วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 04:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


ทีนี้มีคำแปลให้ด้วย

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.


ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


คุณโรสอ่านแล้วพินาดูหลายๆรอบสิ รู้เหมือนอุปติสสะ โกลิตะไหม :b1:

cool
เดี๋ยวนี้เลยนะกำลังเห็น
กะพริบตาเห็นอันใหม่
เห็นก่อนกะพริบตา
เอากลับมาแก้กิเลส
ตอนไหนคะดับแล้ว
เกิดที่จิตดับที่จิตแก้ที่ไหน
มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้เอามาแก้ได้เลยมีแต่รอให้ผลเกิดแล้วคร่าาาก็ไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดถูกไหม
จะรอแต่ไปนั่งหลับตาทำสมาธิหรือจะเริ่มทำปัญญาจากการฟังตอนไม่ฟังเห็นผิดตลอดแปลว่ากิเลสมากขึ้น
https://youtu.be/2nDhd1CA2iI



เขาถามว่าไปไหนมา ?

พระพุทธเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเพราะมีเหตุคือมีจิต
ถ้าไม่มีจิตคิดจะไปไหนมาไหนได้เหรอคริคริคริ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


ทีนี้มีคำแปลให้ด้วย

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.


ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


คุณโรสอ่านแล้วพินาดูหลายๆรอบสิ รู้เหมือนอุปติสสะ โกลิตะไหม :b1:

cool
เดี๋ยวนี้เลยนะกำลังเห็น
กะพริบตาเห็นอันใหม่
เห็นก่อนกะพริบตา
เอากลับมาแก้กิเลส
ตอนไหนคะดับแล้ว
เกิดที่จิตดับที่จิตแก้ที่ไหน
มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้เอามาแก้ได้เลยมีแต่รอให้ผลเกิดแล้วคร่าาาก็ไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดถูกไหม
จะรอแต่ไปนั่งหลับตาทำสมาธิหรือจะเริ่มทำปัญญาจากการฟังตอนไม่ฟังเห็นผิดตลอดแปลว่ากิเลสมากขึ้น
https://youtu.be/2nDhd1CA2iI



เขาถามว่าไปไหนมา ?

พระพุทธเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเพราะมีเหตุคือมีจิต
ถ้าไม่มีจิตคิดจะไปไหนมาไหนได้เหรอคริคริคริ



รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ฟังเพื่อสะสมเหตุคือปัญญาเพื่อถึงนิพพานน๊า
ไม่มีปัญญาไปไม่ได้นะคะเพราะนิพพานหมดอยากไปทำ
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทีนี้ ก็มีคำถามเทียบกันระหว่างอุปติสสะกับคุณโรส

คุณโรส ฟังแม่สุจินพูด มา 7-8 ปี แล้ว เริ่มฟังตั้งแต่วันคลอดลูก ตอนนี้ลูกก็โตขึ้น ป. 1 ป.2 แล้ว ทำไม เหตุใดจนป่านฉะนี้แล้วคุณโรสยังไม่บรรลุธัมม์ :b10: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

:b12:
ก็เหตุมันเกิดที่จิตก็ดับที่จิตก็ตรงตามนั้น
แต่พาตัวไปทำไม่รู้จักคิดตามคำสอนนั้นน่ะ
ไปทำจิตรู้อารมณ์ของสมาธิหลับตาเป็นมิจฉา
เพราะไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะ
ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แปลว่ามีกิเลสดับที่จิต
จะไปทำอะไรคะในเมื่อไม่รู้ตามก็คือไม่ตามแล้วลืมแล้ว
ที่ไปเพื่อคิดทำด้วยตัวตนนั้นน่ะทำตามคิด(เห็น)ผิดของตนไงคะไม่ฟังและไม่คิดตามไงคะ
อ่านช้าๆชัดๆหลายๆรอบว่าตนกำลังทำอย่างไรเดี๋ยวนี้คือปัจจุบันขณะค่ะต้องตรงฟังจริงๆ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

:b12:
ก็เหตุมันเกิดที่จิตก็ดับที่จิตก็ตรงตามนั้น
แต่พาตัวไปทำไม่รู้จักคิดตามคำสอนนั้นน่ะ
ไปทำจิตรู้อารมณ์ของสมาธิหลับตาเป็นมิจฉา
เพราะไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะ
ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แปลว่ามีกิเลสดับที่จิต
จะไปทำอะไรคะในเมื่อไม่รู้ตามก็คือไม่ตามแล้วลืมแล้ว
ที่ไปเพื่อคิดทำด้วยตัวตนนั้นน่ะทำตามคิด(เห็น)ผิดของตนไงคะไม่ฟังและไม่คิดตามไงคะ
อ่านช้าๆชัดๆหลายๆรอบว่าตนกำลังทำอย่างไรเดี๋ยวนี้คือปัจจุบันขณะค่ะต้องตรงฟังจริงๆ


สรุปยังงี้เลยได้ไหม คุณโรสฟังแม่สุจินพูดจนบรรลุธัมม์คือสุตะอะไรที่ว่าแล้ว

ตอบให้ตรงคำถาม

1. บรรลุแล้วจ้า
2. ยังจ้า

ข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

:b12:
ก็เหตุมันเกิดที่จิตก็ดับที่จิตก็ตรงตามนั้น
แต่พาตัวไปทำไม่รู้จักคิดตามคำสอนนั้นน่ะ
ไปทำจิตรู้อารมณ์ของสมาธิหลับตาเป็นมิจฉา
เพราะไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะ
ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แปลว่ามีกิเลสดับที่จิต
จะไปทำอะไรคะในเมื่อไม่รู้ตามก็คือไม่ตามแล้วลืมแล้ว
ที่ไปเพื่อคิดทำด้วยตัวตนนั้นน่ะทำตามคิด(เห็น)ผิดของตนไงคะไม่ฟังและไม่คิดตามไงคะ
อ่านช้าๆชัดๆหลายๆรอบว่าตนกำลังทำอย่างไรเดี๋ยวนี้คือปัจจุบันขณะค่ะต้องตรงฟังจริงๆ


สรุปยังงี้เลยได้ไหม คุณโรสฟังแม่สุจินพูดจนบรรลุธัมม์คือสุตะอะไรที่ว่าแล้ว

ตอบให้ตรงคำถาม

1. บรรลุแล้วจ้า
2. ยังจ้า

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ฟังให้เข้าใจคือฟังให้เกิดปัญญา
เหตุกับผลนั้นตรงกันเข้าใจไหม
แสดงว่าเหตุคือฟังผลคือปัญญา
เหตุคือฟังผลคือกำลังได้ยินเสียง
แต่เสียงมีตั้งหลายเสียงเดี๋ยวนี้เลย
เสียงอะไรที่กำลังเป็นเหตุให้ดับไม่รู้ทันทีมีไหมเดี๋ยวนี้
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 16:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

:b12:
ก็เหตุมันเกิดที่จิตก็ดับที่จิตก็ตรงตามนั้น
แต่พาตัวไปทำไม่รู้จักคิดตามคำสอนนั้นน่ะ
ไปทำจิตรู้อารมณ์ของสมาธิหลับตาเป็นมิจฉา
เพราะไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะ
ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แปลว่ามีกิเลสดับที่จิต
จะไปทำอะไรคะในเมื่อไม่รู้ตามก็คือไม่ตามแล้วลืมแล้ว
ที่ไปเพื่อคิดทำด้วยตัวตนนั้นน่ะทำตามคิด(เห็น)ผิดของตนไงคะไม่ฟังและไม่คิดตามไงคะ
อ่านช้าๆชัดๆหลายๆรอบว่าตนกำลังทำอย่างไรเดี๋ยวนี้คือปัจจุบันขณะค่ะต้องตรงฟังจริงๆ


สรุปยังงี้เลยได้ไหม คุณโรสฟังแม่สุจินพูดจนบรรลุธัมม์คือสุตะอะไรที่ว่าแล้ว

ตอบให้ตรงคำถาม

1. บรรลุแล้วจ้า
2. ยังจ้า

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ฟังให้เข้าใจคือฟังให้เกิดปัญญา
เหตุกับผลนั้นตรงกันเข้าใจไหม
แสดงว่าเหตุคือฟังผลคือปัญญา
เหตุคือฟังผลคือกำลังได้ยินเสียง
แต่เสียงมีตั้งหลายเสียงเดี๋ยวนี้เลย
เสียงอะไรที่กำลังเป็นเหตุให้ดับไม่รู้ทันทีมีไหมเดี๋ยวนี้



รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


เล่าความเพื่อให้เชื่อมกับสองคาถาสักหน่อย เช้าวันหนึ่ง พระอัสสชิออกบิณฑบาตตามปรกติ อุปติสสปริพพาชกสวนทางมา สังเกตเห็นกิริยานักบวชรูปนี้เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปถามก็เห็นว่าท่านกำลังทำภารกิจอยู่ จึงเดินตามไปห่างๆ หลังจากพระอัสสชิบิณฑบาตเสร็จแล้วเข้าไปพักใต้ร่มไม้เพื่อฉันภัตตาหาร
อุปติสสะได้โอกาสจึงเข้าไปถามประมาณว่า ท่านผู้เจริญ กิริยาของท่านน่าเลื่อมใสนัก ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นครูเป็นอาจารย์ของท่าน ?

พระอัสสชิ เห็นมาณพนี้เป็นนักบวชนอกนอกศาสนา จึงพูดถ่อมตนว่า อาตมาบวชยังไม่นานพรรษายุกาลยังน้อย ยังรู้ธัมม์ไม่ทั่วถึง ประมาณนี้แหละ

ทีนี้ อุปติสสะก็ว่า

อปฺปํ วา พหํ วา ภาสสฺสุ อตฺถญฺเญว เม พรูหิ
อตฺเถเนว เม อตฺโถ กึ กาหสิ พฺยญฺชนํ พหํ.

ขอท่านจงกล่าวธรรม จะมากหรือน้อยก็ตาม จงบอกเฉพาะใจความเท่านั้นแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะใจความเท่านั้น ท่านจักทำพยัญชนะให้มากไปทำไม.

พระอัสสชิจึงตอบว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.

ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


เพียงเท่านั้น อุปติสสะเก็ตเลย ก้มลงกราบอาจารย์อัสสชิ แล้วขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนแล้วจะตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้าภายหลัง ก๊อปคำพูดนี้ไปเล่าให้โกลิตะฟัง โกลิตะเก็ตอีก คิกๆๆ ก็เลยพากันไปบอกอาจารย์สัญชัยว่า พุทโธ อุปปันโน ไปเราไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมกันเถอะ

อาจาย์สัญชัย ถามกลับว่า ในโลกานี้ ระหว่างคนโง่ กับ คนฉลาด ฝ่ายไหนมากกว่ากัน สองสหายตอบว่า อาจารย์คนโง่มากกว่าอยู่แล้ว อ.สัญชัย ก็บอกว่า ถ้ายังงั้น พวกเอ็งไปเถอะ ข้าจะอยู่กับคนโง่ซึ่งมีจำนวนมากกว่านี่แหละ สองสหายพร้อมด้วยบริวารก็ลา อ.สัญชัยไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

จบข่าว :b13:

:b12:
ก็เหตุมันเกิดที่จิตก็ดับที่จิตก็ตรงตามนั้น
แต่พาตัวไปทำไม่รู้จักคิดตามคำสอนนั้นน่ะ
ไปทำจิตรู้อารมณ์ของสมาธิหลับตาเป็นมิจฉา
เพราะไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตตรงปรมัตถสัจจะ
ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แปลว่ามีกิเลสดับที่จิต
จะไปทำอะไรคะในเมื่อไม่รู้ตามก็คือไม่ตามแล้วลืมแล้ว
ที่ไปเพื่อคิดทำด้วยตัวตนนั้นน่ะทำตามคิด(เห็น)ผิดของตนไงคะไม่ฟังและไม่คิดตามไงคะ
อ่านช้าๆชัดๆหลายๆรอบว่าตนกำลังทำอย่างไรเดี๋ยวนี้คือปัจจุบันขณะค่ะต้องตรงฟังจริงๆ


สรุปยังงี้เลยได้ไหม คุณโรสฟังแม่สุจินพูดจนบรรลุธัมม์คือสุตะอะไรที่ว่าแล้ว

ตอบให้ตรงคำถาม

1. บรรลุแล้วจ้า
2. ยังจ้า

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ฟังให้เข้าใจคือฟังให้เกิดปัญญา
เหตุกับผลนั้นตรงกันเข้าใจไหม
แสดงว่าเหตุคือฟังผลคือปัญญา
เหตุคือฟังผลคือกำลังได้ยินเสียง
แต่เสียงมีตั้งหลายเสียงเดี๋ยวนี้เลย
เสียงอะไรที่กำลังเป็นเหตุให้ดับไม่รู้ทันทีมีไหมเดี๋ยวนี้



รูปภาพ

:b12:
เป็นทุกข์เพราะมีอกุศลไม่รู้ตรงคำตรงขณะแปลว่าไม่รู้ทุกข์ที่ตนกำลังมี
ปัญญาตนสุ่มฟังรู้ความจริงตรงไหนตรงที่กายใจมีได้แค่นั้นค่ะ
ฟังเพื่ละคลายความยึดติดถือมั่นว่ามีเราไปทำกิเลสเพิ่ม
:b16:
:b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Rosarin
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล (ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว) นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย

แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
viewtopic.php?f=1&t=56369&p=426334#p426334



นีก็เลียนแบบ

อ้างคำพูด:
นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า มีแต่กษัตริย์ ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช


ซึ่งคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะ จะให้ปัจจุบันเหมือนครั้งพุทธกาลว่า ต้องมีแต่กษัตริย์ ลูกคนมีกะตัง มีแล้วถ้าจะบวชก็ต้องทิ้งสมบัติให้หมดแล้วจึงบวช นี่ก็เลียนแบบ

มาถึงคำถามว่า ตอนนี้จะทำกันยังไง ประเทศที่นับถือพุทธ เช่น เมียนม่า ลาว จีน เวียตนาม ฯลฯ ไม่มีกษัตริย์แล้ว อิอิ ถ้าทำอย่างคุณโรสแนะนำ พระพุทธศาสนาหมดแน่นวลนะแบบนี้ เหลือแต่ไทยกับกัมพูชาที่ยังมีสถาบันกษัตริย์
ส่วนลูกเศรษฐีมีกะตัง เขาจะบวชสัก ๗ วัน ๑๕ วัน แล้วจะให้เขาสละละทิ้งสมบัติหมด ใครเขาจะบวชสึกไปเป็นขอทาน เขาจะเอาหรอ พอ พอ ไม่อยากพูดเจ็บคอ ฝนตกบ่อยพักนี้เป็นหวัด คิกๆๆ น้ำรอระบายหลายจังหวัด :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 23:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็เป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าสิคะ
ตัวเองอยากเป็นศิษย์ใครก็เป็นไปสิ
เวลาฟังเพลงเนี่ยยูต้องไปเป็นศิษย์
เขาคนที่ร้องเพลงนั้นไหมคริคริคริ
โรสฟังคลิปเข้าใจตามไม่ได้คิด
จะไปสมัครเป็นศิษย์ใครเลยสักคน
เพราะตถาคตเอาปัญญาใส่หัวใครไม่ได้
แต่คนนั้นเองที่ฟังเข้าใจถูกแล้วเกิดปัญญาเองน๊า
เวลาร้องเพลงเป็นต้องไปสมัครเป็นศิษย์หรือคะแค่เป็นสาวกไง
ร้องเพลงได้หมื่นเพลงก็เป็นศิษย์หมื่นอาจารย์เหรอ555ฝึกเองตามเสียงนี่
เป็นสาวกคือชอบเพลงไหนร้องตามได้เหมือนเลยน๊าทั้งเนื้อร้องและทำนอง
คำตถาคตก็เช่นกันสาวกที่ฟังเข้าใจก็ถ่ายทอดสิ่งเดียวกันเหมือนเด๊ะจิตก็ฝึกได้น๊า
คำตถาคตเหมือนกันเวลาต้องการเน้นถึงความแรงด้านไหนก็แสดงตรงๆไงคะรู้ตรงตามเสียงน๊า
:b32: :b32: :b32:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2018, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล (ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว) นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย

แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
viewtopic.php?f=1&t=56369&p=426334#p426334




นีก็เลียนแบบ

อ้างคำพูด:
นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า มีแต่กษัตริย์ ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช


ซึ่งคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะ จะให้ปัจจุบันเหมือนครั้งพุทธกาลว่า ต้องมีแต่กษัตริย์ ลูกคนมีกะตัง มีแล้วถ้าจะบวชก็ต้องทิ้งสมบัติให้หมดแล้วจึงบวช นี่ก็เลียนแบบ

มาถึงคำถามว่า ตอนนี้จะทำกันยังไง ประเทศที่นับถือพุทธ เช่น เมียนม่า ลาว จีน เวียตนาม ฯลฯ ไม่มีกษัตริย์แล้ว อิอิ ถ้าทำอย่างคุณโรสแนะนำ พระพุทธศาสนาหมดแน่นวลนะแบบนี้ เหลือแต่ไทยกับกัมพูชาที่ยังมีสถาบันกษัตริย์
ส่วนลูกเศรษฐีมีกะตัง เขาจะบวชสัก ๗ วัน ๑๕ วัน แล้วจะให้เขาสละละทิ้งสมบัติหมด ใครเขาจะบวชสึกไปเป็นขอทาน เขาจะเอาหรอ พอ พอ ไม่อยากพูดเจ็บคอ ฝนตกบ่อยพักนี้เป็นหวัด คิกๆๆ น้ำรอระบายหลายจังหวัด :b32:


คุณโรสพูดถึงครั้งพุทธกาลว่ามีแต่ลูกกษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช ในอินเดียเมื่อครั้งพุทธกาลมีพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศล ฯลฯ ซึ่งทางคัมภีร์พูดถึงบ่อย นี่ท่านเป็นกษัตริย์ช่วยอุปถัมภ์พระศาสนา แต่ปัจจุบันชมพูทวีป (อินเดีย) ไม่มีกษัตริย์แล้ว ฯลฯ

แต่ทรัพย์สมบัติที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ มีข่าวถูกฉกไป

อ้างคำพูด:
ล่าแก๊งขโมยสมบัติกษัตริย์อินเดีย กวาดเรียบ “ปิ่นโต-ถ้วย-ช้อนทองคำ” มูลค่ากว่า 230 ล้าน



รูปภาพ


https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_1536653

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 05:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


คุณโรสบ่นเรื่องอะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร