วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 18:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2018, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แนวคิดทั้งสิบประการนี้ เป็นประโยชน์ทั้งนั้น เช่น คิดถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ก็ทำให้เกิดความศรัทธามั่นคงในองค์พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์

คิดถึงศีล ก็จะได้เห็นคุณค่าของระเบียบวินัย อันเราปฏิบัติแล้วเกิดความสุขอย่างไร

คิดถึงการบริจาค ก็จะเกิดใจเมตตาปรารถนาดีต่อกัน

คิดถึงคุณธรรมที่ทำตนให้เป็นเทวดา เราก็จะได้ปรับปรุงตัวเราให้มีจิตใจสูงขึ้น

คิดถึงความตาย ก็จะได้ไม่ประมาทเพราะรู้ว่าเป็นของเที่ยง ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง เราอาจจะถึงแก่ความตายลงไปเมื่อใดก็ได้ รีบเร่งใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ด้วยการกระทำคุณงามความดี

กายคตาสติ คิดแล้วมันเป็นประโยชน์ช่วยห้ามล้อจิตใจ ไม่ให้ไหลไปตามอารมณ์ ไม่ให้เกิดความกำหนัดขัดเคืองลุ่มหลงมัวเมา

อานาปานสติ เป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่จิตใจ ให้จิตสงบมีสมาธิ แล้วก็อ่อนโยน เหมาะที่จะใช้งาน

ส่วนการระลึกถึงคุณพระนิพพาน นั้น ก็จะมองเห็นสภาพที่แท้จริงของความสงบ ความดับความเย็น แล้วเราก็จะได้เข้าไปอยู่ในที่นั้น เอาใจเข้าไปวางไว้ในที่สงบ ความเย็นนั้น เรียกว่า เข้าถึงเท่าที่เราจะเข้าถึงได้ แม้จะไม่ถาวรก็ให้มันเข้าถึงไว้บ้าง ให้ได้รับไว้บ้างว่า สงบจิต เย็นจริง ให้พูดกับตัวเองได้ว่า เออ เย็นจริงเว้ย อย่างนี้ละก็ใช้ได้ ทำๆ ไว้บ้าง มันก็ได้ประโยชน์

นี่เรียกว่า อนุสสติสิบ มีนัยอรรถาธิบาย ดังที่กล่าวมาแล้วก็พอสมควรแก่เวลา.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2018, 18:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จบตอน จากหนังสือนี้ http://g-picture2.wunjun.com/6/full/385 ... s=614x1024 หน้า ๕๗๑

วิปัสสนา - ความเห็นแจ้ง คือเห็นตรงต่อความเป็นจริงของสภาวธรรม, ปัญญาที่เห็นไตรลักษณ์อันให้ถอนความหลงผิดรู้ผิดในสังขารเสียได้, การฝึกอบรมปัญญาให้เกิดความเห็นแจ้งรู้ชัดภาวะของสิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็น

นิโรธ - ความดับทุกข์ คือดับตัณหาได้สิ้นเชิง, ภาวะปลอดทุกข์เพราะไม่มีทุกข์ที่จะเกิดขึ้นได้ หมายถึง พระนิพพาน

นิพพาน - การดับกิเลสและกองทุกข์ เป็นโลกุตรธรรม

นิพพานธาตุ - ภาวะแห่งนิพพาน, นิพพานหรือนิพพานธาตุ ๒ คือ

๑. สอุปาทิเสสนิพพาน - ดับกิเลสมีเบญจขันธ์เหลือ (ได้แก่ พระอรหันต์ที่ดับกิเลสดับทุกข์ได้แล้ว แต่ยังมีชีวิตอยู่ คือยังไม่ตาย)

๒. อนุปาทิเสสนิพพาน - ดับกิเลสไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ( ได้แก่ พระอรหันต์ที่ดับกิเลสดับทุกข์ได้สิ้นแล้วด้วยสิ้นชีวิตไปแล้วด้วย)

นิพพิทา “ความหน่าย” หมายถึงความหน่ายที่เกิดขึ้นจากปัญญาพิจารณาเห็นความจริง ถ้าหญิงชายอยู่กินกันเกิดหน่ายกัน เพราะความประพฤติไม่ดีต่อกัน หรือหน่ายในมรรยาทของกันและกัน อย่างนี้ไม่จัดเป็นนิพพิทา, ความเบื่อหน่ายในกองทุกข์

นิพพิทาญาณ - ความรู้ที่ทำให้เบื่อหน่ายในกองทุกข์, ปรีชาหยั่งเห็นสังขารด้วยความหน่าย

นิพพิทานุปัสสนาญาณ - ปรีชาคำนึงถึงสังขารด้วยความหน่าย เพราะมีแต่โทษมากมาย แต่ไม่ใช่ทำลายตนเองเพราะเบื่อสังขาร เรียกสั้นว่า นิพพิทาญาณ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2018, 05:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:


ส่วนการระลึกถึงคุณพระนิพพาน นั้น ก็จะมองเห็นสภาพที่แท้จริงของความสงบ ความดับความเย็น แล้วเราก็จะได้เข้าไปอยู่ในที่นั้น เอาใจเข้าไปวางไว้ในที่สงบ ความเย็นนั้น เรียกว่า เข้าถึงเท่าที่เราจะเข้าถึงได้ แม้จะไม่ถาวรก็ให้มันเข้าถึงไว้บ้าง ให้ได้รับไว้บ้างว่า สงบจิต เย็นจริง ให้พูดกับตัวเองได้ว่า เออ เย็นจริงเว้ย อย่างนี้ละก็ใช้ได้ ทำๆ ไว้บ้าง มันก็ได้ประโยชน์



(ตัวอย่างผู้ที่สัมผัสความสุขสงบเย็นด้วยตัวของตัวเอง ที่คิดเอาไปไม่ถึง ต้องทำเท่านั้นจึงถึง - ตัดมา)

อ้างคำพูด:
กายขยายไปทุกทิศ จนรู้สึกว่ากายหายไป ความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า

"มีความสุขขนาดนี้ ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลก ที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลกมัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้น ก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่า ลมหายใจตอนนี้ มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจ คำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียด ว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปิติ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่
จากนั้น ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌาณหรือเปล่านี่ ปฐมฌาณเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง ก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น

http://larndham.org/index.php?/topic/27 ... ntry393770

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2022, 04:11 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2023, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2024, 09:32 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร