วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 34  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คนจนถูกหวยถูกโกง

http://ts1news.com/wordpress3/archives/1092


อะไรเป็นเหตุของความจนครับ



การศึกษาและโอกาส


ยกตัวอย่างครับ
สัตว์ กับมนุษย์ , สัตว์ด้อยโอกาส มนุษย์มีโอกาส แล้วจะเรียกว่าจนได้อย่างไร?

มันเป็นคำถามที่อาจจะกวนๆ ลองพิจารณาดูครับ สร้างสีสัน


อิอิ ขำความคิดคุณจริงๆ ไปเช็คประสาทมั่งนะ


ความคิดแบบนี้ มันลึกไปถึงเชื่อในกรรม ภพนี้ ภพหน้า เหตุผลต่างๆ

ถ้างั้น พุทธเราก็ต้องไปเช็คประสาทหมดสิครับแบบนี้

มีแต่คุณกรัธกาย บอกตัวเองว่า เราปกติดี ประสาทสมบูรณ์สุดอยู่คนเดียวในโลก



ความคิดเรื่องกรรมของคุณออกแนวนิครนถ์ ไม่ใช่พุทธดอก :b32:

ยืนยันว่าคุณควรไปเช็กประสาทแล้วหลังจากนั้นกลับมาปรับเรื่องความคิด ความเห็น (ทิฏฐิ) ใหม่หมดเลย :b35:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คนจนถูกหวยถูกโกง

http://ts1news.com/wordpress3/archives/1092


อะไรเป็นเหตุของความจนครับ



การศึกษาและโอกาส


ยกตัวอย่างครับ
สัตว์ กับมนุษย์ , สัตว์ด้อยโอกาส มนุษย์มีโอกาส แล้วจะเรียกว่าจนได้อย่างไร?

มันเป็นคำถามที่อาจจะกวนๆ ลองพิจารณาดูครับ สร้างสีสัน


อิอิ ขำความคิดคุณจริงๆ ไปเช็คประสาทมั่งนะ


ความคิดแบบนี้ มันลึกไปถึงเชื่อในกรรม ภพนี้ ภพหน้า เหตุผลต่างๆ

ถ้างั้น พุทธเราก็ต้องไปเช็คประสาทหมดสิครับแบบนี้

มีแต่คุณกรัธกาย บอกตัวเองว่า เราปกติดี ประสาทสมบูรณ์สุดอยู่คนเดียวในโลก



ความคิดเรื่องกรรมของคุณออกแนวนิครนถ์ ไม่ใช่พุทธดอก :b32:

ยืนยันว่าคุณควรไปเช็กประสาทแล้วหลังจากนั้นกลับมาปรับเรื่องความคิด ความเห็น (ทิฏฐิ) ใหม่หมดเลย :b35:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต


ไหนคุณลองว่ากรรมของพุทธตามที่คุณคิดคุณเชื่อสิครับ ว่าไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 22:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คนจนถูกหวยถูกโกง

http://ts1news.com/wordpress3/archives/1092


อะไรเป็นเหตุของความจนครับ



การศึกษาและโอกาส


ยกตัวอย่างครับ
สัตว์ กับมนุษย์ , สัตว์ด้อยโอกาส มนุษย์มีโอกาส แล้วจะเรียกว่าจนได้อย่างไร?

มันเป็นคำถามที่อาจจะกวนๆ ลองพิจารณาดูครับ สร้างสีสัน


อิอิ ขำความคิดคุณจริงๆ ไปเช็คประสาทมั่งนะ


ความคิดแบบนี้ มันลึกไปถึงเชื่อในกรรม ภพนี้ ภพหน้า เหตุผลต่างๆ

ถ้างั้น พุทธเราก็ต้องไปเช็คประสาทหมดสิครับแบบนี้

มีแต่คุณกรัธกาย บอกตัวเองว่า เราปกติดี ประสาทสมบูรณ์สุดอยู่คนเดียวในโลก



ความคิดเรื่องกรรมของคุณออกแนวนิครนถ์ ไม่ใช่พุทธดอก :b32:

ยืนยันว่าคุณควรไปเช็กประสาทแล้วหลังจากนั้นกลับมาปรับเรื่องความคิด ความเห็น (ทิฏฐิ) ใหม่หมดเลย :b35:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต


ไหนคุณลองว่ากรรมของพุทธตามที่คุณคิดคุณเชื่อสิครับ ว่าไป


"สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง"

เอาท่อนนี้ไปพิจารณาครับ กรรมในที่นี้แล้วแต่คนจะพิจารณาตามทิฎฐิความเห็นของตน

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต(ทุกข์)ยากจน(ทุกข์)หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้"มรรค"เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 05:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คนจนถูกหวยถูกโกง

http://ts1news.com/wordpress3/archives/1092


อะไรเป็นเหตุของความจนครับ



การศึกษาและโอกาส


ยกตัวอย่างครับ
สัตว์ กับมนุษย์ , สัตว์ด้อยโอกาส มนุษย์มีโอกาส แล้วจะเรียกว่าจนได้อย่างไร?

มันเป็นคำถามที่อาจจะกวนๆ ลองพิจารณาดูครับ สร้างสีสัน


อิอิ ขำความคิดคุณจริงๆ ไปเช็คประสาทมั่งนะ


ความคิดแบบนี้ มันลึกไปถึงเชื่อในกรรม ภพนี้ ภพหน้า เหตุผลต่างๆ

ถ้างั้น พุทธเราก็ต้องไปเช็คประสาทหมดสิครับแบบนี้

มีแต่คุณกรัธกาย บอกตัวเองว่า เราปกติดี ประสาทสมบูรณ์สุดอยู่คนเดียวในโลก



ความคิดเรื่องกรรมของคุณออกแนวนิครนถ์ ไม่ใช่พุทธดอก :b32:

ยืนยันว่าคุณควรไปเช็กประสาทแล้วหลังจากนั้นกลับมาปรับเรื่องความคิด ความเห็น (ทิฏฐิ) ใหม่หมดเลย :b35:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต


ไหนคุณลองว่ากรรมของพุทธตามที่คุณคิดคุณเชื่อสิครับ ว่าไป


"สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง"

เอาท่อนนี้ไปพิจารณาครับ กรรมในที่นี้แล้วแต่คนจะพิจารณาตามทิฎฐิความเห็นของตน

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต(ทุกข์)ยากจน(ทุกข์)หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้"มรรค"เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


ถ้ายังงั้น ร้อยคนก็ร้อยกรรมสิขอรับผม เพราะต่างคนต่างก็คิดกันไปมโนกันไปตามทิฐิ :b32:

ส่วนท่อนหลัง กรัชกายไม่ลอกไม่ดำคุณหรอกขอรับ มโนเอาทั้งเพ

และนี่คือชาวพุทธแห่งประเทศไทย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:



"สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง"

เอาท่อนนี้ไปพิจารณาครับ กรรมในที่นี้แล้วแต่คนจะพิจารณาตามทิฎฐิความเห็นของตน

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต(ทุกข์)ยากจน(ทุกข์)หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้"มรรค"เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


แก้ประเด็นนี้ "สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง" ก่อน เพิ่งเคยได้ยินจากคุณนี่แหละ เคยเห็นได้ยินแต่ "สัตว์โลกหรือโลกเป็นไปตามกรรม"

คือ


ชาวพุทธไทยจำนวนมากเคยได้ยินพุทธพจน์ว่า "กมฺมุนา วตฺตตี โลโก" แปลว่า โลกเป็นไปตามกรรม

บางทีก็ยกมาพูดมาอ้างกัน แต่มักไม่ดูความหมายให้ชัด โลกในพุทธพจน์นี้ ก็คือสังคมมนุษย์ ทีนี้ โลกมนุษย์ หรือสังคมมนุษย์นี้ เป็นไปตามกรรมอย่างไร

พุทธพจน์นี้มาในวาเสฏฐสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักกรรมเพื่อหักล้างระบบวรรณะของพราหมณ์

พราหมณ์มีลัทธิว่า พระพรหมสร้างโลก และจัดสรรทุกอย่างมาเสร็จ สำหรับสังคมมนุษย์ กำหนดให้คนแยกเป็น ๔ วรรณะ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร อย่างที่รู้กัน เกิดมาในวรรณะไหน ก็ต้องอยู่ในวรรณะนั้นจนตาย เปลี่ยนแปลงไม่ได้

พระพุทธเจ้าทรงคัดค้านลัทธิพราหมณ์นั้น โดยตรัสว่า โลกมนุษย์ หรือสังคมมนุษย์นี้ เป็นไปตามกรรม กรรมในที่นี้ ทรงเน้นกรรมที่คนทำเป็นประจำ จนเป็นวิถีชีวิตของคน แล้วก็เป็นวิถีของชุมชน กลุ่มชน นั่นก็คือ กิจการงานอาชีพ (คำว่า กรรม ในภาษาบาลี บ่อยมาก หมายถึง การงานอาชีพ)

ความเป็นไปของมนุษย์ในสังคมอย่างนี้แหละ ที่ตรัสว่า โลกเป็นไปตามกรรม คือโลกไม่ใช่เป็นไปตามที่พระพรหมสร้าง และไม่ใช่ว่ากำหนดมาให้เป็นอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้นตายตัว โลกหรือสังคมนี้ เป็นไปตามกรรม คือ การกระทำ เช่นการงานอาชีพ ที่คนมีเจตจำนงเลือกประกอบหรือจัดทำ

พุทธพจน์ในวาเสฏฐสูตรตรงนี้ ได้ยกมาอ้างบ่อย แต่เป็นการอ้างอิงเพื่ออธิบายในต่างแง่ความหมาย หรือไม่ก็เป็นการเน้นย้ำ ขอนำมาแสดง ณ ที่นี้ด้วย ดังนี้

"ดูกรวาเสฏฐะ ท่านจงรู้อย่างนี้ว่า ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอาศัยโครักขกรรมเลี้ยงชีพ ผู้นั้น เป็นชาวนา มิใช่พราหมณ์....ผู้ใดเลี้ยงชีพด้วยศิลปะต่างๆ ผู้นั้นเป็นศิลปิน...ผู้ใดอาศัยการค้าขายเลี้ยงชีพ ผู้นั้นเป็นพ่อค้า...ผู้ใดเลี้ยงชีพด้วยการรับใช้ผู้อื่น ผู้นั้นเป็นคนรับใช้...ผู้ใดอาศัยการลักทรัพย์เลี้ยงชีพ ผู้นั้นเป็นโจร...ผู้ใดอาศัยศรและศัสตราเลี้ยงชีพ ผู้นั้นเป็นทหารอาชีพ... ผู้ใดเลี้ยงชีพด้วยหน้าที่ปุโรหิต ผู้นั้นเป็นเจ้าหน้าที่การบูชา หาใช่พราหมณ์ไม่...ผู้ใดปกครองบ้านเมือง ผู้นั้นเป็นราชา หาใช่พราหมณ์ไม่ ฯลฯ เราเรียกคนที่ไม่มีกิเลสค้างใจ ไม่มีความถือมั่น ว่าเป็นพราหมณ์...

"คนมิใช่เป็นพราหมณ์เพราะชาติกำเนิด แต่เป็นพราหมณ์เพราะกรรม ไม่เป็นพราหมณ์ก็เพราะกรรม เป็นชาวนาก็เพราะกรรม (การงาน อาชีพ ความประพฤติ การดำเนินชีวิต) เป็นศิลปิน เป็นพ่อค้า เป็นคนรับใช้ เป็นโจร เป็นทหาร เป็นปุโรหิต และแม้แต่เป็นราชา ก็เพราะกรรม บัณฑิตทั้งหลายผู้เห็นปฏิจจสมุปบาท ฉลาดในกรรมและวิบาก ย่อมมองกรรมตามเป็นจริงอย่างนี้ โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่ประชาย่อมเป็นไปเพราะกรรม.." * (ม.ม.13/707/643-9)

เป็นอันว่า ตามหลักพุทธธรรม สังคมปรากฏตัวและเป็นไปตามกรรม คือ การงานกิจการอาชีพที่คนทำ และวิถีชีวิตที่ดำเนินไปตามนั้น ไม่ใช่เป็นวรรณะตามชาติกำเนิด อย่างที่พราหมณ์บอกว่าพระพรหมกำหนดจัดสรรบันดาลมา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต



(ตัดให้ดูเฉพาะข้อที่ว่าเป็นลัทธินิครนถ์ และเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละ จึงเป็นนิครนถ์โดยไม่รู้ตัว)

ลัทธิมิจฉาทิฏฐิ เกี่ยวกับสุขทุกข์ และความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์อยู่ ๓ ลัทธิ
ได้แก่


๑. ปุพเพกตเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า (past-action) เรียกสั้นๆว่า ปุพเพกตวาท


(เมื่อนิครนถ์คิดยังงั้นแล้ว พระพุทธเจ้าจึง) ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์ ๓ พวกนั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๑) แล้ว

ถามว่า “ทราบว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้...จริงหรือ ?”

ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้ว รับว่าจริง เราก็กล่าวกะเขาว่า

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จักต้องเป็นผู้ทำปาณาติบาต เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ทำอทินนาทาน เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ประพฤติอพรหมจรรย์...
.เป็นผู้กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ
ฉันทะก็ดี
ความพยายามก็ดี ว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่มี

เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำ และสิ่งไม่ที่ควรทำ โดยจริงจังมั่นคง ดังนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ ก็เท่ากับอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้ นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ ผู้มีวาทะ มีทิฐิ อย่างนี้” * (องฺ.ติก.20/501/222)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต (ทุกข์) ยากจน (ทุกข์) หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้ "มรรค" เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


ความคิดคุณท่อนนั่น เข้ากับบทความนี้

นับว่าเป็นเรื่องแปลก และน่าใจหาย ที่คนสมัยนี้กลับไม่เข้าใจว่า พระไตรปิฎกคืออะไร ทำไมต้องรักษาพระไตรปิฎก ทำไมต้องเอาพระไตรปิฎกมาเป็นมาตรฐาน หรือเป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่า อะไรเป็นธรรมวินัย อะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
หากปราศจากความเข้าใจพื้นฐานเช่นนี้เสียแล้ว บางคนก็อาจไปไกลถึงขนาดที่ทึกทักเอาผิดๆว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอย่างไรก็ได้


คุณมโนไปเรื่อยจับศัพท์นั่นมาผูกโยงกับศัพท์นี้เละเทะเป็นเต้าหู้ตกตึก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต (ทุกข์) ยากจน (ทุกข์) หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้ "มรรค" เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


ความคิดคุณท่อนนั่น เข้ากับบทความนี้

นับว่าเป็นเรื่องแปลก และน่าใจหาย ที่คนสมัยนี้กลับไม่เข้าใจว่า พระไตรปิฎกคืออะไร ทำไมต้องรักษาพระไตรปิฎก ทำไมต้องเอาพระไตรปิฎกมาเป็นมาตรฐาน หรือเป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่า อะไรเป็นธรรมวินัย อะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
หากปราศจากความเข้าใจพื้นฐานเช่นนี้เสียแล้ว บางคนก็อาจไปไกลถึงขนาดที่ทึกทักเอาผิดๆว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอย่างไรก็ได้


คุณมโนไปเรื่อยจับศัพท์นั่นมาผูกโยงกับศัพท์นี้เละเทะเป็นเต้าหู้ตกตึก :b1:


สนทนากับคุณกรัธกายต้องคุยกันยาว
ไม่ใช่อะไร มีคำถามจะถามคุณกรัธกายเยอะ เอาที่เห็นข้อความข้างบนก่อน
"นับว่าเป็นเรื่องแปลกและใจหาย คนสมัยนี้กลับไม่เข้าใจว่า พระไตรปิฎกคืออะไร ทำไมต้องรักษาทำไมต้องเอาพระไตรปิฎกมาเป็นมาตรฐาน หรือเป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่า อะไรเป็นธรรมวินัย อะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
หากปราศจากความเข้าใจพื้นฐานเช่นนี้เสียแล้ว [color=#FF0000]บางคนก็อาจไปไกลถึงขนาดที่ทึกทักเอาผิดๆว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอย่างไรก็ได้"

ไม่ทราบว่า ใครเป็นคนพูดครับ? ใครเป็นคนรับรองคำพูดนี้?
เป็นสาวกในพุทธศาสนาเหมือนกัน ไม่ทราบว่า เอาคำๆนี้มาใช้เคยคิดไหมครับว่าพระพุทธเจ้าทราบแล้วจะรับรองคำพูดนี้ให้เป็นมาตรฐานใช้กับคนในศาสนาพุทธเหรอครับ? คิดสิคิด?

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต



(ตัดให้ดูเฉพาะข้อที่ว่าเป็นลัทธินิครนถ์ และเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละ จึงเป็นนิครนถ์โดยไม่รู้ตัว)

ลัทธิมิจฉาทิฏฐิ เกี่ยวกับสุขทุกข์ และความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์อยู่ ๓ ลัทธิ
ได้แก่


๑. ปุพเพกตเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า (past-action) เรียกสั้นๆว่า ปุพเพกตวาท


(เมื่อนิครนถ์คิดยังงั้นแล้ว พระพุทธเจ้าจึง) ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์ ๓ พวกนั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๑) แล้ว

ถามว่า “ทราบว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้...จริงหรือ ?”

ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้ว รับว่าจริง เราก็กล่าวกะเขาว่า

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จักต้องเป็นผู้ทำปาณาติบาต เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ทำอทินนาทาน เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ประพฤติอพรหมจรรย์...
.เป็นผู้กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ
ฉันทะก็ดี
ความพยายามก็ดี ว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่มี

เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำ และสิ่งไม่ที่ควรทำ โดยจริงจังมั่นคง ดังนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ ก็เท่ากับอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้ นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ ผู้มีวาทะ มีทิฐิ อย่างนี้” * (องฺ.ติก.20/501/222)


แล้วผมเป็นลัทธิเหมือน นิครนถ์ ตรงไหน? ผมก็บอกอย่างพุทธบริษัท4ศึกษาอยู่แล้วชัดๆว่า ต้องปฎิบัติตามหลักโพธิปักขิยธรรมเพื่อปรับความเห็นและทิฏฐิ ไม่ได้ปิดตนเองให้หลงไปกับกรรม

ผมว่าคุณกรัธกายต้องหัดให้เป็นคนอ่านช้าๆ ให้ครับทุกตัวอักษรนะครับ จะได้ไม่ตกหล่น

ผมจะบอกคุณกรัธกายตรงๆ ผมไม่ได้แต่งหนังสือธรรมะให้คนอ่าน ไม่เคยลงนิตยสารใดๆ ผมก็ไม่คิดว่า ผมพิจารณาธรรมกดดูถูกใครก็แล้วกันครับ และผมก็ไม่ได้คิดว่านักแต่งหนังสือคนไหนๆ จะมีธรรมที่แตกฉานไปกว่าคุณลุงคุณป้า หรือตายายที่เข้าวัดฟังธรรมครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัธกาย มักนำข้อเขียนและสาระธรรมจากแหล่งอื่นเอามาลง

อันนี้เป็นสิ่งที่ดี

แต่!

ในสาระแง่ธรรมที่คนเขียนขึ้น มักสอดแทรกเอาการดูหมิ่นชาวพุทธอยู่ลึกๆ และแสดงออกมาเป็นข้อความเช่นตัวอย่างข้างบน ที่ผมแย้งไปว่า ใครรับรองข้อความนี้

คุณกรัธกายกลับไปติดใจกับข้อความอย่างนี้ ยังไม่พอ เอามาลงเมื่อมีการ สนทนาทางธรรมในหมู่ลานที่เป็นกลุ่มเล็ก โดยที่ผู้สนทนาจะให้คำตอบในแง่มุมใด ก็ปิดหูปิดตาตนเอง กลับไปค้นคว้าเอาคำพูดของนักแต่งหนังสือมาลงแย้งความเห็นเขา คุณกรัธกายลงพิจารณาดู ว่า ทำไม! แต่งหนังสือแล้ว ต้องไม่วายวางข้อความต่อว่าชาวพุทธกันเองด้วย อย่างนี้คุณกรัธกายก็ไม่วายถือเป็นเรื่องที่ประเสริฐเลิศล้ำ จดจำนำเอาไปใช้ในที่ต่างๆ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 18:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต (ทุกข์) ยากจน (ทุกข์) หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้ "มรรค" เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


ความคิดคุณท่อนนั่น เข้ากับบทความนี้

นับว่าเป็นเรื่องแปลก และน่าใจหาย ที่คนสมัยนี้กลับไม่เข้าใจว่า พระไตรปิฎกคืออะไร ทำไมต้องรักษาพระไตรปิฎก ทำไมต้องเอาพระไตรปิฎกมาเป็นมาตรฐาน หรือเป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่า อะไรเป็นธรรมวินัย อะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
หากปราศจากความเข้าใจพื้นฐานเช่นนี้เสียแล้ว บางคนก็อาจไปไกลถึงขนาดที่ทึกทักเอาผิดๆว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอย่างไรก็ได้


คุณมโนไปเรื่อยจับศัพท์นั่นมาผูกโยงกับศัพท์นี้เละเทะเป็นเต้าหู้ตกตึก :b1:


สนทนากับคุณกรัธกายต้องคุยกันยาว
ไม่ใช่อะไร มีคำถามจะถามคุณกรัธกายเยอะ เอาที่เห็นข้อความข้างบนก่อน
"นับว่าเป็นเรื่องแปลกและใจหาย คนสมัยนี้กลับไม่เข้าใจว่า พระไตรปิฎกคืออะไร ทำไมต้องรักษาทำไมต้องเอาพระไตรปิฎกมาเป็นมาตรฐาน หรือเป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่า อะไรเป็นธรรมวินัย อะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
หากปราศจากความเข้าใจพื้นฐานเช่นนี้เสียแล้ว [color=#FF0000]บางคนก็อาจไปไกลถึงขนาดที่ทึกทักเอาผิดๆว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอย่างไรก็ได้"

ไม่ทราบว่า ใครเป็นคนพูดครับ? ใครเป็นคนรับรองคำพูดนี้?
เป็นสาวกในพุทธศาสนาเหมือนกัน ไม่ทราบว่า เอาคำๆนี้มาใช้เคยคิดไหมครับว่าพระพุทธเจ้าทราบแล้วจะรับรองคำพูดนี้ให้เป็นมาตรฐานใช้กับคนในศาสนาพุทธเหรอครับ? คิดสิคิด?



พระพุทธเจ้าสอนอะไรล่ะ คิดสิคิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต



(ตัดให้ดูเฉพาะข้อที่ว่าเป็นลัทธินิครนถ์ และเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละ จึงเป็นนิครนถ์โดยไม่รู้ตัว)

ลัทธิมิจฉาทิฏฐิ เกี่ยวกับสุขทุกข์ และความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์อยู่ ๓ ลัทธิ
ได้แก่


๑. ปุพเพกตเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า (past-action) เรียกสั้นๆว่า ปุพเพกตวาท


(เมื่อนิครนถ์คิดยังงั้นแล้ว พระพุทธเจ้าจึง) ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์ ๓ พวกนั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๑) แล้ว

ถามว่า “ทราบว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้...จริงหรือ ?”

ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้ว รับว่าจริง เราก็กล่าวกะเขาว่า

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จักต้องเป็นผู้ทำปาณาติบาต เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ทำอทินนาทาน เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ประพฤติอพรหมจรรย์...
.เป็นผู้กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ
ฉันทะก็ดี
ความพยายามก็ดี ว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่มี

เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำ และสิ่งไม่ที่ควรทำ โดยจริงจังมั่นคง ดังนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ ก็เท่ากับอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้ นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ ผู้มีวาทะ มีทิฐิ อย่างนี้” * (องฺ.ติก.20/501/222)


แล้วผมเป็นลัทธิเหมือน นิครนถ์ ตรงไหน? ผมก็บอกอย่างพุทธบริษัท4ศึกษาอยู่แล้วชัดๆว่า ต้องปฎิบัติตามหลักโพธิปักขิยธรรมเพื่อปรับความเห็นและทิฏฐิ ไม่ได้ปิดตนเองให้หลงไปกับกรรม

ผมว่าคุณกรัธกายต้องหัดให้เป็นคนอ่านช้าๆ ให้ครับทุกตัวอักษรนะครับ จะได้ไม่ตกหล่น

ผมจะบอกคุณกรัธกายตรงๆ ผมไม่ได้แต่งหนังสือธรรมะให้คนอ่าน ไม่เคยลงนิตยสารใดๆ ผมก็ไม่คิดว่า ผมพิจารณาธรรมกดดูถูกใครก็แล้วกันครับ และผมก็ไม่ได้คิดว่านักแต่งหนังสือคนไหนๆ จะมีธรรมที่แตกฉานไปกว่าคุณลุงคุณป้า หรือตายายที่เข้าวัดฟังธรรมครับ



นำหลักคิดของนิครนถ์ให้ดู พร้อมพุทธพจน์นะน่า ส่วนคุณจะคิดยังไง เป็นสิทธิ์ที่คิดได้ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
คุณกรัธกาย มักนำข้อเขียนและสาระธรรมจากแหล่งอื่นเอามาลง

อันนี้เป็นสิ่งที่ดี

แต่!

