วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 10:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2017, 09:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็ได้ต้นเหตุแห่งบุญได้ทุกเรื่อง ถ้ายึดถือในชอบ ชัง เฉย รู้ไม่ทัน จะคิดหนอๆ ก็เป็นบาป เดือดร้อนได้ทุกเรื่องเช่นกัน พิสูจน์บุญ พิสูจน์บาปได้ในขณะปัจจุบัน ถึงจะไม่เชื่อก็โดนอยู่
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2017, 12:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2017, 13:21
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความแตกต่าง รู้แล้ววาง หรือ รู้แล้วยึด เป็นความยึดมั่น มานะไม่รู้ตัว ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2017, 15:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำยังงัยจะรู้ทันครับ รู้แล้วทำยังงัยต่อ s007

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2017, 19:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สังเกตด้วยดีย่อมเกิดปัญญา ปัญญาย่อมเกิดจากการประกอบ ใส่ใจรู้ทันต้นเหตุสิ่งนั้นก็ดับ เหมือนกับลมหายใจ กำหนดรู้ทันก็ดับ ถ้ายึดถือก็ไม่ดับ ผู้รู้ทันว่ามีกิเลส พระองค์ทรงตรัสว่าดี แต่ถ้ารู้ไม่ทันว่าตนไม่มีกิเลสอย่างนี้จัดว่าเลว
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2017, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สังเกตด้วยดีย่อมเกิดปัญญา ปัญญาย่อมเกิดจากการประกอบ ใส่ใจรู้ทันต้นเหตุสิ่งนั้นก็ดับ เหมือนกับลมหายใจ กำหนดรู้ทันก็ดับ ถ้ายึดถือก็ไม่ดับ ผู้รู้ทันว่ามีกิเลส พระองค์ทรงตรัสว่าดี แต่ถ้ารู้ไม่ทันว่าตนไม่มีกิเลสอย่างนี้จัดว่าเลว
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


muisun เขียน:
เหมือนกับลมหายใจ กำหนดรู้ทันก็ดับ ถ้ายึดถือก็ไม่ดับ


ข้อความอันนี้ผมเห็นว่าการเกิดดับนั้นเป็นธรรมดา ไม่ว่ารู้ทันหรือไม่ก็ย่อมเกิดดับเช่นนั้น แต่การรู้ทันทำให้การสืบต่อการปรุงแห่งจิตดับไป ไม่เกิดภพชาติปรุงแต่งต่อตรงนี้

อายตนะภายนอกมีธรรมชาติแห่งการเป็นไป แต่อายตนะภายใน คือการตัดกระแสที่เรารู้และละได้

(เป็นความเห็นส่วนตัว)สาธุ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2017, 17:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเชื่อมต่ออายตนะภายในและภายนอก เป็นหน้าที่ของธรรมชาติแห่งการสืบต่อ เรียกว่า ในเมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ก็มี ในเมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ ถ้ารู้ทันสิ่งนั้นก็ดับ ถ้ายึดถือสิ่งนั้นก็สืบเนื่อง เปรียบเสมือนกำไม้ลวก 6 กำ ตั้งพิงกันอยู่ ถ้าชักกำใดกำหนึ่งออก อีก 5 กำก็จะล้มทันที เพราะฉะนั้น รู้ทันอายตนะใดเพียงอายตนะเดียว ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ดับไปทันที เพราะตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริงจะทำงานได้เพียงหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อตาเห็นรูป หูจะไม่ได้ยินเสียง ในเมื่อใจนึกคิด อีก 5 อายตนะก็ดับเช่นกัน เรียกว่าความเกิดดับที่เป็นธรรมชาติอันนี้แหละที่กำลังรอการตรัสรู้ด้วยญาณและปัญญา เรียกว่า รู้ทันซึ่งเหนือธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มาก็เพียงเพื่อให้รู้ทันต้นเหตุ เกิด ดับ คุณ โทษ และทางออก เท่านั้นเอง ปกติวิญญาณเก่าดับไป วิญญาณใหม่เกิดขึ้น แต่ถ้ารู้ทันต้นเหตุแห่งปัจจุบันได้ไม่ก่อนไม่หลัง อาการสืบต่อแห่งสันสตินั้นจะขาดสะบั้นทันที ตัดวงกลมแห่งเกิด แก่ เจ็บ ตาย เรียกว่า ดับสังขาร คือ การปรุงแต่งทั้งมวลได้ สมกับพระพุทธพจน์บทหนึ่งที่ทรงตรัสว่า มหาภูตรูป คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ดับเกลี้ยงไม่เหลือหรอ เพราะวิญญาณดับ ถ้ารู้ทันวิญญาณเขาก็ดับ ถ้ารู้ไม่ทันวิญญาณเขาก็เกิด เรียกว่า ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ดังนี้แล :b41:

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2017, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
การเชื่อมต่ออายตนะภายในและภายนอก เป็นหน้าที่ของธรรมชาติแห่งการสืบต่อ เรียกว่า ในเมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ก็มี ในเมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ ถ้ารู้ทันสิ่งนั้นก็ดับ ถ้ายึดถือสิ่งนั้นก็สืบเนื่อง เปรียบเสมือนกำไม้ลวก 6 กำ ตั้งพิงกันอยู่ ถ้าชักกำใดกำหนึ่งออก อีก 5 กำก็จะล้มทันที เพราะฉะนั้น รู้ทันอายตนะใดเพียงอายตนะเดียว ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ดับไปทันที เพราะตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริงจะทำงานได้เพียงหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อตาเห็นรูป หูจะไม่ได้ยินเสียง ในเมื่อใจนึกคิด อีก 5 อายตนะก็ดับเช่นกัน เรียกว่าความเกิดดับที่เป็นธรรมชาติอันนี้แหละที่กำลังรอการตรัสรู้ด้วยญาณและปัญญา เรียกว่า รู้ทันซึ่งเหนือธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มาก็เพียงเพื่อให้รู้ทันต้นเหตุ เกิด ดับ คุณ โทษ และทางออก เท่านั้นเอง ปกติวิญญาณเก่าดับไป วิญญาณใหม่เกิดขึ้น แต่ถ้ารู้ทันต้นเหตุแห่งปัจจุบันได้ไม่ก่อนไม่หลัง อาการสืบต่อแห่งสันสตินั้นจะขาดสะบั้นทันที ตัดวงกลมแห่งเกิด แก่ เจ็บ ตาย เรียกว่า ดับสังขาร คือ การปรุงแต่งทั้งมวลได้ สมกับพระพุทธพจน์บทหนึ่งที่ทรงตรัสว่า มหาภูตรูป คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ดับเกลี้ยงไม่เหลือหรอ เพราะวิญญาณดับ ถ้ารู้ทันวิญญาณเขาก็ดับ ถ้ารู้ไม่ทันวิญญาณเขาก็เกิด เรียกว่า ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ดังนี้แล :b41:

จากสายสืบนิสัยศาสตร์

smiley Kiss

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2017, 00:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
แค่รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็ได้ต้นเหตุแห่งบุญได้ทุกเรื่อง ถ้ายึดถือในชอบ ชัง เฉย รู้ไม่ทัน จะคิดหนอๆ ก็เป็นบาป เดือดร้อนได้ทุกเรื่องเช่นกัน พิสูจน์บุญ พิสูจน์บาปได้ในขณะปัจจุบัน ถึงจะไม่เชื่อก็โดนอยู่
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


บาปในปัจจุบัน ทำอะไรแล้วเดือดร้อนใจภายหลัง
หนักๆเข้า คิดเสียใจฆ่าตนเองตายตามไปซะงั้นก็เยอะ

ศีล จึงเป็นต้นเหตุแห่งบุญ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2017, 06:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
แค่รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็ได้ต้นเหตุแห่งบุญได้ทุกเรื่อง ถ้ายึดถือในชอบ ชัง เฉย รู้ไม่ทัน จะคิดหนอๆ ก็เป็นบาป เดือดร้อนได้ทุกเรื่องเช่นกัน พิสูจน์บุญ พิสูจน์บาปได้ในขณะปัจจุบัน ถึงจะไม่เชื่อก็โดนอยู่
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


มีบุญอะไรสักอย่างมั้ยที่คณมุ้ยซัน..ประทับใจ..คิดถึงเมื่อไรก็ปิติ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2017, 08:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สังเกตด้วยดีย่อมเกิดปัญญา ปัญญาย่อมเกิดจากการประกอบ ใส่ใจรู้ทันต้นเหตุสิ่งนั้นก็ดับ เหมือนกับลมหายใจ กำหนดรู้ทันก็ดับ ถ้ายึดถือก็ไม่ดับ ผู้รู้ทันว่ามีกิเลส พระองค์ทรงตรัสว่าดี แต่ถ้ารู้ไม่ทันว่าตนไม่มีกิเลสอย่างนี้จัดว่าเลว
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


คุณ มั่ว พยายามยกว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าถึงสองครั้ง
พระองค์ตรัสตรงไหน หาหลักฐานมาให้ดูหน่อย อย่าอ้างลอยๆ
มโนเอาเอง มันบาป คนที่โง่กว่าเขาจะเชื่อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2017, 03:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใส่ใจให้เห็นต้นเหตุย่อมเกิดปิติทันที
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2017, 11:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองหลับตาแล้วนึกถึงหัวแม่มือข้างใดก็ได้ แล้วขยับทีละนิดๆ ให้เห็นด้วยใจ ดูต้น กลาง สุด ขยับเหมือนไม่ได้ขยับ เป็นการฝึกการใส่ใจให้ถึงต้นเหตุแรกเกิดเพียงหนึ่งเดียว อย่าห่วงเรื่องอื่นจะเห็นปัจจุบันที่เกิดดับเล็กกว่าปลายเข็มแล้วจะได้ปราโมทย์ ปิติ สุข สงบ ตั้งมั่น เบื่อหน่าย คลายความยึดถือ จึงหลุดพ้นด้วยความรู้ทัน ขยับหนอๆ จะดับได้ทั้งรูปทั้งนามพอดีกัน หมดความสงสัยได้ดวงตาเห็นธรรมโดยที่ไม่ต้องถามใคร
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2017, 13:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss Kiss Kiss แต่ปีติ เป็นสังขารนิครับ

แล้วเมื่อ จะได้ปราโมทย์ ปิติ สุข สงบ ตั้งมั่น เบื่อหน่าย คลายความยึดถือ จึงหลุดพ้นด้วยความรู้ทัน หลุดพ้นจากอะไร เพื่ออะไร :b10:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2017, 17:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลุดพ้นจากชอบ ชัง เฉย เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นทาสแห่งความชั่ว ยึดถือ เดือดร้อน ทั้งปวง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร