ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55490 |
หน้า 7 จากทั้งหมด 24 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 11:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: มีวิริยะมีขันติมีสมาธิที่จะมั่นคงต่อความรู้ตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีไหมคะรู้กำลังปัญญาตนจากฟังไงคะ ฟังใคร คนที่กล่าวความจริงให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ไง ไม่ใช่เดินเจี๋ยมเจี้ยมแบบเดินบิณฑบาตแต่ในใจ ชอบใจในเงินในบัญชีมีกิจดูตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้นหรือ เพื่อเอาไปจับจ่ายใข้สอยซื้อหาเองได้หรือคะพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นพฤติกรรมปกติของชาวบ้านที่ทำสัมมาอาชีพได้เงินค่าจ้างแล้วเอาเงินมาใช้ บรรพชิตมีเงินเดือนค่ะวันละ1บาตรไม่ขาดไม่เกินฉันได้ไม่เกินเที่ยงรู้ประเมินความโลภไหมคะ สละอาคารบ้านเรือนญาติพี่น้องเพื่อมาเลี้ยงดูตนเองด้วยปลีแข้งไม่โลภตามที่ฉันได้ไม่เกินเที่ยงและ มีหน้าที่แค่ศึกษาพระธรรมคือคันถธุระและทำความจริงให้ปรากฏคือวิปัสสนาธุระไม่คลุกคลีหมู่คณะ มักน้อยสันโดษฉันพอยังอัตภาพเพราะตนขอมาเป็นผู้ขอชาวบ้านตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอายไหมคะ คิกๆๆ ถามว่า ฟังจากใคร ? ฟังคำตถาคตจากใครก็ได้ที่กล่าวให้เข้าใจสัจจธรรม ไม่ใช่บวชงุบงิบรับเงินแล้วบอกว่าเงินเป็นสมมุติก็รับแล้ว อาบัติแล้วชั่วแล้วปลงอาบัติทุกวันแสดงว่าไม่มีหิริโอตัปปะไง นั่นจากแม่บริหารฯ ซึ่งนำไปใส่ปากตถาคต นับเงินตาดูตัวเลขเงินในบัญชีนี่โรสบอกเอง คือโรสและชาวบ้านชาวเมืองน่ะดูได้มีได้ไงคะ อ่ะทีนี้ขอความเห็นของทุกคนในลานธรรมจักร กรุณายกมาสิคะสิกขาบทใน227ข้อหรือ311ข้อก็ได้ ที่ให้นับเงินยกมาแสดงให้อ่านเป็นตัวอักษรหน่อยสิคะ ขอตรงๆว่านับเงินใช้เงินได้ตรงข้อไหนนะคะกิจพอใจในเงิน สิกขาบทไหนที่พูดนั่นน่ะยกมาสิ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 11:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: มีวิริยะมีขันติมีสมาธิที่จะมั่นคงต่อความรู้ตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีไหมคะรู้กำลังปัญญาตนจากฟังไงคะ ฟังใคร คนที่กล่าวความจริงให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ไง ไม่ใช่เดินเจี๋ยมเจี้ยมแบบเดินบิณฑบาตแต่ในใจ ชอบใจในเงินในบัญชีมีกิจดูตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้นหรือ เพื่อเอาไปจับจ่ายใข้สอยซื้อหาเองได้หรือคะพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นพฤติกรรมปกติของชาวบ้านที่ทำสัมมาอาชีพได้เงินค่าจ้างแล้วเอาเงินมาใช้ บรรพชิตมีเงินเดือนค่ะวันละ1บาตรไม่ขาดไม่เกินฉันได้ไม่เกินเที่ยงรู้ประเมินความโลภไหมคะ สละอาคารบ้านเรือนญาติพี่น้องเพื่อมาเลี้ยงดูตนเองด้วยปลีแข้งไม่โลภตามที่ฉันได้ไม่เกินเที่ยงและ มีหน้าที่แค่ศึกษาพระธรรมคือคันถธุระและทำความจริงให้ปรากฏคือวิปัสสนาธุระไม่คลุกคลีหมู่คณะ มักน้อยสันโดษฉันพอยังอัตภาพเพราะตนขอมาเป็นผู้ขอชาวบ้านตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอายไหมคะ คิกๆๆ ถามว่า ฟังจากใคร ? ฟังคำตถาคตจากใครก็ได้ที่กล่าวให้เข้าใจสัจจธรรม ไม่ใช่บวชงุบงิบรับเงินแล้วบอกว่าเงินเป็นสมมุติก็รับแล้ว อาบัติแล้วชั่วแล้วปลงอาบัติทุกวันแสดงว่าไม่มีหิริโอตัปปะไง นั่นจากแม่บริหารฯ ซึ่งนำไปใส่ปากตถาคต นับเงินตาดูตัวเลขเงินในบัญชีนี่โรสบอกเอง คือโรสและชาวบ้านชาวเมืองน่ะดูได้มีได้ไงคะ อ่ะทีนี้ขอความเห็นของทุกคนในลานธรรมจักร กรุณายกมาสิคะสิกขาบทใน227ข้อหรือ311ข้อก็ได้ ที่ให้นับเงินยกมาแสดงให้อ่านเป็นตัวอักษรหน่อยสิคะ ขอตรงๆว่านับเงินใช้เงินได้ตรงข้อไหนนะคะกิจพอใจในเงิน สิกขาบทไหนที่พูดนั่นน่ะยกมาสิ มีไหมล่ะให้โกนหัวห่มกาสาวพัตรแล้วรับเงินก็ยกมาสิจะได้รู้ว่าใครที่ทำผิดน่ะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 11:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: มีวิริยะมีขันติมีสมาธิที่จะมั่นคงต่อความรู้ตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีไหมคะรู้กำลังปัญญาตนจากฟังไงคะ ฟังใคร คนที่กล่าวความจริงให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ไง ไม่ใช่เดินเจี๋ยมเจี้ยมแบบเดินบิณฑบาตแต่ในใจ ชอบใจในเงินในบัญชีมีกิจดูตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้นหรือ เพื่อเอาไปจับจ่ายใข้สอยซื้อหาเองได้หรือคะพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นพฤติกรรมปกติของชาวบ้านที่ทำสัมมาอาชีพได้เงินค่าจ้างแล้วเอาเงินมาใช้ บรรพชิตมีเงินเดือนค่ะวันละ1บาตรไม่ขาดไม่เกินฉันได้ไม่เกินเที่ยงรู้ประเมินความโลภไหมคะ สละอาคารบ้านเรือนญาติพี่น้องเพื่อมาเลี้ยงดูตนเองด้วยปลีแข้งไม่โลภตามที่ฉันได้ไม่เกินเที่ยงและ มีหน้าที่แค่ศึกษาพระธรรมคือคันถธุระและทำความจริงให้ปรากฏคือวิปัสสนาธุระไม่คลุกคลีหมู่คณะ มักน้อยสันโดษฉันพอยังอัตภาพเพราะตนขอมาเป็นผู้ขอชาวบ้านตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอายไหมคะ คิกๆๆ ถามว่า ฟังจากใคร ? ฟังคำตถาคตจากใครก็ได้ที่กล่าวให้เข้าใจสัจจธรรม ไม่ใช่บวชงุบงิบรับเงินแล้วบอกว่าเงินเป็นสมมุติก็รับแล้ว อาบัติแล้วชั่วแล้วปลงอาบัติทุกวันแสดงว่าไม่มีหิริโอตัปปะไง นั่นจากแม่บริหารฯ ซึ่งนำไปใส่ปากตถาคต นับเงินตาดูตัวเลขเงินในบัญชีนี่โรสบอกเอง คือโรสและชาวบ้านชาวเมืองน่ะดูได้มีได้ไงคะ อ่ะทีนี้ขอความเห็นของทุกคนในลานธรรมจักร กรุณายกมาสิคะสิกขาบทใน227ข้อหรือ311ข้อก็ได้ ที่ให้นับเงินยกมาแสดงให้อ่านเป็นตัวอักษรหน่อยสิคะ ขอตรงๆว่านับเงินใช้เงินได้ตรงข้อไหนนะคะกิจพอใจในเงิน สิกขาบทไหนที่พูดนั่นน่ะยกมาสิ มีไหมล่ะให้โกนหัวห่มกาสาวพัตรแล้วรับเงินก็ยกมาสิจะได้รู้ว่าใครที่ทำผิดน่ะ ตรงๆอย่างนั้น ไม่มีหรอกคุณโรส ถ้าย้อนไปเมื่อครั้งพุทธกาล 2600 กว่าปี โน้น พระเณรมีผู้อุปัฏฐากดูแล จะเรียนจะศึกษาอะไรมีอุบาสกอุบาสิกาจัดการให้ ย้อนมาปัจจุบันเป็นไง จึงบอกว่าให้ดูมองภาพความเป็นจริงของสังคมกว้างๆ นี่ อ้างคำพูด: มองให้กว้าง ก็ไม่รู้นะ แต่จะลองยกตัวอย่าง ให้ดู ค่าใช้จ่ายภายในวัด/สำนัก มีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ แต่ละเดือนๆ ค่าก่อสร้างกุฏิวิหาร ค่าบูรณะปฏิสังขรณ์กุฎีวิหารลานเจดีย์ที่คร่ำคร่า แต่ละปีๆ ฯลฯ จะให้วัดแต่ละวัดๆทำอย่างไร ถ้าอย่างนั้นรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้วัดทั่วประเทศ ข่าวว่าทั้งประเทศมีวัดสามหมื่นกว่าวัด สำนักสงฆ์อีก คิกๆๆ ไม่ให้พระจับเฮินเอง ทางรัฐก็ต้องจัดคนรับใช้พระแต่ละรูปๆ พระจะไปไหนก็ต้องไปส่ง จะไปเรียนหนังสือก็ต้องไปส่ง สมุดดินสอปากกาก็ต้องหาให้ เขาว่าพระทั่วประเทศมีประมาณสามแสนกว่ารูป ก็ต้องจัดคนรับใช้พระสามแสนกว่าคน อิอิ viewtopic.php?f=1&t=56221 ถ้าไปคิดอย่างสำนักบ้านธัมมะ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องสึกให้หมด ไม่ต้องมีภิกษุ เหมือนไม่มีภิกษุณี ศาสนาก็ฉิบหายสิคุณโรส |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 11:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: มีวิริยะมีขันติมีสมาธิที่จะมั่นคงต่อความรู้ตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีไหมคะรู้กำลังปัญญาตนจากฟังไงคะ ฟังใคร คนที่กล่าวความจริงให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ไง ไม่ใช่เดินเจี๋ยมเจี้ยมแบบเดินบิณฑบาตแต่ในใจ ชอบใจในเงินในบัญชีมีกิจดูตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้นหรือ เพื่อเอาไปจับจ่ายใข้สอยซื้อหาเองได้หรือคะพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นพฤติกรรมปกติของชาวบ้านที่ทำสัมมาอาชีพได้เงินค่าจ้างแล้วเอาเงินมาใช้ บรรพชิตมีเงินเดือนค่ะวันละ1บาตรไม่ขาดไม่เกินฉันได้ไม่เกินเที่ยงรู้ประเมินความโลภไหมคะ สละอาคารบ้านเรือนญาติพี่น้องเพื่อมาเลี้ยงดูตนเองด้วยปลีแข้งไม่โลภตามที่ฉันได้ไม่เกินเที่ยงและ มีหน้าที่แค่ศึกษาพระธรรมคือคันถธุระและทำความจริงให้ปรากฏคือวิปัสสนาธุระไม่คลุกคลีหมู่คณะ มักน้อยสันโดษฉันพอยังอัตภาพเพราะตนขอมาเป็นผู้ขอชาวบ้านตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอายไหมคะ คิกๆๆ ถามว่า ฟังจากใคร ? ฟังคำตถาคตจากใครก็ได้ที่กล่าวให้เข้าใจสัจจธรรม ไม่ใช่บวชงุบงิบรับเงินแล้วบอกว่าเงินเป็นสมมุติก็รับแล้ว อาบัติแล้วชั่วแล้วปลงอาบัติทุกวันแสดงว่าไม่มีหิริโอตัปปะไง นั่นจากแม่บริหารฯ ซึ่งนำไปใส่ปากตถาคต นับเงินตาดูตัวเลขเงินในบัญชีนี่โรสบอกเอง คือโรสและชาวบ้านชาวเมืองน่ะดูได้มีได้ไงคะ อ่ะทีนี้ขอความเห็นของทุกคนในลานธรรมจักร กรุณายกมาสิคะสิกขาบทใน227ข้อหรือ311ข้อก็ได้ ที่ให้นับเงินยกมาแสดงให้อ่านเป็นตัวอักษรหน่อยสิคะ ขอตรงๆว่านับเงินใช้เงินได้ตรงข้อไหนนะคะกิจพอใจในเงิน สิกขาบทไหนที่พูดนั่นน่ะยกมาสิ มีไหมล่ะให้โกนหัวห่มกาสาวพัตรแล้วรับเงินก็ยกมาสิจะได้รู้ว่าใครที่ทำผิดน่ะ ตรงๆอย่างนั้น ไม่มีหรอกคุณโรส ถ้าย้อนไปเมื่อครั้งพุทธกาล 2600 กว่าปี โน้น พระเณรมีผู้อุปัฏฐากดูแล จะเรียนจะศึกษาอะไรมีอุบาสกอุบาสิกาจัดการให้ ย้อนมาปัจจุบันเป็นไง จึงบอกว่าให้ดูมองภาพความเป็นจริงของสังคมกว้างๆ นี่ อ้างคำพูด: มองให้กว้าง ก็ไม่รู้นะ แต่จะลองยกตัวอย่าง ให้ดู ค่าใช้จ่ายภายในวัด/สำนัก มีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ แต่ละเดือนๆ ค่าก่อสร้างกุฏิวิหาร ค่าบูรณะปฏิสังขรณ์กุฎีวิหารลานเจดีย์ที่คร่ำคร่า แต่ละปีๆ ฯลฯ จะให้วัดแต่ละวัดๆทำอย่างไร ถ้าอย่างนั้นรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้วัดทั่วประเทศ ข่าวว่าทั้งประเทศมีวัดสามหมื่นกว่าวัด สำนักสงฆ์อีก คิกๆๆ ไม่ให้พระจับเฮินเอง ทางรัฐก็ต้องจัดคนรับใช้พระแต่ละรูปๆ พระจะไปไหนก็ต้องไปส่ง จะไปเรียนหนังสือก็ต้องไปส่ง สมุดดินสอปากกาก็ต้องหาให้ เขาว่าพระทั่วประเทศมีประมาณสามแสนกว่ารูป ก็ต้องจัดคนรับใช้พระสามแสนกว่าคน อิอิ viewtopic.php?f=1&t=56221 ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 11:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 11:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 18:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 19:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 20:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังแม่บริหาร เป็นศิษย์แม่บริหาร |
เจ้าของ: | Rosarin [ 10 ส.ค. 2018, 00:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังแม่บริหาร เป็นศิษย์แม่บริหาร ฟังคำสอนนั้นน่าเหมือนร้องเพลง คนร้องคนแรกคือต้นฉบับคนที่ร้องถูกเลียนแบบมีทั่วประเทศได้ใช่ไหม เวลาที่มีคนฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วไปบอกต่อก็เหมือนต้นฉบับ คนฟังที่รู้ว่าคนร้องคนแรกเป็นใครฟังปุ๊บรู้ปั๊บว่าเพลงนี้ใครเป็นคนร้องคนแรกก็จำได้ไง เพราะเคยฟังเคยร้องตามมาก่อนพอได้ฟังอีกก็รู้ไงคะว่าเป็นเพลงของใครคำตถาคตก็เช่นกันน๊า |
เจ้าของ: | Rosarin [ 10 ส.ค. 2018, 06:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังแม่บริหาร เป็นศิษย์แม่บริหาร ฟังคำสอนนั้นน่าเหมือนร้องเพลง คนร้องคนแรกคือต้นฉบับคนที่ร้องถูกเลียนแบบมีทั่วประเทศได้ใช่ไหม เวลาที่มีคนฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วไปบอกต่อก็เหมือนต้นฉบับ คนฟังที่รู้ว่าคนร้องคนแรกเป็นใครฟังปุ๊บรู้ปั๊บว่าเพลงนี้ใครเป็นคนร้องคนแรกก็จำได้ไง เพราะเคยฟังเคยร้องตามมาก่อนพอได้ฟังอีกก็รู้ไงคะว่าเป็นเพลงของใครคำตถาคตก็เช่นกันน๊า ไม่มีใครรู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นเพราะเห็นดับแล้ว และไม่ได้มีแค่เห็นแต่เป็นจิตคิดนึกพาตนเห็นผิดจากคำสอน ครบ6ทางอายตนะตลอดเวลาจนกว่าจะเริ่มฟังความจริงถูกตรง ตามคำสอนทีละคำเพื่อให้จิตถูกปรุงแต่งตามคำสอนได้ตรงทางบ้าง คือแทรกรู้เพิ่มเข้ามาคั่นไม่รู้ได้ทีละน้อยท่ามกลางอกุศลที่ไม่รู้ของตน จนกว่ารู้แทรกได้ตรงครบ6ทางจนกิเลสแทรกเข้าไม่ได้ต้องอาศัยการฟัง และพึ่งการคิดตรงคำวาจาสัจจะตรงปรมัตถสัจจะทีละคำจนรู้เท่าทันกิเลสได้ ต้องดับกิเลสได้ละเอียดทีละ1ขณะตรงทางตรงคำตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีจริงๆค่ะ ดับกิเลสที่ไม่รู้ของตนที่ไหลไปไม่ขาดสายด้วยการฟังเพื่อให้รู้เท่าเอาทันกิเลสตนเองนะคะ การทำไปตามความคิดตนเองเป็นการเชื่อกิเลสตนเองจึงอยากไปทำอยากคือโลภะติดทำไม่ฟัง ปัญญาแรกเกิดจากฟังตรงๆตรงมากทีละคำตรงขณะสลับกับกิเลสของตนเองกิเลสแย่งนั่งในจิตใจ มานานแสนนานแล้วเมื่อไหร่จะพึ่งคำตถาคตเพื่อให้คำจริงของตถาคตนำทางจิตพาจิตออกจากกิเลสได้ คำตถาคตเป็นความจริงที่ตรงสัจจะที่เมื่อรู้ทันและตรงแล้วจะตรงทุกเมื่อเพราะถึงความตรงได้ด้วยคำตถาคต อ่านและทบทวนคำต่างๆข้างบนนี้ที่โรสเขียนไตร่ตรองตามตรงทีละคำไม่ใส่คิดเห็นเพิ่มเข้าไปคิดให้ตรงคำ จึงจะเป็นผู้ตรงต่อสัจจะคำตถาคตที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงคือรู้สิ่งที่กำลังมีได้เท่านั้นไม่มีใครเอากิเลสออกได้เลย เพราะทุกอย่างกำลังเกิดดับอย่างรวดเร็วสลับกันดับไม่กลับมาให้รู้อีกเลยเป็นอนันต์ฟังพระพุทธพจน์เพื่อรู้ทัน เพื่อให้จิตคิดถูกตามได้จนกว่าดับไม่รู้ที่ไหลไปไม่ขาดสายนั้นได้เพื่อเพิ่มรู้คือปัญญาตามคำสอนของตถาคต |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2018, 07:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังแม่บริหาร เป็นศิษย์แม่บริหาร ฟังคำสอนนั้นน่าเหมือนร้องเพลง คนร้องคนแรกคือต้นฉบับคนที่ร้องถูกเลียนแบบมีทั่วประเทศได้ใช่ไหม เวลาที่มีคนฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วไปบอกต่อก็เหมือนต้นฉบับ คนฟังที่รู้ว่าคนร้องคนแรกเป็นใครฟังปุ๊บรู้ปั๊บว่าเพลงนี้ใครเป็นคนร้องคนแรกก็จำได้ไง เพราะเคยฟังเคยร้องตามมาก่อนพอได้ฟังอีกก็รู้ไงคะว่าเป็นเพลงของใครคำตถาคตก็เช่นกันน๊า ไม่มีใครรู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นเพราะเห็นดับแล้ว และไม่ได้มีแค่เห็นแต่เป็นจิตคิดนึกพาตนเห็นผิดจากคำสอน ครบ6ทางอายตนะตลอดเวลาจนกว่าจะเริ่มฟังความจริงถูกตรง ตามคำสอนทีละคำเพื่อให้จิตถูกปรุงแต่งตามคำสอนได้ตรงทางบ้าง คือแทรกรู้เพิ่มเข้ามาคั่นไม่รู้ได้ทีละน้อยท่ามกลางอกุศลที่ไม่รู้ของตน จนกว่ารู้แทรกได้ตรงครบ6ทางจนกิเลสแทรกเข้าไม่ได้ต้องอาศัยการฟัง และพึ่งการคิดตรงคำวาจาสัจจะตรงปรมัตถสัจจะทีละคำจนรู้เท่าทันกิเลสได้ ต้องดับกิเลสได้ละเอียดทีละ1ขณะตรงทางตรงคำตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีจริงๆค่ะ ดับกิเลสที่ไม่รู้ของตนที่ไหลไปไม่ขาดสายด้วยการฟังเพื่อให้รู้เท่าเอาทันกิเลสตนเองนะคะ การทำไปตามความคิดตนเองเป็นการเชื่อกิเลสตนเองจึงอยากไปทำอยากคือโลภะติดทำไม่ฟัง ปัญญาแรกเกิดจากฟังตรงๆตรงมากทีละคำตรงขณะสลับกับกิเลสของตนเองกิเลสแย่งนั่งในจิตใจ มานานแสนนานแล้วเมื่อไหร่จะพึ่งคำตถาคตเพื่อให้คำจริงของตถาคตนำทางจิตพาจิตออกจากกิเลสได้ คำตถาคตเป็นความจริงที่ตรงสัจจะที่เมื่อรู้ทันและตรงแล้วจะตรงทุกเมื่อเพราะถึงความตรงได้ด้วยคำตถาคต อ่านและทบทวนคำต่างๆข้างบนนี้ที่โรสเขียนไตร่ตรองตามตรงทีละคำไม่ใส่คิดเห็นเพิ่มเข้าไปคิดให้ตรงคำ จึงจะเป็นผู้ตรงต่อสัจจะคำตถาคตที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงคือรู้สิ่งที่กำลังมีได้เท่านั้นไม่มีใครเอากิเลสออกได้เลย เพราะทุกอย่างกำลังเกิดดับอย่างรวดเร็วสลับกันดับไม่กลับมาให้รู้อีกเลยเป็นอนันต์ฟังพระพุทธพจน์เพื่อรู้ทัน เพื่อให้จิตคิดถูกตามได้จนกว่าดับไม่รู้ที่ไหลไปไม่ขาดสายนั้นได้เพื่อเพิ่มรู้คือปัญญาตามคำสอนของตถาคต อ้างคำพูด: การทำไปตามความคิดตนเองเป็นการเชื่อกิเลสตนเองจึงอยากไปทำอยากคือโลภะติดทำไม่ฟัง คุณโรสคิดแบบหนึ่ง ถ้ายังงั้นคนที่ตื่นเช้ามา ก็อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน กินอาหาร ไปทำงาน เป็นต้น มันก็เป็นกิเลสหมดสิงั้น พรุ่งนี้วันพระคนอยากไปวัดไปฟังพระสวดพระเทศน์ก็เป็นกิเลสสิงั้น จะไปทางไหนเอ้า |
เจ้าของ: | Rosarin [ 10 ส.ค. 2018, 08:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ฟังให้มันตรงไม่มีใครช่วยกันได้ ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาของผู้นั้นเอง ที่เว้นโทษที่จะทำให้ตนไปอบายภูมิค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=101cfbifulF4 โอ้ยวนไปวนมา คิกๆๆ ตนสะสมปัญญาตามลำดับไหมล่ะสุตมยปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างใครแม้แต่ตนเองค่ะ https://m.youtube.com/watch?v=101cfbifuF4 สุตะอีกแระ คิกๆๆๆ เป็นสาวกใครก็ฟังคำของคนๆนั้น คิดสิเวลาร้องเพลงต้องเป็นศิษย์หรือคะ ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังแม่บริหาร เป็นศิษย์แม่บริหาร ฟังคำสอนนั้นน่าเหมือนร้องเพลง คนร้องคนแรกคือต้นฉบับคนที่ร้องถูกเลียนแบบมีทั่วประเทศได้ใช่ไหม เวลาที่มีคนฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วไปบอกต่อก็เหมือนต้นฉบับ คนฟังที่รู้ว่าคนร้องคนแรกเป็นใครฟังปุ๊บรู้ปั๊บว่าเพลงนี้ใครเป็นคนร้องคนแรกก็จำได้ไง เพราะเคยฟังเคยร้องตามมาก่อนพอได้ฟังอีกก็รู้ไงคะว่าเป็นเพลงของใครคำตถาคตก็เช่นกันน๊า ไม่มีใครรู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นเพราะเห็นดับแล้ว และไม่ได้มีแค่เห็นแต่เป็นจิตคิดนึกพาตนเห็นผิดจากคำสอน ครบ6ทางอายตนะตลอดเวลาจนกว่าจะเริ่มฟังความจริงถูกตรง ตามคำสอนทีละคำเพื่อให้จิตถูกปรุงแต่งตามคำสอนได้ตรงทางบ้าง คือแทรกรู้เพิ่มเข้ามาคั่นไม่รู้ได้ทีละน้อยท่ามกลางอกุศลที่ไม่รู้ของตน จนกว่ารู้แทรกได้ตรงครบ6ทางจนกิเลสแทรกเข้าไม่ได้ต้องอาศัยการฟัง และพึ่งการคิดตรงคำวาจาสัจจะตรงปรมัตถสัจจะทีละคำจนรู้เท่าทันกิเลสได้ ต้องดับกิเลสได้ละเอียดทีละ1ขณะตรงทางตรงคำตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีจริงๆค่ะ ดับกิเลสที่ไม่รู้ของตนที่ไหลไปไม่ขาดสายด้วยการฟังเพื่อให้รู้เท่าเอาทันกิเลสตนเองนะคะ การทำไปตามความคิดตนเองเป็นการเชื่อกิเลสตนเองจึงอยากไปทำอยากคือโลภะติดทำไม่ฟัง ปัญญาแรกเกิดจากฟังตรงๆตรงมากทีละคำตรงขณะสลับกับกิเลสของตนเองกิเลสแย่งนั่งในจิตใจ มานานแสนนานแล้วเมื่อไหร่จะพึ่งคำตถาคตเพื่อให้คำจริงของตถาคตนำทางจิตพาจิตออกจากกิเลสได้ คำตถาคตเป็นความจริงที่ตรงสัจจะที่เมื่อรู้ทันและตรงแล้วจะตรงทุกเมื่อเพราะถึงความตรงได้ด้วยคำตถาคต อ่านและทบทวนคำต่างๆข้างบนนี้ที่โรสเขียนไตร่ตรองตามตรงทีละคำไม่ใส่คิดเห็นเพิ่มเข้าไปคิดให้ตรงคำ จึงจะเป็นผู้ตรงต่อสัจจะคำตถาคตที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงคือรู้สิ่งที่กำลังมีได้เท่านั้นไม่มีใครเอากิเลสออกได้เลย เพราะทุกอย่างกำลังเกิดดับอย่างรวดเร็วสลับกันดับไม่กลับมาให้รู้อีกเลยเป็นอนันต์ฟังพระพุทธพจน์เพื่อรู้ทัน เพื่อให้จิตคิดถูกตามได้จนกว่าดับไม่รู้ที่ไหลไปไม่ขาดสายนั้นได้เพื่อเพิ่มรู้คือปัญญาตามคำสอนของตถาคต อ้างคำพูด: การทำไปตามความคิดตนเองเป็นการเชื่อกิเลสตนเองจึงอยากไปทำอยากคือโลภะติดทำไม่ฟัง คุณโรสคิดแบบหนึ่ง ถ้ายังงั้นคนที่ตื่นเช้ามา ก็อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน กินอาหาร ไปทำงาน เป็นต้น มันก็เป็นกิเลสหมดสิงั้น พรุ่งนี้วันพระคนอยากไปวัดไปฟังพระสวดพระเทศน์ก็เป็นกิเลสสิงั้น จะไปทางไหนเอ้า ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2018, 10:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
Rosarin เขียน: ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี ว่าไม่รู้เอ้า |
เจ้าของ: | Rosarin [ 10 ส.ค. 2018, 19:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่อไปกุลบุตรผู้จะบวช อย่างน้อยต้อง 15 วัน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ไปทำไม่รู้เพิ่มทับถมไม่รู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่ฟังคำสอนที่ถูกต้องเองไม่ใช่เหรอแล้วจะทำอะไรได้ไหมไม่รู้ก็สะสม หนทางรู้มีทางเดียวอันเอกคือจิตได้ยินตามคำสอนที่แท้จริงรู้อารมณ์วิปัสสนา=ภาวนาถูกตามอริยสัจจธรรม โดยพึ่งคำตถาคตเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตามเป็นจริงไปแล้วไม่รู้ก็คือไม่รู้ว่าอะไรคือรู้ถูกเข้าใจถูกตามได้ไง เขาไปทำบุญ บุญมีอะไรบ้าง บุญมี ๓ อย่างก็มี เช่น บุญกิริยาวัตถุ ๓ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่า ทานคืออันหยัง แม่นบ่คับ ทานก็คือการให้ เขามีอาหารคาวหวานไปถวายพระนี่ก็ทานแล้ว คิกๆๆ เป็นบุญแว้ว (แล้ว) หรือจะเอาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ เช่น เวยยาวัจจมัย ช่วยเขาทำนั่นทำนี่ก็เป็นบุญอีกแว้ว แค่นี้คุณโรสยังไม่รู้อีกหรือขอรับ ไหนลองบอกตรงๆให้กรัชกายน้อยนอนตายตาหลับถี ว่าไม่รู้เอ้า กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นไปเพื่อละไม่รู้ที่มีตัวตนไปเอาเพิ่มขึ้นติดทำไม่ฟังไงคะ การทำฟังจึงเป็นกุศลสูงสุดเพราะใช้ตาและหูที่มีฟังความจริงแล้วคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ |
หน้า 7 จากทั้งหมด 24 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |