วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2017, 05:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นที่กบนอกกะลาลง

รูปภาพ

ไว้ที่นี่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54803

คิดไว้แต่ยังไม่มีจังหวะ พอดีกบกล่าวพาดพิงที่นั่น จึงตั้ง กท.โดยเฉพาะเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2017, 06:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

ในสังคมที่มากด้วยการสังหารผลาญชีวิต การปองร้าย การทำร้ายกัน การลักขโมย ปล้นแย่งชิง การทำความผิดทางเพศ มีคดีฆาตกรรม โจรกรรมการ ข่มขืน หลอกลวง การเสพของมึนเมา และสิ่งเสพติด ตลอดจนการก่อปัญหา และอุบัติเหตุต่างๆ เนื่องมาจากของมึนเมา และสิ่งเสพติดเหล่านั้นระบาดแพร่หลายทั่วไป
ชีวิตและทรัพย์สินไม่ปลอดภัย จะอยู่ไหนหรือไปที่ไหน ก็ไม่มีความมั่นใจ เต็มไปด้วยความห่วงใย วิตกกังวล จิตใจหวาดผวาบ่อย ๆ

ผู้คนพบเห็นกัน แทนที่จะอบอุ่นใจ ก็หวาดระแวงกันอยู่กันไม่เป็นปกติสุข

สุขภาพจิตของประชาชน ย่อมเสื่อมโทรม ยากที่จะพัฒนาคุณภาพ และสมรรถภาพของจิต

ในเวลาเดียวกัน สังคมเช่นนั้น ก็ไม่เป็นสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลสำหรับการสร้างสรรค์สิ่งดีงาม และการพัฒนาใดๆ เพราะมัววุ่นวายระส่ำระสาย ยุ่งแต่กับการแก้ปัญหา และมีแต่กิจกรรมที่บ่อนทำลายสังคมให้เสื่อมโทรมลงไป

โดยนัยนี้ การขาดศีล ๕ จะเนื่องมาจากเหตุใดก็ตาม จึงเป็นมาตรฐานวัดความเสื่อมโทรมของสังคม

ส่วนสภาพพฤติกรรม และการดำเนินชีวิตที่ตรงข้ามจากนี้นั่นแหละ คือ การมีศีล ๕

ดังนั้น ศีล ๕ จึงเป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่ำที่สุดของความประพฤติมนุษย์ สำหรับรักษาสภาพแวดล้อมทางสังคม ให้อยู่ในภาวะเกื้อกูล เป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่ดีงาม และการพัฒนาที่สูงขึ้นไป

............

บทความนี้ท่านอธิบายไว้ที่นี่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54796 ชัด

แต่ศาสนิกชนจำนวนหนึ่งคิดเหมือนๆกบนอกกะลาคือถือศีลแล้วจะมีคนเอารถมาให้ ได้แต่งเมีย จะได้นั่นได้นี่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตหลักศีล ๕ (สิกขาบท ๕ ข้อ) ตามลำดับ



๑.ปาณาติปาต = ทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป (ฆ่าสัตว์)

๒.อทินนาทาน = (ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ (ลักทรัพย์)

๓.กาเมสุมิฉาจาร = ประพฤติผิดในกาม

๔.มุสาวาท = พูดเท็จ

๕.สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน = ดื่มเครื่องดองของเมาคือสุราเมรัยซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท


๑. ปาณาติปาตา เวรมณี - เว้นจากการทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป

๒. อทินนาทานา เวรมณี - เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้

๓.กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี - เว้นจากการประพฤติผิดในกาม

๔. มุสาวาทา เวรมณี - เว้นจากการพูดเท็จ

๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี - เว้นจากการดื่มสิ่งมึนเมาคือสุราเมรัยซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งประมาท


๑.ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ - ข้าพเจ้าสมาทาน ซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป

๒. อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ - ข้าพเจ้าสมาทาน ซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้

๓.กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ - ข้าพเจ้าสมาทาน ซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม

๔. มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ - ข้าพเจ้าสมาทาน ซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ

๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ - ข้าพเจ้าสมาทาน ซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสิ่งมึนเมาคือสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งประมาท



สมาทาน การถือเอารับเอาเป็นข้อปฏิบัติ, การถือปฏิบัติ เช่น สมาทานศีล คือรับเอาศีลมาปฏิบัติ

วิรัติ ความเว้น, งดเว้น, เจตนาที่งดเว้นจากความชั่ว, วิรัติ ๓ คือ

๑. สัมปัตตวิรัติ - เว้นได้ซึ่งสิ่งที่ประจวบเข้า

๒. สมาทานวิรัติ - เว้นด้วยการสมาทาน

๓.สมุจเฉทวิรัติ - เว้นได้โดยเด็ดขาด


สมาทานวิรัติ การเว้นด้วยการสมาทาน คือ ได้สมาทานศีลไว้ก่อนแล้ว เมื่อประสบเหตุที่จะให้ทำความชั่ว ก็งดเว้นได้ตามทีสมาทานนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 07:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

คำนี้..หากมองผ่านๆ...ไม่คิดอะไรมาก...ก็ไม่ผิดอะไร..เพราะศีล5 เป็นพื้นฐานปกติของมนุษย์เรา

แต่หากมองกันจริงจัง...อาขญากรรมร้ายแรง...แทบจะไม่อยู่ในอำนาจของศีล5 อันเป็นภาวะปกติ...กลับเป็นภาวะของ..โลภ..โกรธ..หลง...ที่รุนแรง

ยกตัวอย่าง..ภาพที่ผมเอามายั่วกักกาย..ดูซิ...ตบตีภรรยาความรุนแรงในครอบครัว...ผิดศีล5ตรงข้อไหน?

กรัชกาย เขียน:
เห็นที่กบนอกกะลาลง

รูปภาพ

ไว้ที่นี่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54803



และนี้ก็อีกตัวอย่าง....คณะกรรมการบอกว่าผิดวินัยร้ายแรง...แล้วมันผิดศีล5 ข้อไหนละ?

อ้างคำพูด:
ซ้ำรอยปู! พ.ต.อ.ทีมพาหนีเผ่นต่างประเทศ
http://www.naewna.com/local/302380

สำหรับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ถูกคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีมติให้มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 78 (1) ประกอบม.79 (6) ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 พบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 08:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

คำนี้..หากมองผ่านๆ...ไม่คิดอะไรมาก...ก็ไม่ผิดอะไร..เพราะศีล5 เป็นพื้นฐานปกติของมนุษย์เรา

แต่หากมองกันจริงจัง...อาขญากรรมร้ายแรง...แทบจะไม่อยู่ในอำนาจของศีล5 อันเป็นภาวะปกติ...กลับเป็นภาวะของ..โลภ..โกรธ..หลง...ที่รุนแรง

ยกตัวอย่าง..ภาพที่ผมเอามายั่วกักกาย..ดูซิ...ตบตีภรรยาความรุนแรงในครอบครัว...ผิดศีล5ตรงข้อไหน?

กรัชกาย เขียน:
เห็นที่กบนอกกะลาลง

รูปภาพ

ไว้ที่นี่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54803



และนี้ก็อีกตัวอย่าง....คณะกรรมการบอกว่าผิดวินัยร้ายแรง...แล้วมันผิดศีล5 ข้อไหนละ?

อ้างคำพูด:
ซ้ำรอยปู! พ.ต.อ.ทีมพาหนีเผ่นต่างประเทศ
http://www.naewna.com/local/302380

สำหรับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ถูกคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีมติให้มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 78 (1) ประกอบม.79 (6) ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 พบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

รูปภาพ



แค่ไหนศีล แค่ไหนวินัย มีจุดร่วมจุดแยกตรงไหน ศึกษาหัวข้อนี้

viewtopic.php?f=1&t=54796

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

คำนี้..หากมองผ่านๆ...ไม่คิดอะไรมาก...ก็ไม่ผิดอะไร..เพราะศีล5 เป็นพื้นฐานปกติของมนุษย์เรา

แต่หากมองกันจริงจัง...อาขญากรรมร้ายแรง...แทบจะไม่อยู่ในอำนาจของศีล5 อันเป็นภาวะปกติ...กลับเป็นภาวะของ..โลภ..โกรธ..หลง...ที่รุนแรง

ยกตัวอย่าง..ภาพที่ผมเอามายั่วกักกาย..ดูซิ...ตบตีภรรยาความรุนแรงในครอบครัว...ผิดศีล5ตรงข้อไหน?



ผิดข้อนี้ (ศีลเพื่อเสริมความดีงามของชีวิต และสังคม)

๓. ก. สามี บำรุงภรรยา ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหลัง โดย
๑) ยกย่องให้เกียรติสมฐานะภรรยา
๒) ไม่ดูหมิ่น
๓) ไม่นอกใจ
๔) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้าน
๕) หาเครื่องแต่งตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส


ข. ภรรยา อนุเคราะห์สามี ดังนี้
๑) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓) ไม่นอกใจ
๔) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๕) ขยันช่างจัดช่างทำเอางานทุกอย่าง

viewtopic.php?f=1&t=54803

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:


และนี้ก็อีกตัวอย่าง....คณะกรรมการบอกว่าผิดวินัยร้ายแรง...แล้วมันผิดศีล5 ข้อไหนละ?

อ้างคำพูด:
ซ้ำรอยปู! พ.ต.อ.ทีมพาหนีเผ่นต่างประเทศ


สำหรับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ถูกคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีมติให้มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 78 (1) ประกอบม.79 (6) ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 พบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว


กรณีนี้ ต้องจับความแต่เริ่มแรกที่ยิ่งลักษณ์หายตัว (จนป่านนี้เงียบกันหมดทุกฝ่าย อิอิ) คือตอนแรก คสช.เป็นตำบลกระสุนว่าเปิดทางให้ชีหนี ... โยนกลองกันใหญ่ เอ็งๆ นั่นๆนี่ๆๆ โน่นๆๆ บทสรุปได้นี่แหละ เรื่องโยนกลองจึงเงียบ สุดท้ายนายหายตัวอีก ยังครับยัง ยังไม่ใช่บทสรุปของละครเรื่องนี้ :b21: ต้องดูตอนท้องฟ้าเปิด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูความหมาย สิกขา, สิกขาบท

สิกขาบท ข้อที่ต้องศึกษา, ข้อศีล, ข้อวินัย, ข้อบัญญัติข้อหนึ่งๆ ในพระวินัยที่ภิกษุพึงศึกษา, ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ศีล ๓๑๑ แต่ละข้อๆ เรียกว่า สิกขาบท เพราะเป็นข้อที่จะต้องศึกษา หรือเป็นบทฝึกฝนอบรมตนของสาธุชน อุบาสก อุบาสิกา สามเณร สามเณรี ภิกษุ และ ภิกษุณี ตามลำดับ


สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตน หรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล, สิกขา ๓ คือ

๑. อธิสีลสิกขา สิกขาคือศีลอันยิ่ง, อธิศีลอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาศีลอย่างสูง

(ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ เป็นศีล, ปฏิโมกขสังวรศีล เป็นอธิศีล แต่ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ที่รักษาด้วยความเข้าใจ ให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิศีล)


๒. อธิจิตตสิกขา สิกขาคือจิตอันยิ่ง, อธิจิตอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้มีสมาธิเป็นต้นอย่างสูง

(กุศลจิตทั้งหลายจนถึงสมาบัติ ๘ เป็นจิต, ฌานสมาบัติที่เป็นบาทแห่งวิปัสสนา เป็นอธิศีล แต่สมาบัติ ๘ นั่นแหละ ถ้าปฏิบัติด้วยความเข้าใจ มุ่งให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิจิต)


๓. อธิปัญญาสิกขา สิกขาคือปัญญาอันยิ่ง, อธิปัญญาอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาปัญญาอย่างสูง

(ความรู้เข้าใจหลักเหตุผลถูกต้องอย่างสามัญ อันเป็นกัมมัสสกตาญาณ คือ ความรู้จักว่าทุกคนเป็นเจ้าของแห่งกรรมของตน เป็นปัญญา, วิปัสสนาปัญญาที่กำหนดรู้ความจริงแห่งไตรลักษณ์ เป็นอธิปัญญา แต่โดยนัยอย่างเพลา กัมมัสสกตาปัญญาที่โยงไปให้มองเห็นทุกข์ที่เนื่องด้วยวัฏฏะ หรือแม้กระทั่งความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ก้าวไปในมรรค ก็เป็นอธิปัญญา)
สิกขา ๓ นี้ นิยมเรียกว่า ไตรสิกขา และเรียกข้อย่อยทั้งสามง่ายๆสั้นๆ ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 18:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุคคลเอื้ออารี สังคมสามัคคี ทุกคนได้ ทุกคนดี มีสุขด้วยกันและทั่วกัน


เรื่องของพระนั้น นอกจากเน้นเรื่องการแบ่งปันลาภแล้ว ในหลักใหญ่ กว้างออกไป ก็เน้นเรื่องความสามัคคี ถือเรื่องสามัคคีนี้เป็นสำคัญ ตรงข้ามกับสังฆเภท คือการทำให้สงฆ์แตกกัน ซึ่งถือเป็นอนันตริยกรรม อันจัดเป็นบาปหนักที่สุด เพราะท่านถือความสามัคคีของหมู่ชนเป็นเรื่องสำคัญอันดับ ๑

แม้ในสังคมคฤหัสถ์ พระพุทธเจ้าก็ได้ทรงเน้นให้เห็นความสำคัญของการทำชุมชน และสังคมให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงมีเอกภาพ ด้วยหลักสังคหวัตถุ ๔ นี้

ดังที่ว่า ในบรรดาพระสาวกฝ่ายคฤหัสถ์ที่ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะ ก็มี ๒ ท่านที่เป็นคล้ายอัครสาวก แต่ไม่เรียกว่าอัครสาวก เรียกได้ว่าเป็นอัครอุบาสก คือเป็นอุบาสกเยี่ยมยอดคู่กัน ได้แก่ จิตตคฤหบดี ผู้เป็นเลิศทางธรรมกถึก และอีกท่านหนึ่ง คือ หัตถกาฬวก

หัตถกาฬวกนี้ เป็นเอตทัคคะในทางรวมใจหมู่ชน หมายถึงว่าเก่งในการสร้างความสามัคคี สร้างความเป็นปึกแผ่นของสังคม ด้วยหลักสังคหวัตถุ ๔ คือ เป็นผู้นำที่สามารถใช้ สังคหวัตถุ ๔ ประการ ทำให้หมู่ชนของท่านอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี แน่นแฟ้นมั่นคง พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นตราชูของอุบาสกบริษัท

(ตราชูของอุบาสิกาบริษัท หรืออัครอุบาสิกา ก็มีคู่หนึ่งเหมือนกัน ได้แก่ ขุชชุตรา ซึ่งเป็นเอตทัคคะทางพหูสูต และนันทมารดา ซึ่งเก่งทางฌาน)

ที่นำเรื่องแบบนี้มาเน้นไว้ก็เพราะว่า ดูเหมือนชาวพุทธไทยเรานี้ จะมองพุทธศาสนาในเชิงที่เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลไปเสียแทบหมด ไม่ได้สังเกตว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ถือเรื่องส่วนรวม เรื่องของชุมชน เรื่องของสังคม เป็นสำคัญเพียงใด จะต้องเข้าใจดุลยภาพในเรื่องนี้กันไว้ให้มากสักหน่อย

พูดผ่านๆว่า ในหมู่สงฆ์ท่านเน้นความสามัคคี แล้วในสังคมคฤหัสถ์ท่านเน้นสังคหวัตถุ ก็มีจุดรวมที่สามัคคีเหมือนกัน แต่ของพระพูดเป็นกลางๆ แค่นามธรรมได้
ส่วนของชาวบ้านต้องโยงไปรูปธรรมให้ถึงวัตถุด้วย

เรื่องหมู่ชน ชุมชน สังคมนี้ พระพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่านึกอยู่แค่เรื่องเฉพาะตัว

ที่ว่าเฉพาะตัว ก็หมายความว่า มันเป็นเรื่องของธรรมชาติอย่างนั้น ชีวิตของเราจะพัฒนาได้ ก็ต้องเป็นไปโดยกระบวนการภายในตามธรรมชาติของมัน

แม้แต่ทางร่างกาย กินอาหารเข้าไปแล้ว ต้องย่อยสลายดูดซึมแผ่ไป ใครอื่นก็ช่วยย่อยให้ไม่ได้ ว่ายน้ำไม่เป็น คนอื่นตะโกนบอกให้ ก็ว่ายไม่ได้ เทวดาก็บันดาลไม่ไหว ใจมีทุกข์ คนอื่นรักเราแค่ไหน ก็เอาสุขใส่ให้ไม่ได้ เราไม่เข้าใจ เขาจะเอาปัญญายัดใส่ให้ก็ไม่ได้ เราคูณเลขไม่เป็น เพื่อนจะคิดคูณในหัวเขาส่งมาใส่สมองเรา ก็ไม่ได้

ด้วยเหตุผลที่เป็นเรื่องของธรรมชาติอย่างที่ว่านั้น จึงว่าต้องพึ่งพาตนเอง ต้องฝึกต้องหัดต้องพัฒนาให้เกิดให้มีให้ทำได้ด้วยตนเอง

แต่ถึงอย่างนั้น ท่านก็ยังให้คนอื่นมีใจหวังดีมานำมาหนุนมากระตุ้นมาเร้ามาสื่อ เรียกว่ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ ด้วยวิธีเอาปัจจัยภายนอกมาหนุนนำทำการ

ท่านผู้ฉลาด และมีใจปรารถนาดี ก็คือวิธีเอากระบวนการทางสังคมของมนุษย์ มาเชื่อมต่อกับกระบวนการเหตุปัจจัยของธรรมชาติ พอกระบวนเหตุปัจจัยในตัวเราเริ่มดำเนินไป ก็สมใจปรารถนา

นี่แหละที่ว่าคนอื่นช่วยเราได้ไหม ก็ช่วยได้ ช่วยโดยเป็นปัจจัยภายนอก เริ่มตั้งแต่มีใจเมตตาปรารถนาดี มีความรัก มีความหวังดี แล้วมาทำหน้าที่ของปัจจัยภายนอกนั้น

ดังเช่น จะให้เรามีปัญญา ก็มาเป็นครูสอนให้ แต่ถ้าเราไม่เรียน ถึงครูจะมาสอน ก็รู้ไม่ได้ ครูเอาปัญญามายัดใส่สมองให้เราได้ไหม ก็บอกว่าไม่ได้ เราก็ต้องเอาปัจจัยภายในของเรามาต่อ

พอเรารู้จักฟัง ตั้งใจฟัง รู้จักพิจารณา มีโยนิโสมนสิการแล้ว สิ่งที่สดับมาเป็นข้อมูล เรียกว่าสุตะ ก็เกิดเป็นปัญญาของเราขึ้นมา ไม่ใช่ครูอาจารย์เอาปัญญามายัดใส่ให้



เคยย้ำบ่อยๆว่า โยมขอศีลพระ พระบอกว่า ฉันให้ไม่ได้หรอกศีล โยมต้องปฏิบัติเอง อ้าวแล้วจะทำอย่างไร

โยมมาขอศีล “มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ” ท่านคะ ท่านขอรับ พวกเรามาขอศีล ๕

พระพูดในใจบอกว่า ฉันให้ไม่ได้หรอกโยม ศีลน่ะ ใครจะไปให้กันได้ล่ะ ศีลนั้นให้กันไม่ได้หรอก ศีลเกิดในตัวจากการปฏิบัติ แล้วจะให้อย่างไรได้ โยมอยากได้ศีลใช่ไหม โยมเอาอันนี้ไปรักษา ไปปฏิบัติ แล้วโยมจะมีศีลเอง ก็บอกสิกขาบทไป

โยมขอศีล พระบอกสิกขาบทให้ ไม่ใช่ให้ แค่บอกให้ คือบอกให้ไปปฏิบัติ โยมก็บอกว่า เอา ตกลง “ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ” ข้าพเจ้าสมาทานรับเอาข้อปฏิบัติ ที่จะงดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง นี่เรียกว่า สิกขาบท คือข้อฝึก ข้อศึกษา

โยมขอศีลแล้ว พระบอกข้อฝึกให้ แล้วโยมไปฝึกปฏิบัติตามนั้น โยมก็มีศีลเอง

โยมขอสมาธิ พระบอกว่า ฉันให้ไม่ได้หรอก สมาธิให้ได้อย่างไร โยมต้องปฏิบัติให้มีขึ้นในตัวของโยมเอง พระให้สมาธิไม่ได้ เอ้า ฉันบอกกรรมฐานให้ คือบอกสิ่งที่จะไปใช้ปฏิบัติ พอโยมรับกรรมฐานไปแล้ว ก็เอาไปใช้ปฏิบัติฝึกตนเอง เพื่อให้เกิดสมาธิขึ้น

โยมขอปัญญา พระก็เหมือนกันอีก บอกว่า ปัญญานั้นฉันให้ไม่ได้หรอก แต่ฉันจะบอกสุตะให้ คือบอกข้อมูล บอกคำสอน แล้วคุณก็ไปพินิจพิจารณาวิจัยไตร่ตรองเอา ก็จะเกิดความรู้ความเข้าใจเป็นปัญญาขึ้นมา อย่างนี้เป็นต้น

โยมขอศีล พระบอกสิกขาบท ให้ไปรักษา
โยมขอสมาธิ พระบอกกรรมฐานให้ไปปฏิบัติ
โยมขอปัญญา พระบอกสุตะให้ไปวิจัย

(พุทธธรรมหน้า ๑๑๒๒)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 15 พ.ย. 2017, 18:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2017, 18:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่างนี้ กบนอกกะลาว่าละเมิดศีลข้อไหน บ้าง?



จับแล้ว 2 หนุ่ม ลวงเพื่อนไปฆ่าหมกสวนปาล์ม

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_634618

เปิดปากรับฆ่าผัว สร้างเรื่องให้พ้นผิด เผยนาทีสังหารสุดเหี้ยม

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_634993


คืนเดียวงัด 4 หลัง ผวา1เดือนเจอ 30 หลัง...

https://www.dailynews.co.th/crime/543537

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2017, 04:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

คำนี้..หากมองผ่านๆ...ไม่คิดอะไรมาก...ก็ไม่ผิดอะไร..เพราะศีล5 เป็นพื้นฐานปกติของมนุษย์เรา

แต่หากมองกันจริงจัง...อาขญากรรมร้ายแรง...แทบจะไม่อยู่ในอำนาจของศีล5 อันเป็นภาวะปกติ...กลับเป็นภาวะของ..โลภ..โกรธ..หลง...ที่รุนแรง

ยกตัวอย่าง..ภาพที่ผมเอามายั่วกักกาย..ดูซิ...ตบตีภรรยาความรุนแรงในครอบครัว...ผิดศีล5ตรงข้อไหน?



ผิดข้อนี้ (ศีลเพื่อเสริมความดีงามของชีวิต และสังคม)

๓. ก. สามี บำรุงภรรยา ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหลัง โดย
๑) ยกย่องให้เกียรติสมฐานะภรรยา
๒) ไม่ดูหมิ่น
๓) ไม่นอกใจ
๔) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้าน
๕) หาเครื่องแต่งตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส


ข. ภรรยา อนุเคราะห์สามี ดังนี้
๑) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓) ไม่นอกใจ
๔) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๕) ขยันช่างจัดช่างทำเอางานทุกอย่าง

viewtopic.php?f=1&t=54803


:b32: :b32: :b32: ..ไปไม่เป็นเลยละซิ..
ไปคว้าอะร่ายมาตอบ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2017, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อาชญากรรมที่ร้ายแรงแทบทั้งหมด เป็นเรื่องของการละเมิดศีล ๕

คำนี้..หากมองผ่านๆ...ไม่คิดอะไรมาก...ก็ไม่ผิดอะไร..เพราะศีล5 เป็นพื้นฐานปกติของมนุษย์เรา

แต่หากมองกันจริงจัง...อาขญากรรมร้ายแรง...แทบจะไม่อยู่ในอำนาจของศีล5 อันเป็นภาวะปกติ...กลับเป็นภาวะของ..โลภ..โกรธ..หลง...ที่รุนแรง

ยกตัวอย่าง..ภาพที่ผมเอามายั่วกักกาย..ดูซิ...ตบตีภรรยาความรุนแรงในครอบครัว...ผิดศีล5ตรงข้อไหน?



ผิดข้อนี้ (ศีลเพื่อเสริมความดีงามของชีวิต และสังคม)

๓. ก. สามี บำรุงภรรยา ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหลัง โดย
๑) ยกย่องให้เกียรติสมฐานะภรรยา
๒) ไม่ดูหมิ่น
๓) ไม่นอกใจ
๔) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้าน
๕) หาเครื่องแต่งตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส


ข. ภรรยา อนุเคราะห์สามี ดังนี้
๑) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓) ไม่นอกใจ
๔) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๕) ขยันช่างจัดช่างทำเอางานทุกอย่าง

viewtopic.php?f=1&t=54803


:b32: :b32: :b32: ..ไปไม่เป็นเลยละซิ..
ไปคว้าอะร่ายมาตอบ....


หาว่าไปคว้าอะไรมา อิอิ ถึงบอกไงว่า ไม่เข้าใจพุทธธรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2017, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไตรสิกขา ถ้าแปลตามรูปศัพท์ และตามแบบแผนแท้ๆ จะได้ความหมาย
ดังนี้
๑. อธิศีลสิกขา - สิกขาคือศีลอันยิ่ง, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมในทางความประพฤติอย่างสูง

๒. อธิจิตตสิกขา - สิกขาคือจิตอันยิ่ง, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมจิตให้เกิดสมาธิอย่างสูง

๓. อธิปัญญาสิกขา - สิกขาคือปัญญาอันยิ่ง, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมปัญญาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งอย่างสูง


บาลีเดิมแสดงคำจำกัดความไตรสิกขาสำหรับพระภิกษุเท่านั้น
คือ
อธิศีลสิกขา = ปาติโมกขสังวรศีล,

อธิจิตตสิกขา = ฌาน ๔,

อธิปัญญาสิกขา = การรู้อริยสัจ บ้าง การประจักษ์แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ที่ไร้อาสวะ บ้าง (องฺ.ติก. 20/529-530/303)


ในสมัยอรรถกถา ท่านนิยมแสดง สิกขา ๓ ในแง่ที่เป็นระดับขั้นต่างๆ ของการละกิเลส
คือ
๑. ศีล - เป็นวีติกกมปหาน (เป็นเครื่องละวีติกกมกิเลส คือกิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย วาจา)

๒. สมาธิ - เป็นปริยุฏฐานปหาน (เป็นเครื่องละปริยุฏฐานกิเลส คือกิเลสอย่างกลาง ที่เร้ารุนอยู่ในจิตใจ ซึ่งบางท่านระบุว่า ได้แก่นิวรณ์ ๕)

๓.ปัญญา - เป็นอนุสยปหาน (เป็นเครื่องละอนุสยกิเลส คือกิเลสอย่างละเอียด ที่แอบแนบนอนคอยอยู่ในสันดาน รอแสดงตัวในเมื่อได้เหตุกระตุ้น ได้แก่ อนุสัย ๗)

นอกจากนี้ ท่านยังได้แสดงในแง่อื่นๆ อีก เช่น ศีลเป็นตทังคหาน

สมาธิเป็นวิกขัมภนปหาน

ปัญญาเป็นสมุจเฉทปหาน

ศีลเป็นเครื่องละทุจริต

สมาธิเป็นเครื่องละตัณหา

ปัญญาเป็นเครื่องละทิฏฐิ ดังนี้เป็นต้น (ดู วินย.1/22 ฯลฯ)


กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหา ความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์,

กิเลส ๑๐ (ในบาลี เดิม เรียกว่ากิเลสวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2017, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปิดบัญชีแค้นสุดโหด! ซุ่มข้างบ้านถล่มยิงขาใหญ่เมืองตรัง

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_636686

โจรแสบ! ขี่จยย.บุกเดี่ยวประกบมีดแทงชิงทรัพย์หนุ่ม

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_636637


ไอ้หื่นอำมหิตลวงสาวขืนใจในโรงแรมร้าง ฟันหัว-มือหวิดขาด

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_636777

ชายเมาสุราสภาพถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เดินถือไม้ยาวเดินออกไปกลางถนน ตำรวจต้องเข้าไปเกลี้ยกล่อมจึงยอมเดินกลับขึ้นมาบนทางเท้า

http://news.ch7.com/detail/207351


กบนอกกะลาว่าละเมิดศีลข้อใดบ้าง เอ้า :b10: :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2017, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา นี่ละเมิดศีล ๕ ข้อไหน ๑-๕ เอ้า :b1: :b32:

https://www.google.com.pk/search?source ... 842DOXoNEk

http://talk.mthai.com/politics/297.html


"ซ่อมสร้างวินัย" แต่ ชาวเน็ตถามทำไมทำลายชีวิต

http://www.bbc.com/thai/thailand-420815 ... w_facebook

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร