวเมตรงกับภาษาไทยประโยคนี้ค่ะ...ไม่มีตัวตนเลย
555พูดออกเสียงด้วยนะแล้วดูตัวเองคิดตามคำพูดรู้ตัวไปด้วยนะว่าตัวไม่มีแล้วหรือว่ายังมีตัวอยู่555
คิดว่ารู้ความจริงแล้วหรือว่าเมรู้แต่ว่าตัวเมเองชอบท่องบัญญัติคำโดยไม่ชอบฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้...ไม่มีเรา
คิดให้เข้าใจถูกตัวอวิชชานะคะเพราะอวิชชาน่ะชอบมีตัวตนคิดว่าเก่งแล้วรู้แล้วจำคำได้เยอะแต่ไม่รู้ว่าไม่มีตัว
https://youtu.be/gxmwiu-1YdA
:b12:
:b32: :b32:



แล้วใครที่โพสต์อยู่นั่น ถ้าไม่ใช่เม ไม่ใช่คุณโรส ไม่ใช่กรัชกาย แล้วใคร ตอบสิ

:b32:
อ้าว...ไม่มีเรา...มีแต่ธัมมะ...ก็บอกว่าให้เข้าใจตามไง...มองให้ลึกลงไปที่กายกำลังเป็น
ไม่เข้าใจเหรอว่าความจริงคิดถูกตรงจริงตามได้ตรงที่มีตัวตนตัวเองสิงสถิตย์อยู่ได้เท่านั้น
บอกว่าไม่มีเรา...เข้าใจไหมเนี่ย...คิด ถูก ตรง จริง ตรง ที่ กาย ตัว มี เพื่อ ให้ ใจ รู้ ตัว ตาม ได้ ว่า มีอะไรที่ตัว
ถ้าไม่คิดตามให้เข้าใจถูกตรงตามที่กายตัวเองกำลังปรากฏว่ามีแล้วตรงตามคำสอนได้อยู่ก็แปลว่ามีอวิชชา
มีเหตุปัจจัยของธัมมะทำกิจหน้าที่กระทบผัสสะที่กายใจตลอดเวลาไม่มีตัวตนมีแต่จิเจรุนิทำกิจแต่ละหน้าที่
:b12:
:b32: :b32:


ถ้ายังงั้น ธัมมะก็ฆ่าคนได้ ลักขโมยได้ ดื่มเหล้าได้

:b12:
พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจว่ามีธัมมะฝ่ายดีและธัมมะฝ่ายชั่วและธัมมะที่เป็นกลางๆ
คนฆ่ากันตายก็เป็นธัมมะฝ่ายชั่วของคนฆ่าส่วนคนถูกฆ่าก็รับวิบากกรรมชั่วไงคะ
ส่วนคุณที่ไปต่อว่าเขาและคิดเห็นว่าคนฆ่าคนตายนั้นเลวคือคุณก็คิดด้วยไม่รู้ว่า
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร
มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังปรากฏกับปัญญาของผู้ที่รู้ตามคำของตถาคต
ส่วนผู้ไม่รู้ตัวและยังคงคิดวนเวียนในเรื่องราวก็หลงทำไปตามความคิดไงคะ
คุณจะเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังเกิดดับภายในจิตใจเป็นไปไม่ได้เพราะว่า
โลกก็เป็นแบบนี้มาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ไม่มีใครเอาความโง่คืออวิชชาออกได้
มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรู้จึงมาบอกให้เข้าใจความจริงไงล่ะคะ
พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะผู้ที่น้อมจิตรับรู้อารมณ์เดียวกับพระองค์เท่านั้น
เพราะคนที่ไม่น้อมใจยอมรับฟังคำของพระองค์ก็ไปทำตามใจตัวเองต่อไป
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีศรัทธาเพียรฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาไงคะ
จิตส่งออกไปดูไปรับรู้เรื่องราวอกุศลของผู้อื่นแต่ตัวเราไม่รู้ว่าเราก็กำลังมีกิเลสอวิชชานะคะ
https://www.youtube.com/playlist?list=R ... playnext=1
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2020, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจว่ามีธัมมะฝ่ายดีและธัมมะฝ่ายชั่วและธัมมะที่เป็นกลางๆ
คนฆ่ากันตายก็เป็นธัมมะฝ่ายชั่วของคนฆ่าส่วนคนถูกฆ่าก็รับวิบากกรรมชั่วไงคะ
ส่วนคุณที่ไปต่อว่าเขาและคิดเห็นว่าคนฆ่าคนตายนั้นเลวคือคุณก็คิดด้วยไม่รู้ว่า
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร
มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังปรากฏกับปัญญาของผู้ที่รู้ตามคำของตถาคต
ส่วนผู้ไม่รู้ตัวและยังคงคิดวนเวียนในเรื่องราวก็หลงทำไปตามความคิดไงคะ
คุณจะเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังเกิดดับภายในจิตใจเป็นไปไม่ได้เพราะว่า
โลกก็เป็นแบบนี้มาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ไม่มีใครเอาความโง่คืออวิชชาออกได้
มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรู้จึงมาบอกให้เข้าใจความจริงไงล่ะคะ
พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะผู้ที่น้อมจิตรับรู้อารมณ์เดียวกับพระองค์เท่านั้น
เพราะคนที่ไม่น้อมใจยอมรับฟังคำของพระองค์ก็ไปทำตามใจตัวเองต่อไป
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีศรัทธาเพียรฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาไงคะ
จิตส่งออกไปดูไปรับรู้เรื่องราวอกุศลของผู้อื่นแต่ตัวเราไม่รู้ว่าเราก็กำลังมีกิเลสอวิชชานะคะ
https://www.youtube.com/playlist?list=R ... playnext=1
:b12:
:b4: :b4:



ยังไงพูดกลับไปกลับมา จะเอาคนมาแต่ไหนก็ในเมื่อเป็นธัมมะ เป็นอนัตตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2020, 06:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจว่ามีธัมมะฝ่ายดีและธัมมะฝ่ายชั่วและธัมมะที่เป็นกลางๆ
คนฆ่ากันตายก็เป็นธัมมะฝ่ายชั่วของคนฆ่าส่วนคนถูกฆ่าก็รับวิบากกรรมชั่วไงคะ
ส่วนคุณที่ไปต่อว่าเขาและคิดเห็นว่าคนฆ่าคนตายนั้นเลวคือคุณก็คิดด้วยไม่รู้ว่า
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร
มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังปรากฏกับปัญญาของผู้ที่รู้ตามคำของตถาคต
ส่วนผู้ไม่รู้ตัวและยังคงคิดวนเวียนในเรื่องราวก็หลงทำไปตามความคิดไงคะ
คุณจะเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังเกิดดับภายในจิตใจเป็นไปไม่ได้เพราะว่า
โลกก็เป็นแบบนี้มาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ไม่มีใครเอาความโง่คืออวิชชาออกได้
มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรู้จึงมาบอกให้เข้าใจความจริงไงล่ะคะ
พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะผู้ที่น้อมจิตรับรู้อารมณ์เดียวกับพระองค์เท่านั้น
เพราะคนที่ไม่น้อมใจยอมรับฟังคำของพระองค์ก็ไปทำตามใจตัวเองต่อไป
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีศรัทธาเพียรฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาไงคะ
จิตส่งออกไปดูไปรับรู้เรื่องราวอกุศลของผู้อื่นแต่ตัวเราไม่รู้ว่าเราก็กำลังมีกิเลสอวิชชานะคะ
https://www.youtube.com/playlist?list=R ... playnext=1
:b12:
:b4: :b4:



ยังไงพูดกลับไปกลับมา จะเอาคนมาแต่ไหนก็ในเมื่อเป็นธัมมะ เป็นอนัตตา

:b12:
พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังแล้วรู้สึกตัวว่าที่ตัวมีดีหรือชั่ว
แถเก่งเนาะกลับไปดูคำถามตัวเองไป๊คุณกรัชกาย
อ้างคำพูด:
ถ้ายังงั้น ธัมมะก็ฆ่าคนได้ ลักขโมยได้ ดื่มเหล้าได้

ทุกอย่างเป็นธัมมะส่วนคนไม่ใช่สัจจะบัญญัติ
คนเป็นบัญญัติคำของสมมุติบัญญัติไม่มีอยู่จริง
แล้วถามเรื่องคนเข้าใจไหมล่ะว่าตัวเองคิดผิดอยู่
ถามยังถามผิดแล้วจะเข้าใจธัมมะได้ยังไงไม่ตรง
แล้วที่ตอบข้างบนไม่อ่านเหรอตัวสีแดงๆน่ะ...เออ
:b32:
ข้างบนมันไกลไปมองไม่ชัดยกลงมาให้อ่านใกล้ๆ555
อ้างคำพูด:
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร

พระพุทธเจ้าสอนธัมมะ4แบบนะ
1ธัมมะฝ่ายดี(จิต+กุศลเจตสิก)
2ธัมมะฝ่ายชั่ว(จิต+อกุศลเจตสิก)
3ธัมมะกลางๆ(รูป)(ข้อ1+ข้อ2คือนาม)
4ธัมมะหลุดพ้น(นิพพาน)
ปัจจุบันของตัวเองเป็นประเภทไหนใน4แบบนั่นน่ะต้องรู้ตัวไม่รู้แปลว่ามีอวิชชา555
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2020, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจว่ามีธัมมะฝ่ายดีและธัมมะฝ่ายชั่วและธัมมะที่เป็นกลางๆ
คนฆ่ากันตายก็เป็นธัมมะฝ่ายชั่วของคนฆ่าส่วนคนถูกฆ่าก็รับวิบากกรรมชั่วไงคะ
ส่วนคุณที่ไปต่อว่าเขาและคิดเห็นว่าคนฆ่าคนตายนั้นเลวคือคุณก็คิดด้วยไม่รู้ว่า
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร
มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังปรากฏกับปัญญาของผู้ที่รู้ตามคำของตถาคต
ส่วนผู้ไม่รู้ตัวและยังคงคิดวนเวียนในเรื่องราวก็หลงทำไปตามความคิดไงคะ
คุณจะเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังเกิดดับภายในจิตใจเป็นไปไม่ได้เพราะว่า
โลกก็เป็นแบบนี้มาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ไม่มีใครเอาความโง่คืออวิชชาออกได้
มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรู้จึงมาบอกให้เข้าใจความจริงไงล่ะคะ
พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะผู้ที่น้อมจิตรับรู้อารมณ์เดียวกับพระ
เพราะคนที่ไม่น้อมใจยอมรับฟังคำของพระองค์ก็ไปทำตามใจตัวเองต่อไป
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีศรัทธาเพียรฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาไงคะ
จิตส่งออกไปดูไปรับรู้เรื่องราวอกุศลของผู้อื่นแต่ตัวเราไม่รู้ว่าเราก็กำลังมีกิเลสอวิชชานะคะ
https://www.youtube.com/playlist?list=R ... playnext=1
:b12:
:b4: :b4:



ยังไงพูดกลับไปกลับมา จะเอาคนมาแต่ไหนก็ในเมื่อเป็นธัมมะ เป็นอนัตตา

:b12:
พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังแล้วรู้สึกตัวว่าที่ตัวมีดีหรือชั่ว
แถเก่งเนาะกลับไปดูคำถามตัวเองไป๊คุณกรัชกาย
อ้างคำพูด:
ถ้ายังงั้น ธัมมะก็ฆ่าคนได้ ลักขโมยได้ ดื่มเหล้าได้

ทุกอย่างเป็นธัมมะส่วนคนไม่ใช่สัจจะบัญญัติ
คนเป็นบัญญัติคำของสมมุติบัญญัติไม่มีอยู่จริง
แล้วถามเรื่องคนเข้าใจไหมล่ะว่าตัวเองคิดผิดอยู่
ถามยังถามผิดแล้วจะเข้าใจธัมมะได้ยังไงไม่ตรง
แล้วที่ตอบข้างบนไม่อ่านเหรอตัวสีแดงๆน่ะ...เออ
:b32:
ข้างบนมันไกลไปมองไม่ชัดยกลงมาให้อ่านใกล้ๆ555
อ้างคำพูด:
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร


พระพุทธเจ้าสอนธัมมะ4แบบนะ
1ธัมมะฝ่ายดี(จิต+กุศลเจตสิก)
2ธัมมะฝ่ายชั่ว(จิต+อกุศลเจตสิก)
3ธัมมะกลางๆ(รูป)(ข้อ1+ข้อ2คือนาม)
4ธัมมะหลุดพ้น(นิพพาน)
ปัจจุบันของตัวเองเป็นประเภทไหนใน4แบบนั่นน่ะต้องรู้ตัวไม่รู้แปลว่ามีอวิชชา555
:b12:
:b32: :b32:


ธัมมะตีกันได้ไหม ฆ่ากันได้ไหม ตอบชัดๆสิ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2020, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจว่ามีธัมมะฝ่ายดีและธัมมะฝ่ายชั่วและธัมมะที่เป็นกลางๆ
คนฆ่ากันตายก็เป็นธัมมะฝ่ายชั่วของคนฆ่าส่วนคนถูกฆ่าก็รับวิบากกรรมชั่วไงคะ
ส่วนคุณที่ไปต่อว่าเขาและคิดเห็นว่าคนฆ่าคนตายนั้นเลวคือคุณก็คิดด้วยไม่รู้ว่า
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร
มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังปรากฏกับปัญญาของผู้ที่รู้ตามคำของตถาคต
ส่วนผู้ไม่รู้ตัวและยังคงคิดวนเวียนในเรื่องราวก็หลงทำไปตามความคิดไงคะ
คุณจะเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังเกิดดับภายในจิตใจเป็นไปไม่ได้เพราะว่า
โลกก็เป็นแบบนี้มาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ไม่มีใครเอาความโง่คืออวิชชาออกได้
มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรู้จึงมาบอกให้เข้าใจความจริงไงล่ะคะ
พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะผู้ที่น้อมจิตรับรู้อารมณ์เดียวกับพระ
เพราะคนที่ไม่น้อมใจยอมรับฟังคำของพระองค์ก็ไปทำตามใจตัวเองต่อไป
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีศรัทธาเพียรฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาไงคะ
จิตส่งออกไปดูไปรับรู้เรื่องราวอกุศลของผู้อื่นแต่ตัวเราไม่รู้ว่าเราก็กำลังมีกิเลสอวิชชานะคะ
https://www.youtube.com/playlist?list=R ... playnext=1
:b12:
:b4: :b4:



ยังไงพูดกลับไปกลับมา จะเอาคนมาแต่ไหนก็ในเมื่อเป็นธัมมะ เป็นอนัตตา

:b12:
พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังแล้วรู้สึกตัวว่าที่ตัวมีดีหรือชั่ว
แถเก่งเนาะกลับไปดูคำถามตัวเองไป๊คุณกรัชกาย
อ้างคำพูด:
ถ้ายังงั้น ธัมมะก็ฆ่าคนได้ ลักขโมยได้ ดื่มเหล้าได้

ทุกอย่างเป็นธัมมะส่วนคนไม่ใช่สัจจะบัญญัติ
คนเป็นบัญญัติคำของสมมุติบัญญัติไม่มีอยู่จริง
แล้วถามเรื่องคนเข้าใจไหมล่ะว่าตัวเองคิดผิดอยู่
ถามยังถามผิดแล้วจะเข้าใจธัมมะได้ยังไงไม่ตรง
แล้วที่ตอบข้างบนไม่อ่านเหรอตัวสีแดงๆน่ะ...เออ
:b32:
ข้างบนมันไกลไปมองไม่ชัดยกลงมาให้อ่านใกล้ๆ555
อ้างคำพูด:
ความคิดของคุณเป็นอัตตายึดมั่นในตัวตนเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนใคร


พระพุทธเจ้าสอนธัมมะ4แบบนะ
1ธัมมะฝ่ายดี(จิต+กุศลเจตสิก)
2ธัมมะฝ่ายชั่ว(จิต+อกุศลเจตสิก)
3ธัมมะกลางๆ(รูป)(ข้อ1+ข้อ2คือนาม)
4ธัมมะหลุดพ้น(นิพพาน)
ปัจจุบันของตัวเองเป็นประเภทไหนใน4แบบนั่นน่ะต้องรู้ตัวไม่รู้แปลว่ามีอวิชชา555
:b12:
:b32: :b32:


ธัมมะตีกันได้ไหม ฆ่ากันได้ไหม ตอบชัดๆสิ :b13:

:b32:
ก็ฟังให้มันรู้สึกตัวสิว่าเดี๋ยวนี้ตัวกูมันไม่มีอยู่จริง
กูเข้าใจผิดว่ากูมีตัวตนก็ดูตัวเองไม่ออกจะรู้จักคนอื่นไหม
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงและแสดงความจริงให้ทุกคนที่กำลังฟัง
ให้รู้สึกตัวและเข้าใจถูกต้องตอนกำลังฟังพระองค์บอกว่าไม่มีตัวเรามีเพียงความหลงผิด
ความเข้าใจผิดของตัวเองที่มองเห็นว่าตัวเองมีร่างกายอะไรบ้างตถาคตแจกแจงโดยละเอียดเพื่อไม่ให้คิดเอง
คิดเองน่ะมันเข้าใจได้ไหมว่าเดี๋ยวนี้กูไม่รู้จักตัวกูเลยว่าตัวตนของกูมันไม่มีอยู่จริงกูหลงผิดว่ามีตัวกูอยู่เลย
กูก็เลยหลงทำทุกอย่างด้วยความมีตัวกูเพราะกูไม่รู้ว่าที่ตัวกูทำอะไรก็ตามกูเอาตัวอวิชชาของกูไปทำเอง
กูลืมฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าตัวตนกูมันไม่มีอยู่แล้วมีแต่ความเข้าใจผิดพาตัวกูหลงไปทำ
เออ...ก็บอกว่าให้ฟังให้เข้าใจก่อน...ไม่ว่าตัวคุณจะคิดพูดทำอะไรก็ตามคุณไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังหลงผิด
https://youtu.be/JVTjM88xVXM
:b12:
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร