ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55490
หน้า 4 จากทั้งหมด 24

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.ค. 2018, 16:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

อาวุโส “ผู้มีอายุ” เป็นคำเรียก หรือทักทาย ที่ภิกษุผู้แก่พรรษาใช้ร้องเรียกภิกษุผู้อ่อนพรรษากว่า (ภิกษุผู้ใหญ่ร้องเรียกภิกษุผู้น้อย) หรือภิกษุร้องเรียกคฤหัสถ์ คู่กับ ภนฺเต ซึ่งภิกษุผู้อ่อนกว่าใช้ร้องเรียกภิกษุผู้แก่กว่าหรือคฤหัสถ์ร้องเรียกภิกษุ; ในภาษาไทยมักใช้เพี้ยนไปในทางตรงข้าม หมายถึงเก่ากว่า หรือแก่กว่าในวงงาน กิจการ หรือความเป็นสมาชิก

เจ้าของ:  Rosarin [ 08 ก.ค. 2018, 16:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

Kiss
ที่น่าสลดสังเวชใจที่สุดคือวงการพระสงฆ์ไทย
กำลังเสื่อมจากพุทธศาสนา(ศาสนา=คำสอน)
คือเสื่อมจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
การปลงอาบัติจะมาร่วมสังฆกรรม
กับหมู่คณะที่บริสุทธิ์ไม่ได้
ถ้ารับเงินกันหมดเลย
แสดงว่าทั้งคณะ
ทุศีลจริงไหม
:b32:
ศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อนดีไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถ้าไม่เข้าใจคำสอนย่อมมีปกติ
ทำบาปแต่ไม่รู้ว่าบาปแปลว่า
เข้าใจผิดว่าแค่เปลี่ยนสี
เครื่องนุ่งห่มแล้วไม่บาป
แต่บาปคือไม่รู้คือกิเลส
ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มเลย
แต่เป็นจิตคิดตามใจ
อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่ฟังคำตถาคต
555จะบวชหรือทั้งๆที่ไม่รู้
:b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.ค. 2018, 17:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

Rosarin เขียน:
Kiss
ที่น่าสลดสังเวชใจที่สุดคือวงการพระสงฆ์ไทย
กำลังเสื่อมจากพุทธศาสนา(ศาสนา=คำสอน)
คือเสื่อมจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
การปลงอาบัติจะมาร่วมสังฆกรรม
กับหมู่คณะที่บริสุทธิ์ไม่ได้
ถ้ารับเงินกันหมดเลย
แสดงว่าทั้งคณะ
ทุศีลจริงไหม
:b32:
ศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อนดีไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถ้าไม่เข้าใจคำสอนย่อมมีปกติ
ทำบาปแต่ไม่รู้ว่าบาปแปลว่า
เข้าใจผิดว่าแค่เปลี่ยนสี
เครื่องนุ่งห่มแล้วไม่บาป
แต่บาปคือไม่รู้คือกิเลส
ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มเลย
แต่เป็นจิตคิดตามใจ
อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่ฟังคำตถาคต
555จะบวชหรือทั้งๆที่ไม่รู้
:b32:


คุณโรสควรศึกษาบัญญัติ อนุบัญญัติ ให้ชัด

เจ้าของ:  Rosarin [ 08 ก.ค. 2018, 18:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ที่น่าสลดสังเวชใจที่สุดคือวงการพระสงฆ์ไทย
กำลังเสื่อมจากพุทธศาสนา(ศาสนา=คำสอน)
คือเสื่อมจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
การปลงอาบัติจะมาร่วมสังฆกรรม
กับหมู่คณะที่บริสุทธิ์ไม่ได้
ถ้ารับเงินกันหมดเลย
แสดงว่าทั้งคณะ
ทุศีลจริงไหม
:b32:
ศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อนดีไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถ้าไม่เข้าใจคำสอนย่อมมีปกติ
ทำบาปแต่ไม่รู้ว่าบาปแปลว่า
เข้าใจผิดว่าแค่เปลี่ยนสี
เครื่องนุ่งห่มแล้วไม่บาป
แต่บาปคือไม่รู้คือกิเลส
ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มเลย
แต่เป็นจิตคิดตามใจ
อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่ฟังคำตถาคต
555จะบวชหรือทั้งๆที่ไม่รู้
:b32:


คุณโรสควรศึกษาบัญญัติ อนุบัญญัติ ให้ชัด

สิกขาบทที่บัญญัติไว้มีถึง227เอาแค่1ข้อให้ผ่านคือไม่รับเงินค่อยบวชนะ
:b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.ค. 2018, 19:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ที่น่าสลดสังเวชใจที่สุดคือวงการพระสงฆ์ไทย
กำลังเสื่อมจากพุทธศาสนา(ศาสนา=คำสอน)
คือเสื่อมจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
การปลงอาบัติจะมาร่วมสังฆกรรม
กับหมู่คณะที่บริสุทธิ์ไม่ได้
ถ้ารับเงินกันหมดเลย
แสดงว่าทั้งคณะ
ทุศีลจริงไหม
:b32:
ศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อนดีไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถ้าไม่เข้าใจคำสอนย่อมมีปกติ
ทำบาปแต่ไม่รู้ว่าบาปแปลว่า
เข้าใจผิดว่าแค่เปลี่ยนสี
เครื่องนุ่งห่มแล้วไม่บาป
แต่บาปคือไม่รู้คือกิเลส
ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มเลย
แต่เป็นจิตคิดตามใจ
อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่ฟังคำตถาคต
555จะบวชหรือทั้งๆที่ไม่รู้
:b32:


คุณโรสควรศึกษาบัญญัติ อนุบัญญัติ ให้ชัด

สิกขาบทที่บัญญัติไว้มีถึง227เอาแค่1ข้อให้ผ่านคือไม่รับเงินค่อยบวชนะ
:b32:



ข้อไหน ในบรรดา 227 ข้อ

เจ้าของ:  Rosarin [ 08 ก.ค. 2018, 22:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ที่น่าสลดสังเวชใจที่สุดคือวงการพระสงฆ์ไทย
กำลังเสื่อมจากพุทธศาสนา(ศาสนา=คำสอน)
คือเสื่อมจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
การปลงอาบัติจะมาร่วมสังฆกรรม
กับหมู่คณะที่บริสุทธิ์ไม่ได้
ถ้ารับเงินกันหมดเลย
แสดงว่าทั้งคณะ
ทุศีลจริงไหม
:b32:
ศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อนดีไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถ้าไม่เข้าใจคำสอนย่อมมีปกติ
ทำบาปแต่ไม่รู้ว่าบาปแปลว่า
เข้าใจผิดว่าแค่เปลี่ยนสี
เครื่องนุ่งห่มแล้วไม่บาป
แต่บาปคือไม่รู้คือกิเลส
ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มเลย
แต่เป็นจิตคิดตามใจ
อยากทำอะไรก็ทำ
โดยไม่ฟังคำตถาคต
555จะบวชหรือทั้งๆที่ไม่รู้
:b32:


คุณโรสควรศึกษาบัญญัติ อนุบัญญัติ ให้ชัด

สิกขาบทที่บัญญัติไว้มีถึง227เอาแค่1ข้อให้ผ่านคือไม่รับเงินค่อยบวชนะ
:b32:



ข้อไหน ในบรรดา 227 ข้อ

888
ข้อ8ไม่รับเงินไม่ยินดีในเงินและทองและสิ่งแทนเงินก็ไม่ได้
ที่มีได้ไม่ผิดคืออัฏฐบริขารมีอะไรลองบอกมาหน่อยสิคะ
เพื่อเดินตามรรค8เพื่อบรรลุอริยสัจจ์สี่จนถึงนิพพาน
:b12:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 09:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

รูปภาพ


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

มีพระตอบด้านล่าง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 09:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5BA7914B

......หลวงพ่อท่านก็ได้อธิบายโดยย่อว่า...

เฟสบุคก็เหมือนมีดมีคมปลายแหลม
.....

ใช้หั่นผักผลไม้ได้ ใช้แทงตัวเองก็ได้ ใช้เผยแพร่ธรรมก็ได้ ภาพและข้อความไหน?ดีก็เซฟไว้ในสมอง ภาพและข้อความไหนไม่ดีทำให้ใจเป็นทุกข์ ก็ลบทิ้งไป

.....

ทั้งโยมสุจินต์กับพระ คงไม่ใช้มีด หรือเฟสบุคแทงตัวเองเป็นแน่แท้

.....

กิเลสก็ขัดเกลา ดูเฟสก็ดูว่าใครเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

.....

เหมือนเงินตรา จะใช้บริจาคทำบุญก็ได้ จะใช้จ้างมือปืนยิงคนก็ได้ จะใช้ทำบุญก็ได้ จะใช้ทำบาปก็ได้ จะดีหรือชั่วไม่ได้อยู่ที่เงิน อยู่ที่ตัวบุคลนั้นจะเห็นคุณค่าของเงิน

.....

เฟสก็เช่นกัน พระจะใช้เป็นสะพานบุญก็ได้ จะใช้เป็นสะพานบาปก็ได้ ถ้าพระท่านไม่ปรารถนานิพพานชาตินี้
ก็ใช้สร้างคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาในชาตินี้ได้

.....

พระที่เผยแพร่ธรรมทางโซเชียลมีเดียก็รวดเร็วถึงห้องนอนได้ นอนฟังได้
มันไม่เหมือนสมัยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ คือต้องจาริกไป เดินไป แล้วไปเทศนา มันก็ต้องเหนื่อย

.....

อย่างเรานี้ ถ้าอยากเทศน์เฟสบุคไลฟ์ ก็เทศน์ได้เลย คนฟัง 5 คน อาตมาก็พอใจ ในสมัยครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้คนฟัง 100 คน ได้ดวงตาเห็นธรรมเพียง 1 คน พระองค์ก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่ใช่เอาไปไลฟ์ในทางที่ไม่ดี และโยมไม่ต้องให้ใครเสียเงินติดกันเทศน์ โยมสุจินต์ควรมองสองด้าน คือด้านคุณและด้านโทษ ด้านบวกและด้านลบ

ด้านคุณก็มีมาก ด้านโทษก็มีเยอะถ้าพระใช้ไม่ถูกธรรมวินัย
.....
คนเรามีอิสระคิดในกรอบที่ดีงาม เมื่อพระใช้เฟสในกรอบที่ดีงาม ในการเผยแพร่พระธรรมก็ย่อมทำได้
มิใช่มีแต่โยมจะใช้เผยแพร่ธรรมได้เฉพาะโยมป้าสุจินต์เท่านั้น พระสงฆ์องค์เณรถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญที่จะต้องเผยแผ่ธรรม
......

โยมอย่ามีโมหาคติ คือลำเอียงเพราะหลง ใช้อัตโนมติของตนติเตียนพระ

.....

เรื่องเห็นภัยในวัฏสงสาร...มันก็เป็นเรื่องต้องไปเรื่อยๆ ในระหว่างเดินทางในสังสารวัฏ
พระก็เห็นภัย แต่เมื่อยังไม่บรรลุธรรมเกิดชาติใหม่ก็ค่อยว่ากันต่อไป
โยมตัดภัยในวัฏสงสารได้ก่อนพระ อาตมาก็ขออนุโมทนาบุญกับโยมป้าสุจินต์ด้วย
แต่อาตมานี้ของดการเสพผู้หญิง (งดการมีเพศสัมพันธุ์) งดการอยู่การครองเรือน เสียสละจากเพศฆราวาส ก็รู้สึกอดทนมากมายหลายประการ และจางคลายความกำหนัดที่เคยเป็นเมื่อก่อนครั้งยังไม่ได้บวช หรืออาจจะเป็นด้วยอำนาจเนกขัมมะบารมีที่ได้สั่งสมมาก็อาจจะเป็นได้

https://www.facebook.com/hashtag/%E0%B8 ... =feed_text

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 09:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

คุณโรสเห็นประการใดขอรับ :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 16:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

วัดพิชัยญาติจัดบวชเฉลิมพระเกียรติ

รูปภาพ

https://www.khaosod.co.th/amulets/news_1322970

คุณโรส เขาบวชกันอีกแล้วขอรับ เยอะเบย :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 16:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

ดูศัพท์พร้อมความหมายที่ อ. คุณโรสนำมาพูดหน่อย


สังสารวัฏ วังวนแห่งการเวียนเกิดเวียนตาย, การเวียนตายเวียนเกิดอยู่ในโลกหรือในภพต่างๆ โดยใจความก็ได้แก่ สังสาระ นั่นเอง; สังสารวัฏฏ์ หรือ สังสารวัฏ ก็เขียน


วัฏฏะ การวนเวียน, การเวียนเกิดเวียนตาย, การเวียนว่ายตายเกิด, ความเวียนเกิด หรือ วนเวียน ด้วยอำนาจกิเลส กรรม และวิบาก เช่น กิเลส เกิดขึ้นแล้วให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมแล้ว ย่อมได้รับผลของกรรม เมื่อได้รับผลของกรรมแล้ว กิเลสก็เกิดอีก แล้วทำกรรม แล้วเสวยผลกรรม หมุนเวียนต่อไป


สังสาระ, สงสาร การเที่ยวเร่ร่อนไปในภพ คือภาวะแห่งชีวิต ที่ถูกพัดพาให้ประสบสุขทุกข์ ขึ้นลง เป็นไปต่างๆ ตามกระแสแห่งอวิชชา ตัณหา และอุปาทาน, การว่ายวนอยู่ในกระแสแห่งกิเลส กรรม วิบาก, การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกหรือในภพต่างๆ , ว่า โดยสภาวะ ก็คือ ความสืบทอดต่อเนื่องไปแห่งขันธ์ทั้งหลายนั่นเอง; นิยมพูดว่า สังสารจักร


สงสาร 1. การเวียนว่ายตายเกิด, การเวียนตายเวียนเกิด 2. ในภาษาไทยมักหมายถึงรู้สึกในความเดือดร้อนหรือความทุกข์ของผู้อื่น (= กรุณา)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 16:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

ถามคุณโรส สังสารวัฎฎ์ ตามที่สถานที่นั้นเข้าใจหมายถึงอะไรขอรับ :b10:

เจ้าของ:  Rosarin [ 10 ก.ค. 2018, 16:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

กรัชกาย เขียน:
https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/36840949_1445229332287556_4393209488870473728_n.jpg?_nc_cat=0&oh=af5528f45453231ca1dc30d2bd71d693&oe=5BA7914B

......หลวงพ่อท่านก็ได้อธิบายโดยย่อว่า...

เฟสบุคก็เหมือนมีดมีคมปลายแหลม
.....

ใช้หั่นผักผลไม้ได้ ใช้แทงตัวเองก็ได้ ใช้เผยแพร่ธรรมก็ได้ ภาพและข้อความไหน?ดีก็เซฟไว้ในสมอง ภาพและข้อความไหนไม่ดีทำให้ใจเป็นทุกข์ ก็ลบทิ้งไป

.....

ทั้งโยมสุจินต์กับพระ คงไม่ใช้มีด หรือเฟสบุคแทงตัวเองเป็นแน่แท้

.....

กิเลสก็ขัดเกลา ดูเฟสก็ดูว่าใครเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

.....

เหมือนเงินตรา จะใช้บริจาคทำบุญก็ได้ จะใช้จ้างมือปืนยิงคนก็ได้ จะใช้ทำบุญก็ได้ จะใช้ทำบาปก็ได้ จะดีหรือชั่วไม่ได้อยู่ที่เงิน อยู่ที่ตัวบุคลนั้นจะเห็นคุณค่าของเงิน

.....

เฟสก็เช่นกัน พระจะใช้เป็นสะพานบุญก็ได้ จะใช้เป็นสะพานบาปก็ได้ ถ้าพระท่านไม่ปรารถนานิพพานชาตินี้
ก็ใช้สร้างคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาในชาตินี้ได้

.....

พระที่เผยแพร่ธรรมทางโซเชียลมีเดียก็รวดเร็วถึงห้องนอนได้ นอนฟังได้
มันไม่เหมือนสมัยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ คือต้องจาริกไป เดินไป แล้วไปเทศนา มันก็ต้องเหนื่อย

.....

อย่างเรานี้ ถ้าอยากเทศน์เฟสบุคไลฟ์ ก็เทศน์ได้เลย คนฟัง 5 คน อาตมาก็พอใจ ในสมัยครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้คนฟัง 100 คน ได้ดวงตาเห็นธรรมเพียง 1 คน พระองค์ก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่ใช่เอาไปไลฟ์ในทางที่ไม่ดี และโยมไม่ต้องให้ใครเสียเงินติดกันเทศน์ โยมสุจินต์ควรมองสองด้าน คือด้านคุณและด้านโทษ ด้านบวกและด้านลบ

ด้านคุณก็มีมาก ด้านโทษก็มีเยอะถ้าพระใช้ไม่ถูกธรรมวินัย
.....
คนเรามีอิสระคิดในกรอบที่ดีงาม เมื่อพระใช้เฟสในกรอบที่ดีงาม ในการเผยแพร่พระธรรมก็ย่อมทำได้
มิใช่มีแต่โยมจะใช้เผยแพร่ธรรมได้เฉพาะโยมป้าสุจินต์เท่านั้น พระสงฆ์องค์เณรถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญที่จะต้องเผยแผ่ธรรม
......

โยมอย่ามีโมหาคติ คือลำเอียงเพราะหลง ใช้อัตโนมติของตนติเตียนพระ

.....

เรื่องเห็นภัยในวัฏสงสาร...มันก็เป็นเรื่องต้องไปเรื่อยๆ ในระหว่างเดินทางในสังสารวัฏ
พระก็เห็นภัย แต่เมื่อยังไม่บรรลุธรรมเกิดชาติใหม่ก็ค่อยว่ากันต่อไป
โยมตัดภัยในวัฏสงสารได้ก่อนพระ อาตมาก็ขออนุโมทนาบุญกับโยมป้าสุจินต์ด้วย
แต่อาตมานี้ของดการเสพผู้หญิง (งดการมีเพศสัมพันธุ์) งดการอยู่การครองเรือน เสียสละจากเพศฆราวาส ก็รู้สึกอดทนมากมายหลายประการ และจางคลายความกำหนัดที่เคยเป็นเมื่อก่อนครั้งยังไม่ได้บวช หรืออาจจะเป็นด้วยอำนาจเนกขัมมะบารมีที่ได้สั่งสมมาก็อาจจะเป็นได้

https://www.facebook.com/hashtag/%E0%B8 ... =feed_text

rolleyes
ทีวีวิดีโอเฟสบุคไลน์อินเทอร์เน็ตเป็นของโลกนะคะ
การเสพข่าวจากสื่อต่างๆเป็นการส่งจิตออกถูกไหมคะ
คิดสิคะคิดครั้งพุทธกาลความสะดวกคือกันดารกว่าปัจจุบัน
แต่ปัจจุบันเครื่องส่งเสริมกิเลสมีมากกว่าถูกไหมคะคิดให้ตรงปกติ
ถ้าปัจจุบันส่งเสริมการเสพคุ้นกับโลกผู้บวชก็ไปตามโลกดีกว่าชาวโลกไหม
พิจารณาสิคะสละอะไรไม่ได้เลยกิเลสเห่อเหิมจนจะแก้ไขคำสอนเอาสะดวกเข้าว่า
มันเกินเลยคำสอนไหมคิดเป็นไหมเพราะไม่คิดตามคำตถาคตมีเกินอัฏบริขารบวชทำลายคำสอนตรงไหม
คำของตถาคตทุกคำส่องถึงจิตผู้ที่กำลังฟังคำสอนแล้วรู้ตัวเพราะดูที่กายใจตนเองไม่ส่งออกไปตามกิเลสค่ะ
บวชไปเถอะพากันไปอบายภูมิเป็นว่าเล่นทำผิดไม่รู้ว่าทำผิดไปนรกแล้วกลับมาบอกได้ไหมคะฟังให้เข้าใจนะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 16:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/36840949_1445229332287556_4393209488870473728_n.jpg?_nc_cat=0&oh=af5528f45453231ca1dc30d2bd71d693&oe=5BA7914B

......หลวงพ่อท่านก็ได้อธิบายโดยย่อว่า...

เฟสบุคก็เหมือนมีดมีคมปลายแหลม
.....

ใช้หั่นผักผลไม้ได้ ใช้แทงตัวเองก็ได้ ใช้เผยแพร่ธรรมก็ได้ ภาพและข้อความไหน?ดีก็เซฟไว้ในสมอง ภาพและข้อความไหนไม่ดีทำให้ใจเป็นทุกข์ ก็ลบทิ้งไป

.....

ทั้งโยมสุจินต์กับพระ คงไม่ใช้มีด หรือเฟสบุคแทงตัวเองเป็นแน่แท้

.....

กิเลสก็ขัดเกลา ดูเฟสก็ดูว่าใครเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

.....

เหมือนเงินตรา จะใช้บริจาคทำบุญก็ได้ จะใช้จ้างมือปืนยิงคนก็ได้ จะใช้ทำบุญก็ได้ จะใช้ทำบาปก็ได้ จะดีหรือชั่วไม่ได้อยู่ที่เงิน อยู่ที่ตัวบุคลนั้นจะเห็นคุณค่าของเงิน

.....

เฟสก็เช่นกัน พระจะใช้เป็นสะพานบุญก็ได้ จะใช้เป็นสะพานบาปก็ได้ ถ้าพระท่านไม่ปรารถนานิพพานชาตินี้
ก็ใช้สร้างคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาในชาตินี้ได้

.....

พระที่เผยแพร่ธรรมทางโซเชียลมีเดียก็รวดเร็วถึงห้องนอนได้ นอนฟังได้
มันไม่เหมือนสมัยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ คือต้องจาริกไป เดินไป แล้วไปเทศนา มันก็ต้องเหนื่อย

.....

อย่างเรานี้ ถ้าอยากเทศน์เฟสบุคไลฟ์ ก็เทศน์ได้เลย คนฟัง 5 คน อาตมาก็พอใจ ในสมัยครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้คนฟัง 100 คน ได้ดวงตาเห็นธรรมเพียง 1 คน พระองค์ก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่ใช่เอาไปไลฟ์ในทางที่ไม่ดี และโยมไม่ต้องให้ใครเสียเงินติดกันเทศน์ โยมสุจินต์ควรมองสองด้าน คือด้านคุณและด้านโทษ ด้านบวกและด้านลบ

ด้านคุณก็มีมาก ด้านโทษก็มีเยอะถ้าพระใช้ไม่ถูกธรรมวินัย
.....
คนเรามีอิสระคิดในกรอบที่ดีงาม เมื่อพระใช้เฟสในกรอบที่ดีงาม ในการเผยแพร่พระธรรมก็ย่อมทำได้
มิใช่มีแต่โยมจะใช้เผยแพร่ธรรมได้เฉพาะโยมป้าสุจินต์เท่านั้น พระสงฆ์องค์เณรถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญที่จะต้องเผยแผ่ธรรม
......

โยมอย่ามีโมหาคติ คือลำเอียงเพราะหลง ใช้อัตโนมติของตนติเตียนพระ

.....

เรื่องเห็นภัยในวัฏสงสาร...มันก็เป็นเรื่องต้องไปเรื่อยๆ ในระหว่างเดินทางในสังสารวัฏ
พระก็เห็นภัย แต่เมื่อยังไม่บรรลุธรรมเกิดชาติใหม่ก็ค่อยว่ากันต่อไป
โยมตัดภัยในวัฏสงสารได้ก่อนพระ อาตมาก็ขออนุโมทนาบุญกับโยมป้าสุจินต์ด้วย
แต่อาตมานี้ของดการเสพผู้หญิง (งดการมีเพศสัมพันธุ์) งดการอยู่การครองเรือน เสียสละจากเพศฆราวาส ก็รู้สึกอดทนมากมายหลายประการ และจางคลายความกำหนัดที่เคยเป็นเมื่อก่อนครั้งยังไม่ได้บวช หรืออาจจะเป็นด้วยอำนาจเนกขัมมะบารมีที่ได้สั่งสมมาก็อาจจะเป็นได้

https://www.facebook.com/hashtag/%E0%B8 ... =feed_text

rolleyes
ทีวีวิดีโอเฟสบุคไลน์อินเทอร์เน็ตเป็นของโลกนะคะ
การเสพข่าวจากสื่อต่างๆเป็นการส่งจิตออกถูกไหมคะ
คิดสิคะคิดครั้งพุทธกาลความสะดวกคือกันดารกว่าปัจจุบัน
แต่ปัจจุบันเครื่องส่งเสริมกิเลสมีมากกว่าถูกไหมคะคิดให้ตรงปกติ
ถ้าปัจจุบันส่งเสริมการเสพคุ้นกับโลกผู้บวชก็ไปตามโลกดีกว่าชาวโลกไหม
พิจารณาสิคะสละอะไรไม่ได้เลยกิเลสเห่อเหิมจนจะแก้ไขคำสอนเอาสะดวกเข้าว่า
มันเกินเลยคำสอนไหมคิดเป็นไหมเพราะไม่คิดตามคำตถาคตมีเกินอัฏบริขารบวชทำลายคำสอนตรงไหม
คำของตถาคตทุกคำส่องถึงจิตผู้ที่กำลังฟังคำสอนแล้วรู้ตัวเพราะดูที่กายใจตนเองไม่ส่งออกไปตามกิเลสค่ะ
บวชไปเถอะพากันไปอบายภูมิเป็นว่าเล่นทำผิดไม่รู้ว่าทำผิดไปนรกแล้วกลับมาบอกได้ไหมคะฟังให้เข้าใจนะ
:b32: :b32:



คอเดียวกับบริหารสุวรรณเขตเลย คิดทื่อๆ คิกๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2018, 16:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน

พูดบ่อยมักๆ คำก็ฟังคำตถาคต สองคำก็ฟังคำตถาคตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูหน่อย


ตถาคต พระนามอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้า เป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรงเรียก หรือตรัสถึงพระองค์เอง แปลได้ความหมาย ๘ อย่าง คือ

๑. พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น คือ เสด็จมาทรงบำเพ็ญพุทธจริยา เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เป็นต้น เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น

๒. พระผู้เสด็จไปแล้วอย่างนั้น คือ ทรงทำลายอวิชชาสละปวงกิเลสเสด็จไปเหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น

๓. พระผู้เสด็จมาถึงตถลักษณะ คือ ทรงมีพระญาณหยั่งรู้เข้าถึงลักษณะที่แท้จริงของสิ่งทั้งหลายหรือของธรรมทุกอย่าง

๔. พระผู้ตรัสรู้ตถธรรมตามที่มันเป็น คือ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ หรือ ปฏิจจสมุปบาทอันเป็นธรรมที่จริงแท้แน่นอน

๕. พระผู้ทรงเห็นอย่างนั้น คือ ทรงรู้เท่าทันสรรพอารมณ์ที่ปรากฏแก่หมู่สัตว์ทั้งเทพและมนุษย์ ซึ่งสัตว์โลกตลอดถึงเทพถึงพรหมได้ประสบและพากันแสวงหา ทรงเข้าใจสภาพที่แท้จริง

๖. พระผู้ตรัสอย่างนั้น (หรือมีพระวาจาที่แท้จริง) คือ พระดำรัสทั้งปวงนับแต่ตรัสรู้จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ล้วนเป็นสิ่งแท้จริงถูกต้อง ไม่เป็นอย่างอื่น

๗. พระผู้ทำอย่างนั้น คือ ตรัสอย่างใด ทำอย่างนั้น ทำอย่างใด ตรัสอย่างนั้น

๘. พระผู้เป็นเจ้า (อภิภู) คือ ทรงเป็นผู้ใหญ่ยิ่งเหนือกว่าสรรพสัตว์ตลอดถึงพระพรหมที่สูงสุดเป็นผู้เห็นถ่องแท้ ทรงอำนาจ เป็นราชาที่พระราชาทรงบูชา เป็นเทพแห่งเทพ เป็นอินทร์เหนือพระอินทร์ เป็นพรหมเหนือประดาพรหม ไม่มีใครจะอาจวัดหรือจะทัดเทียมพระองค์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ

หน้า 4 จากทั้งหมด 24 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/