วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 355 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 24  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2018, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม
หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม
โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง


เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) :b13: หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี :b32: ว่าไม่รู้เอ้า


:b12:
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ
การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
:b4: :b4:



คุณโรสนี่เขาพูดอะไรของเขานะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2018, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม
หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม
โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง


เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) :b13: หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี :b32: ว่าไม่รู้เอ้า


:b12:
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ
การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
:b4: :b4:



คุณโรสนี่เขาพูดอะไรของเขานะ

อวิชชาตัวเองไหลเพราะขาดสุตมยปัญญา
กำลังเห็นและคิดถึงเห็นที่ตนกำลังเห็นเดี๋ยวนี้
ไม่มีใครทำเพราะเห็นแล้วและดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้ว
เพราะความจริงกำลังปรากฏว่ากำลังมีการเกิดดับครบ6ทางอายตนะ
และความจริงที่รู้ไม่ทันนี้แหละคือความจริงที่ปรากฏกับอวิชชาของผู้ที่ไม่คิดตามทีละคำไงคะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 13:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม
หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม
โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง


เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) :b13: หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี :b32: ว่าไม่รู้เอ้า


:b12:
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ
การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
:b4: :b4:



คุณโรสนี่เขาพูดอะไรของเขานะ

อวิชชาตัวเองไหลเพราะขาดสุตมยปัญญา
กำลังเห็นและคิดถึงเห็นที่ตนกำลังเห็นเดี๋ยวนี้
ไม่มีใครทำเพราะเห็นแล้วและดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้ว
เพราะความจริงกำลังปรากฏว่ากำลังมีการเกิดดับครบ6ทางอายตนะ
และความจริงที่รู้ไม่ทันนี้แหละคือความจริงที่ปรากฏกับอวิชชาของผู้ที่ไม่คิดตามทีละคำไงคะ


ถ้ามันไม่ดับละเป็นกิเลสไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม
หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม
โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง


เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) :b13: หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี :b32: ว่าไม่รู้เอ้า


:b12:
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ
การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
:b4: :b4:



คุณโรสนี่เขาพูดอะไรของเขานะ

อวิชชาตัวเองไหลเพราะขาดสุตมยปัญญา
กำลังเห็นและคิดถึงเห็นที่ตนกำลังเห็นเดี๋ยวนี้
ไม่มีใครทำเพราะเห็นแล้วและดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้ว
เพราะความจริงกำลังปรากฏว่ากำลังมีการเกิดดับครบ6ทางอายตนะ
และความจริงที่รู้ไม่ทันนี้แหละคือความจริงที่ปรากฏกับอวิชชาของผู้ที่ไม่คิดตามทีละคำไงคะ


ถ้ามันไม่ดับละเป็นกิเลสไหม

:b12:
นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ
ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม
หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม
โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง


เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) :b13: หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี :b32: ว่าไม่รู้เอ้า


:b12:
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ
การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
:b4: :b4:



คุณโรสนี่เขาพูดอะไรของเขานะ

อวิชชาตัวเองไหลเพราะขาดสุตมยปัญญา
กำลังเห็นและคิดถึงเห็นที่ตนกำลังเห็นเดี๋ยวนี้
ไม่มีใครทำเพราะเห็นแล้วและดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้ว
เพราะความจริงกำลังปรากฏว่ากำลังมีการเกิดดับครบ6ทางอายตนะ
และความจริงที่รู้ไม่ทันนี้แหละคือความจริงที่ปรากฏกับอวิชชาของผู้ที่ไม่คิดตามทีละคำไงคะ


ถ้ามันไม่ดับละเป็นกิเลสไหม

:b12:
นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ
ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


