ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56064
หน้า 6 จากทั้งหมด 9

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ก.ค. 2018, 20:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

คุณโรสว่า เช่าบ้านอยู่ แสดงว่า บ้านมีอยู่ ถูกนะขอรับ ก็ในเมื่อบ้านมี ทำไมคนจะมีไม่ได้ มันต่างกันตรงไหนหรอ :b10: :b13:

เจ้าของ:  Rosarin [ 21 ก.ค. 2018, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่า เช่าบ้านอยู่ แสดงว่า บ้านมีอยู่ ถูกนะขอรับ ก็ในเมื่อบ้านมี ทำไมคนจะมีไม่ได้ มันต่างกันตรงไหนหรอ :b10: :b13:

:b32: :b32:
ต่างกันตรงปัญญาไงคะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ก.ค. 2018, 17:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่า เช่าบ้านอยู่ แสดงว่า บ้านมีอยู่ ถูกนะขอรับ ก็ในเมื่อบ้านมี ทำไมคนจะมีไม่ได้ มันต่างกันตรงไหนหรอ :b10: :b13:

:b32: :b32:
ต่างกันตรงปัญญาไงคะ


ถามว่า บ้านมี กับ คนมี ต่างกันตรงไหน ก็ในเมื่อทั้งบ้านทั้งคนก็เป็นสมมติเรียก...ว่า บ้าน ....ว่าคน ด้วยกัน

เจ้าของ:  Rosarin [ 21 ก.ค. 2018, 17:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่า เช่าบ้านอยู่ แสดงว่า บ้านมีอยู่ ถูกนะขอรับ ก็ในเมื่อบ้านมี ทำไมคนจะมีไม่ได้ มันต่างกันตรงไหนหรอ :b10: :b13:

:b32: :b32:
ต่างกันตรงปัญญาไงคะ


ถามว่า บ้านมี กับ คนมี ต่างกันตรงไหน ก็ในเมื่อทั้งบ้านทั้งคนก็เป็นสมมติเรียก...ว่า บ้าน ....ว่าคน ด้วยกัน

:b12:
คนมีจิต
บ้านไม่มีจิต
บ้านคิดไม่เป็น
คนไม่รู้ก็คิดไม่ถูกไง
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่า เช่าบ้านอยู่ แสดงว่า บ้านมีอยู่ ถูกนะขอรับ ก็ในเมื่อบ้านมี ทำไมคนจะมีไม่ได้ มันต่างกันตรงไหนหรอ :b10: :b13:

:b32: :b32:
ต่างกันตรงปัญญาไงคะ


ถามว่า บ้านมี กับ คนมี ต่างกันตรงไหน ก็ในเมื่อทั้งบ้านทั้งคนก็เป็นสมมติเรียก...ว่า บ้าน ....ว่าคน ด้วยกัน

:b12:
คนมีจิต
บ้านไม่มีจิต
บ้านคิดไม่เป็น
คนไม่รู้ก็คิดไม่ถูกไง
:b32: :b32:


ตีโจทก์ยังไม่แตกเลย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 ก.ค. 2018, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

อ้างคำพูด:
Rosarin
เข้าวัดจิตวัดใจตนเองว่าพึ่งคำจริงของตถาคตที่ทำให้เข้าใจถูกคิดถูกตามได้ค่ะ
ที่ไหนไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ค่ะมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ฟังเพราะศรัทธาเลื่อมใส
ในคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าใจความจริงแต่ละขณะที่กำลังเป็นไปถูกต้อง
ดีกว่าไปถวายดอกไม้ธูปเทียนเดินเวียนโบสถ์3รอบกราบ3ครั้งแต่ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
คือทำไปตามประเพณีโดยไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลยมีแต่ความเห็นผิดต้องรู้จักเลือกทำสิ่งที่ถูก
งานยุ่งมากเลยค่ะไม่มีเวลาไปเดินเวียนเทียนหรอกค่ะแค่เดินวนเวียนดแลคนเจ็บไข้ก็จะไม่ไหวแล้วเพลีย


คุณโรสเข้าใจยังครับว่า "คน" น่ะ มีอยู่ แต่คนหามีไม่ :b12:

"เดิน" เรียก อิริยาบถ หนึ่งในบรรดาอิริยาบถใหญ่

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 ก.ค. 2018, 12:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

รูปภาพ


อิริยาบถ "ทางแห่งการเคลื่อนไหว" ท่าทางที่ร่างกายจะเป็นไป, ท่าที่เคลื่อนไหวตั้งวางร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่ง, อิริยาบถหลักมี ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน, อิริยาบถย่อย เรียกว่า จุณณิยอิริยาบถ หรือ จุณณิกอิริยาบถ ได้แก่ ท่าที่แปรเปลี่ยนยักย้ายไประหว่างอิริยาบถทั้ง ๔ นั้น

เจ้าของ:  Rosarin [ 27 ก.ค. 2018, 12:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
เข้าวัดจิตวัดใจตนเองว่าพึ่งคำจริงของตถาคตที่ทำให้เข้าใจถูกคิดถูกตามได้ค่ะ
ที่ไหนไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ค่ะมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ฟังเพราะศรัทธาเลื่อมใส
ในคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าใจความจริงแต่ละขณะที่กำลังเป็นไปถูกต้อง
ดีกว่าไปถวายดอกไม้ธูปเทียนเดินเวียนโบสถ์3รอบกราบ3ครั้งแต่ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
คือทำไปตามประเพณีโดยไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลยมีแต่ความเห็นผิดต้องรู้จักเลือกทำสิ่งที่ถูก
งานยุ่งมากเลยค่ะไม่มีเวลาไปเดินเวียนเทียนหรอกค่ะแค่เดินวนเวียนดแลคนเจ็บไข้ก็จะไม่ไหวแล้วเพลีย


คุณโรสเข้าใจยังครับว่า "คน" น่ะ มีอยู่ แต่คนหามีไม่ :b12:

"เดิน" เรียก อิริยาบถ หนึ่งในบรรดาอิริยาบถใหญ่

:b32:
ก็บอกว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดรวมกันได้เลยค่ะ
มีแต่ธัมมะแต่ละ1ตัวธัมมะหลากหลายตามการสะสมที่ดับแล้วไม่กลับมาให้รู้อีก
ตายจากชาติที่เป็นกรัชกายปุ๊บไม่รู้ไปเกิดเป็นหัวเหน่งที่ไหนแล้วหากรัชกายไม่มี
จะไปค้นทั้งจักรวาลก็ไม่มีเพราะดับจิต1ขณะสุดท้ายแล้วกลับมาเป็นกรัชกายไม่ได้
:b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 27 ก.ค. 2018, 12:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

Kiss
:b32:
เดินเพ่นพ่านเหมือนกรัชกายเพ่นพ่านในลานธรรมจักรหรือคะ
:b13:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 ก.ค. 2018, 13:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
เข้าวัดจิตวัดใจตนเองว่าพึ่งคำจริงของตถาคตที่ทำให้เข้าใจถูกคิดถูกตามได้ค่ะ
ที่ไหนไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ค่ะมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ฟังเพราะศรัทธาเลื่อมใส
ในคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าใจความจริงแต่ละขณะที่กำลังเป็นไปถูกต้อง
ดีกว่าไปถวายดอกไม้ธูปเทียนเดินเวียนโบสถ์3รอบกราบ3ครั้งแต่ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
คือทำไปตามประเพณีโดยไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลยมีแต่ความเห็นผิดต้องรู้จักเลือกทำสิ่งที่ถูก
งานยุ่งมากเลยค่ะไม่มีเวลาไปเดินเวียนเทียนหรอกค่ะแค่เดินวนเวียนดแลคนเจ็บไข้ก็จะไม่ไหวแล้วเพลีย


คุณโรสเข้าใจยังครับว่า "คน" น่ะ มีอยู่ แต่คนหามีไม่ :b12:

"เดิน" เรียก อิริยาบถ หนึ่งในบรรดาอิริยาบถใหญ่

:b32:
ก็บอกว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดรวมกันได้เลยค่ะ
มีแต่ธัมมะแต่ละ1ตัวธัมมะหลากหลายตามการสะสมที่ดับแล้วไม่กลับมาให้รู้อีก
ตายจากชาติที่เป็นกรัชกายปุ๊บไม่รู้ไปเกิดเป็นหัวเหน่งที่ไหนแล้วหากรัชกายไม่มี
จะไปค้นทั้งจักรวาลก็ไม่มีเพราะดับจิต1ขณะสุดท้ายแล้วกลับมาเป็นกรัชกายไม่ได้


คิกๆๆ เอางี้ใกล้เพลงสุดท้ายแล้วใกล้ยุบสำนักบ้านธัมมะแล้ว :b32:

Rosarin มีไหม ?

1. มี
2. ไม่มี

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 05 พ.ย. 2018, 18:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

อ้างคำพูด:
Rosarin
เออนะคนเรา...รู้จักคำว่าตามปกติเป็นปกติไหมคะ

คุณพูดคำว่า...ธัมมะ...ตามคำสอนได้...แต่ไม่รู้ไง

ธัมมะเป็นภาษาบาลี แปลว่า สิ่งที่มีจริงในภาษาไทย

ทีนี้ก็พูดคำว่าสิ่งที่มีจริงจะได้เข้าใจในภาษาที่ใช้
ทีนี้คุณก็ตอบคำถามตัวเองสิเดี๋ยวนี้มีสิ่งที่มีจริงไหม
ปัจจุบันขณะมีอะไรที่จริงตรงสัจจะแค่1สัจจะที่ควรรู้ตรงสัจจะ
ไม่ใช่คิดไปแต่ในอดีตที่ไม่ใช่เหตุการณ์จริงของตัวเองเดี๋ยวนี้

คุณคิดเอาเองว่า คน สัตว์ วัตถุมีจริง คอมพิวเตอรมีจริง มือถือ มีจริง คือ ความเห็นผิดไงคะ

คุณต้องกำลังคิดตามคำสอนว่าไม่มีเราไม่มีเขาไม่มีคนไม่มีสัตว์มีแต่สิ่งที่มีจริงตรง1สัจจะตรงๆ

ก็ปัจจุบันขณะเนี่ย มันเร็วเป็นอณูวินาที คุณรู้ไม่ทันตามคำสอนก็ คือ มีกิเลสปรากฏกับจิตคุณ รู้จักสัจจะไหมคะ

viewtopic.php?f=1&t=56199&start=45



คุณโรส ยังแยก สมมติบัญญัติ กับ ปรมัตถ์ ไม่เป็น ซึ่งก็คือไม่เข้าใจพุทธธรรมนั่นเอง

อ้างคำพูด:
คุณคิดเอาเองว่า คน สัตว์ วัตถุมีจริง คอมพิวเตอรมีจริง มือถือมีจริง คือ ความเห็นผิดไงคะ



คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่ สัตว์, วัตถุ มีอยู่ แต่สัตว์,วัตถุหามีไม่ คอมพิวเตอร์,มือถือ มีอยู่ แต่คอมพิวเตอร์ มือถือหามีไม่

ความท่อนหน้าๆ พูดตามนัยสมมติ ส่วนความท่อนหลังๆ พูดตามนัยปรมัตถ์

การดำเนินชีวิตทุกวี่ทุกวันตั้งแต่เกิดจนตายเนี่ย เราใช้สมมติ (ข้อรู้ร่วมกัน, ข้อตกลง) กันนะ ถ้าไม่มีสมมติ จะพูดจะสื่อสารกันยังไงจึงเข้าใจรู้เรื่องกัน อือๆอ้าๆ หรอ ไม่ได้ ไปไม่เป็น

นี่เขาสมมติเรียกกันว่า มือถือ ก็มือถือดิ

รูปภาพ

น้องจ๋า ซื้อมือเครื่องหนึ่งซิคะ รับเครื่องไหนดีคะ ? เอาเครื่องไหนก็บอกน้องเค้า เครื่องละกี่พันกี่หมื่นก็จ่ายเงินเค้าไป (ไม่ใช่อย่างที่มีข่าว สั่งมือถือเป็นร้อยๆเครื่อง (อวดรวย) แต่ไม่มีตังค์จ่าย) นี่ไปได้เลย สำเร็จประโยชน์

ถ้านักธรรมะบ้านเราไม่เอาสมมติ จะเอาแต่ปรมัตถ์ แล้วจะไปยังไง ซอยตันเลยไปไม่ถูก

สมมติเรารู้เอาไว้ใช้สื่อสารกันในโลก ปรมัตถ์รู้เข้าใจไว้เพื่อดับทุกข์พ้นทุกข์ (ของสิ่งเดียวกันนั่นแหละแต่ต้องมองสองชั้น)

จะว่ามือถือไม่มีได้ไหม ไม่ได้ ก็นั่นไงมือถือ

จะว่าคนไม่มีได้ไหม ไม่ได้ ก็นั่นไงคน คิกๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 05 พ.ย. 2018, 19:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

มีหลายสำนักสอนให้ละสมมติ เข้าใจผิดแล้ว ให้ดูความหมาย "สมมติ, สมมุติ" พอเห็นแนวทาง

หลายท่านเข้าใจสมมติเป็นเหลวไหลไป แต่สมมติไม่ใช่หมายความว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ตรงข้าม สมมติ คือ สํ (ร่วมกัน) + มติ = มติร่วมกัน ได้แก่ ข้อตกลง การยอมรับร่วมกัน หรือสิ่งที่เห็นร่วมกัน แล้วกำหนดวางเป็นข้อที่จะหมายรู้หรือที่จะปฏิบัติไปตามนั้น
ด้วยเหตุนี้ สมมติ แม้จะไม่มีสภาวะที่เป็นความจริงแท้ แต่เป็นความจริงที่มีผลอันสำคัญตามตกลง

เจ้าของ:  Rosarin [ 05 พ.ย. 2018, 19:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
เข้าวัดจิตวัดใจตนเองว่าพึ่งคำจริงของตถาคตที่ทำให้เข้าใจถูกคิดถูกตามได้ค่ะ
ที่ไหนไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ค่ะมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ฟังเพราะศรัทธาเลื่อมใส
ในคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าใจความจริงแต่ละขณะที่กำลังเป็นไปถูกต้อง
ดีกว่าไปถวายดอกไม้ธูปเทียนเดินเวียนโบสถ์3รอบกราบ3ครั้งแต่ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
คือทำไปตามประเพณีโดยไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลยมีแต่ความเห็นผิดต้องรู้จักเลือกทำสิ่งที่ถูก
งานยุ่งมากเลยค่ะไม่มีเวลาไปเดินเวียนเทียนหรอกค่ะแค่เดินวนเวียนดแลคนเจ็บไข้ก็จะไม่ไหวแล้วเพลีย


คุณโรสเข้าใจยังครับว่า "คน" น่ะ มีอยู่ แต่คนหามีไม่ :b12:

"เดิน" เรียก อิริยาบถ หนึ่งในบรรดาอิริยาบถใหญ่

:b32:
ก็บอกว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดรวมกันได้เลยค่ะ
มีแต่ธัมมะแต่ละ1ตัวธัมมะหลากหลายตามการสะสมที่ดับแล้วไม่กลับมาให้รู้อีก
ตายจากชาติที่เป็นกรัชกายปุ๊บไม่รู้ไปเกิดเป็นหัวเหน่งที่ไหนแล้วหากรัชกายไม่มี
จะไปค้นทั้งจักรวาลก็ไม่มีเพราะดับจิต1ขณะสุดท้ายแล้วกลับมาเป็นกรัชกายไม่ได้


คิกๆๆ เอางี้ใกล้เพลงสุดท้ายแล้วใกล้ยุบสำนักบ้านธัมมะแล้ว :b32:

Rosarin มีไหม ?

1. มี
2. ไม่มี

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

มีเมื่อคิดไม่มีเมื่อคิดคำอื่น
:b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 05 พ.ย. 2018, 19:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
เออนะคนเรา...รู้จักคำว่าตามปกติเป็นปกติไหมคะ

คุณพูดคำว่า...ธัมมะ...ตามคำสอนได้...แต่ไม่รู้ไง

ธัมมะเป็นภาษาบาลี แปลว่า สิ่งที่มีจริงในภาษาไทย

ทีนี้ก็พูดคำว่าสิ่งที่มีจริงจะได้เข้าใจในภาษาที่ใช้
ทีนี้คุณก็ตอบคำถามตัวเองสิเดี๋ยวนี้มีสิ่งที่มีจริงไหม
ปัจจุบันขณะมีอะไรที่จริงตรงสัจจะแค่1สัจจะที่ควรรู้ตรงสัจจะ
ไม่ใช่คิดไปแต่ในอดีตที่ไม่ใช่เหตุการณ์จริงของตัวเองเดี๋ยวนี้

คุณคิดเอาเองว่า คน สัตว์ วัตถุมีจริง คอมพิวเตอรมีจริง มือถือ มีจริง คือ ความเห็นผิดไงคะ

คุณต้องกำลังคิดตามคำสอนว่าไม่มีเราไม่มีเขาไม่มีคนไม่มีสัตว์มีแต่สิ่งที่มีจริงตรง1สัจจะตรงๆ

ก็ปัจจุบันขณะเนี่ย มันเร็วเป็นอณูวินาที คุณรู้ไม่ทันตามคำสอนก็ คือ มีกิเลสปรากฏกับจิตคุณ รู้จักสัจจะไหมคะ

viewtopic.php?f=1&t=56199&start=45



คุณโรส ยังแยก สมมติบัญญัติ กับ ปรมัตถ์ ไม่เป็น ซึ่งก็คือไม่เข้าใจพุทธธรรมนั่นเอง

อ้างคำพูด:
คุณคิดเอาเองว่า คน สัตว์ วัตถุมีจริง คอมพิวเตอรมีจริง มือถือมีจริง คือ ความเห็นผิดไงคะ



คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่ สัตว์, วัตถุ มีอยู่ แต่สัตว์,วัตถุหามีไม่ คอมพิวเตอร์,มือถือ มีอยู่ แต่คอมพิวเตอร์ มือถือหามีไม่

ความท่อนหน้าๆ พูดตามนัยสมมติ ส่วนความท่อนหลังๆ พูดตามนัยปรมัตถ์

การดำเนินชีวิตทุกวี่ทุกวันตั้งแต่เกิดจนตายเนี่ย เราใช้สมมติ (ข้อรู้ร่วมกัน, ข้อตกลง) กันนะ ถ้าไม่มีสมมติ จะพูดจะสื่อสารกันยังไงจึงเข้าใจรู้เรื่องกัน อือๆอ้าๆ หรอ ไม่ได้ ไปไม่เป็น

นี่เขาสมมติเรียกกันว่า มือถือ ก็มือถือดิ

รูปภาพ

น้องจ๋า ซื้อมือเครื่องหนึ่งซิคะ รับเครื่องไหนดีคะ ? เอาเครื่องไหนก็บอกน้องเค้า เครื่องละกี่พันกี่หมื่นก็จ่ายเงินเค้าไป (ไม่ใช่อย่างที่มีข่าว สั่งมือถือเป็นร้อยๆเครื่อง (อวดรวย) แต่ไม่มีตังค์จ่าย) นี่ไปได้เลย สำเร็จประโยชน์

ถ้านักธรรมะบ้านเราไม่เอาสมมติ จะเอาแต่ปรมัตถ์ แล้วจะไปยังไง ซอยตันเลยไปไม่ถูก

สมมติเรารู้เอาไว้ใช้สื่อสารกันในโลก ปรมัตถ์รู้เข้าใจไว้เพื่อดับทุกข์พ้นทุกข์ (ของสิ่งเดียวกันนั่นแหละแต่ต้องมองสองชั้น)

จะว่ามือถือไม่มีได้ไหม ไม่ได้ ก็นั่นไงมือถือ

จะว่าคนไม่มีได้ไหม ไม่ได้ ก็นั่นไงคน คิกๆๆ

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงตรงขณะ
คิดตรงๆไม่ต้องคิดมากซับซ้อนอะไรเลย
มีคือมีจริงๆไม่มีคือไม่มีจริงๆแปลว่า
ที่มีจริงๆตรงขณะทุกขณะ
ที่ไม่มีจริงๆตามคำสอน
คือไม่มีตัวตนนะคะ
คิดว่าไปเพื่อทำ
เอาตัวไปทำ
แต่ทรงบอกให้ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 05 พ.ย. 2018, 19:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนน่ะมีอยู่ แต่คนหามีไม่

พระพุทธเจ้า ท่านก็ใช้สมมติ แต่ก็มีปรมัตถ์เป็นฐานอยู่ อ้าวดูตัวอย่าง :b32:

ที่เน้นในแง่ปฏิบัติ คือ ความรู้เท่าทันสมมติ และเข้าใจปรมัตถ์ แล้วรู้จักใช้ภาษา เป็นเครื่องมือสื่อความหมาย โดยไม่ยึดติดในสมมติเป็นทาสของภาษา สามารถยกบาลีที่เป็นพุทธพจน์มาอ้างได้อีก เช่น

"ภิกษุผู้เป็นอรหันตขีณาสพ....จะพึงกล่าวว่า ฉันพูด ดังนี้ก็ดี เขาพูดกับฉัน ดังนี้ก็ดี เธอเป็นผู้ฉลาด รู้ถ้อยคำที่เขาพูดกันในโลก ก็พึงกล่าวไปตามโวหารเท่านั้น" (สํ.ส.15/65/21)

"เหล่านี้ เป็นโลกสมัญญา เป็นโลกนิรุตติ เป็นโลกโวหาร เป็นโลกบัญญัติ ซึ่งตถาคตใช้พูดจา แต่ไม่ยึดติด" (ที.สี.9/312/248)

หน้า 6 จากทั้งหมด 9 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/