วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2019, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


พระนี้ก็มาจากลูกชาวบ้าน จะให้ดีหมดก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนปลาช่อนปลาเข็งอยู่ในสระในหนอง มันก็มีตัวใหญ่บ้างตัวเล็กบ้าง บางครั้งก็ปล่อยพร้อมกัน แต่มันก็โตไม่พร้อมกัน พระสงฆ์สามเณรเรานี่ก็เหมือนกันธรรมะมันก็ย่อมมีไม่พร้อมกัน

คติธรรม หลวงพ่อสาลี ขันติพโล วัดป่าทุ่งศรีอุดม ทายาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท




“อานิสงส์จากการแผ่เมตตา”

การแผ่เมตตาต้องมีผู้รับและมีสิ่งที่เราให้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเงินทองวัตถุสิ่งของหรือรอยยิ้ม นี่เป็นวิธีการแผ่เมตตา ถ้าเราแผ่เมตตาเป็นประจำนี้ พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าเราจะได้รับอานิสงส์จากการแผ่เมตตาหลายประการด้วยกัน ประการที่ ๑ ก็คือ เวลาตื่นก็มีความสุข เวลาหลับก็มีความสุข นอนหลับก็จะไม่ฝันร้าย จะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เทวดาจะคุ้มครองรักษา จะไม่ตายด้วยอาวุธหรือยาพิษ เพราะจะไม่มีใครจะมาโกรธจะมาจ้องทำร้ายเรา เพราะเราไม่ได้ไปทำให้เขาโกรธ ทำให้เขามีความสุขทำให้เขาชอบเรา ไม่ได้ทำให้เขาโกรธเกลียดเรา หน้าตาจะมีผิวพรรณผ่องใส หน้าตาจะดูผ่องใส เวลานั่งสมาธิจิตก็จะสงบง่าย แล้วถ้าเวลาตายไปก็จะไปสู่สุคติ ไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ จนถึงชั้นพระนิพพาน ตามกำลังของบุญบารมีที่ได้สร้างเอาไว้ บุญบารมีนี้คือบันใดสู่สวรรค์นั่นเอง บันใดที่จะพาให้เราเคลื่อนจากภพของมนุษย์ไปเป็นเทวดา จากเทวดาไปเป็นพรหม จากพรหมไปเป็นพระอริยบุคคล จากพระอริยบุคคลไปสู่พระนิพพาน ต้องอาศัยบารมีต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พวกเรามาสร้างกันในวันพระนี้ วันพระเป็นวันที่เราหยุดทำงานทางโลกหนึ่งวัน เพื่อที่เราจะได้มาหัดทำงานทางธรรมทางจิตใจ ทางโลกนี้เราทำเพื่อร่างกาย เลี้ยงดูปากท้อง จำเป็นต้องหาปัจจัย ๔ มาให้กับร่างกายเพราะถ้าร่างกายขาดปัจจัย ๔ ร่างกายก็จะอยู่ไม่ได้ หรืออยู่แบบแร้นแค้นอยู่แบบทุกข์ยากลำบาก อยู่แบบเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ถ้ามีปัจจัย ๔ สมบูรณ์ มีอาหาร มีเครื่องนุ่งห่ม มีที่อยู่อาศัย มียารักษาโรค ร่างกายก็จะปลอดภัยจากความทุกข์ต่างๆ แต่การมีปัจจัย ๔ นี้ไม่สามารถมาดูแลรักษาจิตใจของพวกเราได้ จิตใจต้องการบุญบารมีเป็นปัจจัย ๔ ของใจ ถ้าจิตใจขาดบุญบารมี จิตใจก็จะเป็นเหมือนร่างกายที่ขาดปัจจัย ๔ นั่นเอง จะอยู่อย่างทุกข์ยากลำบาก อยู่แบบหิวโหย อยู่แบบไม่มีความสุข

สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน




ลาภ ยศ สุข ทรัพย์ สรรเสริญ
ความสมบูรณ์ในชีวิต
ทุกข์ยาก ตกอับ ยากจนเข็ญใจ
ถูกความเสื่อม ขาดแคลนในชีวิต ดี สุข
บุญกุศล บาปกรรมชั่วทุกข์โทษ
สิ่งเหล่านี้มันมีอยู่คู่กับเกิดตาย
ปรุงแปลงอยู่เสมอในใจของเรา
ใจอยู่ในรูปอันใด ก็ไม่พ้นในสิ่งเหล่านี้
เว้นเสียแต่ว่า ใจนั้นเป็น ใจอันบริสุทธิ์เท่านั้น

หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร