ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การฝึกธรรมะในชีวิตประจำวัน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54618
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  student [ 03 ต.ค. 2017, 03:52 ]
หัวข้อกระทู้:  การฝึกธรรมะในชีวิตประจำวัน

การใช้ธรรมะในชีวิตประจำวันแบบฝึกฝน
มีความหมายถึง ฝึกตน
การมองถึงความหมายว่าฝึก คงจะนึกถึงการกำหนดรู้สภาวะย่างหนอหยิบหนอมีสติระลึกถึงอริยาบทเป็นส่วนใหญ่ แต่ธรรมะจะต้องลงกันสมกันกับอารมณ์ด้วย
คือการฝึกอารมณ์ให้เป็นคนหนักแน่น มีขันติ มีการประพฤติตนอย่างเหมาะสมกับสภาวะ
เช่น เมื่อเมื่อคนพูดขำขัน จู่ๆใจเรานึกอยากจะพูดแก้ให้เกิดความสนุกครึกครื้น ตามอารมณ์ไปแล้วมันก็ไม่เห็นเสียหายอะไร ไม่น่าจะผิดอะไร แต่หากเรากำลังฝึกธรรมะอยู่ เราต้องนึกถึงข้อปฎิบัติที่อยู่ในกระแสธรรมเสมอ อย่าง เราเจตนาจะพูด ต้องเป็นไปเพื่อให้เห็นภัย หรือโทษของการพูดส่อเสียด และระลึกถึง สิ่งที่เป็นทางแห่งธรรมะ มีสาระในข้อความ เมื่อผู้ฟังได้ฟังเพื่อคิดตามในทางที่เป็นประโยชน์ ทั้งด้านความเห็น(ทิฏฐิ)หรือด้านศีลธรรม เป็นต้น

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 ต.ค. 2017, 04:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การฝึกธรรมะในชีวิตประจำวัน

อย่างการพูดขำขันในวงสนทนา...

ก่อนจะพูด....สติจะต้องรู้นะว่า..ที่พูดออกไปนั้นนะ..พูดออกจากฐานใจอะไร?..

ออกจากฐานใจส่อเสียด...นี้ก็ให้รู้..เมื่อมีศีลเป็นปกติ.จิตจะนึกรังเกียจขึ้นมาทันที..ก็ปรับฐานการพูดนั้นใหม่

หากออกจากฐานใจที่อยากให้คนอื่นมองเราเป็นพวกเดียวกัน..นี้ก็เป็นประเภทอยากหาพวก..อยากหาคำชมคำสรรเสริญ...นี้ก็ให้รู้..เมื่อสติรู้..การที่เราใฝ่หาความใจบริสุทธ์..ก็ให้นึกรังเกียจการปรารถณา..ลาภ..ยศ...สรรเสริญ..ของจิตนั้นเสีย..ปรับฐานการพูดใหม่ก่อนจะพูดออกไป..

อย่างนี้เป็นต้น..

เมื่อทำอย่างนี้..มีสติรู้ฐานการพูดนั้นๆด้วยสติ..อย่างนี้...ปรับฐานใจของการพูดใหม่...แม้จะพูดดูขำขันเหมือนเดิม...แต่ก็ไม่ผิดศีล...ไม่เป็นการหาพวกหาลาภ..หาสรรเสริญ...อันผู้ใฝ่หาใจบริสุทธิ์พึงละพึงรังเกียจ..

เจ้าของ:  student [ 03 ต.ค. 2017, 12:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การฝึกธรรมะในชีวิตประจำวัน

กบนอกกะลา เขียน:
อย่างการพูดขำขันในวงสนทนา...

ก่อนจะพูด....สติจะต้องรู้นะว่า..ที่พูดออกไปนั้นนะ..พูดออกจากฐานใจอะไร?..

ออกจากฐานใจส่อเสียด...นี้ก็ให้รู้..เมื่อมีศีลเป็นปกติ.จิตจะนึกรังเกียจขึ้นมาทันที..ก็ปรับฐานการพูดนั้นใหม่

หากออกจากฐานใจที่อยากให้คนอื่นมองเราเป็นพวกเดียวกัน..นี้ก็เป็นประเภทอยากหาพวก..อยากหาคำชมคำสรรเสริญ...นี้ก็ให้รู้..เมื่อสติรู้..การที่เราใฝ่หาความใจบริสุทธ์..ก็ให้นึกรังเกียจการปรารถณา..ลาภ..ยศ...สรรเสริญ..ของจิตนั้นเสีย..ปรับฐานการพูดใหม่ก่อนจะพูดออกไป..

อย่างนี้เป็นต้น..

เมื่อทำอย่างนี้..มีสติรู้ฐานการพูดนั้นๆด้วยสติ..อย่างนี้...ปรับฐานใจของการพูดใหม่...แม้จะพูดดูขำขันเหมือนเดิม...แต่ก็ไม่ผิดศีล...ไม่เป็นการหาพวกหาลาภ..หาสรรเสริญ...อันผู้ใฝ่หาใจบริสุทธิ์พึงละพึงรังเกียจ..

กรณีที่คุณกบยกตัวอย่าง คือกรณีที่ผู้ปฎิบัตินั้น มีความเป็นสัตบุรุษอยู่แล้ว อุปมาเหมือนสุนัขจิ้งจอก ระมัดระวังภัยอยู่ตลอดเวลา อนุโมทนาครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/