พูดเองเออเองทั้งนั้น

นิมิต ตามที่คุณโรสว่าหมายถึงอะไร เอาชัดๆ นิมิต

นี่ นิมิต ตามหลักพระพุทธศาสนา

นิมิต 1. เครื่องหมาย ได้แก่ วัตถุอันเป็นเครื่องหมายแห่งสีมา, วัตถุที่ควรใช้เป็นนิมิตมี ๘ อย่าง ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม่น้ำ น้ำ


2. เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนดในการเจริญกรรมฐาน, ภาพที่เป็นอารมณ์กรรมฐาน มี ๓. คือ

๑. บริกรรมนิมิต นิมิตแห่งบริกรรม หรือ นิมิตตระเตรียม ได้แก่ สิ่งที่เพ่ง หรือ กำหนดนึกเป็นอารมณ์กรรมฐาน

๒. อุคคหนิมิต นิมิตที่ใจเรียน หรือนิมิตติดตาติดใจ ได้แก่ สิ่งที่เพ่งหรือนึกนั้นเอง ที่แม่นในใจ จนหลับตามองเห็น

๓. ปฏิภาคนิมิต นิมิตเสมือน หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่ อุคคหนิมิตนั้น เจนใจจนกลายเป็นภาพที่เกิดจากสัญญาเป็นของบริสุทธิ์ จะนึกขยายหรือย่อส่วนก็ได้ตามปรารถนา

3 . สิ่งที่พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรเห็นก่อนเสด็จออกบรรพชา ๔ อย่าง

เดี๋ยวนี้เลยมีนิมิตของสิ่งที่ปรากฏเป็นคนสัตว์วัตถุ
ที่ปิดบังนิมิตของปรมัตถสัจจะเพราะไม่มีคนสัตว์วัตถุ
แปลว่าหลงอยู่ในโลกของสิ่งที่เกิดดับสืบต่อจนปรากฏเป็นนิมิต
โดยไม่สามารถเข้าถึงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่ามีจริงๆคือปรมัตถสัจจะ
แปลว่าไม่รู้ตรงปัจจุบันขณะที่กำลังตั้งอยู่ก่อนดับรู้แต่นิมิตที่ไม่ใช่ตัวจริงของธัมมะ

ที่บอกให้กินยาถ่าย กินหรือยังขอรับ

รวบแล้วแก๊งฉก “ปิ่นโตทองคำ” พร้อมสมบัติกษัตริย์อินเดียเกือบ 230 ล้าน! หัวขโมยสารภาพใช้แทนจานกินข้าวทุกวัน



https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_1563764

คุณโรสจับหัวขโมยได้แล้ว

มีคนว่าจะตายอายุ 80 ปี เท่าพระพุทธเจ้าด้วยนะ ใคร ? ดู

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/03c ... ?s=696x403

แต่เนื้อข่าวถูกลบไปแล้ว เพราะถูกวิจารณ์หนักว่าโหนพระพุทธเจ้าหาคะแนนเสียงอีก

พิมพิสาร พระเจ้าแผ่นดินมคธครองราชย์สมบัติอยู่ที่พระนครราชคฤห์ เป็นผู้ถวายพระราชอุทยานเวฬุวันเป็นสังฆาราม นับเป็นวัดแรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา ถูกพระราชโอรสนามว่า อชาตศัตรู ปลงพระชนม์

ปเสนทิ (ปะ-เส-น-ทิ) พระเจ้าแผ่นดินแคว้นโกศล ครองราชย์สมบัติอยู่ที่พระนครสาวัตถี

มัธยมชนบท ถิ่นแคว้นในท่ามกลางชมพูทวีป

มัชฌิมชนบท, มัชฌิมประเทศ ประเทศที่ตั้งอยู่ในท่ามกลาง, ถิ่นกลางเป็นอาณาเขตที่กำหนดว่า มีความเจริญรุ่งเรือง มีประชาชนหนาแน่น มีเศรษฐกิจดี เป็นศูนย์กลางแห่งการค้าขาย เป็นที่อยู่แห่งนักปราชญ์ผู้มีวิชาความรู้ เป็นที่รวมของการศึกษา เป็นต้น
กำหนดเขต ทิศบูรพา ภายในนับแต่มหาศาลนครเข้ามา อาคเนย์ นับแต่แม่น้ำสัลลวตีเข้ามา ทักษิณ นับแต่เสตกัณณิกนิคมเข้ามา ปัศจิม นับแต่ถูนคามเข้ามา อุดร นับแต่ภูเขาอุสีรธชะเข้ามา นอกนั้นไปเป็นปัจจันตชนบท หรือปัจจันตประเทศ

ปัจจันตชนบท ประเทศปลายแดน, แว่นแคว้นชายแดน, ถิ่นแดนชั้นนอก, ถิ่นที่ยังไม่เจริญ คือ นอกมัธยมประเทศ หรือ มัชฌิมชนบท

มัลละ ชื่อแคว้นหนึ่งบรรดา ๑๖ แคว้นใหญ่แห่งชมพูทวีปครั้งพุทธกาล ปกครองแบบสามัคคีธรรม โดยมีพวกมัลลกษัตริย์เป็นผู้ปกครอง นครหลวงเดิมชื่อกุสาวดี แต่ภายหลังแยกเป็น กุสินารา กับ ปาวา

มัลลกษัตริย์ คณะกษัตริย์ ผู้ปกครองแคว้นมัลละ แบ่งเป็น ๒ พวก คณะหนึ่งปกครองที่นครกุสินารา อีกคณะหนึ่งปกครองที่นครปาวา

(กุสินาราคือที่ที่พุทธปรินิพพาน)

ทางภูมิศาสตร์เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ที่ที่เคยเป็นแม่น้ำเมื่อครั้งกระโน้น ปัจจุบันก็ตื้นเขินเป็นดินเป็นทราย เช่น แม่น้ำเนรัญชรา ทุกวันนี้หน้าแล้งไม่มีน้ำคนเดินข้ามได้

https://www.google.com.pk/search?q=%E0% ... 60&bih=611

การปกครองเขาก็แบ่งเขตปกครองกันตามความหนาแน่นของผู้คนที่อาศัยอยู่นั้น เมื่อก่อนตรงนี้เคยเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ต่อมาชุมชนใหญ่ขึ้น ก็เปลี่ยนไปเป็นตำบล เป็นอำเภอ เป็นจังหวัดไป ดังนั้นเราศึกษาประวัติศาสตร์ศาสนา ซึ่งผ่านมา 2600 กว่าปีแล้วเนี่ย (2561+45 ปี) ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว แต่นักโบราณคดีก็สืบค้นจากหลักฐานประกอบอื่นๆ เช่น โบราณวัตถุซึ่งฝั่งอยู่ในดิน เป็นต้น ประกอบการศึกษา

เช่น ทวีปทั้ง 4 เมื่อครั้งกระโน้น ปัจจุบันก็เปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านนั้น ตำบลนี้ อำเภอนั้น จังหวัดนี้ ประเทศนั้นประเทศนี้ไปแล้ว มองให้ใกล้ตัวก็เอาประเทศไทยนี่แหละในอดีตมีกี่จังหวัด ปัจจุบันงอกขึ้นอีกเท่าไรจังหวัดแล้ว ที่ตรงนี้ตรงนั้้นอดีตเคยมีภูเขา มีแม่น้ำ ไม่มีคนอาศัยอยู่ ปัจจุบันนี้ภูเขานั้นไม่มีแม่น้ำหายไป มีแต่ผู้คนอาศัยเต็มไปหมด ดังนี้เป็นตัวอย่างให้คิดเปรียบเทียบ

อชาตศัตรู โอรสของพระเจ้าพิมพิสารกับพระนางโกศลเทวี กษัตริย์แคว้นมคธ ขณะพระนางโกศลเทวีทรงครรภ์ ได้แพ้ท้องอยากเสวยโลหิตของพระเจ้าพิมพิสาร
พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบจึงเอาพระขรรค์แทงพระชานุ (เข่า) รองพระโลหิตให้พระนางเสวย โหรทำนายว่า พระโอรสที่อยู่ในครรภ์เกิดมาจะทำปิตุฆาต
พระนางโกศลเทวีพยายามทำลายด้วยการให้แท้งเสีย แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดคิดจะรีด แต่พระเจ้าพิมพิสารห้ามไว้ เมื่อครบกำหนดประสูติเป็นกุมาร จึงตั้งพระนามโอรสว่า อชาตศัตรู แปลว่า “เป็นศัตรูตั้งแต่ยังไม่เกิด”
ในที่สุดเจ้าชายอชาตศัตรูก็คบคิดกับพระเทวทัตฆ่าพระราชบิดาตามที่โหรทำนายไว้และได้ขึ้นครองราชสมบัติแคว้นมคธ ณ กรุงราชคฤห์
แต่ทรงสำนึกและกลับพระทัยได้ หันมาทรงอุปถัมภ์บำรุงพระศาสนา และได้เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ในการสังคายครั้งที่ ๑ (คำ อชาตศัตรู บางท่านแปลใหม่ว่า “มิได้เกิดมาเป็นศัตรู”)

จับอินเดียจ้างมือมีดฆ่าโหด “เขย” แค้นปมข้ามวรรณะ เป็น “จัณฑาล” แต่ลอบวิวาห์ลูกสาวตระกูลแพศย์



https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_1581587

สิ่งที่ไม่เปลี่ยน คือ การถือชนชั้นวรรณะ ครั้งพุทธกาลถืออย่างไร ปัจจุบันก็ถืออย่างนั้น

ที่ไม่เปลี่ยนคือขาดการระลึกตามการฟังคำสอนมีแต่ส่งไปนอกฐานกายใจตนเพราะไม่ได้กำลังทำสุตมยปัญญา

งานนี้จะให้ไปฟังจากใครล่ะ

เรามีตา มีหู มีจมูก ฯลฯ ก็ดูก็ฟังออกไปข้างนอกบ้าง ขับรถขับรา ข้างหน้ามีด่าน มีอุบัติเหตุ มีพายุมังคุดพัดผ่าน จะได้รู้

เดินๆๆก้มหน้าก้มตาไม่ดูตาม้าตาเรือข้างหน้ามีขี้หมาก็เหยียบขี้หมา มันต้องมองออกไปนอกบ้าง

อุรุเวลา ชื่อตำบลใหญ่แห่งหนึ่ง ในแคว้นมคธ ตั้งอยู่ ณ ลุ่มแม่น้ำเนรัญชรา เป็นภูมิสถานที่สงบน่ารื่นรมย์ พระมหาบุรุษทรงเลือกเป็นที่บำเพ็ญเพียร ได้ประทับนั่ง ณ ที่นี้นานถึง ๖ ปี ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาและเปลี่ยนมาทรงดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทา จนได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ภายใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ในตำบลนี้

เหตุย่อมตรงผลทำเหตุคิดตามเสียงก็คือฟังจริงๆ
ถ้าสมาธิไม่มั่นคงฟังไปก็คิดโน่นนี่นั่นไปเดี๋ยวมือถือดัง
เดี๋ยวเมื่อยอยากเปลี่ยนอิริยาบทก็ตามปกติที่สมาธิวอกแวกไงคะ

จะทำทำไม ต้องฟัง 20 อสงไขยโน่น อิอิ

คิดให้ตรงปกติคิดไม่ซื่อเพราะกิเลสมากและเกิดบ่อยกว่าปัญญานะรู้เปล่าล่ะตอนฟังเข้าใจที่เกิดปัญญา
จิตเกิดดับทีละ1ขณะปัญญาก็สะสมทีละ1ขณะจิตกิเลสก็สะสมทีละ1ขณะจิตแต่อันไหนเกิดบ่อยก็ไม่รู้ไงคะ