มันต้องคิดทีละคำ เช่น นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง จึงเป็นการฟังคำตถาคตนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2018, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมบัติ ความถึงพร้อม, ความครบถ้วน, ความสมบูรณ์
1. สิ่งที่ได้ที่ถึงด้วยดี, เงินทองของมีค่า, สิ่งที่มีอยู่ในสิทธิอำนาจของตน, ความพรั่งพร้อมสมบูรณ์, สมบัติ ๓ ได้แก่
มนุษยสมบัติ สมบัติในขั้นมนุษย์
สวรรคสมบัติ สมบัติในสวรรค์ (เทวสมบัติ หรือทิพยสมบัติ ก็เรียก) และ
นิพพานสมบัติ สมบัติคือนิพพาน
2. ความครบถ้วนของสังฆกรรม เช่น อุปสมบท เป็นต้น ที่จะทำให้สังฆกรรมนั้นถูกต้อง ใช้ได้ มีผลสมบูรณ์ มี ๔ คือ
๑. วัตถุสมบัติ วัตถุถึงพร้อม เช่น ผู้อุปสมบทเป็นชายอายุครบ ๒๐ ปี
๒. ปริสสมบัติ บริษัทคือที่ประชุมถึงพร้อม สงฆ์ครบองค์กำหนด
๓. สีมาสมบัติ เขตชุมนุมถึงพร้อม เช่น สีมามีนิมิตถูกต้องตามพระวินัย และประชุมทำในเขตสีมา ๔. กรรมวาจาสมบัติ กรรมวาจาถึงพร้อม สวดประกาศถูกต้องครบถ้วน (ข้อ ๔ อาจแยกเป็น ๒ ข้อ คือ เป็น ๔. ญัตติสมบัติ ญัตติถึงพร้อม คือ คำเผดียงสงฆ์ถูกต้อง ๕. อนุสาวนาสมบัติ อนุสาวนาถึงพร้อม คือคำหารือตกลงถูกต้อง รวมเป็นสมบัติ ๕) เทียบ วิบัติ

วิบัติ คือความเสียหายใช้ไม่ได้ ของสังฆกรรม มี ๔ คือ
๑. วัตถุวิบัติ เสียโดยวัตถุ เช่น อุปสมบทคนอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี
๒. สีมาวิบัติ เสียโดยสีมา เช่น สีมาไม่มีนิมิต
๓. ปริสวิบัติ เสียโดยบริษัทคือที่ประชุม เช่น ภิกษุเข้าประชุมไม่ครบองค์สงฆ์
๔. กรรมวาจาวิบัติ เสียโดยกรรมวาจา เช่น สวดผิดพลาดตกหล่น สวดแต่อนุสาวนาไม่ได้ตั้งญัตติ เป็นต้น (ข้อ กรรมวาจาวิบัติ บางกรณีแยกเป็นญัตติ และอนุสาวนาวิบัติ กลายเป็นวิบัติ ๕ ก็มี)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2018, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


ที่ไหนๆเขาก็พูดก็ถกเถียงเรื่อง นิพพาน บ้าง เรื่องอัตตา กับ อนัตตา บ้าง เรื่องจิต เป็นต้น บ้าง

นี่ก็เรื่องนิพพาน

อ้างคำพูด:
นิพพานแล้วไปไหนคะ
อยากทราบว่านิพพานแล้วไปไหนคะ บ้างก็บอกนิพพานแล้วไปสวรรค์​ บ้างก็บอกนิพพานคือการดับสูญ​ ขอคนรู้จริงๆอ้างจากพระคัมภีย์พระไตรปิฎกเลยค่ะ​ หรืออ้างจากพระวจนะของพระพุทธเจ้า​ ถ้าพระรูปอื่นบอกหรืออ่านตามกระทู้อื่นๆแล้วเราจะรู้จะเชื่อได้หรือไม่ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ​ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนิมิตการดูดวงการฝันเห็นแล้วนำมาบอกเล่าเท่าไร​ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยมีความชัดเจน

https://pantip.com/topic/37960579


คุณโรสลองไปดูดิ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2018, 00:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


ที่ไหนๆเขาก็พูดก็ถกเถียงเรื่อง นิพพาน บ้าง เรื่องอัตตา กับ อนัตตา บ้าง เรื่องจิต เป็นต้น บ้าง

นี่ก็เรื่องนิพพาน

อ้างคำพูด:
นิพพานแล้วไปไหนคะ
อยากทราบว่านิพพานแล้วไปไหนคะ บ้างก็บอกนิพพานแล้วไปสวรรค์​ บ้างก็บอกนิพพานคือการดับสูญ​ ขอคนรู้จริงๆอ้างจากพระคัมภีย์พระไตรปิฎกเลยค่ะ​ หรืออ้างจากพระวจนะของพระพุทธเจ้า​ ถ้าพระรูปอื่นบอกหรืออ่านตามกระทู้อื่นๆแล้วเราจะรู้จะเชื่อได้หรือไม่ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ​ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนิมิตการดูดวงการฝันเห็นแล้วนำมาบอกเล่าเท่าไร​ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยมีความชัดเจน

https://pantip.com/topic/37960579


คุณโรสลองไปดูดิ :b13:

:b12:
นิพพานพ้นโลก
โลกคือสิ่งที่เกิดดับ
นิพพานจึงพ้นสิ่งที่เกิดดับไงคะ
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2018, 05:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


ที่ไหนๆเขาก็พูดก็ถกเถียงเรื่อง นิพพาน บ้าง เรื่องอัตตา กับ อนัตตา บ้าง เรื่องจิต เป็นต้น บ้าง

นี่ก็เรื่องนิพพาน

อ้างคำพูด:
นิพพานแล้วไปไหนคะ
อยากทราบว่านิพพานแล้วไปไหนคะ บ้างก็บอกนิพพานแล้วไปสวรรค์​ บ้างก็บอกนิพพานคือการดับสูญ​ ขอคนรู้จริงๆอ้างจากพระคัมภีย์พระไตรปิฎกเลยค่ะ​ หรืออ้างจากพระวจนะของพระพุทธเจ้า​ ถ้าพระรูปอื่นบอกหรืออ่านตามกระทู้อื่นๆแล้วเราจะรู้จะเชื่อได้หรือไม่ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ​ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนิมิตการดูดวงการฝันเห็นแล้วนำมาบอกเล่าเท่าไร​ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยมีความชัดเจน

https://pantip.com/topic/37960579


คุณโรสลองไปดูดิ :b13:

:b12:
นิพพานพ้นโลก
โลกคือสิ่งที่เกิดดับ
นิพพานจึงพ้นสิ่งที่เกิดดับไงคะ


นิพพานพ้นโลก โลกสิ่งที่เกิดดับ

จะพูดวกวนให้มันไกลตัวทำไม ก็พูดตรงๆเสียว่า นิพพานคือดับทุกข์ดับกิเลสดับตัณหาอุปาทานในจิตในใจตนได้แล้ว แค่นี้คนกลัวทุกข์ไม่อยากเป็นทุกข์ จะได้เร่งปฏิบัติไปให้ถึงนิพพานกัน คิกๆๆ

ศัพท์ นิพพาน ของเขา มันก็บอกอยู่แล้ว ว่า ออกไปจากตัณหา ไม่มีตัณหา (นิ+วาน แปลง ว. เป็น พ ซ้อน พ =นิพพาน) ไม่ต้องไปไหนหรอก นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นตรงนี้ ถ้าดับทุกข์ได้กำจัดตัณหาได้ มันก็นิพพาน ก็เท่ากับนิโรธ พูดก็สั้นๆแค่นี้ แต่ทำสิมันยากกกกก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2018, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


ที่ไหนๆเขาก็พูดก็ถกเถียงเรื่อง นิพพาน บ้าง เรื่องอัตตา กับ อนัตตา บ้าง เรื่องจิต เป็นต้น บ้าง

นี่ก็เรื่องนิพพาน

อ้างคำพูด:
นิพพานแล้วไปไหนคะ
อยากทราบว่านิพพานแล้วไปไหนคะ บ้างก็บอกนิพพานแล้วไปสวรรค์​ บ้างก็บอกนิพพานคือการดับสูญ​ ขอคนรู้จริงๆอ้างจากพระคัมภีย์พระไตรปิฎกเลยค่ะ​ หรืออ้างจากพระวจนะของพระพุทธเจ้า​ ถ้าพระรูปอื่นบอกหรืออ่านตามกระทู้อื่นๆแล้วเราจะรู้จะเชื่อได้หรือไม่ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ​ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนิมิตการดูดวงการฝันเห็นแล้วนำมาบอกเล่าเท่าไร​ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยมีความชัดเจน

https://pantip.com/topic/37960579


คุณโรสลองไปดูดิ :b13:

:b12:
นิพพานพ้นโลก
โลกคือสิ่งที่เกิดดับ
นิพพานจึงพ้นสิ่งที่เกิดดับไงคะ


นิพพานพ้นโลก โลกสิ่งที่เกิดดับ

จะพูดวกวนให้มันไกลตัวทำไม ก็พูดตรงๆเสียว่า นิพพานคือดับทุกข์ดับกิเลสดับตัณหาอุปาทานในจิตในใจตนได้แล้ว แค่นี้คนกลัวทุกข์ไม่อยากเป็นทุกข์ จะได้เร่งปฏิบัติไปให้ถึงนิพพานกัน คิกๆๆ

ศัพท์ นิพพาน ของเขา มันก็บอกอยู่แล้ว ว่า ออกไปจากตัณหา ไม่มีตัณหา (นิ+วาน แปลง ว. เป็น พ ซ้อน พ =นิพพาน) ไม่ต้องไปไหนหรอก นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นตรงนี้ ถ้าดับทุกข์ได้กำจัดตัณหาได้ มันก็นิพพาน ก็เท่ากับนิโรธ พูดก็สั้นๆแค่นี้ แต่ทำสิมันยากกกกก

:b12:
นิพพานเป็นสภาพธรรมที่หมดอยากแล้วเพราะรู้แล้ว
อยากถึงนั้นถึงนิพพานไม่ได้เพราะอยากถึงอยู่
จึงคิดไปทำไงคะแต่ลืมไปว่าต้องฟังคำสอน
จึงเป็นสาวกคือทำพหุสุตะ
ทำมานับชาติไม่ถ้วนแล้วค่ะ
ที่ยังไม่ทำคือฟังพระพุทธพจน์
เพราะมีทิฏฐิมานะถือตนว่าคนพูด
ไม่ใช่พระพุทธเจ้า555ไม่ฟังก็ไม่รู้ไงคะ
คำที่พูดถึงสิ่งที่กำลังมีกำลังปรากฏคือคำสัจจะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2018, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

นิพพานที่ไม่มีเกิดดับไงคะ ที่เหลือยังเกิดอยู่แสดงว่าปัญญาน้อย


ที่ไหนๆเขาก็พูดก็ถกเถียงเรื่อง นิพพาน บ้าง เรื่องอัตตา กับ อนัตตา บ้าง เรื่องจิต เป็นต้น บ้าง

นี่ก็เรื่องนิพพาน

อ้างคำพูด:
นิพพานแล้วไปไหนคะ
อยากทราบว่านิพพานแล้วไปไหนคะ บ้างก็บอกนิพพานแล้วไปสวรรค์​ บ้างก็บอกนิพพานคือการดับสูญ​ ขอคนรู้จริงๆอ้างจากพระคัมภีย์พระไตรปิฎกเลยค่ะ​ หรืออ้างจากพระวจนะของพระพุทธเจ้า​ ถ้าพระรูปอื่นบอกหรืออ่านตามกระทู้อื่นๆแล้วเราจะรู้จะเชื่อได้หรือไม่ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ​ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนิมิตการดูดวงการฝันเห็นแล้วนำมาบอกเล่าเท่าไร​ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยมีความชัดเจน

https://pantip.com/topic/37960579


คุณโรสลองไปดูดิ :b13:

:b12:
นิพพานพ้นโลก
โลกคือสิ่งที่เกิดดับ
นิพพานจึงพ้นสิ่งที่เกิดดับไงคะ


นิพพานพ้นโลก โลกสิ่งที่เกิดดับ

จะพูดวกวนให้มันไกลตัวทำไม ก็พูดตรงๆเสียว่า นิพพานคือดับทุกข์ดับกิเลสดับตัณหาอุปาทานในจิตในใจตนได้แล้ว แค่นี้คนกลัวทุกข์ไม่อยากเป็นทุกข์ จะได้เร่งปฏิบัติไปให้ถึงนิพพานกัน คิกๆๆ

ศัพท์ นิพพาน ของเขา มันก็บอกอยู่แล้ว ว่า ออกไปจากตัณหา ไม่มีตัณหา (นิ+วาน แปลง ว. เป็น พ ซ้อน พ =นิพพาน) ไม่ต้องไปไหนหรอก นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นตรงนี้ ถ้าดับทุกข์ได้กำจัดตัณหาได้ มันก็นิพพาน ก็เท่ากับนิโรธ พูดก็สั้นๆแค่นี้ แต่ทำสิมันยากกกกก

:b12:
นิพพานเป็นสภาพธรรมที่หมดอยากแล้วเพราะรู้แล้ว
อยากถึงนั้นถึงนิพพานไม่ได้เพราะอยากถึงอยู่
จึงคิดไปทำไงคะแต่ลืมไปว่าต้องฟังคำสอน
จึงเป็นสาวกคือทำพหุสุตะ
ทำมานับชาติไม่ถ้วนแล้วค่ะ
ที่ยังไม่ทำคือฟังพระพุทธพจน์
เพราะมีทิฏฐิมานะถือตนว่าคนพูด
ไม่ใช่พระพุทธเจ้า555ไม่ฟังก็ไม่รู้ไงคะ
คำที่พูดถึงสิ่งที่กำลังมีกำลังปรากฏคือคำสัจจะ


ยกตัวอย่างง่ายๆคุณโรส เช่น อยากมีเงิน อยากรวย แต่ไม่ทำงานไม่หาเงิน นอนอยากอยู่ในห้อง ก็มีเงินไม่ได้ เพราะมีแต่ความอยาก อยากมี แต่ไม่ทำ เห็นภาพนะครับ

อ้างคำพูด:
อยากถึงนั้นถึงนิพพานไม่ได้เพราะอยากถึงอยู่


นิพพานก็เช่นกัน นาย ก. อยากนิพพาน แต่ก็ได้แต่นอนอยากอยู่ในห้อง ไม่ลุกขึ้นทำความเพียรซึ่งเป็นเหตุให้กิเลสสิ้นไป มันก็กิเลสนิพพานไม่ได้

อ้างคำพูด:
จึงคิดไปทำไงคะ แต่ลืมไปว่าต้องฟังคำสอน


ฟังแม่สุจินพูด อยากนิพพาน มันก็นิพพานไม่ได้ เพราะมีแต่อยาก แต่ไม่รู้เหตุทำให้กิเลสสิ้นไปมันก็กิเลสนิพพานไม่ได้เช่นกันแล

ที่พูดมาทั้งหมดนั้น มันเป็นแบรนด์แม่สุจินแห่งบ้านธัมมะเอง ไม่ใช่พุทธพจน์อะไรหรอก :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 11:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Rosarin
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว) นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย

แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
viewtopic.php?f=1&t=56369&p=426334#p426334



นี่ คคห.คุณโรสศิษย์สำนักบ้านธัมมะโดยแม่สุจิน คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวกบรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย


คิดโด่ๆเด่ๆไป คือเขาคิดว่าอดีตครั้งพุทธกาลมีแต่ลูกษัตริย์ ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวชกัน

สำนักบ้านธัมมะ คิดย้อนกลับไปเมื่อ 2600 กว่าปี ถามหน่อย ปัจจุบันจะเอาลูกกษัตริย์ที่ไหนบวช อิอิ มองดูสิเห็นไหม ดูความคิดเจ้าสำนักบ้านธัมมะแค่นี้ก็เพี้ยนแล้ว

นอกจากบุคคลดังกล่าวแล้ว นอกนั้นพระพุทธเจ้าไม่ให้บวชรึ อิอิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่า คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะโดยแม่สุจิน ไม่ถึงกับบ้านะ แต่ออกเพี้ยนๆทางความคิด อ้าวจริงๆ คิดไปได้

คุณโรสดู

https://www.google.com.pk/search?source ... gWQ8bfR1Z8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่า คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะโดยแม่สุจิน ไม่ถึงกับบ้านะ แต่ออกเพี้ยนๆทางความคิด อ้าวจริงๆ คิดไปได้

tongue
อย่าคิดเองบอกแล้วว่าคิดเองมันผิดทางปรโตโฆษะอ่านตรงๆนะ
คำสอนแทนศาสดาไม่ใช่ตัวบุคคลต้องอาศัยฟังคนอื่นบอก
แล้วคิดตามตรงทางที่จิตตนรู้เช่นรู้เรื่องจิตเห็นฟังว่า
จิตเห็นรูปสีสันวรรณะแต่ตนกำลังเห็นอะไรคะ
มันเลยเห็นเป็นจิตคิดนึกแล้วพอกะพริบตา
ยังไม่ไปไหนเลยนะกิเลสเพิ่มแล้วค่ะ
ทำอะไรได้ไหมเพราะไม่ได้กำลัง
คิดตามเสียงตรงความจริงที่
ตนกำลังมีตรงขณะไงคะ
เลยมีแต่จำปัญญาของ
ตถาคตคือสัญญาตน
ไม่ใช่ปัญญาที่ตน
รู้จริงตรงสัจจะ
ที่กายตนมี
ไงล่ะคะ
อวิชชาตนเลยไหลไปตามสัญญาจำแต่ชื่อแต่เรื่องที่อ่านไงคะเมื่อไหนหนอจะเริ่มฟังปรโตโฆษะ
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่า คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะโดยแม่สุจิน ไม่ถึงกับบ้านะ แต่ออกเพี้ยนๆทางความคิด อ้าวจริงๆ คิดไปได้

tongue
อย่าคิดเองบอกแล้วว่าคิดเองมันผิดทางปรโตโฆษะอ่านตรงๆนะ
คำสอนแทนศาสดาไม่ใช่ตัวบุคคลต้องอาศัยฟังคนอื่นบอก
แล้วคิดตามตรงทางที่จิตตนรู้เช่นรู้เรื่องจิตเห็นฟังว่า
จิตเห็นรูปสีสันวรรณะแต่ตนกำลังเห็นอะไรคะ
มันเลยเห็นเป็นจิตคิดนึกแล้วพอกะพริบตา
ยังไม่ไปไหนเลยนะกิเลสเพิ่มแล้วค่ะ
ทำอะไรได้ไหมเพราะไม่ได้กำลัง
คิดตามเสียงตรงความจริงที่
ตนกำลังมีตรงขณะไงคะ
เลยมีแต่จำปัญญาของ
ตถาคตคือสัญญาตน
ไม่ใช่ปัญญาที่ตน
รู้จริงตรงสัจจะ
ที่กายตนมี
ไงล่ะคะ
:b13:
:b32: :b32:



คุณโรสต้องภาวนามยปัญญา อย่าไปจิตเกิดดับทีละ 1 ขณะเอง เชื่อไอ้เรืองนะ ถ้าเชื่อแล้วคุณจะหายจากความฟุ้งซ่าน
แต่ถ้ายังมโนจิตเกิดดับ ไม่ใช่คนสัตว์ อะไรต่ออะไรไป หลงไม่ได้ยินเสียงกู่นะขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 355 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 24  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร