ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

วิสยรูป 7
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56203
หน้า 4 จากทั้งหมด 9

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:

มันตกร่องปล่องชิ้นทีละขณะจิตนะคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนาก็มีตรงขณะทุกขณะ
เพราะเป็นปัญญาที่เจริญตามลำดับไงคะ
แต่ทุกลำดับต้องมีทั้ง3อย่างนั้นแหละในตน
ถ้าฟังแล้วไม่ไตร่ตรองจนถูกจะเอาคำไหนไปภาวนาได้คะ
ใครฟังแล้วไม่เข้าใจก็ให้ทราบว่าสะสมกิเลสเพิ่มแล้วจะให้ว่ายังไงล่ะคะ
ขนาดตอนกำลังฟังยังไม่เข้าใจแล้วไปทำตามๆกันจะเข้าใจไหมอะไรถูกอะไรผิดต้องฟังก่อน
เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงตรงขณะแก้ไม่ได้ถ้าผิดก็ผิดต่อเนื่องถ้าไม่ฟังให้เข้าใจก่อน
:b11:
:b4: :b4:


กำ
บ้านธัมมะ สอนกันมาแบบนี้นี่เอง
มิน่าถึงวนรอบปากชามข้าว ไม่ตักข้าวใส่ปากสักที :b32: :b32: :b32:

Kiss
:b12:
รูปตามอภิธรรมมี28รูปมีแสง1รูปอีก27รูปมืด
ลืมตาดูอยู่นี้มันสว่างมากกว่ามืดไงคะแต่รูปที่เห็นมันผิดไงคะ
จึงต้องพึ่งคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะและใช้ตาดูหูฟังเสียง
ที่มีผู้กล่าวคำตถาคตให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏว่า
มันตรงกับที่ตนกำลังระลึกรู้ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏที่ตนมีไหม
เพราะปกติคนเราลืมตามากกว่านอนหลับตอนหลับไม่มีวิถีจิตครบ
เพราะการรู้ความจริงตามคำสอนต้องกำลังมีการรับรู้ผ่านอายตนะ6
ครบทุกทางตามปกติตามเป็นจริงและต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งคือ
พึ่งการทำปัญญาของตนเองจากการฟังพร้อมเพียรรู้สึกวิสยรูป7ที่กาย
เพื่อทำสัมมาทิฏฐิตามการฟังคำสอนแล้วปัญญาที่เข้าใจตรงจริงที่มีทำกิจหน้าที่ไม่ใช่ตัวตนแยกไปทำค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


เอาชัดๆสิ รูปอะไรมีแสง

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 20:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:

มันตกร่องปล่องชิ้นทีละขณะจิตนะคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนาก็มีตรงขณะทุกขณะ
เพราะเป็นปัญญาที่เจริญตามลำดับไงคะ
แต่ทุกลำดับต้องมีทั้ง3อย่างนั้นแหละในตน
ถ้าฟังแล้วไม่ไตร่ตรองจนถูกจะเอาคำไหนไปภาวนาได้คะ
ใครฟังแล้วไม่เข้าใจก็ให้ทราบว่าสะสมกิเลสเพิ่มแล้วจะให้ว่ายังไงล่ะคะ
ขนาดตอนกำลังฟังยังไม่เข้าใจแล้วไปทำตามๆกันจะเข้าใจไหมอะไรถูกอะไรผิดต้องฟังก่อน
เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงตรงขณะแก้ไม่ได้ถ้าผิดก็ผิดต่อเนื่องถ้าไม่ฟังให้เข้าใจก่อน
:b11:
:b4: :b4:


กำ
บ้านธัมมะ สอนกันมาแบบนี้นี่เอง
มิน่าถึงวนรอบปากชามข้าว ไม่ตักข้าวใส่ปากสักที :b32: :b32: :b32:

Kiss
:b12:
รูปตามอภิธรรมมี28รูปมีแสง1รูปอีก27รูปมืด
ลืมตาดูอยู่นี้มันสว่างมากกว่ามืดไงคะแต่รูปที่เห็นมันผิดไงคะ
จึงต้องพึ่งคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะและใช้ตาดูหูฟังเสียง
ที่มีผู้กล่าวคำตถาคตให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏว่า
มันตรงกับที่ตนกำลังระลึกรู้ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏที่ตนมีไหม
เพราะปกติคนเราลืมตามากกว่านอนหลับตอนหลับไม่มีวิถีจิตครบ
เพราะการรู้ความจริงตามคำสอนต้องกำลังมีการรับรู้ผ่านอายตนะ6
ครบทุกทางตามปกติตามเป็นจริงและต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งคือ
พึ่งการทำปัญญาของตนเองจากการฟังพร้อมเพียรรู้สึกวิสยรูป7ที่กาย
เพื่อทำสัมมาทิฏฐิตามการฟังคำสอนแล้วปัญญาที่เข้าใจตรงจริงที่มีทำกิจหน้าที่ไม่ใช่ตัวตนแยกไปทำค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


เอาชัดๆสิ รูปอะไรมีแสง

Kiss
อุปาทายรูป24คือรูปประกอบที่มหาภูตรูปไงคะ
ไม่เคยได้ยินหรือคะที่ใดมีมหาภูตรูป4ที่นั้นต้อง
มีสีกลิ่นรสโอชาก็รูปของแสงสีน่ะคือ1ใน24รูป
รูปขันธ์ที่ละเอียดเป็นอภิธรรมมีทั้งหมด28รูป
ประกอบด้วยมหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24=28
รูปของแสงสีคือ1ใน28รูปตามรูปปรมัตถสัจจะ
และรูปยืนเดินนั่งนอนไม่ใช่รูปตามคำตถาคตค่ะ
:b16:
:b27: :b27:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:

มันตกร่องปล่องชิ้นทีละขณะจิตนะคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนาก็มีตรงขณะทุกขณะ
เพราะเป็นปัญญาที่เจริญตามลำดับไงคะ
แต่ทุกลำดับต้องมีทั้ง3อย่างนั้นแหละในตน
ถ้าฟังแล้วไม่ไตร่ตรองจนถูกจะเอาคำไหนไปภาวนาได้คะ
ใครฟังแล้วไม่เข้าใจก็ให้ทราบว่าสะสมกิเลสเพิ่มแล้วจะให้ว่ายังไงล่ะคะ
ขนาดตอนกำลังฟังยังไม่เข้าใจแล้วไปทำตามๆกันจะเข้าใจไหมอะไรถูกอะไรผิดต้องฟังก่อน
เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงตรงขณะแก้ไม่ได้ถ้าผิดก็ผิดต่อเนื่องถ้าไม่ฟังให้เข้าใจก่อน
:b11:
:b4: :b4:


กำ
บ้านธัมมะ สอนกันมาแบบนี้นี่เอง
มิน่าถึงวนรอบปากชามข้าว ไม่ตักข้าวใส่ปากสักที :b32: :b32: :b32:

Kiss
:b12:
รูปตามอภิธรรมมี28รูปมีแสง1รูปอีก27รูปมืด
ลืมตาดูอยู่นี้มันสว่างมากกว่ามืดไงคะแต่รูปที่เห็นมันผิดไงคะ
จึงต้องพึ่งคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะและใช้ตาดูหูฟังเสียง
ที่มีผู้กล่าวคำตถาคตให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏว่า
มันตรงกับที่ตนกำลังระลึกรู้ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏที่ตนมีไหม
เพราะปกติคนเราลืมตามากกว่านอนหลับตอนหลับไม่มีวิถีจิตครบ
เพราะการรู้ความจริงตามคำสอนต้องกำลังมีการรับรู้ผ่านอายตนะ6
ครบทุกทางตามปกติตามเป็นจริงและต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งคือ
พึ่งการทำปัญญาของตนเองจากการฟังพร้อมเพียรรู้สึกวิสยรูป7ที่กาย
เพื่อทำสัมมาทิฏฐิตามการฟังคำสอนแล้วปัญญาที่เข้าใจตรงจริงที่มีทำกิจหน้าที่ไม่ใช่ตัวตนแยกไปทำค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


