วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2019, 05:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"..บาปบุญ นรกสวรรค์ มีอีหลีเด้อ คนบ่เคยปฎิบัติกะสิบ่รู้ คนที่เพิ่นปฎิบัติผ่านแล้วเพิ่นสามารถที่จะมองย้อนอดีตไปได้หลายภพหลายชาติเพิ่นสิเห็นอดีตที่ผ่านมา มันกะคือเฮามองย้อนหลังไปเบิ่งอดีตตั้งแต่เฮาเป็นเด็กนักเรียน จนเติบใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึงปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่เพิ่นปฎิบัติผ่านแล้ว เพิ่นมองทะลุข้ามไปเบิ่งได้หลายภพหลายชาติ เห็นอดีตของเจ้าของว่าเคยเป็นคน เป็นสัตว์ต่างๆ เห็นความลำบากของการเวียนว่ายตายเกิด

ชาติที่แล้วเกิดเป็นพ่อแม่เขาถ้าห่วงลูกห่วงหลานหลายชาตินี้เกิดมาเป็นลูกเขาแต่กะสิบอกยากสอนยากจักหน่อยเพราะจิตมันยึดติดว่าเคยเป็นพ่อเป็นแม่เขา นี้ละให้พากันปฎิบัติเอา ปีหนึ่งกะพากันมานอนวัดอย่างน้อยกะให้ได้จัก 3 วัน เอาเท่ากับพุทโธ ธัมโม สังโฆ กะยังดี.."

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร






เรื่อง "วิธีฝึกฌานในกสิณ"
"ที่ให้ภาวนาว่า พุทโธ และให้นึกถึงภาพพระ นึกถึงภาพพระพุทธรูป เป็นพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้าหากว่าพระสีเหลืองเป็นทองคำ เป็นปีตกสิณ พระสีเขียว หรือสีดำเป็นนีลกสิณ พระสีขาวเป็นโอทาตกสิณ นี่เป็นได้ทั้งสองอย่าง และก็เป็นกสิณด้วย ทั้งพยายามทำจิตจับภาพพระพุทธรูปไว้ในใจ คือเห็นลอยอยู่ตรงหน้า อยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่ว่าอะไรใช้ได้หมด อย่างนี้ไม่ช้าอารมณ์จิตก็จะเป็นฌานโดยง่าย ทั้งเวลาจับภาพพระ จิตก็นึกถึงลมหายใจเข้าออกไว้ด้วย ลมหายใจเข้าออกนี่เราทิ้งไม่ได้ แต่ก่อนที่จะจับภาพพระ เราก็นึกถึงลมหายใจเข้าออกเสียก่อน ทำใจให้สบายแล้วค่อยจับภาพพระจนกระทั่งจิตนี่จะทรงตัว นั่งอยู่ เดินอยู่ ยืนอยู่ ไปทางไหนอยู่ ภาพนั้นปรากฏติดตาติดใจอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้ชื่อว่า เราได้ "ฌานในกสิณ"

(คติธรรมคำสอน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
(พระราชพรหมยาน แห่งวัดท่าซุง)





เรื่อง "การสร้างทานบารมี น้ำใจสำคัญกว่าวัตถุ"
การทำบุญ ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองข้าวของตั้งแสนตั้งล้านมาทำ เราทำด้วยน้ำใจ เรามีมากน้อยทำตามกำลังศรัทธา ความสามารถของเรา เช่น ให้ทาน เรามีอะไรเราก็ให้ทาน น้ำใจเป็นสำคัญมาก วัตถุเป็นเครื่องประกอบ
ถ้าวัตถุของเราไม่ดีไม่เยี่ยมสมใจที่อยากมี เอ๊า เรามีอะไรก็ให้ทานอันนั้น ด้วยน้ำใจที่รักบุญรักทาน ก็ได้บุญมากเช่นเดียวกัน ข้อสำคัญอยู่ที่น้ำใจ เอ้า วัตถุดีด้วย น้ำใจดีด้วย ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกและภาวนาพุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ อย่าละอย่าวาง อยู่ที่ไหนก็นึกพุทโธ ถึงองค์ศาสดาได้ ผลที่ปรากฏขึ้นมา ก็คือ ความรู้ได้แก่ใจของเรานี้เด่นดวง

(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
(เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด)
(เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๑๙)





"คบบัณฑิตในตัวเอง ไม่คบพาลในตัวเอง
สิ่งไหนชั่ว ไม่พูด ไม่คิด ไม่ทำ
สิ่งไหนดี เอามาทำ เอามาพูด เอามาคิด"
หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ





“ต้องการจิตใจแจ่มใส
ให้ตั้งใจฝึกกรรมฐาน
ต้องการความสุขสำราญ
ให้หมั่นรักษาศีล บำเพ็ญทาน
ต้องการผู้ดูแลตอนป่วย
ให้ช่วยรักษาพระอาพาธ
ต้องการจากโลกนี้ไปสุคติ
ให้มุ่งบำเพ็ญบุญบารมีไว้เสมอ”

หลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน






"ทุกข์ในการหาอาหารเลี้ยงชีพนั้น อย่างหนึ่ง
ทุกข์ด้วยจิตใจ อย่างหนึ่ง
คนรวย ทุกข์กว่าคนจน ก็มีถมเถไป
ไม่ใช่ว่าคนรวย จะสุขเลยทีเดียว
เหตุนั้น พุทธศาสนา จึงสอนทุกชั้นทุกหมู่
ทั้งคนจน คนมี ให้มีที่พึ่งทางใจ คือ
หัดทำความสงบอบรมใจ ให้มีเวลาพักผ่อน
ถ้าทุกข์กลุ้มใจอย่างเดียว
ก็ไม่มีหนทาง จะพ้นจากทุกข์ได้
คนถือพุทธศาสนา ถึงแม้จะทุกข์กาย
แต่เขายังเบิกบานใจอยู่ เพราะเขามีที่พึ่งทางใจ"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี







“ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวง
แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา
อย่ามัวรอฤกษ์ รอเวลา
อยากได้ดี ก็ต้องสร้างความดี
ไม่ใช่นั่งรอความดี”

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม





"ธรรมะ ไม่ใช่ของหนัก
สำหรับผู้ออกกำลังใจทุกวัน"
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ






"ที่จริงแล้ว ทุกคนรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว
แต่ไม่พยายามรับรู้ความจริงนั้น
ว่าเป็นความจริงสำหรับตนเองด้วย
มักจะให้เป็นความจริงสำหรับผู้อื่นเท่านั้น

ดังที่ปรากฏอยู่เสมอ ผู้ที่ว่าคนนั้นไม่ดี
อย่างนั้นอย่างนี้ และตัวเองก็เป็นเช่นนั้นด้วย
โดยตัวเองก็หาได้ตำหนิตัวเอง เช่นที่ตำหนิผู้อื่นไม่

ถ้าจะให้ดีจริงๆ ถูกต้องสมควรจริงๆ แล้ว
ก็ต้องเชื่อพระพุทธเจ้า ท่านทรงสอนให้เตือนตน
แก้ไขตน ก่อนจะเตือนผู้อื่นแก้ไขผู้อื่น"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช






"คนเราพูดดี
จะมีทั้งฟัน มีทั้งเหงือก
แต่ถ้าพูดไม่เลือก
จะเหลือแต่เหงือก ฟันไม่มี"

หลวงปู่หา สุภโร







"เราไปดูคนโน้นคนนี้ ว่าไม่ถูก
เรานั่นแหละที่ไม่ถูก เขาก็ถูกของเขา
เขาก็มีเหตุผลของเขา เราไม่ถูก
เพราะเราไปคิดเรื่องของเขา"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ





“คุณไม่ชอบคนนินทา จึงหนีนินทา
หนีผู้ หนีคน คุณจะหนีไปไหน ไม่อยากได้ยิน
ไม่อยากได้เห็น ไม่อยากได้รับได้รู้ คนเขานินทา
เขาว่าร้ายเรา โดยการหนีไปอยู่แต่ผู้เดียว
ถ้าอย่างนั้น คนหูหนวก ตาบอด
เขาคงไม่มีทุกข์ เขาคงเข้าพระนิพพาน
กันหมดแล้ว

แต่พระพุทธเจ้า พระองค์ทรงให้ใช้สิ่งที่มี
ฝึกตนเองสอนตนเอง เราห้ามเขานินทาไม่ได้ดอก
แต่เราห้ามใจเรา ไม่ให้ทุกข์ได้ เราห้ามใจเรา
ไม่ให้ไปใส่ใจคำพูดเหล่านั้นได้

แก้ที่ใจสิ! จะไปแก้ที่หูได้ยิน แก้ตาได้เห็นทำไม?
เราห้ามหูไม่ให้ได้ยินก็ไม่ได้ เราห้ามตาไม่ให้เห็น
ก็ไม่ได้

สำคัญ คือ เราพิจารณาใจเรา ไม่ให้ใส่ใจ
ไม่ให้ทุกข์ได้ ทุกข์กับปากคน ก็ทุกข์จนตายนั่นล่ะ ไม่มีใคร ที่ไม่ถูกนินทา แก้ที่ใจ อย่าแก้ที่กาย
อย่าแก้ที่คนอื่น ให้แก้ที่ใจเรา

แก้ที่ความรู้สึกเรา จะหนีไปไหน มันก็ถูกนินทา
มันเป็นของคู่โลก สรรเสริญก็เป็นของคู่โลก
หนีไปก็หอบทุกข์ไปเต็มหัวใจ จะไปกับทุกข์ทำไม
ทำไมไม่แก้ตรงที่มันทุกข์

คุณไม่ได้ทุกข์ที่เขา ไม่ได้ทุกข์ที่หู ที่ตา
ไม่ได้ทุกข์ที่การนินทา แต่ทุกข์ที่ใจ
ให้ตั้งสติสังเกตใจ ดูใจ แก้ใจ แก้ใจได้
ไปอยู่ไหนก็ไม่ทุกข์ เข้าใจนะ

ให้มีสติตอนได้ยิน ได้เห็น พิจารณาตอนทุกข์
ตอนเห็น ขณะทุกข์ตอนนี้ เดี๋ยวนี้นะ
อยู่ในถ้ำกาย อย่าอยู่ในถ้ำหินนะ"

หลวงปู่หา สุภโร





“เมื่องานล้มเหลว ควรหรือไม่
ที่จะปล่อยให้ใจล้มเหลวด้วย

งานล้ม แต่อย่าให้ใจล้ม
ระหว่างคนที่หัวฟัดหัวเหวี่ยง
เมื่องานล้มเหลว กับคนที่ยิ้มได้
เมื่อพบกับความล้มเหลว

คนไหนที่เป็นสุข และฉลาดกว่ากัน”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล





“งานกับคน เป็นของคู่กัน พรากจากกันไม่ได้
สาระสำคัญที่สุดของชีวิต ขึ้นอยู่กับการทำงาน
การงานนี้ เป็นแก่นสารของชีวิตเราทุกคน

ประเทศชาติของเราก็ดี ตัวเราเองก็ดี
ที่เจริญก้าวหน้ามาถึงเพียงนี้ ก็เพราะมีความขยัน
ทำการงาน จะเป็นทรัพย์ในดิน สินในน้ำ อะไรก็ดี
ถ้าคนไม่ขุดขึ้นมา แล้วก็ใช้การไม่ได้ ที่นำมาใช้ได้
เพราะคนเราทำเอาทั้งนั้น

คนที่เกียจคร้าน ไม่มีคุณค่าอะไรเลย
สักสตางค์แดงเดียว คนที่ขยันเท่านั้น มีคุณมีค่า
ขอฝากญาติโยมทั้งหลายไว้คิดพิจารณา”

ครูบาเจ้าพรหมา พฺรหฺมจกฺโก






"มะม่วงมันอยู่สูงห้าเมตร เราอยากได้
เอาไม้สิบเมตรมาสอยไม่ได้ มันยาวเกินไป
เอาไม้สองเมตรมาสอย มันก็ไม่ได้ ไม่พอดี
มันสั้นเกินไป

เราอย่าเข้าใจว่า คนจบดอกเตอร์
มาปฏิบัติสบายเหลือเกิน เพราะเรียนรู้
มาพอแล้ว อย่าเข้าใจอย่างนั้น
ดอกเตอร์มันยาวเกินไปก็ได้"

หลวงปู่ชา สุภัทโท






คนมีปัญญา เขาไม่โทษคนอื่น
เขาโทษ.. “ตัวเอง”
พระราชพรหมยาน (หลวงปู่ฤาษี ลิงดำ)





“ผู้ใดที่รู้จักไตร่ตรอง ทบทวนความคิด
และการกระทำ ของตนเองอยู่เสมอ
ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท
ความสวัสดีในชีวิต ย่อมบังเกิดขึ้นได้
โดยไม่จำเป็นต้องอ้อนวอน
ขอพรบันดาล จากผู้หนึ่งผู้ใดเลย”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร