ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ขอคำตอบด้วยครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54018 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 31 พ.ค. 2017, 19:26 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ขอคำตอบด้วยครับ | ||
ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร? ![]()
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 01 มิ.ย. 2017, 06:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
ธรรมมา เขียน: ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร? ![]() อิทธิบาท กับ อธิบดี ซึ่งมีองค์ธรรมเหมือนกัน คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา โดยเฉพาะนั้น หน้าที่การงานย่อมไม่เหมือนกัน อิทธิบาทเป็นการงานที่ทำโดยยิ่งยวดในหน้าที่ของตนพร้อมกันได้ ส่วนอธิบดีนั้นเป็นการที่ยิ่งใหญ่ได้เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือก็ต้องคล้อยตามอธิบดีนั้นๆไปโดยจะไม่ขัดกัน อิทธิบาท หมายความว่า เป็นเหตุให้ถึงความสำเร็จ ฌาน อภิญญา มรรค ผล ให้บริบูรณ์ หรือแม้แต่ทำให้อายุยืน (ดังมีในพระไตรฎกได้แสดงไว่า ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปลงอายุสังขารของพระองค์เอง พระองค์ได้บอกกับพระอานนท์ว่า หากพระองค์ประสงค์จะอยู่ต่อพระองค์สามารถเจริญอิทธิบาท๔ และจะมีชีวิตดำรงค์อยู่ต่อไปอีกได้ตลอดกัป- บางตำราเขียนไว้ว่ากัปในที่นี้หมายถึง ๑๒๐ ปี) อิทธิบาทเป็นธรรมที่เกิดเฉพาะมหากุศลจิตอย่างเดียว ในผลจิตก็จะไม่ชื่อว่าอิทธิบาท ผลจิต วิริยะ ฉันทะ ปัญญาของพระอรหันต์ ไม่ชื่อว่าอิทธิบาท เพราะเป็นธรรมดาของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย เป็นความบริบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนอธิบดีนั้นจะเป็นได้ทั้ง กุศล อกุศล อพยากตะ |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 01 มิ.ย. 2017, 13:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
ธรรมมา เขียน: ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร? ![]() เมื่อพูดถึงองค์ธรรมรวมๆ ถึงธรรมคุณอันเป็นเหตุให้มีความสำเร็จ เราเรียกว่า อิทธิบาท 4 แต่ เมื่อจิตทำเหตุในแต่ละขณะๆ จะมีองค์แห่งธรรมคุณนั้นๆ โดดเด่นประกอบในจิตแต่ละขณะๆ นั้นเพียงธรรมคุณเดียว ธรรมชาตินั้นเรียกว่า เป็นอธิปติปัจจัย คือธรรมเป็นอธิบดี แต่มีข้อสังเกตุว่า จิตที่ทำเหตุโดยเป็นอกุศลนั้น ไม่อาจจะมี วิมังสาเป็นอธิบดีได้เลย ด้วยเหตุว่าวิมังสาเป็นลักษณะของปัญญาเจตสิกชนิดหนึ่ง จิตเหตุ จิตวิบาก ทำโดยอธิบดีใด ก็สำเร็จโดยอธิบดีนั้น จึงเป็นกรรมเหตุ กรรมวิบากซึ่งกันและกัน |
เจ้าของ: | asoka [ 02 มิ.ย. 2017, 06:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
![]() อิทธิบาท = ธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จ อธิบดี = ธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธาน อิทธิบาทธรรมมี 4 มีผู้อธิบายแล้ว ธรรมที่เป็นอธิบดีมี 5 คือ อินทรีย์ 5 อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่ อินทรีย์ 5 คือ สัทธินทรีย์=ศรัทธาเป็นใหญ่ วิริยินทรีย์=ความเพียรเป็นใหญ่ สตินทรีย์=สติเป็นใหญ่ สมาธินทรีย์=สมาธิเป็นใหญ่ ปัญญินทรีย์=ปัญญาเป็นใหญ่ ธรรมทั้ง 5 นี้เขาจะเปลี่ยนกันเป็นใหญ่ตามจังหวะแห่งเหตุ ปัจจัยและธรรม ไม่มีธรรมใดมายึดครองเป็นอธิบดีตายตัวตลอดกาล แต่สุดท้ายจะไปจบที่ปัญญา เพราะปัญญาเป็นตัวดับอวิชชา เรื่องอย่างนี้เข้าใจยากนะครับ ต้องปฏิบัติจริงไป สังเกตพิจารณาไป ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการคิดปรุงตามตัวหนังสือครับ ![]() |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 02 มิ.ย. 2017, 07:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
asoka เขียน: :b38: อิทธิบาท = ธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จ อธิบดี = ธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธาน อิทธิบาทธรรมมี 4 มีผู้อธิบายแล้ว ธรรมที่เป็นอธิบดีมี 5 คือ อินทรีย์ 5 อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่ อินทรีย์ 5 คือ สัทธินทรีย์=ศรัทธาเป็นใหญ่ วิริยินทรีย์=ความเพียรเป็นใหญ่ สตินทรีย์=สติเป็นใหญ่ สมาธินทรีย์=สมาธิเป็นใหญ่ ปัญญินทรีย์=ปัญญาเป็นใหญ่ ธรรมทั้ง 5 นี้เขาจะเปลี่ยนกันเป็นใหญ่ตามจังหวะแห่งเหตุ ปัจจัยและธรรม ไม่มีธรรมใดมายึดครองเป็นอธิบดีตายตัวตลอดกาล แต่สุดท้ายจะไปจบที่ปัญญา เพราะปัญญาเป็นตัวดับอวิชชา เรื่องอย่างนี้เข้าใจยากนะครับ ต้องปฏิบัติจริงไป สังเกตพิจารณาไป ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการคิดปรุงตามตัวหนังสือครับ ![]() เขาพูดแค่ อิทธิบาทกับอธิบดีกัน นี่ไปเอาอินทรีย์ ๕ เข้ามายัดเยียดอีกเพื่อให้ดูว่าเก่งกว่าคนอื่นว่างั้นเถอะ คำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ไฉนสูเจ้าจึงยัดเยียดยัดใส้ใส่เพิ่มเติมขึ้นไปอีก จงใจจะบิดเลือนคำสอนชัดเจน สูเจ้าคงไม่พ้นนรกแน่นอน |
เจ้าของ: | asoka [ 02 มิ.ย. 2017, 21:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
![]() น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 02 มิ.ย. 2017, 21:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
asoka เขียน: grin น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ ![]() ใช่ครับ...น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ...อย่างยิ่ง... หยาบ...ขนาดที่ไปว่า...อนัตตลักขณสูตร...สำคัญเป็นอันดับ 2.. หยาบขนาดไหน...ก็คิดดู.. |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 03 มิ.ย. 2017, 06:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: grin น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ ![]() ใช่ครับ...น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ...อย่างยิ่ง... หยาบ...ขนาดที่ไปว่า...อนัตตลักขณสูตร...สำคัญเป็นอันดับ 2.. หยาบขนาดไหน...ก็คิดดู.. ใช่ครับคุณกบน่าสงสารจริงๆ ใช้ชีวิตไปเกือบจะหมดอายุอยู่แล้วยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ไม่รู้ไปรู้มาจากไหนว่า คำสอนมีความสำคัญไปตามลำดับ 1.2. ตกลงผมว่าแกบ้ามากกว่า |
เจ้าของ: | asoka [ 03 มิ.ย. 2017, 20:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
![]() "โง่แล้วยังอวดฉลาด" แถมยังพากันทำปมาทะต่อพระบรมครู พระบรมศาสดาจะเริ่มต้นแสดงธรรมและเผยแพร่ธรรม พระองค์ได้ทรงพิจารณาและจัดลำดับเป็นอย่างดีแล้ว จึ.งทรงเริ่มต้นครั้งแรกด้วยการแสดงขอบเขตหรือ Scop แห่งธรรมด้วย ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมากคนแปลความหมายผิดเพี้ยนไปว่าเป็น กงล้อแห่งธรรม ลำดับที่ 2 ถัดมาพระองค์ได้ทรงแสดงสุดยอดแห่งธรรมคือ อนัตตา หรือ อนัตตลักขณสูตร ซึ่งในภายหลังพระองค์ยังได้ทรงสรุปไว้ว่า "สัพเพธัมมา อนัตตา" = ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็น อนัตตา หลังจากนั้นแล้วธรรมะที่พระองค์แสดงจึงได้เป็นไปตามเหตุ ปัจจัย สิ่งแวดล้อม และกลุ่มบุคคลที่มาฟังธรรม อย่างเช่น อาทิตตปริยายสูตร ที่ทรงแสดงกับชฎิล 3 พี่น้อง มหาสติปัฏฐานสูตรที่ทรงแสดงต่อชาวกุรุ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 04 มิ.ย. 2017, 02:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
asoka เขียน: :b20: "โง่แล้วยังอวดฉลาด" แถมยังพากันทำปมาทะต่อพระบรมครู พระบรมศาสดาจะเริ่มต้นแสดงธรรมและเผยแพร่ธรรม พระองค์ได้ทรงพิจารณาและจัดลำดับเป็นอย่างดีแล้ว จึ.งทรงเริ่มต้นครั้งแรกด้วยการแสดงขอบเขตหรือ Scop แห่งธรรมด้วย ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมากคนแปลความหมายผิดเพี้ยนไปว่าเป็น กงล้อแห่งธรรม ลำดับที่ 2 ถัดมาพระองค์ได้ทรงแสดงสุดยอดแห่งธรรมคือ อนัตตา หรือ อนัตตลักขณสูตร ซึ่งในภายหลังพระองค์ยังได้ทรงสรุปไว้ว่า "สัพเพธัมมา อนัตตา" = ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็น อนัตตา หลังจากนั้นแล้วธรรมะที่พระองค์แสดงจึงได้เป็นไปตามเหตุ ปัจจัย สิ่งแวดล้อม และกลุ่มบุคคลที่มาฟังธรรม อย่างเช่น อาทิตตปริยายสูตร ที่ทรงแสดงกับชฎิล 3 พี่น้อง มหาสติปัฏฐานสูตรที่ทรงแสดงต่อชาวกุรุ ![]() ใช่ครับ.."โง่แล้วอวดฉลาด"..จริงจริง...ที่ไปตัดสินพระธรรมขององค์สมเด็จว่ามีความสำคัญอันดับ 2... ไม่มีใครไปว่าอะไรหรอกครับ..ว่า..อนัตตลักขณสูตร...เป็นบทที่2ที่ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์.. แต่ผมว่าอโศกะ..ที่อโศกะไปว่า..อนัตตลักขณสูตร..สำคัญอันดับ2 รองมาจาก อริยะสัจ 4....ต่างหากครับ... asoka เขียน: ![]() คำพูด ที่ไม่ได้มาจากการพิสูจน์ธรรม พิสูจน์ความจริง ย่อมจะ ฟุ้งเฟ้อ เลื่อนลอย คัดค้านสัจจธรรม และคัดค้านตัวเองด้วย พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเผยพระโอษฐ์แสดงธรรมวันที่ 2 ด้วยเรื่อง อนัตตลักขณสูตร หรือ อนัตตา ถัดมาจากปฐมเทศนาเรื่องอริยสัจ 4 และมรรค 8 แสดงว่าเรื่อง อนัตตานี้มีความสำคัญมากเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากอริยสัจ 4 ความข้อนี้ผู้มีจิตและสติปัญญาอันหยาบจะมองไม่เห็น จึงพลาดสิ่งดีๆที่ง่ายและสำคัญ ไปค้นหาธรรมในที่ๆมิใช่ธรรม ถลำลึกลงไปในบัญญัติ ปริยัติ จนมิอาจถอนตัว พุทธดำรัสที่ว่า "สัพเพธัมมา อนัตตา" นี่เป็นสุดยอดแห่งธรรมที่พระบรมศาสดาทรงสรุปไว้เลยทีเดียว สัตว์โลกทั้งหลายเอ๋ย ![]() พอสติมา...อโศกะจะมาเบี่ยงเบนไปเป็น...ลำดับที่ 2...แล้วมาโยนบาปใส่คนอื่นว่า...ปรามาสบรมครู....อีกด้วย..นี้....ร้ายกาจจริงจริง... นิสัยเสีย..นะเนี้ย.. |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 04 มิ.ย. 2017, 06:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
นี่แหละโง่แท้ อโสกะ ที่อโสกะเรียงลำดับมาน่ะใช่ แต่ความเข้าใจผิดไปไกลเลย ปัญญาของเจ้ามีแค่หางอึ่งเอง พระพุทธเจ้าก่อนที่จะไปโปรดท่านใด ท่านใช้พระญานตรวจก่อนว่า บุคคลเช่นจะสำเร็จด้วยธรรมเช่นใด เหมาะสมกับใคร เช่น ไปโปรด พระยสะ ทำไมจึงแสดงอนุปพิกถาล่ะ แสดงให้เห็นว่าไม่เรียงความสำคัญ 1.2. ใช่ไหมล่ะ คนโง่นี่จะคิดเรื่องฉลาดไม่เป็น คิดได้แค่เรื่องโง่ๆ เรียกว่าโง่แท้ |
เจ้าของ: | asoka [ 04 มิ.ย. 2017, 10:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
![]() ![]() น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ "กัมมุนาวัตติโลโก" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด ![]() |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 05 มิ.ย. 2017, 11:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
asoka เขียน: :b3: ![]() น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ "กัมมุนาวัตติโลโก" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด ![]() มันเป็นกรรมของสัตว์ที่สะสมทิฏฐิมานานแก้ได้ยาก สัตว์น้ำเห็นน้ำเป็นที่พึ่งเป็นที่ปลอดภัย สัตว์ป่าเห็นป่าเป็นที่ปลอดภัย เจริญเถอะอโสกะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 05 มิ.ย. 2017, 13:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำตอบด้วยครับ |
asoka เขียน: :b3: ![]() น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ "กัมมุนาวัตติโลโก" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด ![]() ใครคับที่ไม่เห็นความสำคัญของอนัตตา... นี้..ผมเถียงอโศกะนะครับ..ที่อโศกะจัดอนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากอริยะสัจ 4...ก็เพราะเห็นว่าสำคัญนี้แหละถึงได้มาเถียงอโศกะอยู่นี้... ตัวอโศกะเองต่างหากที่ไปจัดลำดับว่า..อนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากอริยะสัจ...4 พอผมมาเถียง...ว่าอโศกะคิดผิดแล้ว... แล้วอโศกะยังมายัดข้อหากระผมว่า.. ... น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา ...... ตลก....บริโภค...ไปรึเปล่า.. ใครไปจัด..อนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2...ละ..มิใช่อโศกะดอกหรือ? งง...กับชีวิต..จริงเลย 555... |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |