ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56695 |
หน้า 22 จากทั้งหมด 24 |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 11 ม.ค. 2019, 21:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: ได้ดูหลวงพ่อพุธ จากท่านอ๊บแล้ว ทำให้ผมเจริญใจดีมากครับ ...ผมนี้ยังต่ำต้อยมาก หลงมาก จนลืมคำครูสอนหมด เพราะปารถนาปฏิสัมภิทาญาณมากเกินไป เลยเรียนและมีครูหลายสำนัก (เรียนรู้ให้มากแบบพระราหุล) เรียนหลายอย่างจนลืมคลองเก่ากรรมฐานเก่าๆที่ตนได้ ผมเองก็บวชเรียนกรรมฐานสายพระป่าตามบ้านอกครูอุปัชฌาย์ผมเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ก่อนหลวงพ่อพุธหน่อยหนึ่ง ท่านเดินทางมากับกองทัพธรรมหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อพุธคาดว่าเป็นสามเณรอยู่ ชาวบ้านขอหลวงปู่มั่นเป็นเจ้าอาวาสวัดที่นั่น แต่หลวงปู่มั่น ท่านให้หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ผมอยู่แทนแล้วเผยแพร่ธรรมที่นั่นจนละสังขารเข้าพระนิพพาน สมัยทีท่านยังครองขันธ์อยู่เวลาหลวงพ่อพุธเจอท่านก็จะเข้าไปกราบนมัสการท่านตามทำเนียมพระป่า เพราะพรรษาแก่กว่า บรรลุอรหันต์ก่อน สอนเหมือนกันศิษย์หลวงป๔่เสาร์เหมือนกัน ธาตุขันธ์กลายเป็นพระธาตุ ผมเชื่อว่าสมัยยุคนั้นสายพระป่ากองทัพธรรมจะบรรลุกันทุกรูป เพราะเท่าที่ด๔มาเป็นแบบนั้น พอผมดูหลวงพ่อพุธแล้วให้นึกถึงท่าน คำสอนที่หลงลืม สิ่งที่ควรเดินต่อผมกลับมาคลำจุดได้แล้ว ขอบคุณท่านอ๊บมากๆครับ นี่แหละหนาเขาว่าหากเจอบัณฑิต และบุญเก่าเรามีก็จะช่วยให้เดินออกจากสิ่งที่หลงไม่ถึงคลำจุดไม่เจอได้ สาธุครับท่านอ๊บ จะขอกลับไปทำคลองเก่าตามหลวงปู่ท่านสอนให้ดีก่อนแล้วจะกลับมาโม้สนุกสนานต่อครับ ขอบคุณท่านอ๊บ ท่านเอกอนมากครับ มีงี๊อีก ... |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 12 ม.ค. 2019, 13:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ได้ดูหลวงพ่อพุธ จากท่านอ๊บแล้ว ทำให้ผมเจริญใจดีมากครับ ...ผมนี้ยังต่ำต้อยมาก หลงมาก จนลืมคำครูสอนหมด เพราะปารถนาปฏิสัมภิทาญาณมากเกินไป เลยเรียนและมีครูหลายสำนัก (เรียนรู้ให้มากแบบพระราหุล) เรียนหลายอย่างจนลืมคลองเก่ากรรมฐานเก่าๆที่ตนได้ ผมเองก็บวชเรียนกรรมฐานสายพระป่าตามบ้านอกครูอุปัชฌาย์ผมเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ก่อนหลวงพ่อพุธหน่อยหนึ่ง ท่านเดินทางมากับกองทัพธรรมหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อพุธคาดว่าเป็นสามเณรอยู่ ชาวบ้านขอหลวงปู่มั่นเป็นเจ้าอาวาสวัดที่นั่น แต่หลวงปู่มั่น ท่านให้หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ผมอยู่แทนแล้วเผยแพร่ธรรมที่นั่นจนละสังขารเข้าพระนิพพาน สมัยทีท่านยังครองขันธ์อยู่เวลาหลวงพ่อพุธเจอท่านก็จะเข้าไปกราบนมัสการท่านตามทำเนียมพระป่า เพราะพรรษาแก่กว่า บรรลุอรหันต์ก่อน สอนเหมือนกันศิษย์หลวงป๔่เสาร์เหมือนกัน ธาตุขันธ์กลายเป็นพระธาตุ ผมเชื่อว่าสมัยยุคนั้นสายพระป่ากองทัพธรรมจะบรรลุกันทุกรูป เพราะเท่าที่ด๔มาเป็นแบบนั้น พอผมดูหลวงพ่อพุธแล้วให้นึกถึงท่าน คำสอนที่หลงลืม สิ่งที่ควรเดินต่อผมกลับมาคลำจุดได้แล้ว ขอบคุณท่านอ๊บมากๆครับ นี่แหละหนาเขาว่าหากเจอบัณฑิต และบุญเก่าเรามีก็จะช่วยให้เดินออกจากสิ่งที่หลงไม่ถึงคลำจุดไม่เจอได้ สาธุครับท่านอ๊บ จะขอกลับไปทำคลองเก่าตามหลวงปู่ท่านสอนให้ดีก่อนแล้วจะกลับมาโม้สนุกสนานต่อครับ ขอบคุณท่านอ๊บ ท่านเอกอนมากครับ มีงี๊อีก ... อิอิอิ คือโลภอะครับ จะเอาทุกอย่าง เพราะมันสำคัญอะนะครับ ตอนนี้ ผมมีโอกาสได้ลิ้มรสธรรมในหลายๆทาง มันก็ดีนะ ลองคิดดูนะครับว่าพระพุทธเจ้าที่มีครบหมดจะเป็นยังไง ผมไม่แปลกใจที่พระองค์กล่าวตอนตรัสรู้ใหม่ๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ธรรม ไม่มีใครยิ่งไปกว่าพระองค์ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 13 ม.ค. 2019, 07:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ได้ดูหลวงพ่อพุธ จากท่านอ๊บแล้ว ทำให้ผมเจริญใจดีมากครับ ...ผมนี้ยังต่ำต้อยมาก หลงมาก จนลืมคำครูสอนหมด เพราะปารถนาปฏิสัมภิทาญาณมากเกินไป เลยเรียนและมีครูหลายสำนัก (เรียนรู้ให้มากแบบพระราหุล) เรียนหลายอย่างจนลืมคลองเก่ากรรมฐานเก่าๆที่ตนได้ ผมเองก็บวชเรียนกรรมฐานสายพระป่าตามบ้านอกครูอุปัชฌาย์ผมเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ก่อนหลวงพ่อพุธหน่อยหนึ่ง ท่านเดินทางมากับกองทัพธรรมหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อพุธคาดว่าเป็นสามเณรอยู่ ชาวบ้านขอหลวงปู่มั่นเป็นเจ้าอาวาสวัดที่นั่น แต่หลวงปู่มั่น ท่านให้หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ผมอยู่แทนแล้วเผยแพร่ธรรมที่นั่นจนละสังขารเข้าพระนิพพาน สมัยทีท่านยังครองขันธ์อยู่เวลาหลวงพ่อพุธเจอท่านก็จะเข้าไปกราบนมัสการท่านตามทำเนียมพระป่า เพราะพรรษาแก่กว่า บรรลุอรหันต์ก่อน สอนเหมือนกันศิษย์หลวงป๔่เสาร์เหมือนกัน ธาตุขันธ์กลายเป็นพระธาตุ ผมเชื่อว่าสมัยยุคนั้นสายพระป่ากองทัพธรรมจะบรรลุกันทุกรูป เพราะเท่าที่ด๔มาเป็นแบบนั้น พอผมดูหลวงพ่อพุธแล้วให้นึกถึงท่าน คำสอนที่หลงลืม สิ่งที่ควรเดินต่อผมกลับมาคลำจุดได้แล้ว ขอบคุณท่านอ๊บมากๆครับ นี่แหละหนาเขาว่าหากเจอบัณฑิต และบุญเก่าเรามีก็จะช่วยให้เดินออกจากสิ่งที่หลงไม่ถึงคลำจุดไม่เจอได้ สาธุครับท่านอ๊บ จะขอกลับไปทำคลองเก่าตามหลวงปู่ท่านสอนให้ดีก่อนแล้วจะกลับมาโม้สนุกสนานต่อครับ ขอบคุณท่านอ๊บ ท่านเอกอนมากครับ มีงี๊อีก ... อิอิอิ คือโลภอะครับ จะเอาทุกอย่าง เพราะมันสำคัญอะนะครับ ตอนนี้ ผมมีโอกาสได้ลิ้มรสธรรมในหลายๆทาง มันก็ดีนะ ลองคิดดูนะครับว่าพระพุทธเจ้าที่มีครบหมดจะเป็นยังไง ผมไม่แปลกใจที่พระองค์กล่าวตอนตรัสรู้ใหม่ๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ธรรม ไม่มีใครยิ่งไปกว่าพระองค์ ผมก็อยากได้..แต่นิสัยขี้เกียจ..นี้ซิ...จะทำยังงัยหน่อ?... เลยสนใจ..สงสัย...ทำไม...บางท่านไม่ได้ศึกษาอะไรมากเลยแต่ตอนเป็นพระอรหันต์กลับได้ปฏิสัมภิทาฯ..ซะนี้ ตามนิสัยขี้เกียจ....เลยสนใจเหตุผลกลไกอันนี้..ว่า..เหตุไฉนหนอ.? |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 13 ม.ค. 2019, 21:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
กบนอกกะลา เขียน: แค่อากาศ เขียน: eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ได้ดูหลวงพ่อพุธ จากท่านอ๊บแล้ว ทำให้ผมเจริญใจดีมากครับ ...ผมนี้ยังต่ำต้อยมาก หลงมาก จนลืมคำครูสอนหมด เพราะปารถนาปฏิสัมภิทาญาณมากเกินไป เลยเรียนและมีครูหลายสำนัก (เรียนรู้ให้มากแบบพระราหุล) เรียนหลายอย่างจนลืมคลองเก่ากรรมฐานเก่าๆที่ตนได้ ผมเองก็บวชเรียนกรรมฐานสายพระป่าตามบ้านอกครูอุปัชฌาย์ผมเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ก่อนหลวงพ่อพุธหน่อยหนึ่ง ท่านเดินทางมากับกองทัพธรรมหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อพุธคาดว่าเป็นสามเณรอยู่ ชาวบ้านขอหลวงปู่มั่นเป็นเจ้าอาวาสวัดที่นั่น แต่หลวงปู่มั่น ท่านให้หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ผมอยู่แทนแล้วเผยแพร่ธรรมที่นั่นจนละสังขารเข้าพระนิพพาน สมัยทีท่านยังครองขันธ์อยู่เวลาหลวงพ่อพุธเจอท่านก็จะเข้าไปกราบนมัสการท่านตามทำเนียมพระป่า เพราะพรรษาแก่กว่า บรรลุอรหันต์ก่อน สอนเหมือนกันศิษย์หลวงป๔่เสาร์เหมือนกัน ธาตุขันธ์กลายเป็นพระธาตุ ผมเชื่อว่าสมัยยุคนั้นสายพระป่ากองทัพธรรมจะบรรลุกันทุกรูป เพราะเท่าที่ด๔มาเป็นแบบนั้น พอผมดูหลวงพ่อพุธแล้วให้นึกถึงท่าน คำสอนที่หลงลืม สิ่งที่ควรเดินต่อผมกลับมาคลำจุดได้แล้ว ขอบคุณท่านอ๊บมากๆครับ นี่แหละหนาเขาว่าหากเจอบัณฑิต และบุญเก่าเรามีก็จะช่วยให้เดินออกจากสิ่งที่หลงไม่ถึงคลำจุดไม่เจอได้ สาธุครับท่านอ๊บ จะขอกลับไปทำคลองเก่าตามหลวงปู่ท่านสอนให้ดีก่อนแล้วจะกลับมาโม้สนุกสนานต่อครับ ขอบคุณท่านอ๊บ ท่านเอกอนมากครับ มีงี๊อีก ... อิอิอิ คือโลภอะครับ จะเอาทุกอย่าง เพราะมันสำคัญอะนะครับ ตอนนี้ ผมมีโอกาสได้ลิ้มรสธรรมในหลายๆทาง มันก็ดีนะ ลองคิดดูนะครับว่าพระพุทธเจ้าที่มีครบหมดจะเป็นยังไง ผมไม่แปลกใจที่พระองค์กล่าวตอนตรัสรู้ใหม่ๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ธรรม ไม่มีใครยิ่งไปกว่าพระองค์ ผมก็อยากได้..แต่นิสัยขี้เกียจ..นี้ซิ...จะทำยังงัยหน่อ?... เลยสนใจ..สงสัย...ทำไม...บางท่านไม่ได้ศึกษาอะไรมากเลยแต่ตอนเป็นพระอรหันต์กลับได้ปฏิสัมภิทาฯ..ซะนี้ ตามนิสัยขี้เกียจ....เลยสนใจเหตุผลกลไกอันนี้..ว่า..เหตุไฉนหนอ.? คำตอบที่ท่านอ๊บสงสัย คือคำถามนี้ครับว่า ท่านอ๊บคิดว่า ตลอดสังสารวัฏนานนับอสงไขย ๑. ชาตินี้เป็นชาติแรกที่จิตเดิมแท้ของท่านอ๊บเกิดขึ้นมาหรือไม่ ๒. มีชาติก่อนๆท่านอ๊บไหม แล้วคอดว่าชาติหน้าจะมีไหมหากไม่บรรลุอรหันต์ ๓. พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายท่านมีชาติก่อนไหม ถ้ามี ..ท่านสะสมเหตุไหมจึงบรรลุธรรม หรืออยากบรรลุก็บรรลุเลยไม่ต้องสะสมบารมี แถมเลือกได้ด้วยว่าจะบรรลุแบบไหนใช่หรือไม่ ๔. พระอรหันต์แต่ละท่านแต่ละอย่างสะสมมาเหมือนกัน หรือต่างกันไหม อย่า่งไร ๕. ท่านอ๊บเพิ่งเคยเจอพระพุทธศาสนาเป็นชาติแรกของดวงจิตเดิมแท้ที่จรมาตลอดหลายอสงไขยหรือไม่ ๖. เมื่อวานมีไหน เดือนก่อนมีไหม ปีก่อนมีไหม ปีก่อนๆมีไหม 10 ปีก่อนมีไหม 30 ปีก่อนมีไหม ปัจจุบันวันนี้มีไหม วันพรุ่งนี้มีไหม วันมะรืนนี้มีไหม ดังนี้แล้วที่ครูบาอาจารย์กล่าวว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันเป็นเหตุปัจจัยส่งผลในชั่วขณะเวลาภายหน้า ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันนี้เป็นเหตุของวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้เดป็นผลของวันนี้เป็นคำที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ๗. หากมีชาติก่อน ชาตินี้ ชาติหน้า ที่เกิดเป็นคนได้เพราะอะไร มีอะไรสะสมมา ที่มีโอกาสได้เจอพระพุทธ พระรัตนตรัย และพระพุทธศาสนาเพราะอะไร ที่สามารถเจริญบารมีธรรมได้เพราะอะไร ๘. ท่านอ๊บบรรลุอรหันต์ในตอนที่อ่านกระทู้นี้เลยได้ไหมครับ ไม่ต้องเจริญทาน ศีล ภาวนาแล้วบรรลุธรรมได้เลยไหมครับ และเลือกบรรลุแบบไหนก็ได้ตามใจได้เลยหรือไม่ครับ หรือทำได้ตามกำลังที่สะสมเหตุมาเท่านั้นครับ คำตอบในความสงสัยนั้น อยู่ในคำตอบของคำถามนี้ครับ ก็ถ้ากรรมมีจริง กรรมมีทั้งดีทั้งชั่ว กรรมส่งผล เราเป็นทายาทกรรม นี่ก็คือ..กรรม และ วิบากกรรม.. ผมก็กระทำกรรมอันไปสู่ผลนั้นครับ ท่านอ๊บอย่าเล่นมุก ปัจจัตตัง กับ อจินไตย นะครับ อิอิ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 14 ม.ค. 2019, 19:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
ในฐานะ..นักเรียนสายวิทยาศาสตร์... ไม่ว่า..จะเป็นปัจจัตตัง..หรือ..จะเป็นอจินไตย์..ก็จะต้องทราบโครงสร้างของมันให้ได้..ครับ..แม้จะเป็นการคร่าวๆ รึที่เขาเรียกว่า..ต้องตั้งสมมุติฐาน...ให้ได้... มันเป็นนิสัย.สายวิทย์.. |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 14 ม.ค. 2019, 19:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
"หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 14 ม.ค. 2019, 20:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
เราเราเป็นชาวพุทธ...มีความเป็นไปได้..ว่า..เข้าใกล้ความรู้..ตรง..จุดเดียว..อันนั้น..มากกว่าใครๆ.. ไปนิพพาน..โดยไม่เข้าใจ..จุดเดียวอันนั้น..ก็ได้นะ |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 15 ม.ค. 2019, 09:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต กบนอกกะลา เขียน: เราเราเป็นชาวพุทธ...มีความเป็นไปได้..ว่า..เข้าใกล้ความรู้..ตรง..จุดเดียว..อันนั้น..มากกว่าใครๆ.. ไปนิพพาน..โดยไม่เข้าใจ..จุดเดียวอันนั้น..ก็ได้นะ กบนอกกะลา เขียน: ในฐานะ..นักเรียนสายวิทยาศาสตร์... ไม่ว่า..จะเป็นปัจจัตตัง..หรือ..จะเป็นอจินไตย์..ก็จะต้องทราบโครงสร้างของมันให้ได้..ครับ..แม้จะเป็นการคร่าวๆ รึที่เขาเรียกว่า..ต้องตั้งสมมุติฐาน...ให้ได้... มันเป็นนิสัย.สายวิทย์.. ยอดเยี่ยมดีแล้วๆๆๆ สาธุ สาธุ สาธุครับท่านอ๊บ ผมก็คิดเหมือนกันครับ ผมก็เลยตั้งสมมติฐาน ตามแนววิธีปฏิบัติในแบบต่าง เพราะหากเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ว่าไม่สนอะไรจะมุ่งไปพระนิพพานอย่างเดียวนั้นกลับมาอีก แล้วไม่กลับกลอก ถึงมันจะสุขจริงแต่ถ้ามันไม่เป็นดั่งตั้งใจไว้ ก็ไม่อาจจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ถึงนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้..ไม่ว่าจะต่อตนเองหรือใคร ดังนั้นตอนนี้ผมก็เลยต้องทำการทดลองตามสมมติฐาน เก็บผลสถิติอยู่เช่นกันครับ การได้เกิดเป็นคนว่ายากแล้ว การได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนานี้ยากยิ่งกว่า ดังนั้นรู้ให้มาก ทำไม่ขาด ทำให้ถึง ทำอิทธิบาท ๔ ไม่ย่อท้อ ไม่สุดโต่ง ทำเป็นที่สบายกายใจ แต่ไม่เหลาะแหละ ตามสติกำลังตน -------------------------------------------------------- - บางทีหลายๆอย่างบางคนเมื่อถึงแล้วแต่ทำไมไม่ตัดเสียที หรือ ถึงแล้วประครองตนไว้ดีแล้วแต่ทำไมยังต้องรวบรวมสิ่งต่างๆอื่นๆอีก จริงๆมันก็เกี่ยวกับปัจจัตตังด้วยรู้ได้เฉพาะตนว่าเพราะอะไร สาเหตุโดยรวมมีไม่มาก คือ.. บุคคลผู้นั้นทำสัจจอธิษฐานไว้บ้าง ๑ บุคคลผู้นั้นได้รับพุทธพยากรณ์โดยตรงแล้ว ๑ บุคคลผู้นั้น เหตุยังไม่เต็ม จึงไปสู่ผลไม่ได้ ๑ ทั้ง ๓ ข้อนี้ล้วนเป็นแรงตั้งต้น เป็นจุดมุ่งหมาย สำไปสู่สมมติฐานต่อมาใช่ไหมครับ - ความเป็นอจินไตยก็เหมือนเรื่องกรรม แต่เรารู้กลไกความเป็นไปของกรรมมันอยู่แล้ว - กรรมก็เหมือนแรงต้น แรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหลของวัตตุ - การปฏิบัติสะสมเหตุก็เป็นกรรม การตั้งจิตอธิษฐานก็เป็นกรรม ความมุ่งมั่นตั้งมั่นตกลงใจทำสิ่งใดก็เป็นกรรม กายสัญเจตนา วจีสัญญเจตนา มโนสัญเจตนา ล้วนเป็นกรรม กรรมมีแรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหล ..เมื่อแรงต้นมาก การก็เคลื่อนเร็ว แรกกระทบก็มาก แรงสะท้อนกลับก็มากตาม การไหลก็มากตาม แล้วก็เกิดแรงเฉื่อย ถ้าการไหลไปในทางลาดมันก็ไหลไปเรื่อย ถ้าเป็นทางระนาบก็ปานกลาง ถ้าเป็นทางลาดชันที่มีแรงต้านสูงมันก็ไหลน้อย ใช่ไหมครับ สงสัยแนวนี้ผมจะเข้าฟิสิกส์ กฏของแรงแล้วมั้งนี่ อิอิ -------------------------------------------------------- สิ่งที่ท่านอ๊บแนะนำและสนทนากับผมนนี้เจริญใจมากครับ เปิดมุมมองหลายๆทางแก่ผมได้ดีนัก ขอบคุณอย่างสูงครับ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 15 ม.ค. 2019, 11:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต กบนอกกะลา เขียน: เราเราเป็นชาวพุทธ...มีความเป็นไปได้..ว่า..เข้าใกล้ความรู้..ตรง..จุดเดียว..อันนั้น..มากกว่าใครๆ.. ไปนิพพาน..โดยไม่เข้าใจ..จุดเดียวอันนั้น..ก็ได้นะ กบนอกกะลา เขียน: ในฐานะ..นักเรียนสายวิทยาศาสตร์... ไม่ว่า..จะเป็นปัจจัตตัง..หรือ..จะเป็นอจินไตย์..ก็จะต้องทราบโครงสร้างของมันให้ได้..ครับ..แม้จะเป็นการคร่าวๆ รึที่เขาเรียกว่า..ต้องตั้งสมมุติฐาน...ให้ได้... มันเป็นนิสัย.สายวิทย์.. ยอดเยี่ยมดีแล้วๆๆๆ สาธุ สาธุ สาธุครับท่านอ๊บ ผมก็คิดเหมือนกันครับ ผมก็เลยตั้งสมมติฐาน ตามแนววิธีปฏิบัติในแบบต่าง เพราะหากเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ว่าไม่สนอะไรจะมุ่งไปพระนิพพานอย่างเดียวนั้นกลับมาอีก แล้วไม่กลับกลอก ถึงมันจะสุขจริงแต่ถ้ามันไม่เป็นดั่งตั้งใจไว้ ก็ไม่อาจจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ถึงนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้..ไม่ว่าจะต่อตนเองหรือใคร ดังนั้นตอนนี้ผมก็เลยต้องทำการทดลองตามสมมติฐาน เก็บผลสถิติอยู่เช่นกันครับ การได้เกิดเป็นคนว่ายากแล้ว การได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนานี้ยากยิ่งกว่า ดังนั้นรู้ให้มาก ทำไม่ขาด ทำให้ถึง ทำอิทธิบาท ๔ ไม่ย่อท้อ ไม่สุดโต่ง ทำเป็นที่สบายกายใจ แต่ไม่เหลาะแหละ ตามสติกำลังตน -------------------------------------------------------- - บางทีหลายๆอย่างบางคนเมื่อถึงแล้วแต่ทำไมไม่ตัดเสียที หรือ ถึงแล้วประครองตนไว้ดีแล้วแต่ทำไมยังต้องรวบรวมสิ่งต่างๆอื่นๆอีก จริงๆมันก็เกี่ยวกับปัจจัตตังด้วยรู้ได้เฉพาะตนว่าเพราะอะไร สาเหตุโดยรวมมีไม่มาก คือ.. บุคคลผู้นั้นทำสัจจอธิษฐานไว้บ้าง ๑ บุคคลผู้นั้นได้รับพุทธพยากรณ์โดยตรงแล้ว ๑ บุคคลผู้นั้น เหตุยังไม่เต็ม จึงไปสู่ผลไม่ได้ ๑ ทั้ง ๓ ข้อนี้ล้วนเป็นแรงตั้งต้น เป็นจุดมุ่งหมาย สำไปสู่สมมติฐานต่อมาใช่ไหมครับ - ความเป็นอจินไตยก็เหมือนเรื่องกรรม แต่เรารู้กลไกความเป็นไปของกรรมมันอยู่แล้ว - กรรมก็เหมือนแรงต้น แรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหลของวัตตุ - การปฏิบัติสะสมเหตุก็เป็นกรรม การตั้งจิตอธิษฐานก็เป็นกรรม ความมุ่งมั่นตั้งมั่นตกลงใจทำสิ่งใดก็เป็นกรรม กายสัญเจตนา วจีสัญญเจตนา มโนสัญเจตนา ล้วนเป็นกรรม กรรมมีแรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหล ..เมื่อแรงต้นมาก การก็เคลื่อนเร็ว แรกกระทบก็มาก แรงสะท้อนกลับก็มากตาม การไหลก็มากตาม แล้วก็เกิดแรงเฉื่อย ถ้าการไหลไปในทางลาดมันก็ไหลไปเรื่อย ถ้าเป็นทางระนาบก็ปานกลาง ถ้าเป็นทางลาดชันที่มีแรงต้านสูงมันก็ไหลน้อย ใช่ไหมครับ สงสัยแนวนี้ผมจะเข้าฟิสิกส์ กฏของแรงแล้วมั้งนี่ อิอิ -------------------------------------------------------- สิ่งที่ท่านอ๊บแนะนำและสนทนากับผมนนี้เจริญใจมากครับ เปิดมุมมองหลายๆทางแก่ผมได้ดีนัก ขอบคุณอย่างสูงครับ มาหาหมอ เพิ่งหยอดยาขยายม่านตา ตาเริ่มเบลอ ขอจับเป็นตัวประกันไว้ก่อน |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 15 ม.ค. 2019, 12:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
หูยๆๆกระทู้นั้นไม่มีอะไรก็แค่สนทนาทั่วไปครับ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 15 ม.ค. 2019, 21:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: หูยๆๆกระทู้นั้นไม่มีอะไรก็แค่สนทนาทั่วไปครับ eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต กบนอกกะลา เขียน: เราเราเป็นชาวพุทธ...มีความเป็นไปได้..ว่า..เข้าใกล้ความรู้..ตรง..จุดเดียว..อันนั้น..มากกว่าใครๆ.. ไปนิพพาน..โดยไม่เข้าใจ..จุดเดียวอันนั้น..ก็ได้นะ กบนอกกะลา เขียน: ในฐานะ..นักเรียนสายวิทยาศาสตร์... ไม่ว่า..จะเป็นปัจจัตตัง..หรือ..จะเป็นอจินไตย์..ก็จะต้องทราบโครงสร้างของมันให้ได้..ครับ..แม้จะเป็นการคร่าวๆ รึที่เขาเรียกว่า..ต้องตั้งสมมุติฐาน...ให้ได้... มันเป็นนิสัย.สายวิทย์.. ยอดเยี่ยมดีแล้วๆๆๆ สาธุ สาธุ สาธุครับท่านอ๊บ ผมก็คิดเหมือนกันครับ ผมก็เลยตั้งสมมติฐาน ตามแนววิธีปฏิบัติในแบบต่าง เพราะหากเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ว่าไม่สนอะไรจะมุ่งไปพระนิพพานอย่างเดียวนั้นกลับมาอีก แล้วไม่กลับกลอก ถึงมันจะสุขจริงแต่ถ้ามันไม่เป็นดั่งตั้งใจไว้ ก็ไม่อาจจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ถึงนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้..ไม่ว่าจะต่อตนเองหรือใคร ดังนั้นตอนนี้ผมก็เลยต้องทำการทดลองตามสมมติฐาน เก็บผลสถิติอยู่เช่นกันครับ การได้เกิดเป็นคนว่ายากแล้ว การได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนานี้ยากยิ่งกว่า ดังนั้นรู้ให้มาก ทำไม่ขาด ทำให้ถึง ทำอิทธิบาท ๔ ไม่ย่อท้อ ไม่สุดโต่ง ทำเป็นที่สบายกายใจ แต่ไม่เหลาะแหละ ตามสติกำลังตน -------------------------------------------------------- - บางทีหลายๆอย่างบางคนเมื่อถึงแล้วแต่ทำไมไม่ตัดเสียที หรือ ถึงแล้วประครองตนไว้ดีแล้วแต่ทำไมยังต้องรวบรวมสิ่งต่างๆอื่นๆอีก จริงๆมันก็เกี่ยวกับปัจจัตตังด้วยรู้ได้เฉพาะตนว่าเพราะอะไร สาเหตุโดยรวมมีไม่มาก คือ.. บุคคลผู้นั้นทำสัจจอธิษฐานไว้บ้าง ๑ บุคคลผู้นั้นได้รับพุทธพยากรณ์โดยตรงแล้ว ๑ บุคคลผู้นั้น เหตุยังไม่เต็ม จึงไปสู่ผลไม่ได้ ๑ ทั้ง ๓ ข้อนี้ล้วนเป็นแรงตั้งต้น เป็นจุดมุ่งหมาย สำไปสู่สมมติฐานต่อมาใช่ไหมครับ - ความเป็นอจินไตยก็เหมือนเรื่องกรรม แต่เรารู้กลไกความเป็นไปของกรรมมันอยู่แล้ว - กรรมก็เหมือนแรงต้น แรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหลของวัตตุ - การปฏิบัติสะสมเหตุก็เป็นกรรม การตั้งจิตอธิษฐานก็เป็นกรรม ความมุ่งมั่นตั้งมั่นตกลงใจทำสิ่งใดก็เป็นกรรม กายสัญเจตนา วจีสัญญเจตนา มโนสัญเจตนา ล้วนเป็นกรรม กรรมมีแรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหล ..เมื่อแรงต้นมาก การก็เคลื่อนเร็ว แรกกระทบก็มาก แรงสะท้อนกลับก็มากตาม การไหลก็มากตาม แล้วก็เกิดแรงเฉื่อย ถ้าการไหลไปในทางลาดมันก็ไหลไปเรื่อย ถ้าเป็นทางระนาบก็ปานกลาง ถ้าเป็นทางลาดชันที่มีแรงต้านสูงมันก็ไหลน้อย ใช่ไหมครับ สงสัยแนวนี้ผมจะเข้าฟิสิกส์ กฏของแรงแล้วมั้งนี่ อิอิ -------------------------------------------------------- สิ่งที่ท่านอ๊บแนะนำและสนทนากับผมนนี้เจริญใจมากครับ เปิดมุมมองหลายๆทางแก่ผมได้ดีนัก ขอบคุณอย่างสูงครับ มาหาหมอ เพิ่งหยอดยาขยายม่านตา ตาเริ่มเบลอ ขอจับเป็นตัวประกันไว้ก่อน ไม่รู้จิ ไม่ใช่ ไม่มีอะไรหรอก เวลาอ่าน เอกอนจะเห็น เคล้าร่างของ ภูเขาน้ำแข็ง คือ สิ่งที่คนเอาออกมาพูดได้ โดยมากแล้วจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง ของสิ่งที่อยู่ในใจ ซึ่ง ผักกาด มีสิ่งที่อยู่ในใจที่จะพูดเยอะ ... ซึ่ง ก็ไม่เข้าใจว่า อ๊บซ์ ไปกระตุ้นไอ้จุด ๆ เดียวมาพูดทำไม เดจาวูกันจริง ๆ เลย |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 ม.ค. 2019, 21:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 15 ม.ค. 2019, 22:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: - บางทีหลายๆอย่างบางคนเมื่อถึงแล้วแต่ทำไมไม่ตัดเสียที หรือ ถึงแล้วประครองตนไว้ดีแล้วแต่ทำไมยังต้องรวบรวมสิ่งต่างๆอื่นๆอีก จริงๆมันก็เกี่ยวกับปัจจัตตังด้วยรู้ได้เฉพาะตนว่าเพราะอะไร สาเหตุโดยรวมมีไม่มาก คือ.. บุคคลผู้นั้นทำสัจจอธิษฐานไว้บ้าง ๑ บุคคลผู้นั้นได้รับพุทธพยากรณ์โดยตรงแล้ว ๑ บุคคลผู้นั้น เหตุยังไม่เต็ม จึงไปสู่ผลไม่ได้ ๑ ทั้ง ๓ ข้อนี้ล้วนเป็นแรงตั้งต้น เป็นจุดมุ่งหมาย สำไปสู่สมมติฐานต่อมาใช่ไหมครับ อันนี้ขอตอบสไตล์ แดจาวู เน๊อะ คือ เพลิน ๆ ไม่ต้องเชื่อก็ดี ก็ได้ คือ เมื่อถึงจุดหนึ่ง คนเราจะระลึกชาติได้ พระไตรปิฏกก็มีกรณีที่ปฏิบัติสำเร็จถึงขั้นไหน แล้วระลึกชาติได้ถึงไหน ถึงไหน ซึ่งยิ่งถ้าหากว่าจิตไหลลงสู่ พุทธจิต จะเห็นการเดินทางอันแสนยาวไกลของทุก ๆ จุด (ต้องมีลากอ๊บซ์เข้ามาเอี่ยว) บางจุดเดินทางเข้ามาอยู่ในเส้นทางเดียวกับเรา ด้วยบทบาท มารดา แต่ก่อนหน้านั้น จุด ๆ นั้น ก็เคยได้รับบทบาทอื่นมาก่อน และอนาคตก็มีบทบาทต่อไป มันก็คล้ายกับการนั่งมองดาวเคราะห์เดินทางรอบดวงอาทิตย์ นั่นคือวงเล็ก แต่กระนั้น จักรวาลนั้นมหาศาลมาก แต่ละจุดล้วนเคลื่อนไปตลอดเวลา การระลึกชาติได้ไกล ๆ ก็คือเป็นการเห็นวิถีการเคลื่อนที่ย้อนหลังไป และการเห็นอนาคต ก็คือเป็นการเห็นวิถีการเคลื่อนที่ดำเนินไป ซึ่ง แรงกระทำระหว่างกัน แรงกรรม เป็นแรงที่เสกสรรการเคลื่อนที่ให้แต่ละจุดเป็นไป แค่อากาศ เขียน: - ความเป็นอจินไตยก็เหมือนเรื่องกรรม แต่เรารู้กลไกความเป็นไปของกรรมมันอยู่แล้ว - กรรมก็เหมือนแรงต้น แรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหลของวัตตุ เรื่อง กรรม เรื่อง วิบาก เป็นเรื่องที่พูดยากนะ เพราะถ้าคนที่ท่องตำรา ท่องอภิธรรมมา อาจจะตอบได้ในแบบตำรา แต่ถ้าคนที่ปฏิบัติจนระลึกชาติได้ เขาจะอธิบายมันออกมาเป็นอีกแบบ เขาจะรู้ซึ้ง ในความเป็นไปของ กริยาที่ทำให้อะไร ๆ มันเป็นไป ทิ้งรอยทางให้เป็นไป และเขาอาจจะเห็นแบบแปลนแห่งความเป็นไป ที่กรรมจึงรักษาสภาพได้ ไม่มีวันหมดอายุ และเมื่อเขาเห็นแบบแปลนที่กรรมรักษาสภาพได้ เขาก็เห็นแบบแปลนของกรรมที่ไม่ส่งผลได้เช่นกัน แค่อากาศ เขียน: - การปฏิบัติสะสมเหตุก็เป็นกรรม การตั้งจิตอธิษฐานก็เป็นกรรม ความมุ่งมั่นตั้งมั่นตกลงใจทำสิ่งใดก็เป็นกรรม กายสัญเจตนา วจีสัญญเจตนา มโนสัญเจตนา ล้วนเป็นกรรม กรรมมีแรงเคลื่อน แรงกระทบ แรงสะท้อน และการไหล ..เมื่อแรงต้นมาก การก็เคลื่อนเร็ว แรกกระทบก็มาก แรงสะท้อนกลับก็มากตาม การไหลก็มากตาม แล้วก็เกิดแรงเฉื่อย ถ้าการไหลไปในทางลาดมันก็ไหลไปเรื่อย ถ้าเป็นทางระนาบก็ปานกลาง ถ้าเป็นทางลาดชันที่มีแรงต้านสูงมันก็ไหลน้อย ใช่ไหมครับ กลับมาที่ประเด็น แค่อากาศ เขียน: - บางทีหลายๆอย่างบางคนเมื่อถึงแล้วแต่ทำไมไม่ตัดเสียที หรือ ถึงแล้วประครองตนไว้ดีแล้วแต่ทำไมยังต้องรวบรวมสิ่งต่างๆอื่นๆอีก จริงๆมันก็เกี่ยวกับปัจจัตตังด้วยรู้ได้เฉพาะตนว่าเพราะอะไร สาเหตุโดยรวมมีไม่มาก คือ.. บุคคลผู้นั้นทำสัจจอธิษฐานไว้บ้าง ๑ บุคคลผู้นั้นได้รับพุทธพยากรณ์โดยตรงแล้ว ๑ บุคคลผู้นั้น เหตุยังไม่เต็ม จึงไปสู่ผลไม่ได้ ๑ ทั้ง ๓ ข้อนี้ล้วนเป็นแรงตั้งต้น เป็นจุดมุ่งหมาย นำไปสู่สมมติฐานต่อมาใช่ไหมครับ ก็เพราะ จุด นั่นล่ะ การปราถนาพุทธภูมิ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดง่าย ๆ นะ ถ้าไม่มีแรงผลักดันที่มากพอ เรื่องบางเรื่อง ก็จะเป็นเรื่องที่ เหมือนนิทาน ที่นั่งฟังเพลินน้ำลายหยดนั่นล่ะ แต่ลองคิดเล่น ๆ สิ่ ถ้านิทานนั้นจริง ล่ะ อย่างเช่น อ้างคำพูด: สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชจะกระทำการฉลองพระมหาเจดีย์ ๗ เดือน ๗ ปี ๗ วัน จะมาขัดขวางพิธี เนื่องเพราะไม่ต้องการให้ศาสนาของพระพุทธโคดมเจริญรุ่งเรือง( เกรงคนจะไปนิพพานหมด ไม่มีคนตามไปเกิดในสมัยท่าน ) พระเจ้าอโศกมหาราชจึงอาราธนาเหล่าพระภิกษุสงฆ์ร่วมแสน ผู้ทรงปฎิสัมภิทาญาณบ้างทรงอภิญญาบ้างมาช่วยกันป้องกัน พระเถระผู้ใหญ่ในมหาสงฆสมาคมเห็นว่า ผู้ที่มีหน้าที่ที่จะกำราบพระยามาราธิราชนี้ได้ตามพุทธพยากรณ์ คือ พระอรหันต์ที่บำเพ็ญนิโรธสมาบัติอยู่ที่กลางสะดือมหาสมุทร ชื่อว่า พระอุปคุตเถระ ซึ่งเป็นคู่ปรับกันมาแต่อดีตชาติ จึงส่งเณรน้อยอนาคามีทรงอภิญญาไปอาราธนาพระอุปคุตเถระ ๆ เรื่องราวทำนองนี้ ก็เป็นสิ่งที่เกิดซ้อนอยู่ในโลกยุคปัจจุบันนี้ได้ จะมีคนบางกลุ่มที่รู้ว่าตอนนี้ มีเกมอะไรกำลังดำเนินอยู่บ้าง อย่างเช่น อ๊บซ์ มักจะรู้ เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวง บันเทิง แต่ละกลุ่มก็จะมีการเข้าไปรู้ที่เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง เพราะการเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับรู้ต่างกัน จริง ๆ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ที่ยุคนี้ ดูเหมือนผู้ที่ปราถนาพุทธภูมิแสดงตัวกันเยอะนะ คือ เอกอนเห็นเขาเปิดเป็น Facebook กลุ่มพุทธภูมิเลย เพราะอะไร ก็ไม่รู้ อาจจะมีอ๊บซ์ ที่รู้ เพราะอยู่ในแวดวงบันเทิง |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 15 ม.ค. 2019, 22:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
กบนอกกะลา เขียน: เราเราเป็นชาวพุทธ...มีความเป็นไปได้..ว่า..เข้าใกล้ความรู้..ตรง..จุดเดียว..อันนั้น..มากกว่าใครๆ.. ไปนิพพาน..โดยไม่เข้าใจ..จุดเดียวอันนั้น..ก็ได้นะ กบนอกกะลา เขียน: "หาก..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งจักวาล.....เกิดจากจุด..จุดเดียว...ถ้ารู้จุดเดียวอันนั้น..ก็รู้ทั้งจักรวาล..." นี้..ก็หนึ่งสมมุติฐาน..ของนักเรียนสายวิทย์.. ต่อๆไป..สมมุติฐานนี้..ก็อาจฟลุ๊กๆเป็น...ทฤษฎี..และ...ก็อาจจะกลายเป็น..กฏ...ในอนาคต จุดเดียวเหมือน เทวดาที่เข้าไปอัดแน่นอยู่ในกระป๋องแบบปลากระป๋องป่าว ไม่รู้สิ่ เรื่องจุดเดียว อ๊บซ์ ยังแสดงนัยออกมาสั้นไป ทำให้เอกอนมองเห็นนัยยะที่อ๊บซ์แสดง ว่าเป็นแบบจุดเดียว เดี่ยว ๆ แต่จุดเดียว มันอาจจะหมายถึงจุดเดียวแบบ พระอาทิตย์ดวงเดียว ซึ่ง พระอาทิตย์ เมื่อขยาย ๆๆๆๆๆๆ ก็จะเห็นเป็นจุดหลาย ๆ จุด ที่มารวมกลุ่มกันจนออกมาเป็นรูปลักษณ์นั้น ดังนั้น ถ้าเป็นเช่นดังพระอาทิตย์ มันก็จะคล้ายกับว่า เราเป็นสิ่งที่จะต้องทำให้เข้าไปสู่จุด ๆ หนึ่ง ที่ทำให้มีคุณลักษณะที่เป็นดังนั้นได้ ซึ่งการเข้าสู่จุดที่ว่า เอกอนเข้าใจว่า ผักกาด ได้มีการหยิบยกเรื่องอุเบกขาขึ้นมาเป็นประเด็นในก่อนหน้านี้ แต่กระนั้น การจะเป็น จุดเดียว ก็ใช่ว่าจะเป็นได้นะ คืออาจจะมีอยู่ แต่ไม่อาจจะรับรู้ถึงการเป็นอะไร ๆ ในแบบนั้นได้ คืออาจจะมีคนที่รู้ได้ แต่เอกอนยังทำอย่างนั้นไม่ได้น่ะ เพราะตราบเท่าที่สภาพรู้ปรากฏ เอกอนก็ยังคงเห็นความเกี่ยวเนื่องด้วย สิ่ง 2 สิ่งเสมอ คือ การจะเห็นต้องมี 2 สิ่ง เห็นด้วยภายใต้ 1 ยังเห็นไม่ได้ ก็คือ มีสิ่งที่รู้ กับสิ่งที่ถูกรู้ โดยมีการเข้าไปรู้ ซึ่งกระนั้น เมื่อจิตรู้จิตอยู่ ไม่ได้ไปรู้นอกจิต มันก็มี จิตที่รู้ สิ่งที่ถูกรู้ก็เป็นจิตนั่นเอง คำว่า ธาตุรู้ คำนี้เกิดขึ้นมา ก็เพราะต้องมีคนเข้าไปรู้ได้นั่นล่ะ จึงมีคำนี้เกิดขึ้นมา ถ้าหากว่าพิจารณาเคียร์วงจรตรงนี้ ก็คือการเห็น ปัจจัยที่กระบวนการเกิดปรากฏ คือถ้ามันขาดอะไรไป เกิดก็ไม่ปรากฏ ซึ่งถ้าปัจจัยมันมี เกิดมันก็ปรากฏอีกนั่นล่ะ ซึ่งถ้าเห็น มันก็จะเห็นสิ่งที่ทำหน้าที่ให้การรู้มันปรากฏขึ้นนั่นล่ะ เมื่ออะไรมันเห็นแล้วว่าอะไร ๆ มันยังไง มันก็ เข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว อะไรมันก็ตาสว่างของมันเองแล้ว ดังนั้นอะไรปรากฏ มันก็เข้าใจไปตามนั้นล่ะ ว่าเพราะ มีปัจจัย คือมีการรู้ มีการเข้าไปรู้ มีสิ่งที่ถูกรู้ และมันก็เห็นความเป็นไปที่จะ คืนธรรมสู่ธรรมธาตุ คนที่มาทางสายนี้ เขาก็จะเห็น/เข้าใจ อันว่าด้วย จิต เจตสิก รูป และ เห็นสภาวะธรรมธาตุที่ปราศจากการครอบครอง คือ การเห็นอนัตตาในกระบวนการมาถึงนี้แล้วจะหมายว่านั่นคือจะต้องถึงนิพพานด้วยรึเปล่า หรือ นิพพาน มันจะต้องเข้าถึงการเห็นถึงขั้นไหน อันนี้เรื่องแบบนี้เอกอนไม่รู้ เพราะ เอกอนไม่ได้คิดติดใจไปในการตามหา นิพพาน น่ะ ซึ่งเป็นคำตอบที่ ผิดมาก ๆ สำหรับชาวพุทธ เพราะเวลาเข้าวัด เข้าสำนักธรรม คำถามยอดฮิตอย่างหนึ่งคือ อยากไปนิพพานมั๊ย และเป็นสโลแกนว่า ชาวพุทธ ต้องมี นิพพาน เป็นเป้าหมาย แต่สำหรับเอกอน ความอยากไปนิพพาน มันได้หายไป ซึ่งเป็นอาการหลงผิดที่เกิดขึ้นกับเอกอน โดยที่เอกอนยังแก้ไขอาการนี้ไม่ได้ บางที กรรม ก็เป็นเรื่องที่ตอบยาก ทั้ง ๆ ที่เอกอนก็ออกจะปฏิบัติตัวน่ารักขนาดนี้ แต่ราวกับว่าเอกอนมีเป้าหมายที่จะไปในที่ที่แปลก ๆ เอกอนอาจจะมีญาติอยู่ในที่แปลก ๆ พอดีอาจจะอยากไปเยี่ยมญาติ อันนี้ย้อเย่นน่ะ ขำ ขำ สไตล์ แดจาวู |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 16 ม.ค. 2019, 00:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ภาค เดจาวู ^^ |
แค่อากาศ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: แค่อากาศ เขียน: eragon_joe เขียน: แค่อากาศ เขียน: ได้ดูหลวงพ่อพุธ จากท่านอ๊บแล้ว ทำให้ผมเจริญใจดีมากครับ ...ผมนี้ยังต่ำต้อยมาก หลงมาก จนลืมคำครูสอนหมด เพราะปารถนาปฏิสัมภิทาญาณมากเกินไป เลยเรียนและมีครูหลายสำนัก (เรียนรู้ให้มากแบบพระราหุล) เรียนหลายอย่างจนลืมคลองเก่ากรรมฐานเก่าๆที่ตนได้ ผมเองก็บวชเรียนกรรมฐานสายพระป่าตามบ้านอกครูอุปัชฌาย์ผมเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ก่อนหลวงพ่อพุธหน่อยหนึ่ง ท่านเดินทางมากับกองทัพธรรมหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อพุธคาดว่าเป็นสามเณรอยู่ ชาวบ้านขอหลวงปู่มั่นเป็นเจ้าอาวาสวัดที่นั่น แต่หลวงปู่มั่น ท่านให้หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ผมอยู่แทนแล้วเผยแพร่ธรรมที่นั่นจนละสังขารเข้าพระนิพพาน สมัยทีท่านยังครองขันธ์อยู่เวลาหลวงพ่อพุธเจอท่านก็จะเข้าไปกราบนมัสการท่านตามทำเนียมพระป่า เพราะพรรษาแก่กว่า บรรลุอรหันต์ก่อน สอนเหมือนกันศิษย์หลวงป๔่เสาร์เหมือนกัน ธาตุขันธ์กลายเป็นพระธาตุ ผมเชื่อว่าสมัยยุคนั้นสายพระป่ากองทัพธรรมจะบรรลุกันทุกรูป เพราะเท่าที่ด๔มาเป็นแบบนั้น พอผมดูหลวงพ่อพุธแล้วให้นึกถึงท่าน คำสอนที่หลงลืม สิ่งที่ควรเดินต่อผมกลับมาคลำจุดได้แล้ว ขอบคุณท่านอ๊บมากๆครับ นี่แหละหนาเขาว่าหากเจอบัณฑิต และบุญเก่าเรามีก็จะช่วยให้เดินออกจากสิ่งที่หลงไม่ถึงคลำจุดไม่เจอได้ สาธุครับท่านอ๊บ จะขอกลับไปทำคลองเก่าตามหลวงปู่ท่านสอนให้ดีก่อนแล้วจะกลับมาโม้สนุกสนานต่อครับ ขอบคุณท่านอ๊บ ท่านเอกอนมากครับ มีงี๊อีก ... อิอิอิ คือโลภอะครับ จะเอาทุกอย่าง เพราะมันสำคัญอะนะครับ ตอนนี้ ผมมีโอกาสได้ลิ้มรสธรรมในหลายๆทาง มันก็ดีนะ ลองคิดดูนะครับว่าพระพุทธเจ้าที่มีครบหมดจะเป็นยังไง ผมไม่แปลกใจที่พระองค์กล่าวตอนตรัสรู้ใหม่ๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ธรรม ไม่มีใครยิ่งไปกว่าพระองค์ ผมก็อยากได้..แต่นิสัยขี้เกียจ..นี้ซิ...จะทำยังงัยหน่อ?... เลยสนใจ..สงสัย...ทำไม...บางท่านไม่ได้ศึกษาอะไรมากเลยแต่ตอนเป็นพระอรหันต์กลับได้ปฏิสัมภิทาฯ..ซะนี้ ตามนิสัยขี้เกียจ....เลยสนใจเหตุผลกลไกอันนี้..ว่า..เหตุไฉนหนอ.? คำตอบที่ท่านอ๊บสงสัย คือคำถามนี้ครับว่า ท่านอ๊บคิดว่า ตลอดสังสารวัฏนานนับอสงไขย ๑. ชาตินี้เป็นชาติแรกที่จิตเดิมแท้ของท่านอ๊บเกิดขึ้นมาหรือไม่ ๒. มีชาติก่อนๆท่านอ๊บไหม แล้วคอดว่าชาติหน้าจะมีไหมหากไม่บรรลุอรหันต์ ๓. พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายท่านมีชาติก่อนไหม ถ้ามี ..ท่านสะสมเหตุไหมจึงบรรลุธรรม หรืออยากบรรลุก็บรรลุเลยไม่ต้องสะสมบารมี แถมเลือกได้ด้วยว่าจะบรรลุแบบไหนใช่หรือไม่ ๔. พระอรหันต์แต่ละท่านแต่ละอย่างสะสมมาเหมือนกัน หรือต่างกันไหม อย่า่งไร ๕. ท่านอ๊บเพิ่งเคยเจอพระพุทธศาสนาเป็นชาติแรกของดวงจิตเดิมแท้ที่จรมาตลอดหลายอสงไขยหรือไม่ ๖. เมื่อวานมีไหน เดือนก่อนมีไหม ปีก่อนมีไหม ปีก่อนๆมีไหม 10 ปีก่อนมีไหม 30 ปีก่อนมีไหม ปัจจุบันวันนี้มีไหม วันพรุ่งนี้มีไหม วันมะรืนนี้มีไหม ดังนี้แล้วที่ครูบาอาจารย์กล่าวว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันเป็นเหตุปัจจัยส่งผลในชั่วขณะเวลาภายหน้า ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันนี้เป็นเหตุของวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้เดป็นผลของวันนี้เป็นคำที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ๗. หากมีชาติก่อน ชาตินี้ ชาติหน้า ที่เกิดเป็นคนได้เพราะอะไร มีอะไรสะสมมา ที่มีโอกาสได้เจอพระพุทธ พระรัตนตรัย และพระพุทธศาสนาเพราะอะไร ที่สามารถเจริญบารมีธรรมได้เพราะอะไร ๘. ท่านอ๊บบรรลุอรหันต์ในตอนที่อ่านกระทู้นี้เลยได้ไหมครับ ไม่ต้องเจริญทาน ศีล ภาวนาแล้วบรรลุธรรมได้เลยไหมครับ และเลือกบรรลุแบบไหนก็ได้ตามใจได้เลยหรือไม่ครับ หรือทำได้ตามกำลังที่สะสมเหตุมาเท่านั้นครับ คำตอบในความสงสัยนั้น อยู่ในคำตอบของคำถามนี้ครับ ก็ถ้ากรรมมีจริง กรรมมีทั้งดีทั้งชั่ว กรรมส่งผล เราเป็นทายาทกรรม นี่ก็คือ..กรรม และ วิบากกรรม.. ผมก็กระทำกรรมอันไปสู่ผลนั้นครับ ท่านอ๊บอย่าเล่นมุก ปัจจัตตัง กับ อจินไตย นะครับ อิอิ บอกอ๊บซ์ให้อย่าเล่นในสิ่งที่ใช่ ช่างทรมานอ๊บซ์แท้ ๆ ก็ เอาแบบ วั๊บๆแวมๆ ก็พอเน๊อะ ตอนนี้เรามี แนว 3 แนว แล้ว 1. แนว อ๊บซ์ ปัจจินไตย 2. แนว ผักกาด โลภจะเอาทุกอย่างเพราะมันสำคัญ 3. แนว เอกอน มีญาติอยู่แดนไกล ดี ไม่ดี จริง ๆ แล้ว กรรมอาจจะจัดสรรมาให้ อ๊บซ์ ปัจจินไดย กับ ผักกาด โลภเป็นสำคัญ จะต้องมาเจอเอกอน เพื่อหยุดยั้งการเดินทางไปเยี่ยมญาติของเอกอนก็ได้ |
หน้า 22 จากทั้งหมด 24 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |