คุณโรสเห็นจิตเกิดดับทีละ 1 ขณะเอง หรือได้ยินได้ฟังมาจากใครขอรับ

1. เห็นเอง

2. ฟังแม่สุจินพูด

ตอบระบุข้อไปเลย ข้อ 1 หรือ ข้อ 2

เวลาอ่านต้องคิดตามตรงที่กายใจตนมีไม่ใช่ส่งมาถามคนอื่น
จิตเห็นสีกะทบที่จักขุปสาทะรูปแล้วดับสะสมทันทีทันเห็นสีไหม
เดียวนี้เลยมีครบ6ทางกะพริบตาดับครบทั้ง6ทางกิเลสเกิดตั้งแต่ขณะที่3ดับ
ขาดการฟังจึงไม่มีปัญญาแทรกเกิดตามหลังกิเลสได้เลยไงคะเพราะไม่พึ่งคิดตามคำจริงของตถาคต

ถามอย่างตอบอย่างอีก

ที่ว่าจิต เกิดดับทีละ 1 ขณะ เห็นเอง หรือ ฟังใครพูดให้ฟังมา

คุณโรสพูดถึงกายใจบ่อย คุณโรสว่าเขาเป็นอะไรขอรับ

นั่งหลับตาทำมิจฉาสมาธิรู้อารมณ์ด้วยการคิดเองไม่ได้กำลังฟังและไม่ได้กำลังระลึกตามคำสอนก็คือขาดสติไงคะ

น่าเสียดายเวลาที่เสียไปเปล่าๆ ตั้ง 7-8 ปี ถ้าเอาเวลานั้นไปปลูกผักปลูกหญ้าขายตลาดไทยังได้เฮินใช้ นี่ฟังแม่สุจินไม่ได้อะไรเลย

อันว่านั่งหลับตาสมาธิก็เคยทำมาก่อนจนกายหายหมดแต่ไม่ใช่การคิดไตร่ตรองตามคำสอนตรงจริงค่ะ

เอาให้แน่ ไหนบอกได้ฌาน 3 แล้วไง

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57767&p=454748#p454748




คุณโรส ไม่ได้คิดว่า ภิกษุในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ผู้สืบต่อพระพุทธศาสนา อุบาสก อุบาสิกา ไม่ใช่ผู้สืบต่อพระพุทธศาสนา โดยเห็นไปว่า กุลบุตรในปัจจุบันเมื่อบวชแล้ว ต้องทำให้เหมือนครั้งพุทธกาลครั้งเมื่อ ๒๖๐๘ ปีโน่น ต้องสละทรัพยสมบัติที่มีทั้งหมดให้เกลี้ยงก่อนแล้วค่อยบวช ต้องตัดขาดญาติพี่น้อง บวชแล้วไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ที่ที่เหมือนครั้งพุทธกาลโน่น ไปขุดบ่อน้ำใช้ กลางคืนใช้แสงเทียน ไม่ไปไหน มืดก็นอน ทอผ้าจีวรใช้เอง ไม่ใช่ไปซื้อตามร้านสังฆภัณฑ์
สรุปแล้วทำยังไงก็ได้ให้เหมือนครั้งพุทธกาลแล้วกัน อย่างนี้แหละเขาว่า ทำตามคำตถาคตแล้ว ถ้าไปใช้น้ำประปา ใช้ไฟฟ้า บิณฑบาตญาติโยมใส่ปัจจัยไม่ได้ ผิด ไม่ทำตามคำตถาคต ขาดจากความภิกษุ

คุณโรสยังคิดไปอีกว่า ครั้งพุทธกาลคนจะบวชต้องเป็นลูกกษัตริย์ คนยุคนั้น ไม่นิยมให้ลูกบวช เพราะไม่มีผู้สืบสกุล

นี่แหละพฤติกรรมเลียนแบบตามตัวอักษร ถ้าเอาอย่างนั้่น พระพุทธศาสนาสูญจากโลกนี้ไปนานแล้ว ถามจะเอากษัตริย์ที่ไหนมาบวชอีกนัก คนปัจจุบันเขาบวชกัน ๗ วัน ๑๕ วัน จะให้เขาสละทรัพย์สินที่มีให้หมดแล้วบวช บวชครบ ๗ วัน ๑๕ วันแล้ว สึกไปเขาต้องถือกะลาขอทานกิน ใครจะเอา คิกๆๆ ใครจะบวช จะบวชตัดขาดพ่อแม่ญาติพี่น้อง จะเข้าบ้านพ่อแม่พี่น้องก็ไม่ได้ เขาไล่หนี มึงตัดญาติกับกูแล้วไปๆชิ้วๆๆ อย่าขึ้นเรือนกูนะ ยิงไส้แตก คิกๆๆ
ด้วยเหตุดังว่ามา พุทธศาสนาหมดนานแล้วคงไม่มาถึงถึงทุกวันนี้หรอก คุณโรสก็ไม่รู้จักพระพุทธศาสนา แม่สุจินและสาวกก็ไม่รู้จักพระพุทธศาสนา เพราะแต่ละคนๆ อายุไม่ถึงร้อยปีกันสักคน

นี่ก็พฤติกรรมเลียนแบบ คิกๆๆ

นี่ก็ใช่พฤติกรรมเลียนแบบ

รู้น้อยว่ารู้มากเริงใจเหมือนกบเกิดอยู่ในสระจ้อย
รู้ไหมคะว่าปัญญาเกิดได้ทีละ1ขณะจิตเองนะ
จิต1ขณะคือจิต+เจตสิก+รูป
1ขณะเป็นอกุศล=จิต+อกุศลเจตสิก+รูป
1ขณะกุศล=จิต+โสภณ(กุศล)เจตสิก+รูป
มีจิตกันทุกคนแต่ไม่รู้ว่าปัญญาเกิดตอนคิดปรุงแต่งจิตตรงตามคำสอนได้
บอกว่าคำสอนคิดเองปุ๊บผิดทันทีเลยงัยคะไม่เข้าใจเหรอ
ต้องอาศัยฟังเสียงคำใหม่จากคนอื่นกล่าวแล้วต้องตั้งใจฟังอยู่ด้วยนะ
เวลาที่พระพุทธเจ้าพูดคำไหนพอได้ยินปุ๊บนั่นแหละ1คำที่คิดถูกตามได้=ปากยุงจุ่มลงมหาสมุทร
ปัญญาตัวเองเกิดได้เท่าปากยุงจิ้มลงในผิวๆมหาสมุทร
รู้จักมหาสมุทรนี่คะกว้างมากใช่ไหมนั่นแหละตถาคตพูด1คำคือรู้ทั้งหมดทั้งมหาสมุทรเลย

ตถาคตพูดว่าธัมมะคือมหาสมุทรทั้งหมดกว้างลึกมีอะไรบ้างทรงรู้หมดงัยคะ
ปัญญาเกิดเท่าปากยุงที่เหลือที่จุ่มไม่ถึงนั่นแหละกิเลสใหม่ที่เกิดเพิ่มแล้ว
และคนที่ไม่ฟังเลยได้แต่บินวนดูมหาสมุทรจุ่มลงน้ำก็ไม่จุ่ม555
ไม่รู้จักกิเลสตัวเองกันเลยแม้แต่น้อย555
ปัญญาสะสมได้แค่ฟังทีละ1คำน๊า

ใครก็ฟังแทนกันไม่ได้น๊า
ปัญญาเกิดได้น้อยแค่ไหนคิดดูสิ
เด่วนี้เลยจิตกำลังเกิดดับนับไม่ถ้วน
ตถาคตนับให้มีถึงแสนโกฏิขณะที่ดับเป็นกิเลสไปแล้ว(จุ่มลงผิวก็ไม่จุ่ม)
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อคิดตรงตามให้สังขารทั้งหลายปรุงแต่งจิตให้รู้สึกตัวตรงตามคำจริงได้
https://youtu.be/PifEroB4oq4

ไม่ไหวๆ รกบอร์ด

คิดว่านั่งทำแบบนั้นแล้วตัวเองดีและวิเศษเรอะ
นั่งคิดเอาเองไม่มีสติแล้วตอนมีตัวตนไปทำแบบนั้น
จะฌานไหนทำได้ก็เสื่อมได้ไม่อ่านพระไตรปิฏกหรือ
ปัญญาเท่านั้นที่จะสะสมข้ามภพข้ามชาติไม่ใช่จำ
เพราะความจำมันไม่ข้ามชาติส่วนปัญญาที่ฟังแล้ว
ต้องฟังเข้าใจด้วยนะพอได้ยินเสียงก็เข้าใจเพราะ
การฟังตรงกับความจริงที่กายกำลังมีเป็นปัญญา
ที่มีสัญญาจำถูกตรงความจริงตรงสัจจะตรงที่กายมี
ไม่ได้ไปจำว่ามีเงินในบัญชีมากไหมมีวัดมีกุฏิศาลา
555จำอะไรก็รู้ได้จากสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็นคือ
กำลังมีความประพฤติเป็นไปตามมิจฉาทิฏฐิตัวตน
ลืมว่าตถาคตบอกชาวกาลามะว่าจะรู้ว่าจะฟังใคร
ตถาคตบอกฟังจากคนที่พูดโดยมีกาลามสูตรกรอง
ไปทำตัวตนให้อยากหายตัวได้เลยคิดว่าไม่มีตัวตน
พอลืมตาออกมาดูโลกตามปกติก็มีมิจฉาทิฏฐิเพิ่มขึ้น
คิดว่าตัวดีตัววิเศษไปนั่งหลับตารู้อะไรลืมตาไม่รู้เลย
ว่ากิเลสมีเพิ่มขึ้นตั้งแสนโกฏิขณะแล้วตามปกติด้วย