เอาชัดๆสิ รูปอะไรมีแสง

Kiss
อุปาทายรูป24คือรูปประกอบที่มหาภูตรูปไงคะ
ไม่เคยได้ยินหรือคะที่ใดมีมหาภูตรูป4ที่นั้นต้อง
มีสีกลิ่นรสโอชาก็รูปของแสงสีน่ะคือ1ใน24รูป
รูปขันธ์ที่ละเอียดเป็นอภิธรรมมีทั้งหมด28รูป
ประกอบด้วยมหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24=28
รูปของแสงสีคือ1ใน28รูปตามรูปปรมัตถสัจจะ
และรูปยืนเดินนั่งนอนไม่ใช่รูปตามคำตถาคตค่ะ
:b16:
:b27: :b27:



ถามว่าสีอะไร

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 20:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 21:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 21:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:


วัณณะ สี มันก็รูปหรือร่างกาย (สิ่งที่มองเห็นด้วยตา) นี่เอง คุณโรสคิดมากจนจะเพี้ยนอยู่แล้วรู้ตัวไหม :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 21:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:


วัณณะ สี มันก็รูปหรือร่างกาย (สิ่งที่มองเห็นด้วยตา) นี่เอง คุณโรสคิดมากจนจะเพี้ยนอยู่แล้วรู้ตัวไหม :b32:

เห็นสีทีละ1สีดับ
ได้ยินทีละ1เสียงดับ
รู้ทีละ1กลิ่น1รส1กระทบ
เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวทั่วตัว
ครบ6ทางอายตนะคือวิสยรูป7ค่ะ
ต้องเร็วจึงจะเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมไงคะ
ก็กะพริบตาแล้วไม่ทันวิสยรูปแปลว่าไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 21:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:


วัณณะ สี มันก็รูปหรือร่างกาย (สิ่งที่มองเห็นด้วยตา) นี่เอง คุณโรสคิดมากจนจะเพี้ยนอยู่แล้วรู้ตัวไหม :b32:

เห็นสีทีละ1สีดับ
ได้ยินทีละ1เสียงดับ
รู้ทีละ1กลิ่น1รส1กระทบ
เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวทั่วตัว
ครบ6ทางอายตนะคือวิสยรูป7ค่ะ
ต้องเร็วจึงจะเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมไงคะ
ก็กะพริบตาแล้วไม่ทันวิสยรูปแปลว่าไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32:



ถามนับครั้งไม่ถ้วนว่า ดับแล้วมันเกิดอีกไหม

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 21:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:


วัณณะ สี มันก็รูปหรือร่างกาย (สิ่งที่มองเห็นด้วยตา) นี่เอง คุณโรสคิดมากจนจะเพี้ยนอยู่แล้วรู้ตัวไหม :b32:

เห็นสีทีละ1สีดับ
ได้ยินทีละ1เสียงดับ
รู้ทีละ1กลิ่น1รส1กระทบ
เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวทั่วตัว
ครบ6ทางอายตนะคือวิสยรูป7ค่ะ
ต้องเร็วจึงจะเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมไงคะ
ก็กะพริบตาแล้วไม่ทันวิสยรูปแปลว่าไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32:



ถามนับครั้งไม่ถ้วนว่า ดับแล้วมันเกิดอีกไหม

ไม่ใช่คนตายก็มีเกิดใหม่ตลอดไม่รู้ตลอดก็สะสมอวิขชาทุกขณะไงคะ
:b32: :b16:

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 21:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

รู้ทันปัจจุบัน
อดีตอนาคต
ก็รวมลงปัจจุบัน
ทันคือรู้ทันคือละไม่รู้
กิเลสแทรกเข้าไม่ได้ไงคะ
เป็นสติสัมปชัญญะสติปัฏฐานสี่ส่วนปัญญาเพิ่มทีละน้อยตามที่เข้าใจจากฟังค่ะ
สติปัฏฐานสี่เลือกฐานไม่ได้ต้องตามรู้ตรงฐานที่เกิดแล้วก่อนดับ
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 21:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
โห...ถามนิดเดียวเอาเปรียบอธิบายตั้งนานยังไม่เข้าใจอีก
ก็จิตเห็นรูปแสงสีผ่านอายตนะทางตาไงคะเห็นสีสันวรรณะ
:b32: :b32:


คุณโรสเอ้ย ตา เห็น รูป ก็พอ ไปต้องไปแสงสีหรอก (วัณณะ สี) มันอยู่ในวงเล็บ คิกๆๆ

อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป
:b32: :b32:


วัณณะ สี มันก็รูปหรือร่างกาย (สิ่งที่มองเห็นด้วยตา) นี่เอง คุณโรสคิดมากจนจะเพี้ยนอยู่แล้วรู้ตัวไหม :b32:

เห็นสีทีละ1สีดับ
ได้ยินทีละ1เสียงดับ
รู้ทีละ1กลิ่น1รส1กระทบ
เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวทั่วตัว
ครบ6ทางอายตนะคือวิสยรูป7ค่ะ
ต้องเร็วจึงจะเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมไงคะ
ก็กะพริบตาแล้วไม่ทันวิสยรูปแปลว่าไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32:



ถามนับครั้งไม่ถ้วนว่า ดับแล้วมันเกิดอีกไหม

ไม่ใช่คนตายก็มีเกิดใหม่ตลอดไม่รู้ตลอดก็สะสมอวิขชาทุกขณะไงคะ
:b32: :b16:



แล้วเห็นมันเกิดมันดับไหม

1. ไม่เห็นหรอก แต่พูดตามแม่บริหาร ฯว่า

2. เห็นเอง

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 21:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
รู้ทันปัจจุบัน
อดีตอนาคต
ก็รวมลงปัจจุบัน
ทันคือรู้ทันคือละไม่รู้
กิเลสแทรกเข้าไม่ได้ไงคะ
เป็นสติสัมปชัญญะสติปัฏฐานสี่ส่วนปัญญาเพิ่มทีละน้อยตามที่เข้าใจจากฟังค่ะ
สติปัฏฐานสี่เลือกฐานไม่ได้ต้องตามรู้ตรงฐานที่เกิดแล้วก่อนดับ
:b4: :b4:


คิกๆๆ สติ หมายถึงอะไร
สัมปชัญญะ หมายถึงอะไร
สติปัฏฐานมีสี่ ไม่ถาม (เพราะบอกอยู่ว่ามีสี่) แต่จะถามว่า สติปัฏฐานสี่ ใช้ปฏิบัติยังไงจึงว่ารวมลงในปัจจุบัน

เจ้าของ:  Rosarin [ 26 ก.ค. 2018, 21:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
รู้ทันปัจจุบัน
อดีตอนาคต
ก็รวมลงปัจจุบัน
ทันคือรู้ทันคือละไม่รู้
กิเลสแทรกเข้าไม่ได้ไงคะ
เป็นสติสัมปชัญญะสติปัฏฐานสี่ส่วนปัญญาเพิ่มทีละน้อยตามที่เข้าใจจากฟังค่ะ
สติปัฏฐานสี่เลือกฐานไม่ได้ต้องตามรู้ตรงฐานที่เกิดแล้วก่อนดับ
:b4: :b4:


คิกๆๆ สติ หมายถึงอะไร
สัมปชัญญะ หมายถึงอะไร
สติปัฏฐานมีสี่ ไม่ถาม (เพราะบอกอยู่ว่ามีสี่) แต่จะถามว่า สติปัฏฐานสี่ ใช้ปฏิบัติยังไงจึงว่ารวมลงในปัจจุบัน

ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบันขณะ
เป็นจิตแต่ละ1ดวงเกิดดับสลับกันไม่ซ้ำ
ดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกเป็นอนันตกาล
ไม่มีใครเลยสักคนมีแต่นิมิตที่ปรากฏไงคะ
สติสัมปชัญญาคือปัญญินทรีย์รู้ตัวทั่วพร้อม
:b32: :b32:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 26 ก.ค. 2018, 22:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิสยรูป7

Rosarin เขียน:
อ้าวระบุให้ชัดสิก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าเห็นสีทีละ1สีไม่มีรูปร่างไงเป็นสีกระทบจักขุปสาทรูปดับทันทีไงคะ
แล้วตาตัวเองน่ะกำลังเห็นสีแค่1สีไหมคะเพราะมันมีจิตทางอื่นที่มืดอีก5ทางเกิดต่อแปลว่าปรากฏได้ทีละ1รูป


นั่นเป็นสิ่งที่ รู้มาผิด จำมาผิด จากการฟังมาผิด

สิ่งที่ควรศึกษา เป็นอย่างนี้ครับ
Quote Tipitaka:
[๖๑๙] รูปที่เป็นรูปายตนะ นั้นเป็นไฉน
รูปใดที่เป็นสีต่างๆ อาศัยมหาภูตรูป ๔ เป็นรูปที่เห็นได้และกระทบได้ ได้แก่
สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว สีดำ สีหงสบาท สีคล้ำ สีเขียวใบไม้ สีม่วง ยาว
สั้น ละเอียด หยาบ กลม รี สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม แปดเหลี่ยม สิบหกเหลี่ยม ลุ่ม
ดอน เงา แดด แสงสว่าง มืด เมฆ หมอก ควัน ละออง แสงจันทร์ แสงอาทิตย์
แสงดาว แสงกระจก แสงแก้วมณี แสงสังข์ แสงแก้วมุกดา แสงแก้วไพฑูรย์
แสงทอง แสงเงิน หรือรูปแม้อื่นใดที่เป็นสีต่างๆ ซึ่งอาศัยมหาภูตรูป ๔ เป็นรูปที่
เห็นได้และกระทบได้ มีอยู่ เพราะปรารภรูปใด จักขุสัมผัสอาศัยจักษุ เคยเกิด
กำลังเกิด จักเกิด หรือพึงเกิด ฯลฯ เพราะปรารภรูปใด เวทนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส
ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ จักขุวิญญาณอาศัยจักษุ เคยเกิด กำลังเกิด จักเกิด
หรือพึงเกิด ฯลฯ จักขุสัมผัส มีรูปใดเป็นอารมณ์ อาศัยจักษุ เคยเกิด กำลังเกิด
จักเกิด หรือพึงเกิด ฯลฯ เวทนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา
ฯลฯ จักขุวิญญาณมีรูปใดเป็นอารมณ์ อาศัยจักษุ เคยเกิด กำลังเกิด จักเกิด หรือ
พึงเกิด นี้ชื่อว่ารูปบ้าง รูปายตนะบ้าง รูปธาตุบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นรูปายตนะ

และ
หากนับอายุรูป ไม่ดับทันทีครับ
เพราะรูป เป็นจิตตวิปปยุตครับ มีอายุยาวสุดได้ถึง 17 ขณะจิต หรือ 51อนุขณะในปัญญทวารวิถีครับ
รูปที่มีอายุสั้นกว่า 17 ขณะ ตย.ก็มีครับ คือ รูปวิญญัติ เช่น กายวิญญัติ หรือวจีวิญญัติ มีอายุเพียง 1 ขณะจิต หรือ3 อนุขณะ เนื่องจากเป็นจิตตสหภูรูป

Quote Tipitaka:
[๖๖๘] รูปที่เกิดพร้อมกับจิต นั้นเป็นไฉน
กายวิญญัติ และวจีวิญญัติ รูปนี้ชื่อว่าเกิดพร้อมกับจิต


ดังนั้น วัณณนิภา ไม่ใช่หมายถึง สีทีละสี ดั่งที่ฟังมาผิด จำมาผิด เนื่องจากฟังคำสอนที่ผิดครับ

เลิกฟังสิ่งที่ไม่ใช่คำพระพุทธองค์ครับ คำป้าเต็มไปด้วยมิจฉาทิฏฐิ จึงสอนผิดให้ผู้ฟังฟังผิดครับ

หน้า 4 จากทั้งหมด 9 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/