ในสาระแง่ธรรมที่คนเขียนขึ้น มักสอดแทรกเอาการดูหมิ่นชาวพุทธอยู่ลึกๆ และแสดงออกมาเป็นข้อความเช่นตัวอย่างข้างบน ที่ผมแย้งไปว่า ใครรับรองข้อความนี้

คุณกรัธกายกลับไปติดใจกับข้อความอย่างนี้ ยังไม่พอ เอามาลงเมื่อมีการ สนทนาทางธรรมในหมู่ลานที่เป็นกลุ่มเล็ก โดยที่ผู้สนทนาจะให้คำตอบในแง่มุมใด ก็ปิดหูปิดตาตนเอง กลับไปค้นคว้าเอาคำพูดของนักแต่งหนังสือมาลงแย้งความเห็นเขา คุณกรัธกายลงพิจารณาดู ว่า ทำไม! แต่งหนังสือแล้ว ต้องไม่วายวางข้อความต่อว่าชาวพุทธกันเองด้วย อย่างนี้คุณกรัธกายก็ไม่วายถือเป็นเรื่องที่ประเสริฐเลิศล้ำ จดจำนำเอาไปใช้ในที่ต่างๆ



คุณเอาอะไรมาร้อยเรียงกันละเนี่ย

อ้างคำพูด:
student เขียน:

ทีนี้ คนที่เป็นพุทธก็ต้องเอาแนวปฎิบัติ หรือโพธิปักขิยธรรมมาเป็นแนวทางชีวิต ไม่ต้องไปจมปรักว่าชีวิต (ทุกข์) ยากจน (ทุกข์) หรือ ไร้สิ่งที่หวัง หรือความไม่เท่าเทียมของชีวิตให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง "สมุทัย" แต่ ใช้ "มรรค" เป็นวงจรของชีวิตในปัจจุบัน อันนี้เรียกปรับความเห็นและความเชื่อ คุณกรัธกายจะลอกผมก็ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเห็นชอบไปเอาข้อความคนนั้นคนนี้มาลงอยู่แล้ว


เห็นมีโพธิปักขิยธรรม, สมุทัย, มรรค อิอิ แล้วก็เติมความคิดของตนผสมเข้าไป

ไหนคุณแจงความหมายของถ้อยคำที่พูดสิ อะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คนจนถูกหวยถูกโกง

http://ts1news.com/wordpress3/archives/1092


อะไรเป็นเหตุของความจนครับ



การศึกษาและโอกาส


ยกตัวอย่างครับ
สัตว์ กับมนุษย์ , สัตว์ด้อยโอกาส มนุษย์มีโอกาส แล้วจะเรียกว่าจนได้อย่างไร?

มันเป็นคำถามที่อาจจะกวนๆ ลองพิจารณาดูครับ สร้างสีสัน


อิอิ ขำความคิดคุณจริงๆ ไปเช็คประสาทมั่งนะ


ความคิดแบบนี้ มันลึกไปถึงเชื่อในกรรม ภพนี้ ภพหน้าเหตุผลต่างๆ

ถ้างั้น พุทธเราก็ต้องไปเช็คประสาทหมดสิครับแบบนี้

มีแต่คุณกรัธกาย บอกตัวเองว่า เราปกติดี ประสาทสมบูรณ์สุดอยู่คนเดียวในโลก



เต็มๆก็ :b1:


มีลัทธิมิจฉาทิฏฐิ เกี่ยวกับสุขทุกข์ และความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์อยู่ ๓ ลัทธิ (ซึ่งต้องระวังไม่ให้เข้าใจสับสนกับหลักกรรม) คือ

๑. ปุพเพกตเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า เรียกสั้นๆว่า ปุพเพกตวาท

๒. อิสสรนิมมานเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะการบันดาลของเทพผู้เป็นใหญ่ เรียกสั้นๆว่า อิศวรกรณวาท หรืออิศวรนิรมิตวาท

๓. อเหตุอปัจจยวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นไปสุดแต่โชคชะตาลอยๆ ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย หรือเรียกสั้นๆว่า เหตุวาท

ทั้งนี้ตามพุทธพจน์ที่ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย ลัทธิเดียรถีย์ ๓ ระบบเหล่านี้ ถูกบัณฑิตไต่ถาม ซักไซ้ไล่เลียงเข้า ย่อมอ้างการถือสืบๆกันมา ยืนกรานอยู่ในหลักอกิริยา (การไม่กระทำ) คือ

๑. สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี
อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม ที่คนเราได้เสวย ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเพราะกรรมที่กระทำไว้ในปางก่อน (ปุพฺเพกตเหตุ)

๒. สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม ที่คนเราได้เสวย ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเพราะการบันดาลของพระผู้เป็นเจ้า (อิสฺสรนิมฺมานเหตุ)

๓. สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม ที่คนเราได้เสวย ทั้งหมดนั้นล้วนหาเหตุหาปัจจัยมิได้ (อเหตุอปจฺจย)


“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์ ๓ พวกนั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๑) แล้ว ถามว่า
“ทราบว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้...จริงหรือ ?”
ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้ว รับว่าจริง เราก็กล่าวกะเขาว่า
“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จักต้องเป็นผู้ทำปาณาติบาต เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ จะต้องเป็นผู้ทำอทินนาทาน เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ จะต้องเป็นผู้ประพฤติอพรหมจรรย์....เป็นผู้กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มี มิจฉาทิฐิ เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ ฉันทะก็ดี ความพยายามก็ดีว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ ย่อมไม่มี เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำ และ สิ่งไม่ที่ควรทำ โดยจริงจังมั่นคง ดังนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ ก็เท่ากับอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้ นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ ผู้มีวาทะ มีทิฐิ อย่างนี้”


“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๒ ) กล่าวกะเขาว่า ท่านจักเป็นผู้ทำปาณาติบาต ก็เพราะการบันดาลของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเหตุ
จักเป็นผู้ทำอทินนาทาน...
ประพฤติอพรหมจรรย์...
กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ ก็เพราะการบันดาลของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอาการบันดาลของพระผู้เป็นเจ้าเป็นสาระ ฉันทะก็ดี ความพยายามก็ดีว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่มี ฯลฯ


ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๓ ) กล่าวกะเขาว่า “ท่านก็จักเป็นผู้ทำปาณาติบาต โดยไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย จักเป็นผู้ทำอทินนาทาน....
ประพฤติอพรหมจรรย์....
กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ โดยไม่มีเหตุไม่มีปัจจัยน่ะสิ”


“ภิกษุ ทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอาความไม่มีเหตุไม่มีเป็นสาระ ฉันทะก็ดี ความพยายามก็ดีว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่ มี ฯลฯ”


โดยเฉพาะลัทธิที่ ๑ คือ ปุพเพกตวาทนั้น เป็นลัทธิของนิครนถ์ ดังพุทธพจน์ว่า

"ภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า “สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี อย่างหนึ่งอย่างใด ที่บุคคลได้เสวย ทั้งหมดนั้น เป็นเพราะกรรมที่ตัวทำไว้ในปาง ก่อน โดยนัยนี้ เพราะกรรมเก่าหมดสิ้นไปด้วยตบะ ไม่ทำกรรมใหม่ ก็จะไม่ถูกบังคับต่อ ไป เพราะไม่ถูกบังคับต่อไป ก็สิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม ก็สิ้น ทุกข์ เพราะสิ้นทุกข์ ก็สิ้นเวทนา เพราะสิ้นเวทนา ก็จักเป็นอันสลัด ทุกข์ให้หมดสิ้น ภิกษุทั้งหลาย พวกนิครนถ์มีวาทะอย่างนี้” (ม.อุ.14/2/1)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาอีก :b13:

"อิณาทานํ ทุกขํ โลเก" การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 34  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร