วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2020, 05:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้าถือศีลที่ใจ จะไปไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีศีล"

คติธรรม
หลวงปู่ไดโนเสาร์








..เพราะเราแต่ละคนทำบุญทำบาป
ฝึกสมาธิมาไม่เท่ากันนั่นเอง
บางคนก็ทำบาปมากกว่าทำบุญ
บางคนก็ทำบุญมากกว่าทำบาป
"อันไหนมากกว่ากันมันจะส่งผลก่อน"
ไม่ได้หมายความว่า
สิ่งที่น้อยกว่ามันสูญหายไปไหน
เพียงแต่ว่ามันยังไม่มีกำลังจะแสดงผล
บาปมีกำลังมากกว่าบุญ
บาปมันก็จะส่งผลก่อน
จนกว่าบาปมันมีกำลังน้อยกว่าบุญ
บุญก็ถึงจะส่งผลได้.
......................................
ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







#คนเกิดเป็นนาค

พวกนาคก็คนเรานี่แหละ ไปเกิดเป็นนาค พวกเล่นคุณไสย พวกที่เอาของใส่คน พวกเล่นฤทธิ์ ตายไปเป็นนาคง่ายหน่อยพวกนี้ ใช้อิทธิฤทธิ์ไม่ระวัง บาป แต่ก่อนนั้น อาตมาไม่เชื่อ เจริญพรได้คุยกัน คุยกับนาคนี่อย่างนี้แหละถึงเชื่อ คุยกับนาคเขื่อนแม่งัดนี่แหละก่อนเขามาหา ปี ๒๕๑๗ มาที่กุฏินี่

นาคเขาก็มนุษย์เรานี่แหละ แต่ก่อนชอบเพชรพลอย เขาตายไปเขาไปยึดของเขาแบบนี้ เขาเลยเป็นนาค นาคที่ว่าเฝ้าแก้วอะไรต่างๆ ตามถ้ำ ก็คือ มีสงครามเกิดขึ้น มีแหวน เพชร มีพลอยต่างๆ ไม่สามารถที่จะเอาติดตัวไปด้วยได้ เตรียมตัวย้ายหนีเพราะนักรบเขารบมาใกล้แบบนี้นะ อะไรเอาไปไม่ได้ก็เอาใส่ดินไว้อย่างนี้นะ มีถ้ำอยู่ก็ไปคดทราย คดหินฝังไว้ในถ้ำ เอาทรายถม เอาหินทับไว้ หนีสงครามไปอยู่ที่อื่น แต่จิตนั้นยังคิดถึงแก้ว ถึงเพชรพลอยที่ฝังไว้ จะมาขุดเอาถ้าหากเราชนะสงครามได้กลับมาที่นี่ เอามาใช้อีก แต่บังเอิญมาไม่ได้ จิตก็เลยเป็นห่วง พอตายก็เลยมาเฝ้าอยู่ที่นี่ ก็เลยว่าถ้ำพญานาค จำแลงกายเป็นงูใหญ่ เพื่อจะให้คนกลัวจะไม่เข้าไปในถ้ำ ไม่ไปเอาของของเขา บัดนี้ คนที่เขาจะให้ก็คือคนที่เขามีความเมตตากัน เขารักกัน เหมือนเรารักลูก รักเพื่อน แล้วให้ของเขา ลูกแก้วนั้นเป็นพลอยธรรมดา ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์อะไร...

#ธรรมเปลี่ยนโลก
หลวงปู่เปลี่ยน ปีญญาปทีโป










" เมื่อปฏิบัติธรรม​
คือ "ศีล​ สมาธิ​ ปัญญา​"
แก่กล้าบริบูรณ์​ขึ้นแล้ว

ก็ถึงซึ่งมรรคและผล​
ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
นี่แหละชื่อว่า "ปฏิเวธธรรม" "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​มั่น​ ภูริทัต​โต










" "ศีล" คือ ปรกติจิต
ที่อยู่ปราศจากโทษ เป็น
จิตที่มีเกราะบังป้องกัน
การกระทำชั่วทุกอย่าง

"สมาธิ" ผลสืบเนื่องจาก
การรักษาศีล คือจิตที่มี
ความมั่นคง มีความสงบ
เป็นพลังที่จะส่งต่อไปอีก

"ปัญญา" ผู้รู้ คือ จิตที่ว่าง
เบาสบาย รู้แจ้งแทงตลอด
ตามความเป็นจริงอย่างไร

"วิมุตติ" คือ จิตที่เข้าถึง
ความว่าง จากความว่าง
คือละความสบาย เหลือ
แต่ ความไม่มี ไม่เป็น
ไม่มีความคิดเหลืออยู่เลย "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล








" เมื่อ "ภาวนา" ได้พลัง
จะพิจารณาธรรมได้เอง
เป็นอัตโนมัติ ผู้ภาวนา
ได้พลัง ได้คุณธรรม
อันเป็นพลัง พลังก็คือ พละ5

เมื่อศรัทธา วิริยะ สติ
สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นแล้ว
จะรวมพร้อมลงเป็นหนึ่ง
เรียกว่า เอกายโนมัคโค

เมื่อจิตเป็น เอกายโนมัคโค
"ศีล สมาธิ ปัญญา" จะรวม
เป็นหนึ่ง เป็น เอกายโนมัคโค

ย่อมเป็นใหญ่ในการ
ที่จะสอดส่องธรรม
จิตก็เป็นปกติ สติก็เป็นปกติ
สมาธิก็เป็นปกติ รู้พร้อมอยู่
ที่จิตอย่างเดียว
แล้วสามารถที่จะวิจัยธรรม
เองโดยอัตโนมัติ "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร











" การแสดงความเป็นมิตร
ก็ดี การแสดงความเป็น
ศัตรูก็ดี เราย่อมไม่ถือเอา
เป็นสาระสำคัญ

ถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
ไม่มีอะไรทรงตัว มันเป็น
เรื่องธรรมดาของชาวโลก
ทำใจให้สบาย มีความรู้สึก
เสมอว่า ชาวโลกทั้งหลาย
เต็มไปด้วยความโง่

อย่าถือจิตใจของชาวโลก
คนของโลก จิตใจก็เป็น
ของโลกด้วย
คือเข้าไม่ถึงธรรม

ย่อมมีการแสดงอาการ
ขึ้นลงอยู่ตามปกติ
หาความเที่ยงไม่ได้ "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง








"การมีศรัทธาในตัวบุคคลมีโทษ ถ้าความเชื่อของเรา
ผูกพันธ์กับพระองค์ใดองค์หนึ่ง หรืออาจารย์ท่านใด
เมื่ออาจารย์เสียชีวิตไป เราจะรู้สึกเหมือนขาดที่พึ่ง
ที่ร้ายไปกว่านั้น คือ ถ้าอาจารย์คนนั้นสึกไป
หรือมีเรื่องอื้อฉาว ศรัทธาของเราก็จะเสื่อมทันที
ท่านจึงให้เอา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
ไม่ใช่เอาพระองค์นั้น องค์นี้ เป็นที่พึ่ง"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ













"ก้อนหินที่วางนิ่งอยู่ ไม่หนัก
มันจะหนักต่อเมื่อเราอยากได้
เอาใจไปยกมัน"

หลวงปู่ชา สุภัทโท








“ถ้าเป็นพุทธบริษัทแล้ว
จงดิ้นรนพยายาม
ให้ได้รับปริญญา ของพระพุทธเจ้า
คือ สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ
ปริญญานี้ มีไว้สำหรับทุกคน
รออยู่เบื้องหน้า
ขอให้มีพระนิพพานเป็นที่ไป”

ท่านพุทธทาสภิกขุ










การพักอยู่องค์เดียว_ไม่เกี่ยวกับหมู่_เกิดเป็นอู่_ของการพิจารณาธรรมะ

รสจิตใจใคร่ธรรมสูงขึ้น จะเจริญกรรมฐานอันใด ก็ดูว่าโล่งหัวใจ ไม่ได้ขู่ไม่ได้เข็ญให้ทำ ดูดดื่มเองเป็นเอง

#สติปัญญา_จิตใจอยู่ติด_สนิทกับตัว

ถ้าเทียบใส่โคและกระบือ ก็ไม่ต้องต้อนเข้าคอกยาก เวลาเข้ามันเข้าเอง เวลาออกก็รู้จักขอบเขต กายใจเบาโปร่งไม่มึนงง

สิ่งที่เคยรู้ เคยเห็น เคยปฏิบัติมาก่อน ก็ยิ่งเด่นชัดอร่อยขึ้นในใจ

#ผู้ใดไม่ยินดีในวิเวก_ก็คือผู้นั้นไม่ได้เคยดื่มรสวิเวก #เคยดื่มแต่รสวิวุ่น...

#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต









#สรุปแล้วก็พอได้ความว่า_คนเราเวลามาเกิดก็มาตัวเปล่า_เวลาตายไปก็ไปตัวเปล่า

ไม่มีสมบัติเงินทองอะไรๆ ติดตัวไป นอกจากบุญกับบาปเท่านั้น

ผู้ฉลาดจึงคิดและขวนขวาย ทั้งสมบัติภายนอก เพื่อธาตุขันธ์ได้อาศัย ไม่อดอยากเดือดร้อน ทั้งตนและผู้เกี่ยวข้อง ไม่ประมาทนอนใจ อันเป็นลักษณะของคนเกียจคร้านผลาญทรัพย์

#ทั้งสมบัติภายใน_คือบุญกุศลเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ

ทานก็บริจาคไม่ตระหนี่เหนียวแน่นเมื่อสิ่งของมีพอให้ทานได้ เป็นคนกว้างขวาง ไม่คับแคบเพราะความเห็นแก่ตัว เห็นสัตว์เช่นสุนัข ที่ซูบผอมอิดโรย เพราะความหิวโหยอาหารเป็นกำลัง ถ้าพอเป็นไปได้ ก็ให้ทานอาหารแก่เขากินพอประทังชีวิต เห็นคนจนและง่อยเปลี้ยเสียอวัยวะ ก็ให้ทานด้วยความเมตตาสงสารไม่ดูถูกเหยียดหยาม

#เพราะกรรมของสัตว์ย่อมมีต่างๆกัน

แม้เราเองก็อาจเคยเป็นมา แต่ระลึกไม่ได้ เห็นสมณะชีพราหมณ์ผู้มีศีลสังวร ก็ให้ทานด้วยความเคารพเลื่อมใส เห็นโบสถ์วิหารศาลาธรรมสวนะ ชำรุดทรุดโทรม ก็ช่วยบริจาคซ่อมแซม เห็นคนตกทุกข์ลำบากทรมานก็ช่วยเหลือเกื้อหนุนเท่าที่ควรจะเป็นไปได้

#บุญที่เกิดจากทานนั้นบ้างทานนี้บ้าง_การช่วยนั้นบ้าง_การอุดหนุนนี้บ้าง #ย่อมกลายเป็นมหากุศล_และช่วยบุคคลผู้บำเพ็ญให้พ้นจากทุกข์ได้

ศีลพอทำได้ก็บำเพ็ญ ไม่ให้หลุดมือไปได้ คือ งดเว้นการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนกัน ก็เป็นบุญกองหนึ่ง ไม่ลักขโมยทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ก็เป็นบุญกองหนึ่ง ผู้ไม่ใช่สามีภรรยาของตัว เป็นไม่เกี่ยวข้องเด็ดขาด เป็นบุญกองหนึ่ง ไม่พูดโกหกหลอกลวง เป็นบุญกองหนึ่ง ไม่ดื่มของมึนเมามีสุรา เป็นต้น เป็นบุญกองหนึ่ง

#รวมบุญที่เกิดจาก_ศีลมัย_แล้ว_ก็เป็นบุญ_๕_กอง

ถ้าเป็นกองเงินกองทองมีถึง ๕ กองใหญ่ๆ แล้ว เจ้าของคงจะ……….และอาจจะ…………แน่นอน

#การอบรมภาวนา_ก็บำเพ็ญไม่ท้อถอย

มีเวลาว่างบ้าง ก็นึกพุทโธ ธัมโม สังโฆ บทใดบทหนึ่งประจำใจ ไม่ปล่อยใจให้เพ่นพ่าน ออกนอกลู่นอกทาง ที่จะเป็นความเสียหาย และทำความยุ่งยากกวนใจ เวลาจะหลับนอนก็บริกรรมพุทโธๆ จนหลับไปกับบทธรรม

#เมื่อพยายามทำอย่างนี้เสมอ_ใจย่อมผ่องใสเยือกเย็น

มองเห็นโลกว่า เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันอย่างสนิทใจ ใจอ่อนโยนด้วยเมตตา ต่อเพื่อนร่วมโลก ไม่คิดเป็นภัยต่อผู้ใด ใจอ่อนน้อมต่อธรรมด้วยความหวังพึ่งเป็น พึ่งตายตลอดกาล ไม่ยอมฝ่าฝืน ยืนหยัดอยู่กับศีลธรรม

#ใจกับธรรม_กลายเป็นธรรมแท่งเดียว
#นี่แลคือกองมหากุศล_อันยิ่งใหญ่ไพศาล_ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน

ลงบุญกับใจได้รวมเข้ากัน เป็นธรรมทั้งแท่งแล้ว อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข ดังท่านพระมหากัปบิน เปล่งอุทานว่า “สุขํ วต สุขํ วต” สุขหนอๆ คือ สุขเพราะใจกลายเป็นธรรมแท่งเดียวนั่นเอง ไม่เลือกกาลสถานที่ โลกนี้ โลกหน้า ถึงจะเป็นสวรรค์นิพพาน คือสถานที่ให้ความสุข

#เพราะใจเป็นธรรมชาติ_ที่มีความสุขอย่างพร้อมมูลอยู่แล้ว

ฉะนั้นจึงไม่ควร นั่งเฝ้านอนเฝ้าของดี คือใจอยู่เปล่า จะเสียการ รีบตักตวงคุณงามความดี ให้พอกับความต้องการ จาก ทาน ศีล ภาวนาเสียแต่บัดนี้ จะได้ไม่ต้องบ่นหาความสุขและสวรรค์นิพพาน อันเป็นที่น่ารำคาญอีกต่อไป

#หลวงตามหาบัว #ญาณสัมปันโน









#ความอดทน เป็นคุณสมบัติของนักต่อสู้
#ความรู้ เป็นคุณสมบัติของนักปราชญ์
#ความสามารถ เป็นคุณสมบัติของนักประกอบกิจ
#ความมีระเบียบทุกชนิด เป็นคุณสมบัติของผู้ดี

คติธรรมคำสอน
พระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร