ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56904 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | sssboun [ 19 ธ.ค. 2018, 06:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ เครื่องใช้ของกินของดื่ม ของเล่น แม้กระทั่งอวัยวะร่างกายของคน บางครั้ง ก็ใช้ได้ดีอยู่แต่ก็ไปเอาของปลอมมาใส่ มาเสริมกัน ให้เสียเงินทอง แถมบางรายแถมโรคมาให้ด้วยทำไม ของจริง กับไม่ชอบร่างกายที่พ่อแม่ให้มากับไม่ชอบ ไม่พออกพอใจ พอไม่พอใจในสิ่งที่มียินดีในสิ่งที่ได้ เท่านั้นแหละก็เป็นทุกข์ขึ้นมาทันทีทันตาเห็นเลย |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 19 ธ.ค. 2018, 06:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
ทุกการกระทำของคนเราทุกคน...ต่างก็ทำเพื่อหาความสุข.. จะแต่งงานมีลูกมีเต้ามีเหย้ามีเรือน..ก็ล้วนเพื่อหาความสุข.. จะหาเงินหาทองเป็นเศรษฐีมียศมีตำแหน่ง...ต่างก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเหตุเป็นปัจจัยนำความสุขมาให้ตน.. จะประพฤติตนเป็นคนดี...หามิตรสหายดีดี..มีเพื่อนบ้านดี...มีสังคมสิ่งแวดล้อมดี...ก็เพราะเพื่อหาความสุขเช่นกัน...จนกระทั้งคิดหาวิธีสร้างสังคมให้ดี..ด้วยการหาวิธีสร้างรูปแบบการปกครอง..บ้างก็คิดว่าเป็นประชาธิปไตยมันจะดี...จะนำความสุขมาให้..ในบางที่ก็คิดว่าแบบสังคมนิยมมันดี.จะนำความสุขมาให้...... หรือแม้กระทั้ง...จะถือศีล..ประพฤติพรหมณจรรย์...ออกบวช..หามรรคผลนิพพาน...ก็เพราะต้องการหาความสุข เพราะเพื่อหาความสุข..จึงกระทำ...หากคิดว่าการกระทำใดจะเป็นทุกข์...มนุษย์ตนนั้น..ไม่กระทำลงไปแน่ๆ สรุปรวมความว่า..ทุกการกระทำของคนเรา..ต่างก็เพื่อหาความสุข.. |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 19 ธ.ค. 2018, 08:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
กบนอกกะลา เขียน: ทุกการกระทำของคนเราทุกคน...ต่างก็ทำเพื่อหาความสุข.. จะแต่งงานมีลูกมีเต้ามีเหย้ามีเรือน..ก็ล้วนเพื่อหาความสุข.. จะหาเงินหาทองเป็นเศรษฐีมียศมีตำแหน่ง...ต่างก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเหตุเป็นปัจจัยนำความสุขมาให้ตน.. จะประพฤติตนเป็นคนดี...หามิตรสหายดีดี..มีเพื่อนบ้านดี...มีสังคมสิ่งแวดล้อมดี...ก็เพราะเพื่อหาความสุขเช่นกัน...จนกระทั้งคิดหาวิธีสร้างสังคมให้ดี..ด้วยการหาวิธีสร้างรูปแบบการปกครอง..บ้างก็คิดว่าเป็นประชาธิปไตยมันจะดี...จะนำความสุขมาให้..ในบางที่ก็คิดว่าแบบสังคมนิยมมันดี.จะนำความสุขมาให้...... หรือแม้กระทั้ง...จะถือศีล..ประพฤติพรหมณจรรย์...ออกบวช..หามรรคผลนิพพาน...ก็เพราะต้องการหาความสุข เพราะเพื่อหาความสุข..จึงกระทำ...หากคิดว่าการกระทำใดจะเป็นทุกข์...มนุษย์ตนนั้น..ไม่กระทำลงไปแน่ๆ สรุปรวมความว่า..ทุกการกระทำของคนเรา..ต่างก็เพื่อหาความสุข.. การจะหาความสุขแบบใด..จึงขึ้นอยู่กับความคิดความเห็น..ของผู้นั้น หากคนคนนั้น..กระทำตามสัญชาติญาณ..ตรงๆ..ไม่มีสติคิดไตร่ตรอง..ใคร่ครวญ...อยากได้ทรัพย์สินโดยไม่สนใจอะไร..ลักได้ก็ลัก..ขโมยได้ก็ขโมย...ฆ่าเจ้าของได้ก็ฆ่า..อยากร่วมเพศก็ทำไม่เลือกลูกเต้าเหล่าใครก็ทำ..อยากพูดจาให้ร้ายใคร..ทำให้คนอื่นดูแย่ๆในสายตาของสังคมแล้วมีความสุขก็ทำ...สนุกเมื่อมีอาการเมามายไม่ได้สติ..เรียกว่า..พร้อมผิดศีลธรรมของสังคมทุกชนิดได้..เพราะมันทำให้ตนสุข...ไม่เห็นทุกข์จากการผิดศีลธรรม.. ในส่วนคนที่ต้องการมีคนมารักตนแล้วมีความสุข...จึงต้องการเป็นคนดีในสายตาของสังคม...ก็พยายามทำตนให้เป็นที่รัก...ปฏิบัติตนให้ได้รับความยอมรับจากคนอื่น... หากอยู่ในสังคมที่บูชาคนรวย..ก็พยายามทำให้ตนรวย.. หากอยู่ในสังคมที่ชอบคนหล่อคนสวย..ก็พยายามทำตนให้หล่อให้สวย..บกพร่องจุดไหนก็ไปทำผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งให้ดูสวยดูดี.. หากอยู่สังคมที่เขานิยมคนที่ปฏิบัติตามจารีตประเพณี..นิยมคนทำตนในกฏหมายบ้านเมือง...ก็ทำตามเขา หากอยู่ในสังคมที่เขาชอบเข้าวัดฟังธรรมทำบุญทำทาน...ก็ไปทำตามๆเขา..กลัวเขาจะตำนิติเตียน นี้..ทำตามๆเขาเพราะหาความสุข.. ในส่วนคนที่มีความสุขเพราะเห็นคนอื่นมีความสุข...ก็พากันทำบุญทำทาน..บริจาคสิ่งของแก่คนยากไร้..ให้คนที่ขาดแคลน..ไปให้ความรู้ให้มีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ไม่อดยาก...เป็นต้น..นี้ทำไปก็เพราะทำแล้วตนเป็นสุข บางคน..เห็นตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน..ว่าการเกิดมามีร่างกายมีสังขารทั้งหลายนั้น..นำความทุกข์มาให้ตน...พึงกระทำตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลาย...ไม่กลับมาทุกข์อีกตลอดกาลนาน...ก็พากันมาปฏิบัติธรรมของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า.จึงมาทำทาน..ทำบุญ..มารักษาศีล..ประพฤติพรหมณ์จรรย์..บ้างก็ออกบวช..เพื่อเข้าให้ถึงโมกขธรรม..นี้ที่ทำก็เพื่อ..ความสุข จากที่กล่าวมา...พอจะจำแนกความสุข..ได้ 2 พวก..คือ 1..ความสุข..ที่ไม่มีทุกข์อีก... 2..ความสุข..ที่ยังทุกข์ได้อีก...ซึ่งก็มี 2 อย่าง.คือ 2.1 ทำแล้วสุข..แต่มีผลเป็นทุกข์..ก็พวกที่เป็นอกุศลกรรมทั้งหลาย..ทำได้ทุกชนิดามกิเลสตัญหาไม่ว่าจะด้วยวิธีใด...ต้องรับวิบากกรรมอันเป็นทุกข์..เกิดในอบาย..มีความทุกข์ทรมานแสนสาหัส.. 2.2 ทำแล้วสุข..มีผลสุขแต่ก็สุขชั่วคราว...ก็คือพวกที่ทำบุญทำทานรักษาศีล..ทำสมาธิมีผลให้เกิดในกามาวจรสวรรค์..เป็นเทวดา..เป็นพรหมณ์..ไปมีความสุขชั่วคราว การที่คนคนหนึ่ง..จะกระทำการเพื่อหาความสุขแบบไหน..ก็ขึ้นอยู่กับความคิดความอ่านของคนคนนั้น...ปัญญาไม่ดีก็มองไม่เห็นทางสุข...ปัญญาดี..ก็เห็นทางสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า..และ..สุขที่ไม่มีโลก.. ทุกคนเคยเป็นมาทุกอย่าง..มีทั้งดีและเลวในตัวด้วยกันทั้งนั้น...ผู้มีปัญญา.เห็นแล้วย่อมไม่ติเตียนสิ่งใดใด.. |
เจ้าของ: | sssboun [ 19 ธ.ค. 2018, 08:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
กบนอกกะลา เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ทุกการกระทำของคนเราทุกคน...ต่างก็ทำเพื่อหาความสุข.. จะแต่งงานมีลูกมีเต้ามีเหย้ามีเรือน..ก็ล้วนเพื่อหาความสุข.. จะหาเงินหาทองเป็นเศรษฐีมียศมีตำแหน่ง...ต่างก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเหตุเป็นปัจจัยนำความสุขมาให้ตน.. จะประพฤติตนเป็นคนดี...หามิตรสหายดีดี..มีเพื่อนบ้านดี...มีสังคมสิ่งแวดล้อมดี...ก็เพราะเพื่อหาความสุขเช่นกัน...จนกระทั้งคิดหาวิธีสร้างสังคมให้ดี..ด้วยการหาวิธีสร้างรูปแบบการปกครอง..บ้างก็คิดว่าเป็นประชาธิปไตยมันจะดี...จะนำความสุขมาให้..ในบางที่ก็คิดว่าแบบสังคมนิยมมันดี.จะนำความสุขมาให้...... หรือแม้กระทั้ง...จะถือศีล..ประพฤติพรหมณจรรย์...ออกบวช..หามรรคผลนิพพาน...ก็เพราะต้องการหาความสุข เพราะเพื่อหาความสุข..จึงกระทำ...หากคิดว่าการกระทำใดจะเป็นทุกข์...มนุษย์ตนนั้น..ไม่กระทำลงไปแน่ๆ สรุปรวมความว่า..ทุกการกระทำของคนเรา..ต่างก็เพื่อหาความสุข.. การจะหาความสุขแบบใด..จึงขึ้นอยู่กับความคิดความเห็น..ของผู้นั้น หากคนคนนั้น..กระทำตามสัญชาติญาณ..ตรงๆ..ไม่มีสติคิดไตร่ตรอง..ใคร่ครวญ...อยากได้ทรัพย์สินโดยไม่สนใจอะไร..ลักได้ก็ลัก..ขโมยได้ก็ขโมย...ฆ่าเจ้าของได้ก็ฆ่า..อยากร่วมเพศก็ทำไม่เลือกลูกเต้าเหล่าใครก็ทำ..อยากพูดจาให้ร้ายใคร..ทำให้คนอื่นดูแย่ๆในสายตาของสังคมแล้วมีความสุขก็ทำ...สนุกเมื่อมีอาการเมามายไม่ได้สติ..เรียกว่า..พร้อมผิดศีลธรรมของสังคมทุกชนิดได้..เพราะมันทำให้ตนสุข...ไม่เห็นทุกข์จากการผิดศีลธรรม.. ในส่วนคนที่ต้องการมีคนมารักตนแล้วมีความสุข...จึงต้องการเป็นคนดีในสายตาของสังคม...ก็พยายามทำตนให้เป็นที่รัก...ปฏิบัติตนให้ได้รับความยอมรับจากคนอื่น... หากอยู่ในสังคมที่บูชาคนรวย..ก็พยายามทำให้ตนรวย.. หากอยู่ในสังคมที่ชอบคนหล่อคนสวย..ก็พยายามทำตนให้หล่อให้สวย..บกพร่องจุดไหนก็ไปทำผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งให้ดูสวยดูดี.. หากอยู่สังคมที่เขานิยมคนที่ปฏิบัติตามจารีตประเพณี..นิยมคนทำตนในกฏหมายบ้านเมือง...ก็ทำตามเขา หากอยู่ในสังคมที่เขาชอบเข้าวัดฟังธรรมทำบุญทำทาน...ก็ไปทำตามๆเขา..กลัวเขาจะตำนิติเตียน นี้..ทำตามๆเขาเพราะหาความสุข.. ในส่วนคนที่มีความสุขเพราะเห็นคนอื่นมีความสุข...ก็พากันทำบุญทำทาน..บริจาคสิ่งของแก่คนยากไร้..ให้คนที่ขาดแคลน..ไปให้ความรู้ให้มีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ไม่อดยาก...เป็นต้น..นี้ทำไปก็เพราะทำแล้วตนเป็นสุข บางคน..เห็นตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน..ว่าการเกิดมามีร่างกายมีสังขารทั้งหลายนั้น..นำความทุกข์มาให้ตน...พึงกระทำตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลาย...ไม่กลับมาทุกข์อีกตลอดกาลนาน...ก็พากันมาปฏิบัติธรรมของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า.จึงมาทำทาน..ทำบุญ..มารักษาศีล..ประพฤติพรหมณ์จรรย์..บ้างก็ออกบวช..เพื่อเข้าให้ถึงโมกขธรรม..นี้ที่ทำก็เพื่อ..ความสุข จากที่กล่าวมา...พอจะจำแนกความสุข..ได้ 2 พวก..คือ 1..ความสุข..ที่ไม่มีทุกข์อีก... 2..ความสุข..ที่ยังทุกข์ได้อีก...ซึ่งก็มี 2 อย่าง.คือ 2.1 ทำแล้วสุข..แต่มีผลเป็นทุกข์..ก็พวกที่เป็นอกุศลกรรมทั้งหลาย..ทำได้ทุกชนิดามกิเลสตัญหาไม่ว่าจะด้วยวิธีใด...ต้องรับวิบากกรรมอันเป็นทุกข์..เกิดในอบาย..มีความทุกข์ทรมานแสนสาหัส.. 2.2 ทำแล้วสุข..มีผลสุขแต่ก็สุขชั่วคราว...ก็คือพวกที่ทำบุญทำทานรักษาศีล..ทำสมาธิมีผลให้เกิดในกามาวจรสวรรค์..เป็นเทวดา..เป็นพรหมณ์..ไปมีความสุขชั่วคราว การที่คนคนหนึ่ง..จะกระทำการเพื่อหาความสุขแบบไหน..ก็ขึ้นอยู่กับความคิดความอ่านของคนคนนั้น...ปัญญาไม่ดีก็มองไม่เห็นทางสุข...ปัญญาดี..ก็เห็นทางสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า..และ..สุขที่ไม่มีโลก.. ทุกคนเคยเป็นมาทุกอย่าง..มีทั้งดีและเลวในตัวด้วยกันทั้งนั้น...ผู้มีปัญญา.เห็นแล้วย่อมไม่ติเตียนสิ่งใดใด.. |
เจ้าของ: | sssboun [ 19 ธ.ค. 2018, 08:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
รากเหง้ามูลทั้งหมดก็มาจาก อวิชชา สังขาร วิญญาณ......... เพราะความไม่รู้ เพราะตัวไม่รู้จูงจมูกเราไปทุกภพทุกชาติ เราก็เดิน ตามอย่างฝืนได้ยาก หากฝืนก็ต้องเจ็บ แต่ก็เพราะความเจ็บแล้วจำเค้า ว่าคน เจ็บแล้วทนเค้าว่า..... ทุกอย่างมีทางแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ได้ เพียงทำปัญญาให้เกิดขึ้นก่อนเป็นตัวเบิกทางทำศรัทธาให้หนักแน่น มั่นคงยิ่งขึ้น ก็จะเริ่มออกเดินไปตามทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำสั่งสอน บอกเอาไว้ดีแล้ว เริ่มออกเดินเดี๋ยวนี้ก็ดีกว่ายังหยุดนิ่งอยู่ลังเลสงสัยใจไม่ กล้าอยู่ทำไมกัน ความสุขอยู่เบื้องหน้านี้เอง |
เจ้าของ: | sssboun [ 19 ธ.ค. 2018, 08:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
ผลจากความไม่รู้นี้เอง ยิ่งหา ยิ่งหาทางแก้ไข ทุกข์กับเป็นยิ่งเพิ่มทุกข์ให้กับตัวเองและคนอื่นเพิ่ม ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จักจบจักสิน |
เจ้าของ: | sssboun [ 21 ธ.ค. 2018, 06:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
เพราะความไม่รู้ว่านรก สวรรค์ นิพพาน โลกนี้มี โลกหน้ามี บาป บุญมีผลก็เลยทำกรรมชั่ว ไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวต่อบาป กรรม มุ่งแต่ความความร่ำรวย ทรัพย์สินเงินทองคิดว่ามีมากแล้ว จะมีความสุข สุขกาย สุขใจ หารู้ไม่ว่ายิ่งมีมากก็ยิ่งทำให้ภาระมาก เป็นเงาตามตัวคือตัวใหญ่ขึ้น เงาก็ย่อมจะใหญ่โตตามไปด้วย ตัว เราคนเดียวยังดูแล บอกอยากแล้วยังหาคนอื่น มาเพิ่มทุกข์เข้าไป อีก คิดว่าร่ำรวยแล้วจะไม่ได้ทำการงานอะไรอยู่อย่างสบายหรือ? ปัญหาโดยส่วนมากก็มาลงที่เราที่เป็นเจ้าของ แก้กันไป ปัญหาครอบ ครัว ปัญหาตัวเองบางคนยังแก้ไม่ตกเลยต้องมารับปัญหาเพิ่มอีกมาก มายหลายคน |
เจ้าของ: | sssboun [ 21 ธ.ค. 2018, 06:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
สุขง่ายๆ คือการสร้างความพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่ง ที่ได้ที่เป็นอยู่ แค่นี้ก็เป็นสุขแล้ว แต่เมื่อไหร่ไม่พอใจ เมื่อนั้นทุกข์เกิดขึ้นทันที ปัญหาตามมาทันที ภาระเพิ่ม ขึ้นทันที พิจารณาให้เห็นคุณของสิ่งนั้นๆให้มากๆเข้าก็ จะพอใจเอง |
เจ้าของ: | student [ 22 ธ.ค. 2018, 07:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
sssboun เขียน: ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ เครื่องใช้ของกินของดื่ม ของเล่น แม้กระทั่งอวัยวะร่างกายของคน บางครั้ง ก็ใช้ได้ดีอยู่แต่ก็ไปเอาของปลอมมาใส่ มาเสริมกัน ให้เสียเงินทอง แถมบางรายแถมโรคมาให้ด้วยทำไม ของจริง กับไม่ชอบร่างกายที่พ่อแม่ให้มากับไม่ชอบ ไม่พออกพอใจ พอไม่พอใจในสิ่งที่มียินดีในสิ่งที่ได้ เท่านั้นแหละก็เป็นทุกข์ขึ้นมาทันทีทันตาเห็นเลย ความอยากเป็นทุกข์ตั้งแต่ต้น มันเป็นทุกข์ตั้งแต่เริ่มต้นอยากจะมี อยากจะเสริมร่างกายก็เป็นทุกข์แล้ว |
เจ้าของ: | sssboun [ 24 ธ.ค. 2018, 07:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
ของปลอมยิ่งมาก สังคมก็ยิ่งมีความวุ่นวายมาก ยิ่ง เป็นเรื่องของอาหารแล้ว เป็นสิ่งที่จะทำให้สุขภาพร่างกาย ของคนเราเสื่อมโทรมและเกิดโรคต่างๆนานาได้ง่าย |
เจ้าของ: | Duangtip [ 24 ธ.ค. 2018, 16:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
ทุกอย่างไปตามกระแสกิเลสของคนค่ะ |
เจ้าของ: | sssboun [ 24 ธ.ค. 2018, 17:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
Duangtip เขียน: ทุกอย่างไปตามกระแสกิเลสของคนค่ะ หุ่นยนต์เรียนแบบคนก็มีมาแล้ว สร้างสิ่งหนึ่ง ก็ย่อมมีการทำลายสิ่งหนึ่งเป็นทำ มะดา เมื่อหุ่นยนต์ มามีบทบาทในชีวิตของสังคมมากขึ้นนั้นก็หมายความว่าคน ว่างงานย่อมจะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน ภัยอันเกิดจากไม่มีกินมีใช้ก็จะตามมา อีกมากมาย |
เจ้าของ: | sssboun [ 26 ธ.ค. 2018, 05:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
คนปลอมยุคนี้ก็เริ่มจะมีมากแล้ว(คือคนไม่จริง คนหลอกหลวง คนโกหก) ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจอมาก เพราะคนยุคนี้เน้นไปที่วัตถุเงินทองเล่งเป้าหมาย ไปที่ความร่ำรวย คิดว่าความร่ำรวยจะให้ตนได้ทุกสิ่งทุกสิ่งสมใจนึก โดยไม่สนใจ ใส่ใจเรื่องของศีล ธรรม ความละอาย เกรงกลัวต่อบาปกรรมเลย |
เจ้าของ: | sssboun [ 26 ธ.ค. 2018, 16:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
กบนอกกะลา เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ทุกการกระทำของคนเราทุกคน...ต่างก็ทำเพื่อหาความสุข.. จะแต่งงานมีลูกมีเต้ามีเหย้ามีเรือน..ก็ล้วนเพื่อหาความสุข.. จะหาเงินหาทองเป็นเศรษฐีมียศมีตำแหน่ง...ต่างก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเหตุเป็นปัจจัยนำความสุขมาให้ตน.. จะประพฤติตนเป็นคนดี...หามิตรสหายดีดี..มีเพื่อนบ้านดี...มีสังคมสิ่งแวดล้อมดี...ก็เพราะเพื่อหาความสุขเช่นกัน...จนกระทั้งคิดหาวิธีสร้างสังคมให้ดี..ด้วยการหาวิธีสร้างรูปแบบการปกครอง..บ้างก็คิดว่าเป็นประชาธิปไตยมันจะดี...จะนำความสุขมาให้..ในบางที่ก็คิดว่าแบบสังคมนิยมมันดี.จะนำความสุขมาให้...... หรือแม้กระทั้ง...จะถือศีล..ประพฤติพรหมณจรรย์...ออกบวช..หามรรคผลนิพพาน...ก็เพราะต้องการหาความสุข เพราะเพื่อหาความสุข..จึงกระทำ...หากคิดว่าการกระทำใดจะเป็นทุกข์...มนุษย์ตนนั้น..ไม่กระทำลงไปแน่ๆ สรุปรวมความว่า..ทุกการกระทำของคนเรา..ต่างก็เพื่อหาความสุข.. การจะหาความสุขแบบใด..จึงขึ้นอยู่กับความคิดความเห็น..ของผู้นั้น หากคนคนนั้น..กระทำตามสัญชาติญาณ..ตรงๆ..ไม่มีสติคิดไตร่ตรอง..ใคร่ครวญ...อยากได้ทรัพย์สินโดยไม่สนใจอะไร..ลักได้ก็ลัก..ขโมยได้ก็ขโมย...ฆ่าเจ้าของได้ก็ฆ่า..อยากร่วมเพศก็ทำไม่เลือกลูกเต้าเหล่าใครก็ทำ..อยากพูดจาให้ร้ายใคร..ทำให้คนอื่นดูแย่ๆในสายตาของสังคมแล้วมีความสุขก็ทำ...สนุกเมื่อมีอาการเมามายไม่ได้สติ..เรียกว่า..พร้อมผิดศีลธรรมของสังคมทุกชนิดได้..เพราะมันทำให้ตนสุข...ไม่เห็นทุกข์จากการผิดศีลธรรม.. ในส่วนคนที่ต้องการมีคนมารักตนแล้วมีความสุข...จึงต้องการเป็นคนดีในสายตาของสังคม...ก็พยายามทำตนให้เป็นที่รัก...ปฏิบัติตนให้ได้รับความยอมรับจากคนอื่น... หากอยู่ในสังคมที่บูชาคนรวย..ก็พยายามทำให้ตนรวย.. หากอยู่ในสังคมที่ชอบคนหล่อคนสวย..ก็พยายามทำตนให้หล่อให้สวย..บกพร่องจุดไหนก็ไปทำผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งให้ดูสวยดูดี.. หากอยู่สังคมที่เขานิยมคนที่ปฏิบัติตามจารีตประเพณี..นิยมคนทำตนในกฏหมายบ้านเมือง...ก็ทำตามเขา หากอยู่ในสังคมที่เขาชอบเข้าวัดฟังธรรมทำบุญทำทาน...ก็ไปทำตามๆเขา..กลัวเขาจะตำนิติเตียน นี้..ทำตามๆเขาเพราะหาความสุข.. ในส่วนคนที่มีความสุขเพราะเห็นคนอื่นมีความสุข...ก็พากันทำบุญทำทาน..บริจาคสิ่งของแก่คนยากไร้..ให้คนที่ขาดแคลน..ไปให้ความรู้ให้มีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ไม่อดยาก...เป็นต้น..นี้ทำไปก็เพราะทำแล้วตนเป็นสุข บางคน..เห็นตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน..ว่าการเกิดมามีร่างกายมีสังขารทั้งหลายนั้น..นำความทุกข์มาให้ตน...พึงกระทำตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลาย...ไม่กลับมาทุกข์อีกตลอดกาลนาน...ก็พากันมาปฏิบัติธรรมของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า.จึงมาทำทาน..ทำบุญ..มารักษาศีล..ประพฤติพรหมณ์จรรย์..บ้างก็ออกบวช..เพื่อเข้าให้ถึงโมกขธรรม..นี้ที่ทำก็เพื่อ..ความสุข จากที่กล่าวมา...พอจะจำแนกความสุข..ได้ 2 พวก..คือ 1..ความสุข..ที่ไม่มีทุกข์อีก... 2..ความสุข..ที่ยังทุกข์ได้อีก...ซึ่งก็มี 2 อย่าง.คือ 2.1 ทำแล้วสุข..แต่มีผลเป็นทุกข์..ก็พวกที่เป็นอกุศลกรรมทั้งหลาย..ทำได้ทุกชนิดามกิเลสตัญหาไม่ว่าจะด้วยวิธีใด...ต้องรับวิบากกรรมอันเป็นทุกข์..เกิดในอบาย..มีความทุกข์ทรมานแสนสาหัส.. 2.2 ทำแล้วสุข..มีผลสุขแต่ก็สุขชั่วคราว...ก็คือพวกที่ทำบุญทำทานรักษาศีล..ทำสมาธิมีผลให้เกิดในกามาวจรสวรรค์..เป็นเทวดา..เป็นพรหมณ์..ไปมีความสุขชั่วคราว การที่คนคนหนึ่ง..จะกระทำการเพื่อหาความสุขแบบไหน..ก็ขึ้นอยู่กับความคิดความอ่านของคนคนนั้น...ปัญญาไม่ดีก็มองไม่เห็นทางสุข...ปัญญาดี..ก็เห็นทางสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า..และ..สุขที่ไม่มีโลก.. ทุกคนเคยเป็นมาทุกอย่าง..มีทั้งดีและเลวในตัวด้วยกันทั้งนั้น...ผู้มีปัญญา.เห็นแล้วย่อมไม่ติเตียนสิ่งใดใด.. สุขอีกนัยหนึ่ง คือ สุขอิงอาศัยสิ่งภายนอก กับสุขอิงอาศัยสิ่งภายใน +สุขอิงอาศัยสิ่งภายนอก นั้นก็คือนอกตัวนอกร่างกายนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ สัตว์ บุคคลต่างๆ +สุขอิงอาศัยสิ่งภายใน ก็คืออาศัยร่างกายจิตใจนี้ให้เกิดความสุข สุขที่เกิดจาก ความสงบจากกิเลส ความอยากต่างๆ ยิ่งน้อยลงก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น |
เจ้าของ: | sssboun [ 31 ธ.ค. 2018, 07:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมยุคนี้ ของปลอมของเลียนแบบมากจัง |
สุขอีกนัยที่คนทั่วไปต้องการนั้นก็คือ สุขกาย สุขใจ +สุขกาย คือมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรค หรือมี ก็น้อย + สุขใจ นั้นก็คือมีใจที่เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วทางที่ท่านเดินนั้นจะได้สิ่งเหล่านี้มาจริงหรือไม่? |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |