วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 17:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
ปุถุชน คนที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส, คนที่ยังมีกิเลสมาก หมายถึงคนธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งยังไม่เป็นอริยบุคคลหรือพระอริยะ; บุถุชน ก็เขียน


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
การที่ปุถุชนไม่สามารถนึกเห็น ไม่อาจคิดให้เข้าใจภาวะของนิพพานได้นั้น เพราะธรรมดาของมนุษย์ เมื่อยังไม่รู้เห็นประจักษ์เองซึ่งสิ่งใด ก็เรียนรู้สิ่งนั้นด้วยอาศัยความรู้เก่าเป็นพื้นเทียบ คือ เอาสัญญาที่มีอยู่แล้วมากำหนด แล้ววาดภาพขึ้นใหม่จากสัญญาต่างๆ ที่เอามากำหนดเทียบนั้น ได้ภาพตามสัญญาที่เป็นองค์ประกอบ เหมือนอย่างคนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักช้างเลย เมื่อมีใครพูดขึ้นแก่เขาว่า “ช้าง” เขาจะไม่รู้ ไม่เข้าใจ นึกอะไรไม่ได้เลย อาจจะกำหนดไปตามอาการกิริยา เป็นต้น ของผู้พูด แล้วอาจจะนึกว่า ผู้พูดกล่าวผรุสวาทแก่เขา หรืออาจจะนึกไปว่า ผู้พูดกล่าวภาษาต่างประเทศคำหนึ่ง หรืออาจจะนึกว่า ผู้พูดเสียสติ จึงกล่าวคำไร้ความหมายออกมา หรืออะไรต่างๆ ได้มากมาย แล้วแต่สถานการณ์


อ้างคำพูด:
Rosarin
อุปติสสะมานพคือพระสารีบุตรอัครสาวกของพระสมณโคดมคืออดีตปุถุชน

ฟังพระธรรม 1 อสงไขยกับอีกแสนมหากัปป์บรรลุเป็นพระโสดาบันจากฟังพระอัสชิ

และคำที่พระสารีบุตรฟังแล้วบรรลุนั้นพระสารีบุตรนำไปกล่าวให้พระโมคคัลลานะฟังคำเดียวกันบรรลุเป็นพระโสดาบันจากการถ่ายทอดคำเดียวกัน

เพราะฉะนั้น แสดงว่า การจะฟังแล้วบรรลุตามได้ทันทีนั้น เกิดจากฟังมาบ่อยๆจนไม่ลืม พอได้ฟังปุ๊บ เก็ตปั๊บไรงี้

แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ

แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะ เพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ

viewtopic.php?f=1&t=56392&start=30



ที่คุณโรสพร่ำพูดพร่ำว่าอยู่นี่ ซึ่งก็คือเลียนแบบ คือเลียนแบบอุปติสสะซึ่งฟังแล้วบรรลุโสดาบัน คุณโรสก็จึงแนะนำให้ฟัง ฟังบ่อยๆ ฟังให้เก็ตฟังให้บันรุ ฟังทีละคำ ฟังคำเดียวบันรุเลยไรเงี้ย พร้อมบอกตัวอย่างปฏิบัติไว้ชัด เช่นเอา สติ ของเขามา ก็มาแยกเป็นสองคำ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง เอานิพพานของเขามา ก็มาแยกเป็น 2 คำ นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ฟังไปทีละคำๆ ฟังไปๆๆๆนะ ฟังให้บันรุนะ ถ้าฟังแล้วยังไม่บรรลุ แสดงว่ายังสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอ นี่เขาว่างั้น :b1:

กรัชกาย จึงตั้งชื่อให้ว่า ธัมมะ เลียนแบบ :b32: คือ ตัวเองออกแบบเอง (สร้างแบรนด์ใหม่) หมายความว่า ตัวเองได้เค้าความจากตัวอย่างอุปติสสะฟังคาถาพระอัสสชิแล้วเข้าใจ เป็นต้น เอามั่งคุณโรสและเจ้าสำนักเอาอย่างมั่งจะฟังให้เก็ต ก็จึงเป็นที่มาของการฟังทีละคำๆด้วย เป็นที่มาของการวนลูป สุตะ สุตมยปัญญาด้วย ดังนี้แล.

จบข่าว :b9: :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหมือนเราเรียนภาษาที่สอง (ภาษาต่างประเทศ) เอาภาษาเขามาพูด เราก็ต้องแปลเป็นภาษาของเราอีกทีหนึ่ง


ศัพท์ เสียง, คำ, คำยากที่ต้องแปล, คำยากที่ต้องอธิบาย

สติ ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่กำลังทำ, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้

สัมปชัญญะ ความรู้ตัวทั่วพร้อม, ความรู้ตระหนัก, ความรู้ชัดเข้าใจชัด ซึ่งสิ่งที่นึกได้, มักมาคู่กับสติ


นิพพาน การดับกิเลสและกองทุกข์

นิรฺวาณมฺ ความดับ เป็นคำสันสกฤต เทียบกับภาษาบาลี ก็ได้แก่ศัพท์ว่า นิพพาน นั่นเอง ปัจจุบันนิยมใช้เพียงว่า นิรวาณ กับ นิรวาณะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสสังเกตความหมายไว้นะขอรับ คคห.ต่อไปจะนำเรื่องกัมมัฏฐานจากที่แห่งหนึ่งให้สังเกตด้วย ออกแนวๆคุณโรสนั่นแหละ


กัมมัฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต หรือที่ให้จิตทำงาน มีความหมายเป็นทางการว่า สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา หรืออุปกรณ์ในการฝึกอบรมจิต หรืออุบาย หรือกลวิธีเหนี่ยวนำสมาธิ พูดง่ายๆว่า สิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด (ด้วยสติ) จิตจะได้มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว สงบอยู่ที่ได้ ไม่ฟุ้งซ่านเลือนลอยไปอย่างไร้จุดหมาย (นิยมเขียน กรรมฐาน)

พูดสั้นๆว่า กรรมฐาน คือ สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ของจิตที่จะชักนำให้เกิดสมาธิ หรืออะไรก็ได้ที่พอจิตเพ่ง หรือจับแล้ว จะช่วยให้จิตแน่วแน่อยู่กับมัน เป็นสมาธิได้เร็ว และมั่นคงที่สุด พูดให้สั้นที่สุดว่า สิ่งที่ใช้ฝึกสมาธิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 18:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เลียนแบบ

พระพุทธเจ้าสละราชบัลลังก์ ทิ้งทรัพย์สินเงินทองพ่อแม่พี่น้องลูกเมียวงศาคณาญาติหมดจึงออกบวช ขี่ม้าออกไปโดยมีนายฉันนะเป็นเพื่อนร่วมทาง :b32: นี่เหตุการณ์เมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปีโน้น

ปัจจุบันคุณโรสว่าใครจะบวชต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระพุทธองค์ คุณจะบวชใช่ไหม ? ยังงั้น ต้องสละบ้านช่องห้องหอแก้วแหวนเงินทองเรือกสวนไร่นาให้หมดให้เกลี้ยงก่อน จึงบวชได้ (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) ต้องบวชตลอดชีวิตนะอย่าสึกห้ามสึก (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) บวชแก้บนก็ไม่ได้ บวชหน้าไฟจูงศพก็ไม่ได้ไม่มีในหนังสือเรียน จะบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ไม่ได้ทั้งนั้น ทำไม่ล่ะ ? เพราะไม่มีในหนังสือ ต้องเอาอย่างพระพุทธเจ้า คือ บวชแล้วบวชเลย บวชแล้วห่มจีวรแล้วเดินออกประตูโบสถ์ห้ามรับปัจจัย ห้ามใช้ปัจจัย กิเลสต้องหมด ต้องไม่มีกิเลส ต้องทำแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระสารีบุตร แบบพระโมคคัลลานะ เป็นต้น แล. :b8:

จบข่าว :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เลียนแบบ

พระพุทธเจ้าสละราชบัลลังก์ ทิ้งทรัพย์สินเงินทองพ่อแม่พี่น้องลูกเมียวงศาคณาญาติหมดจึงออกบวช ขี่ม้าออกไปโดยมีนายฉันนะเป็นเพื่อนร่วมทาง :b32: นี่เหตุการณ์เมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปีโน้น

ปัจจุบันคุณโรสว่าใครจะบวชต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระพุทธองค์ คุณจะบวชใช่ไหม ? ยังงั้น ต้องสละบ้านช่องห้องหอแก้วแหวนเงินทองเรือกสวนไร่นาให้หมดให้เกลี้ยงก่อน จึงบวชได้ (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) ต้องบวชตลอดชีวิตนะอย่าสึกห้ามสึก (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) บวชแก้บนก็ไม่ได้ บวชหน้าไฟจูงศพก็ไม่ได้ไม่มีในหนังสือเรียน จะบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ไม่ได้ทั้งนั้น ทำไม่ล่ะ ? เพราะไม่มีในหนังสือ ต้องเอาอย่างพระพุทธเจ้า คือ บวชแล้วบวชเลย บวชแล้วห่มจีวรแล้วเดินออกประตูโบสถ์ห้ามรับปัจจัย ห้ามใช้ปัจจัย กิเลสต้องหมด ต้องไม่มีกิเลส ต้องทำแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระสารีบุตร แบบพระโมคคัลลานะ เป็นต้น แล. :b8:

จบข่าว :b12:

:b12:
พระโมคัลลานะฟังคำที่พระสารีบุตรก็อปมาด้วยคำพูดบรรลุโสดาบันเพราะมีปัญญาถึงระดับที่จะรู้ไงจริงไหม
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 20:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสฟังแล้ว...ก็เป็นกะเขาบ้างซี้.. :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เลียนแบบ

พระพุทธเจ้าสละราชบัลลังก์ ทิ้งทรัพย์สินเงินทองพ่อแม่พี่น้องลูกเมียวงศาคณาญาติหมดจึงออกบวช ขี่ม้าออกไปโดยมีนายฉันนะเป็นเพื่อนร่วมทาง :b32: นี่เหตุการณ์เมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปีโน้น

ปัจจุบันคุณโรสว่าใครจะบวชต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระพุทธองค์ คุณจะบวชใช่ไหม ? ยังงั้น ต้องสละบ้านช่องห้องหอแก้วแหวนเงินทองเรือกสวนไร่นาให้หมดให้เกลี้ยงก่อน จึงบวชได้ (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) ต้องบวชตลอดชีวิตนะอย่าสึกห้ามสึก (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) บวชแก้บนก็ไม่ได้ บวชหน้าไฟจูงศพก็ไม่ได้ไม่มีในหนังสือเรียน จะบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ไม่ได้ทั้งนั้น ทำไม่ล่ะ ? เพราะไม่มีในหนังสือ ต้องเอาอย่างพระพุทธเจ้า คือ บวชแล้วบวชเลย บวชแล้วห่มจีวรแล้วเดินออกประตูโบสถ์ห้ามรับปัจจัย ห้ามใช้ปัจจัย กิเลสต้องหมด ต้องไม่มีกิเลส ต้องทำแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระสารีบุตร แบบพระโมคคัลลานะ เป็นต้น แล. :b8:

จบข่าว :b12:

:b12:
พระโมคัลลานะฟังคำที่พระสารีบุตรก็อปมาด้วยคำพูดบรรลุโสดาบันเพราะมีปัญญาถึงระดับที่จะรู้ไงจริงไหม
:b32: :b32:


อุปติสสะก็เอาคาถาที่พระอัสสชิบอกตนนั่นแหละไปบอกโกลิตะ ครั้นโกลิตะฟังปุ๊บเก็ตเลยไรงี้ คิกๆๆ

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


คุณโรสตอบคำถามนี้สิขอรับ ปัจจุบันนี้ เราจะฟังใครพูด เอ้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 00:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เลียนแบบ

พระพุทธเจ้าสละราชบัลลังก์ ทิ้งทรัพย์สินเงินทองพ่อแม่พี่น้องลูกเมียวงศาคณาญาติหมดจึงออกบวช ขี่ม้าออกไปโดยมีนายฉันนะเป็นเพื่อนร่วมทาง :b32: นี่เหตุการณ์เมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปีโน้น

ปัจจุบันคุณโรสว่าใครจะบวชต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระพุทธองค์ คุณจะบวชใช่ไหม ? ยังงั้น ต้องสละบ้านช่องห้องหอแก้วแหวนเงินทองเรือกสวนไร่นาให้หมดให้เกลี้ยงก่อน จึงบวชได้ (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) ต้องบวชตลอดชีวิตนะอย่าสึกห้ามสึก (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) บวชแก้บนก็ไม่ได้ บวชหน้าไฟจูงศพก็ไม่ได้ไม่มีในหนังสือเรียน จะบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ไม่ได้ทั้งนั้น ทำไม่ล่ะ ? เพราะไม่มีในหนังสือ ต้องเอาอย่างพระพุทธเจ้า คือ บวชแล้วบวชเลย บวชแล้วห่มจีวรแล้วเดินออกประตูโบสถ์ห้ามรับปัจจัย ห้ามใช้ปัจจัย กิเลสต้องหมด ต้องไม่มีกิเลส ต้องทำแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระสารีบุตร แบบพระโมคคัลลานะ เป็นต้น แล. :b8:

จบข่าว :b12:

:b12:
พระโมคัลลานะฟังคำที่พระสารีบุตรก็อปมาด้วยคำพูดบรรลุโสดาบันเพราะมีปัญญาถึงระดับที่จะรู้ไงจริงไหม
:b32: :b32:


อุปติสสะก็เอาคาถาที่พระอัสสชิบอกตนนั่นแหละไปบอกโกลิตะ ครั้นโกลิตะฟังปุ๊บเก็ตเลยไรงี้ คิกๆๆ

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


คุณโรสตอบคำถามนี้สิขอรับ ปัจจุบันนี้ เราจะฟังใครพูด เอ้า

cool
ฟังคนที่กล่าวความจริงตามคำตถาคตตรงสัจจะให้เข้าใจตรงๆ
จักขุวิญญาณ=จิตเห็น...ตรงๆคือเห็นเป็นเห็นไงคะ
เห็นไม่ใช่สิ่งที่ถูกเห็นและสิ่งที่ถูกเห็นไม่ใช่สิ่งที่กำลังเห็น
ตกลงเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากคำสอนตลอดเวลาที่ลืมตาปกติ
คริคริคริที่ลืมตาปริบๆทุกวันทำอะไรบ้างลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะ
ที่ลืมตาตามปกตินี่แต่ละขณะระลึกตามการฟังคำตถาคตตรงจริงได้กี่คำ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 01:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
กิเลสไม่รอให้ไปทำนั่งหลับตาแยกออกไปแก้อะไรได้เลยค่ะ
แค่กะพริบตาไหลเป็นห่าฝนเลยกิเลสตนนั้นน่าไม่พึ่งคิดตาม
ทีละคำไม่มีวันรู้ความจริงอะไรได้เลยเข้าใจไหมคะไม่ใช่อุชุ
อุชุคือผู้คิดตรงจริงตามคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าทีละคำ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เลียนแบบ

พระพุทธเจ้าสละราชบัลลังก์ ทิ้งทรัพย์สินเงินทองพ่อแม่พี่น้องลูกเมียวงศาคณาญาติหมดจึงออกบวช ขี่ม้าออกไปโดยมีนายฉันนะเป็นเพื่อนร่วมทาง :b32: นี่เหตุการณ์เมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปีโน้น

ปัจจุบันคุณโรสว่าใครจะบวชต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระพุทธองค์ คุณจะบวชใช่ไหม ? ยังงั้น ต้องสละบ้านช่องห้องหอแก้วแหวนเงินทองเรือกสวนไร่นาให้หมดให้เกลี้ยงก่อน จึงบวชได้ (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) ต้องบวชตลอดชีวิตนะอย่าสึกห้ามสึก (เลียนแบบพระพุทธเจ้า) บวชแก้บนก็ไม่ได้ บวชหน้าไฟจูงศพก็ไม่ได้ไม่มีในหนังสือเรียน จะบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ไม่ได้ทั้งนั้น ทำไม่ล่ะ ? เพราะไม่มีในหนังสือ ต้องเอาอย่างพระพุทธเจ้า คือ บวชแล้วบวชเลย บวชแล้วห่มจีวรแล้วเดินออกประตูโบสถ์ห้ามรับปัจจัย ห้ามใช้ปัจจัย กิเลสต้องหมด ต้องไม่มีกิเลส ต้องทำแบบพระพุทธเจ้า เลียนแบบพระสารีบุตร แบบพระโมคคัลลานะ เป็นต้น แล. :b8:

จบข่าว :b12:

:b12:
พระโมคัลลานะฟังคำที่พระสารีบุตรก็อปมาด้วยคำพูดบรรลุโสดาบันเพราะมีปัญญาถึงระดับที่จะรู้ไงจริงไหม
:b32: :b32:


อุปติสสะก็เอาคาถาที่พระอัสสชิบอกตนนั่นแหละไปบอกโกลิตะ ครั้นโกลิตะฟังปุ๊บเก็ตเลยไรงี้ คิกๆๆ

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


คุณโรสตอบคำถามนี้สิขอรับ ปัจจุบันนี้ เราจะฟังใครพูด เอ้า

cool

ฟังคนที่กล่าวความจริงตามคำตถาคตตรงสัจจะให้เข้าใจตรงๆ
จักขุวิญญาณ=จิตเห็น...ตรงๆคือเห็นเป็นเห็นไงคะ
เห็นไม่ใช่สิ่งที่ถูกเห็นและสิ่งที่ถูกเห็นไม่ใช่สิ่งที่กำลังเห็น
ตกลงเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากคำสอนตลอดเวลาที่ลืมตาปกติ
คริคริคริที่ลืมตาปริบๆทุกวันทำอะไรบ้างลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะ
ที่ลืมตาตามปกตินี่แต่ละขณะระลึกตามการฟังคำตถาคตตรงจริงได้กี่คำ



คนละเรื่องอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
กิเลสไม่รอให้ไปทำนั่งหลับตาแยกออกไปแก้อะไรได้เลยค่ะ
แค่กะพริบตาไหลเป็นห่าฝนเลยกิเลสตนนั้นน่าไม่พึ่งคิดตาม
ทีละคำไม่มีวันรู้ความจริงอะไรได้เลยเข้าใจไหมคะไม่ใช่อุชุ
อุชุคือผู้คิดตรงจริงตามคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าทีละคำ


วนลูปทีละคำอีก

สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ทำให้กิเลสหมดได้ยังไง ว่าไปสิครับ

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


ทีนี้มีคำแปลให้ด้วย

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.


ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


คุณโรสอ่านแล้วพินาดูหลายๆรอบสิ รู้เหมือนอุปติสสะ โกลิตะไหม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


ทีนี้มีคำแปลให้ด้วย

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.


ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


คุณโรสอ่านแล้วพินาดูหลายๆรอบสิ รู้เหมือนอุปติสสะ โกลิตะไหม :b1:

cool
เดี๋ยวนี้เลยนะกำลังเห็น
กะพริบตาเห็นอันใหม่
เห็นก่อนกะพริบตา
เอากลับมาแก้กิเลส
ตอนไหนคะดับแล้ว
เกิดที่จิตดับที่จิตแก้ที่ไหน
มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้เอามาแก้ได้เลยมีแต่รอให้ผลเกิดแล้วคร่าาาก็ไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดถูกไหม
จะรอแต่ไปนั่งหลับตาทำสมาธิหรือจะเริ่มทำปัญญาจากการฟังตอนไม่ฟังเห็นผิดตลอดแปลว่ากิเลสมากขึ้น
https://youtu.be/2nDhd1CA2iI
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระอัสสชิว่ายังงี้

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ.


อุปติสสะฟังแล้วเข้าใจร้องอ๋อสาธุเลย

อ้างคำพูด:
แล้วตัวเองลองไปอ่านคำที่พระอัสชิแสดงดูสิคะ แปลเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่บรรลุตามนั้นน่ะเพราะสะสมปัญญาจากการฟังยังไม่พอค่ะ


ใครก็ได้อ่านดูสิ บรรลุอะไรไหม :b16: ถ้าให้ฟังปัจจุบันจะฟังจากใคร ?


ทีนี้มีคำแปลให้ด้วย

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณ.


ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้.


คุณโรสอ่านแล้วพินาดูหลายๆรอบสิ รู้เหมือนอุปติสสะ โกลิตะไหม :b1:

cool
เดี๋ยวนี้เลยนะกำลังเห็น
กะพริบตาเห็นอันใหม่
เห็นก่อนกะพริบตา
เอากลับมาแก้กิเลส
ตอนไหนคะดับแล้ว
เกิดที่จิตดับที่จิตแก้ที่ไหน
มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้เอามาแก้ได้เลยมีแต่รอให้ผลเกิดแล้วคร่าาาก็ไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดถูกไหม
จะรอแต่ไปนั่งหลับตาทำสมาธิหรือจะเริ่มทำปัญญาจากการฟังตอนไม่ฟังเห็นผิดตลอดแปลว่ากิเลสมากขึ้น
https://youtu.be/2nDhd1CA2iI



เขาถามว่าไปไหนมา ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 37 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร