ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56695 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 24 |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 03 พ.ย. 2018, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: ตอนนี้เอกอนกำลังนั่งมอง แดจาวู นั่งมอง แดจาวู ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน มิ.ย.61 เอกอนเคยคิดว่า ชีวิตคนเราดำเนินไปด้วยความ บังเอิญ/ความน่าจะเป็น แต่ แดจาวู มันกลับมาหักล้างความเข้าใจเช่นนั้น แดจาวู เป็นสิ่งเหมือนกับว่า เราเห็นแผนการที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ และเมื่อเราใช้ชีวิต และเราเดินตามข้อกำหนด แม้เราจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ รู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม แม้เราจะปฏิเสธการรับรู้ก็ตาม เราก็จะได้พบกับสิ่งต่าง ๆ ที่ดำเนินไปตามแผนนั้น ๆ ว่าแต่แผนการนั้น ใครเป็นผู้กำหนด และได้กำหนดไว้ตอนไหน จริง ๆ เอกอนมีคำตอบทุกอย่างอยู่แล้วใน แดจาวู แต่...มันเป็นจุดที่เอกอนเจอกับลำดับความเป็นไปที่ขัดแย้งน่ะ จนยากที่จะปฏิเสธ และก็ยากที่จะยอมรับ.... แดจาวู ของเอกอนอย่างเช่นว่า สมมตินะสมมติ แบบว่า สมมติว่าตอนเด็ก ๆ เอกอนนอนหลับไปแล้วอยู่ ๆ ก็ตื่นมากลางดึก แล้วก็เดินลงไปนั่งคุยกับคณรุกขเทวดาที่อยู่ตรงศาลพระภูมิ ท่านก็เล่าเรื่องราวมากมายให้ฟัง แล้วก็บอกว่า ในวันหนึ่งจะมีแดร๊คคิวล่ามาจากดาวดวงหนึ่ง ที่อยู่อีกฟากของกาแลคซี่ เขาจะมาในรูปของคนปกติ แต่เขาจะพูดคำ "......." ซึ่งเอกอนจะรู้ทันทีว่าเขามาจาก ดาวแดร็คคิวล่า ... แล้วว....แล้ววว...แล้วววว...แล้ววววววว แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เอกอนก็ได้เจอกับสิ่งนั้น ที่บ่งบอกว่าเป็นแดร็คคิวล่า เอกอนไม่สงสัย แต่ความตรึกมันตกลงไปสู่ ห้วงอะไรสักอย่าง ที่... เหมือนกับเข้าไปอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์ลี้ลับ มิติคู่ขนาน ชีวิตในมิติที่ 4 ความเป็นไปในอีกระนาบที่อายตนะมนุษย์ปกติยากจะเข้าใจ ... มีเรื่องหนุก ๆ ให้ อ๊บซ์ เข้ามาแสดงความเห็นแล้ว แค่อากาศ เขียน: :b9: อ่อมันเป็นเช่นนั้นเองเหรอครับ อิอิ.. เดจาวู..ที่สุดเหตุการณ์ทุกอย่างมันก็เป็นไปของมัน ตามที่มันควรจะเป็น ขอบคุณท่านเอกอน ท่านอ๊บส์ ครับ ทำให้นึกถึงและมองเห็นอะไรหลายๆอย่างเลยครับ มันคงเหมือนเพลงพงษ์สิทธิ์คำภีร์หีือเปล่าครับ ..อยู่ๆก็หายไป ..อยู่ๆก็หวนมา ..แล้วอยู่ๆไปก็หาย ซ้ำไปซ้ำมา อิอิ.. น้อยคนจะรู้ความนัยย์ของเดจาวูที่เกิดขึ้นว่าคืออะไร แต่บางอย่าง บางประโยค บางคำ บางการแสดง บางสิ่ง บางเหตุการณ์ บางจุดก็สามารถกระตุ้นให้ตัวตนหรือสิ่งที่เป็นอยู่ของสิ่งหนึ่งให้แสดงโผล่ออกมาได้โดยง่าย และชัดเจนจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นจริง อิอิ กบนอกกะลา เขียน: eragon_joe เขียน: กบนอกกะลา เขียน: อาการไม่ชัดขนาด..เอกอน.. เรียกว่า..ยังบ้าไม่ถึงขั้น... แค่..หันซ้ายคุยดีดี..หันขวาก็เปลี่ยนกลับมาอยู่โลกเหมือนเดิม.. อ้าว.เมื่อกี้..อยู่โลกไหนละหว้า..??? สงสัยแก่ไป..คงไม่พ้นอัลไซเมอร์ ฮั้นแน่.... อย่าเอาแต่หัวเราะ..ซี พูดต่อ..ซี..เรื่องที่ทำให้..งง..งง..นี้นะ กบนอกกะลา เขียน: ผมคิดทฤษฎีจักรวาลคู่ขนาน..ที่ดีกว่าฝาหรั่ง...
แต่ไปดูฝาหรั่ง..ก่อน..ว่าเขาคิดยังงัยกับจักรวาลคู่ขนาน |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 03 พ.ย. 2018, 10:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แบบว่า มีการเปิดประเด็นไว้ที่นั่น เรามาต่อกันที่นี่ดีก่า... |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 03 พ.ย. 2018, 11:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: แบบว่า มีการเปิดประเด็นไว้ที่นั่น เรามาต่อกันที่นี่ดีก่า... ผมจะไปอีกจักรวาลก่อนครับ 5555 |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 05 พ.ย. 2018, 17:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
จริง ๆ ชาวต่างชาติที่เขาไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนา เขาก็จะเจออะไรแปลก ๆ เหมือนกับเรานั่นล่ะ เพราะต่างก็มีอายตนะ เหมือน ๆ กัน แต่เขาก็จะค้นคว้าหาคำตอบกันไปอีกแบบ ที่เป็นมิตรต่อวัฒนธรรมความเชื่อของเขา สมเหตุสมผลต่อเขา มนุษย์โลกอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน คือ อยู่บนโลก อยู่ใต้ผืนบรรยากาศห่อหุ้มเดียวกัน อากาศของเราแม้จะอยู่กันคนละมุมโลก แต่ต่างก็เชื่อมต่อถึงกัน ก็เช่นเดียวกับว่า เราอยู่บนถนนและเพื่อนเราอยู่ตรงระเบียงตึกชั้น 5 เราตะโกน แล้วเพื่อนเราก็ได้ยิน เสียงเดินทางผ่านสื่อ สื่อก็คืออากาศ คนที่รักกัน แม้แต่ไม่ต้องพูดออกมา แค่มองตากัน แม้อยู่ห่างกัน 5 เมตร สายตา-ท่าทาง ก็บ่งบอกออกมาได้ว่า เขาตกอยู่ในอารมณ์ไหน เดินเข้ามาด้วยความดีใจ คิดถึง โกรธ หรือการสื่อสารที่นอกจากการมองเห็น เช่น กลิ่น สัมผัส... ซึ่งนอกเหนือจากผัสสะระดับหยาบ มันยังมีผัสสะที่ละเอียด ซึ่ง ผู้ที่มีการรับรู้ทางจิตที่มีความละเอียดสูง เขาก็จะสามารถทำได้ ซึ่งคนที่อยู่กันคนละฝากฝั่งมหาสมุทร ก็สามารถสื่อสารถึงกันได้ โดยที่เป็นเรื่องที่สามารถเกิดได้กับทุกคน ความคิดของคนเราก็เป็นสิ่งที่ฟุ้งกระจายออกมาได้ และการส่งผ่านความคิดก็เดินทางผ่านสื่อ ... สื่อตามธรรมชาติก็อากาศนั่นล่ะ ในช่วงที่เอกอนค่อนข้างใฝ่ศึกษาเพื่อค้นหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย เอกอนจะค่อนข้างนั่งสมาธิบ่อย ซึ่งจิตก็จะมีระดับความสงบ เบาต่างระดับกันไป เป็นประจำที่เมื่อหนังสือ ศาสนา-ปรัชญา กำลังจะออกมา เอกอนจะเห็นสิ่งปรากฏในทัศนะ การสื่อสารที่มองไม่เห็น บางทีคนมักจะชอบคิดว่าเป็น ผี/สิ่งลี้ลับ แต่บางทีมันก็ไม่ใช่ เราคิดว่าเป็นอะไร มันอยู่ที่ว่า อายตนะภายในจะรับแล้วแปลเป็นอะไรออกมาให้เรารู้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทาง จิต ของเราเอง เรื่องโทรจิต เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะ กระแสความคิดมันเดินทางกระจายไปอากาศ อวกาศ ห้วงอวกาศ ทุกคนมีสิทธิที่จะสัมผัสและรับรู้สิ่งที่อยู่อากาศได้ ถ้ามีอุปกรณ์การรับที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ส่ง ก็เหมือนกับ สถานีวิทยุ/โทรทัศน์ ที่ส่งสัญญาณออกมาเดินทางผ่านอากาศ มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่เครื่องรับโทรทัศน์ที่บ้านเราสามารถรับสัญญาณแล้วแปลงออกมาได้ ... โทรทัศน์ ถูกประดิษฐ์และใช้งานจากสิ่งที่ปรากฏมีขึ้นตามธรรมชาติ มนุษย์ ก็คือสิ่งหนึ่งที่ตัั้งขึ้นอยู่บนพื้นฐานธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่โทรทัศน์ทำได้ แล้วมนุษย์จะทำไม่ได้ สมอง/จิต มนุษย์มีกลไก ศักยภาพที่จะทำอย่างนั้นด้วยตัวมันเอง โดยที่มนุษย์ไม่เคยรู้ ... |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 06 พ.ย. 2018, 01:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
ดังที่ท่านเอกอน กล่าวมานี้ นักวิทยาศาตร์จึงพยายามค้นหาพัฒนากันในสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต จึงพบมีเพียงพระพุทธศาสนานี้เท่านั้นที่เเข้าถึงได้ โดยเรียกว่า วิทยาศาตร์ทางจิต |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 พ.ย. 2018, 05:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: จริง ๆ ชาวต่างชาติที่เขาไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนา เขาก็จะเจออะไรแปลก ๆ เหมือนกับเรานั่นล่ะ เพราะต่างก็มีอายตนะ เหมือน ๆ กัน แต่เขาก็จะค้นคว้าหาคำตอบกันไปอีกแบบ ที่เป็นมิตรต่อวัฒนธรรมความเชื่อของเขา สมเหตุสมผลต่อเขา มนุษย์โลกอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน คือ อยู่บนโลก อยู่ใต้ผืนบรรยากาศห่อหุ้มเดียวกัน อากาศของเราแม้จะอยู่กันคนละมุมโลก แต่ต่างก็เชื่อมต่อถึงกัน ก็เช่นเดียวกับว่า เราอยู่บนถนนและเพื่อนเราอยู่ตรงระเบียงตึกชั้น 5 เราตะโกน แล้วเพื่อนเราก็ได้ยิน เสียงเดินทางผ่านสื่อ สื่อก็คืออากาศ คนที่รักกัน แม้แต่ไม่ต้องพูดออกมา แค่มองตากัน แม้อยู่ห่างกัน 5 เมตร สายตา-ท่าทาง ก็บ่งบอกออกมาได้ว่า เขาตกอยู่ในอารมณ์ไหน เดินเข้ามาด้วยความดีใจ คิดถึง โกรธ หรือการสื่อสารที่นอกจากการมองเห็น เช่น กลิ่น สัมผัส... ซึ่งนอกเหนือจากผัสสะระดับหยาบ มันยังมีผัสสะที่ละเอียด ซึ่ง ผู้ที่มีการรับรู้ทางจิตที่มีความละเอียดสูง เขาก็จะสามารถทำได้ ซึ่งคนที่อยู่กันคนละฝากฝั่งมหาสมุทร ก็สามารถสื่อสารถึงกันได้ โดยที่เป็นเรื่องที่สามารถเกิดได้กับทุกคน ความคิดของคนเราก็เป็นสิ่งที่ฟุ้งกระจายออกมาได้ และการส่งผ่านความคิดก็เดินทางผ่านสื่อ ... สื่อตามธรรมชาติก็อากาศนั่นล่ะ ในช่วงที่เอกอนค่อนข้างใฝ่ศึกษาเพื่อค้นหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย เอกอนจะค่อนข้างนั่งสมาธิบ่อย ซึ่งจิตก็จะมีระดับความสงบ เบาต่างระดับกันไป เป็นประจำที่เมื่อหนังสือ ศาสนา-ปรัชญา กำลังจะออกมา เอกอนจะเห็นสิ่งปรากฏในทัศนะ การสื่อสารที่มองไม่เห็น บางทีคนมักจะชอบคิดว่าเป็น ผี/สิ่งลี้ลับ แต่บางทีมันก็ไม่ใช่ เราคิดว่าเป็นอะไร มันอยู่ที่ว่า อายตนะภายในจะรับแล้วแปลเป็นอะไรออกมาให้เรารู้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทาง จิต ของเราเอง เรื่องโทรจิต เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะ กระแสความคิดมันเดินทางกระจายไปอากาศ อวกาศ ห้วงอวกาศ ทุกคนมีสิทธิที่จะสัมผัสและรับรู้สิ่งที่อยู่อากาศได้ ถ้ามีอุปกรณ์การรับที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ส่ง ก็เหมือนกับ สถานีวิทยุ/โทรทัศน์ ที่ส่งสัญญาณออกมาเดินทางผ่านอากาศ มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่เครื่องรับโทรทัศน์ที่บ้านเราสามารถรับสัญญาณแล้วแปลงออกมาได้ ... โทรทัศน์ ถูกประดิษฐ์และใช้งานจากสิ่งที่ปรากฏมีขึ้นตามธรรมชาติ มนุษย์ ก็คือสิ่งหนึ่งที่ตัั้งขึ้นอยู่บนพื้นฐานธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่โทรทัศน์ทำได้ แล้วมนุษย์จะทำไม่ได้ สมอง/จิต มนุษย์มีกลไก ศักยภาพที่จะทำอย่างนั้นด้วยตัวมันเอง โดยที่มนุษย์ไม่เคยรู้ ... แฮ่ม..รอตั้งนาน..กว่าจะเอื่อนเอ่ย.ออกมาได้ . |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 06 พ.ย. 2018, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: ดังที่ท่านเอกอน กล่าวมานี้ นักวิทยาศาตร์จึงพยายามค้นหาพัฒนากันในสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต จึงพบมีเพียงพระพุทธศาสนานี้เท่านั้นที่เเข้าถึงได้ โดยเรียกว่า วิทยาศาตร์ทางจิต ใช่ ... ยิ่งนับวัน วิทยาทางจิตจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น ชาติตะวันตก มักจะจับมือร่วมกับนักบวชธิเบต และมีโครงการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ เรา ไม่รู้ |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 06 พ.ย. 2018, 16:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ดังที่ท่านเอกอน กล่าวมานี้ นักวิทยาศาตร์จึงพยายามค้นหาพัฒนากันในสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต จึงพบมีเพียงพระพุทธศาสนานี้เท่านั้นที่เเข้าถึงได้ โดยเรียกว่า วิทยาศาตร์ทางจิต ใช่ ... ยิ่งนับวัน วิทยาทางจิตจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น ชาติตะวันตก มักจะจับมือร่วมกับนักบวชธิเบต และมีโครงการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ เรา ไม่รู้ เขาว่าอนาคตภายหน้าเมื่อเกิดการพัฒนาจิตถึงจุดสูงสุด จะเหมือนมนุษย์ต่างดาว ดึงพลังจิตมาใช้ได้ ซึ่งการพัฒนาจิตของเขาไม่ใช่เพื่อความหลุดพ้นทุกข์ แต่เป็นการสนองตัณหา นำไปใช้ในกิจการงานต่างไป แล้วเราจะหน้าตาแบบนั้นด้วยมั้ยนะ 555 แต่เมื่อมันถึงจุดสูงสุด ก็จะเกิดการแก่งแย่งฆ่าฟัน ล่มสลาย ก็จะกลับคืนสู่สามัญในยุคก่อนพระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้ บางครา..เดจาวู..อาจเกิดขึ้นจากความจำเสมือนของเราเอง รู้ เห็น พบเจอ ที่คล้ายกัน หรือเกิดการกระทำซ้ำไป แต่สัญญานั้นมันหดหายแล้ว เมื่อพบเจออีกจึงเหมือนรู้สึกว่าเคยพบเจอมาแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่การรับรู้ล่วงหน้าเท่านั้น สมองแต่ละซีกของคนเราสามารถทำงานต่างๆกันได้ถ้าเราควบคุมมันได้ก็เรียกวิทยาศาสตร์ทางจิต ส่วนในทางพระพุทธศาสนาเรานี้เป็นญาณเป็นของเล่นของแถมที่ได้มาจากการอบรมจิตภาวนา ..แต่ถ้าเป็นไปเพื่อปัญญารู้เห็นตามจริง เป็นไปเพื่อเห็นจริงแท้ในสังขารธรรมทั้งปวงน้อมไปในการตัด ละ วาง สละคืน ก็ชื่อว่า..วิชชา เหมือนเตวิชโช เป็นต้น |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 07 พ.ย. 2018, 00:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ดังที่ท่านเอกอน กล่าวมานี้ นักวิทยาศาตร์จึงพยายามค้นหาพัฒนากันในสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต จึงพบมีเพียงพระพุทธศาสนานี้เท่านั้นที่เเข้าถึงได้ โดยเรียกว่า วิทยาศาตร์ทางจิต ใช่ ... ยิ่งนับวัน วิทยาทางจิตจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น ชาติตะวันตก มักจะจับมือร่วมกับนักบวชธิเบต และมีโครงการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ เรา ไม่รู้ เขาว่าอนาคตภายหน้าเมื่อเกิดการพัฒนาจิตถึงจุดสูงสุด จะเหมือนมนุษย์ต่างดาว ดึงพลังจิตมาใช้ได้ ซึ่งการพัฒนาจิตของเขาไม่ใช่เพื่อความหลุดพ้นทุกข์ แต่เป็นการสนองตัณหา นำไปใช้ในกิจการงานต่างไป แล้วเราจะหน้าตาแบบนั้นด้วยมั้ยนะ 555 แต่เมื่อมันถึงจุดสูงสุด ก็จะเกิดการแก่งแย่งฆ่าฟัน ล่มสลาย ก็จะกลับคืนสู่สามัญในยุคก่อนพระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้ ไม่รู้สิ่ เอกอนเกรงว่า พุทธในแถบเอเซียจะสลายไปเนื่องจากน้ำท่วม เอกอนเคยเห็นแค่ว่า ในยุคหนึ่งในกาลข้างหน้า พุทธไปเจริญอยู่ในต่างแดน ยุโรป ส่วนทางด้านตอนล่างคือเอเชีย พื้นที่โดยมาก ถูกทำลายไปด้วยภัยธรรมชาติ โน่นนี่นั่น สภาพดูไม่ได้ เพราะพื้นที่โดยมากเพิ่งผุดมาจากน้ำ เอกอนเคยเห็นภาพนี้ แต่เอกอนก็จะปลอบใจตัวเองว่า สงสัยเอกอนจะใจลอยไปแอบฟังลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำคุยกันแน่เลย ... จิตมันคือจะซน ... เน๊อะ มันชอบมีเรื่องราวมายั่วให้ยากรู้ แต่เมื่อหลุดออกมาแล้ว จะเข้าไปส่องเพื่อตามเรื่องต่อก็ทำไม่ได้น่ะ แต่บทจะเห็นอะไร อยู่ ๆ มันก็แว๊บเข้ามาเอง เมื่อทำไม่ได้มันก็เป็นความหงุดหงิด อาการก็ประมาณเหมือนคนติดละคร แล้วอยู่ ๆ วันที่ละครมา ไฟดันดับน่ะ บางครั้งเมื่อเราเห็นแล้ว สิ่งนั้นเกิดจริง ก็เป็นอาการลิงโลดใจอยู่พอตัวนะ แต่ก็รู้สึกผวามากพอ ๆ กันนั่นล่ะ เพราะบางครั้งมันตอกย้ำกรรมกำหนดยังไงชอบก๊ล ชอบกล ... ใครจะอยากเห็นน้ำท่วมประเทศไทยกันล่ะ ... จริงมั๊ย ดังนั้น การมีนิมิตต่าง ๆ นานา สนุกก็สนุก แต่มันก็เป็นทุกข์ด้วยเช่นกัน ต้องเห็นไป เห็นอะไรก็ต้องวาง ซึ่งถ้าต้องเห็น แล้วต้องวาง สู้ไม่เห็นซะดีก่า จะได้ไม่ต้องวาง |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 พ.ย. 2018, 09:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 07 พ.ย. 2018, 14:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ดังที่ท่านเอกอน กล่าวมานี้ นักวิทยาศาตร์จึงพยายามค้นหาพัฒนากันในสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต จึงพบมีเพียงพระพุทธศาสนานี้เท่านั้นที่เเข้าถึงได้ โดยเรียกว่า วิทยาศาตร์ทางจิต ใช่ ... ยิ่งนับวัน วิทยาทางจิตจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น ชาติตะวันตก มักจะจับมือร่วมกับนักบวชธิเบต และมีโครงการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ เรา ไม่รู้ เขาว่าอนาคตภายหน้าเมื่อเกิดการพัฒนาจิตถึงจุดสูงสุด จะเหมือนมนุษย์ต่างดาว ดึงพลังจิตมาใช้ได้ ซึ่งการพัฒนาจิตของเขาไม่ใช่เพื่อความหลุดพ้นทุกข์ แต่เป็นการสนองตัณหา นำไปใช้ในกิจการงานต่างไป แล้วเราจะหน้าตาแบบนั้นด้วยมั้ยนะ 555 แต่เมื่อมันถึงจุดสูงสุด ก็จะเกิดการแก่งแย่งฆ่าฟัน ล่มสลาย ก็จะกลับคืนสู่สามัญในยุคก่อนพระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้ ไม่รู้สิ่ เอกอนเกรงว่า พุทธในแถบเอเซียจะสลายไปเนื่องจากน้ำท่วม เอกอนเคยเห็นแค่ว่า ในยุคหนึ่งในกาลข้างหน้า พุทธไปเจริญอยู่ในต่างแดน ยุโรป ส่วนทางด้านตอนล่างคือเอเชีย พื้นที่โดยมาก ถูกทำลายไปด้วยภัยธรรมชาติ โน่นนี่นั่น สภาพดูไม่ได้ เพราะพื้นที่โดยมากเพิ่งผุดมาจากน้ำ เอกอนเคยเห็นภาพนี้ แต่เอกอนก็จะปลอบใจตัวเองว่า สงสัยเอกอนจะใจลอยไปแอบฟังลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำคุยกันแน่เลย ... จิตมันคือจะซน ... เน๊อะ มันชอบมีเรื่องราวมายั่วให้ยากรู้ แต่เมื่อหลุดออกมาแล้ว จะเข้าไปส่องเพื่อตามเรื่องต่อก็ทำไม่ได้น่ะ แต่บทจะเห็นอะไร อยู่ ๆ มันก็แว๊บเข้ามาเอง เมื่อทำไม่ได้มันก็เป็นความหงุดหงิด อาการก็ประมาณเหมือนคนติดละคร แล้วอยู่ ๆ วันที่ละครมา ไฟดันดับน่ะ บางครั้งเมื่อเราเห็นแล้ว สิ่งนั้นเกิดจริง ก็เป็นอาการลิงโลดใจอยู่พอตัวนะ แต่ก็รู้สึกผวามากพอ ๆ กันนั่นล่ะ เพราะบางครั้งมันตอกย้ำกรรมกำหนดยังไงชอบก๊ล ชอบกล ... ใครจะอยากเห็นน้ำท่วมประเทศไทยกันล่ะ ... จริงมั๊ย ดังนั้น การมีนิมิตต่าง ๆ นานา สนุกก็สนุก แต่มันก็เป็นทุกข์ด้วยเช่นกัน ต้องเห็นไป เห็นอะไรก็ต้องวาง ซึ่งถ้าต้องเห็น แล้วต้องวาง สู้ไม่เห็นซะดีก่า จะได้ไม่ต้องวาง บางทีที่ท่านเห็นเปลือกโลกคงเคลื่อนตัวไปแล้ว เราอาจจะไปติดยุโรปก็ได้ครับ 5555 ที่จริงการเห็นของท่านดีอย่างนะ ทำให้รู้ว่าโลกแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา และไม่มีอะไรคงทนอยู่ยั่งยืนนาน เราจึงไม่ควรประมาทใช่มะครับ สะสมมรรคแบบสาสวะให้เป็นบุญแก่ชันธ์ไป เห็น คิด พูด ทำในกุศล อบรมปัญญาในกุศลไป หากเป็นพระอริยะก็เป็นองค์มรรคแท้ ก็ทำให้มรรคยิ่งๆขึ้น จับปักหลักแนบแน่นรู้ วจีสังขารสงบ ละเจตนาอกุศล มีความเห็น ความเพียร มีสติ ปัญญาปหาน เผื่อเราอยู่ถึงตอนโลกแตกก็อุ่นใจว่าสะสมมาดีแล้วใช่ปะครับ แต่ผมไม่ถึงธรรมคงได้แค่หยอดกระปุกไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาใกล้โลกจะแตกผใคงต้องรีบสร้างเรือโนอารับแต่สาวๆขึ้นเรือครับ 5555 |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 07 พ.ย. 2018, 17:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: บางทีที่ท่านเห็นเปลือกโลกคงเคลื่อนตัวไปแล้ว เราอาจจะไปติดยุโรปก็ได้ครับ 5555 แค่อากาศ เขียน: ที่จริงการเห็นของท่านดีอย่างนะ ทำให้รู้ว่าโลกแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา และไม่มีอะไรคงทนอยู่ยั่งยืนนาน เราจึงไม่ควรประมาทใช่มะครับ ... การเห็นมันก็ดีน่ะ ดีตรงที่มันได้มีเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ และสิ่งที่ตามมาก็คือ ภาระทางจิตนั่นล่ะว่า จะวางมันไว้อย่างไร ส่วนใหญ่เอกอนจะมองมันแบบละ ๆ น่ะ เพราะเห็นไง พอเห็นเอกอนก็เห็นว่าใจมัน ลิงโลดไหลฟูฟ่องไปอย่างไร และมันมีความคิดคำนึงที่จะอยากเข้าไปส้องเสพมันอย่างไร อยากจะมีชีวิตอยู่เป็นนิรันดร์เพื่อตามไปให้เห็นสิ่งเหล่านั้นที่เห็น ซึ่งมันจะบ้าอ๊ะป่าวล่ะ แค่มีชีวิตหายใจอยู่บนชาตินี้แค่ไม่กี่สิบปี ยังผจญทุกข์โศกมาตั้งเท่าไรแล้ว ยังมีหน้าอยากจะบ้าอยู่ไปเพื่อพบเจอวันนั้น ละครทีวี มันยังมีวัน อวสาน แต่ การดำเนินไปของโลก มันจะไป อวสาน เมื่อไรล่ะ ความอยาก ถ้าไม่รู้เท่าทันมัน มันไม่ได้เจอฉากอวสานหรอก ถ้าหากว่าดองจิตไว้เป็นอมตะจนถึงวันนั้นแล้ว ยังเห็นเรื่องราวต่อไปอีกล่ะ อยากเห็นไปไม่จบไม่สิ้น สุดท้ายจะได้กลายเป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้านิพพานเป็นแน่แท้ นั่นละ การเห็นมันก็เป็นเรื่องราวให้เอกอนต้องเป็นภาระที่จะต้องพิจารณาเพื่อปล่อยวาง แค่อากาศ เขียน: แต่ผมไม่ถึงธรรมคงได้แค่หยอดกระปุกไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาใกล้โลกจะแตกผมคงต้องรีบสร้างเรือโนอารับแต่สาวๆขึ้นเรือครับ 5555 |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 07 พ.ย. 2018, 20:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
ถ้าท่านเอกอนตามไปดูทั้งจักรวาล หรือดำรงจิตคอยดูความแปรปรวนของโลก ..ผมก็คงต้องเริมโครงการสร้างยานเอ็นเตอร์ไพรส์ ไปท่องจักรวาลตามละมั้งครับทีนี้ เพราะผมไปแบบท่านไม่ได้ ต้องรีบสร้างยานเอ็นเตอร์ไพนส์แระครับ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 07 พ.ย. 2018, 23:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: ถ้าท่านเอกอนตามไปดูทั้งจักรวาล หรือดำรงจิตคอยดูความแปรปรวนของโลก ..ผมก็คงต้องเริมโครงการสร้างยานเอ็นเตอร์ไพรส์ ไปท่องจักรวาลตามละมั้งครับทีนี้ เพราะผมไปแบบท่านไม่ได้ ต้องรีบสร้างยานเอ็นเตอร์ไพนส์แระครับ ก่อนที่จะกลายเป็นเอกอนดอง ให้คุณอากาศต้องนั่งยานเอ็นเตอร์ไพนส์ไปคอยตามเก็บ กลับมาเรื่อง เดจาวู ดีก่า คือ ในเรื่องเกี่ยวกับจิตที่มันชอบจินตนาการไปไกล เอกอนคิดว่าคนที่เขาปฏิบัติ เขาต้องมีได้พบเห็นอะไรบ้างแหละ เพียงแต่เขาจะเอาเรื่องที่เขาเห็นออกมาพูดหรือไม่แค่นั้นเอง บางเรื่องผู้ปฏิบัติก็คงไม่อยากจะพูดถึง เพราะพูดไป คนฟังที่เขาไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นด้วย เขาก็คงจะว่าบ้า จริง ๆ จะเรียก เดจาวู ก็ไม่ใช่หรอก เพราะมันคงไม่ใช่ เดจาวู เพียงแต่เอกอนหยิบคำนี้มาใช้ให้มันออก ขำ ขำ ง่ะ ตอนที่เกิด เดจาวู ครั้งแรก นั่นคือเอกอนเคลิบเคลิ้มไปเห็นเรื่องราวตอนก่อนจะมาเกิด ตอนนั้น เรามีความทรงจำชัดเจนทุกอย่างเกี่ยวกับสภาพความเป็นไปในรูปแบบนั้น ยืนอยู่บนแท่นที่เหมือนเป็นจุดส่งตัว มีผู้ที่อยู่ด้วยตรงนั้น 2 1 คือเป็นเหมือนสหาย อีก 1 คือผู้ที่จะส่งน้ำที่ทำให้ลืมมาให้ดืม ตอนนั้น มีความเข้าใจว่าการที่จะมีอะไรก็ตามที่จะมาเกิด สิ่งนั้นล้วนมีเป้าหมาย มีแบบแผนที่จะดำเนินไป แม้แต่คนที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองเกิดมาทำไม จริง ๆ แล้วเขาก็มีแผนการที่ตั้งใจไว้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาเพื่อให้ถูกโจรฆ่าตาย ก็เป็นสิ่งที่ตั้งใจไว้ เพราะถ้าเขาเคยไปทำอะไรเอาไว้ และถ้าหากความแค้นกับการชำระต้องเป็นไป แม้จะรู้ว่ามาเกิดแล้วจะต้องถูกฆ่าตายอย่างทรมาน เขาก็ต้องมา แต่เขาจะลืม เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องผวากลัวตั้งแต่เด็กจนถึงวันที่กรรมมาบรรจบ ซึ่งเอกอนก็เห็นแผนที่ตัวเองวางไว้ แต่เอกอนก็ลืมเสีย 98% เพราะฤทธิ์ยา เวลาเคลิ้มไปแล้วไปเจอเรื่องราวน่า ฉงน มันๆ มันเป็นความฟินชนิดที่ว่า อยากเคลิ้มไปในนั้น ไม่อยากจะลืมตามารับรู้โลกจริง ๆ เลย ซึ่งจุดจบของคนที่หลงไปในภวังค์ ก็มักจะไปลงเอยที่ ศรีธัญญา สิ่งที่เห็นมันเหมือนฝัน แต่ฝันที่เห็นมันเหมือนจริงมาก และเมื่อกลับมายังโลกจริง สิ่งที่เห็นในภวังค์ก็ยังคงมาปรากฏเกิดจริงขึ้นมา ช่วงเวลาแห่งภวังค์ได้แสดงอิทธิพลบางอย่างออกมา จนส่งผลให้เกิดอาการสั่นคลอนในโลกด้านวัตถุ คือก่อนหน้านั้นเอกอนจะเข้าใจโลกในความจริงเพียงด้านเดียว ด้านวัตถุ แต่พอเจอกับความพิศวงของจิตเรื่อย ๆ เราก็เกิดความสั่นคลอนทางความเชื่อด้านวัตถุไปเอง จากที่เคยศึกษาธรรมแบบเรื่อยเปื่อย จึงเริ่มที่จะค่อย ๆ ศึกษาเข้าไปภายใน ต้องคอยประคองเฝ้าระวังสอดส่องตัวเองอย่างมาก ๆ เพราะเอกอนรู้ว่าเอกอนคือคนที่ปฏิบัติธรรมแล้วมีโอกาสหลุดโลกสูง คือ มีความรู้สึกตลอดเวลา บ้า กับ ธรรม มันมีเพียงแค่เส้นด้ายบาง ๆ คั่นอยู่เท่านั้น |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 07 พ.ย. 2018, 23:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: บางทีที่ท่านเห็นเปลือกโลกคงเคลื่อนตัวไปแล้ว เราอาจจะไปติดยุโรปก็ได้ครับ 5555 นึกขึ้นได้ สิ่งที่เห็นในยุคนั้น ลักษณะรูปแบบสำนักธรรมจะเปลี่ยนไป สัญญลักษณ์ในเชิงแสดงความเป็นพุทธจะเปลี่ยนไปนะ ความทรงจำเกี่ยวกับ ศาสดา หายไป ความทรงจำเกี่ยวกับสัจจะธรรม หายไป เพียงแต่ว่าคนในช่วงนั้น มีมาตรฐานชีวิตที่ค่อนข้างดี ศรัทธาในช่วงนั้น มันเหมือนเป็นเพียงเคล้าร่างลาง ๆ ของทางสายเก่าที่เคยเจริญ และผู้คนต่างพากันจินตนาการถึงปัญญานั้น ๆ ผ่านเศษซากโบราณ ซึ่งไม่มีใครสามารถรู้แจ้ง และเข้าถึงได้ ซึ่งจะมีการคิดค้นสัญลักษณ์ขึ้นมาใช้มากมาย แล้วแต่สำนักจะดีไซน์ บางทีก็จะใช้วัตถุโบราณทางศาสนาที่ขุดค้นพบ มาเป็นสัญลักษณ์ของสำนัก และเจ้าสำนักก็จะพยายามหาความรู้ (เชิงวิชาการ) เพื่อที่จะได้รับการนับถือ คือเจ้าสำนักทุกสำนักต่างก็พยายามหมายชิงความเป็น ศาสดา จนกระทั่ง วันหนึ่ง ผู้บรรลุธรรมก็ปรากฏขึ้น เมื่อท่านผู้นั้นบรรลุธรรม และนั่งสมาธิพิจารณาจนระลึกชาติได้ เห็นแจ้งทั้งหมด ท่านผู้นั้นก็ได้เดินทางไปที่หุบเขาแห่งหนึ่ง และก็นำร่าง(ศพ)ที่ได้คงสภาพไว้มาตั้งแต่ ... เผาบนฝ่ามือ ตอนเห็นมันก็นั่งมองเคลิบเคลิ้มเหมือนดูหนังนั่นล่ะ ... ช่วงเวลาอยู่คนเดียวคือช่วงเวลาที่เอกอนเข้าไปอยู่ในโลกแห่งภวังค์ และพอตอนเช้าก็ลืมตาตื่นขึ้นไปเรียน ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่พออยู่คนเดียวก็เข้าไปสู่โลกเพี้ยน ๆ กรึ่ม ๆ ในภวังค์เหมือนคนเมากัญชา แต่หลังจากนั้นหลายปีเอกอนก็ไปอ่านเจอเรื่อง พญาช้าง กับ ควาญช้าง ความฉงน และ หลอน เริ่มเข้ามาแทนที่ คือจริง ๆ เอกอนคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นนั้น เป็นเรื่องของคนที่จวนเจียนจะครองสติไม่อยู่ เหมือนคนเมากัญชา ไม่เคยคิดว่านั่นจะเป็นเรื่องทัศนะหรืออะไรเลย จนกระทั่งไปอ่านเจอ เรื่องราวต่าง ๆ เอกอนคิดว่าเอกอนบ้าแล้วนะ เรื่องที่เอกอนคิดว่าบ้าก็กลับมีเรื่องจริงสะท้อนออกมาให้เห็น แต่ด้วยความที่เอกอนเป็นคนที่ใช้ชีวิตยุ่งกับการงานเสียมาก เมื่อเรียนจบออกมาทำงาน เอกอนก็ไม่มีเวลาจะไปเล่นกับภวังค์สักเท่าไรแล้ว ชีวิตโดยมากจึงเป็นการต้องละทิ้งภวังค์ แล้วตื่นอยู่กับโลกที่โหดร้าย ... เรื่องราวต่าง ๆ ในภวังค์ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำ สักวันยังจะคิดว่าจะทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่เห็นทั้งหมดออกมา แล้วฝังดินซ่อนเอาไว้ ... เมื่อถึงยุคนั้น จะมีคนไปขุดเจอ แต่เขาอ่านภาษาไทยไม่ออก อิอิ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 24 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |