ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระพุทธศาสนาเถรวาท http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57914 |
หน้า 9 จากทั้งหมด 12 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 22 พ.ย. 2019, 11:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้ ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง จะไม่มีทางคิดถูก ต้องตั้งใจฟังมาก เพราะความจริง มีอยู่แล้วไงคะ ไม่มีใครทำ เข้าใจไหม ที่ไม่รู้ก็คือ ไม่รู้จักฟังไงคะ การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 พ.ย. 2019, 11:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้ ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง จะไม่มีทางคิดถูก ต้องตั้งใจฟังมาก เพราะความจริง มีอยู่แล้วไงคะ ไม่มีใครทำ เข้าใจไหม ที่ไม่รู้ก็คือ ไม่รู้จักฟังไงคะ การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ งั้นถามใหม่ เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะดังว่านั้นแล้ว คิดตามแล้วมันได้อะไรขึ้นมา หนึ่งนะ สองแล้วใครไปทำ ไปทำนั่นทำนี่ใครไปทำ ตอบเป็นข้อๆนะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 22 พ.ย. 2019, 11:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้ ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง จะไม่มีทางคิดถูก ต้องตั้งใจฟังมาก เพราะความจริง มีอยู่แล้วไงคะ ไม่มีใครทำ เข้าใจไหม ที่ไม่รู้ก็คือ ไม่รู้จักฟังไงคะ การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม หนักใจแทนคุณกรัชกายจริงๆ ไม่มีเรามีแต่สิ่งที่กำลังมีจริงๆคือธัมมะ ธัมมะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีตรงปัจจุบัน สิ่งที่มีจริงนั้นไม่ใช่คนสัตว์สิ่งของมีแต่หลงจำผิดเป็นอัตตา อัตตาตัวตนคือสักกายะทิฏฐิและยึดสิ่งต่างๆนอกตัวคืออัตตานุทิฏฐิ ชีวิตมีจริงๆสั้นเพียงแค่1ขณะตรงปัจจุบันขณะเท่านั้นลมหายใจคือนิมิตหลอกจิต ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้วไม่มีตัวตนแล้วจะยึดอาณาปาณะไปอีกนานไหมคะ ขณิกะมรณาตายทุกขณะ/จิตแต่ละ1ขณะคือขณิกะสมาธิคือตั้งมั่นตรงทางทีละ1ทางไม่ปนกันและดับเป็นอากาศธาตุ ที่คิดว่ามีลมหายใจยาวๆนั้นน่ะคือตัวตนทำกิเลสหลอกจิตตนไปตามที่ต้องการอยากทำไม่ฟังคำตถาคตเพื่อให้เข้าใจถูกตามได้ไง https://youtu.be/rGZYXeIhFQ4 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม หนักใจแทนคุณกรัชกายจริงๆ ไม่มีเรามีแต่สิ่งที่กำลังมีจริงๆคือธัมมะ ธัมมะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีตรงปัจจุบัน สิ่งที่มีจริงนั้นไม่ใช่คนสัตว์สิ่งของมีแต่หลงจำผิดเป็นอัตตา อัตตาตัวตนคือสักกายะทิฏฐิและยึดสิ่งต่างๆนอกตัวคืออัตตานุทิฏฐิ ชีวิตมีจริงๆสั้นเพียงแค่1ขณะตรงปัจจุบันขณะเท่านั้นลมหายใจคือนิมิตหลอกจิต ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้วไม่มีตัวตนแล้วจะยึดอาณาปาณะไปอีกนานไหมคะ ขณิกะมรณาตายทุกขณะ/จิตแต่ละ1ขณะคือขณิกะสมาธิคือตั้งมั่นตรงทางทีละ1ทางไม่ปนกันและดับเป็นอากาศธาตุ ที่คิดว่ามีลมหายใจยาวๆนั้นน่ะคือตัวตนทำกิเลสหลอกจิตตนไปตามที่ต้องการอยากทำไม่ฟังคำตถาคตเพื่อให้เข้าใจถูกตามได้ไง https://youtu.be/rGZYXeIhFQ4 นี่ก็พูดเหมือนสุจิน คิกๆๆ อ้างคำพูด: ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้ว ถ้ายังงั้น ตอนนี้ คุณโรสก็ไม่หายใจแล้ว คือ หยุดหายใจไปแล้ว ตอบ หยุดหายใจ หรือ ยังหายใจอยู่ 1. หยุดหายใจแล้ว 2. ยังหายใจอยู่ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 เอ้า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ขณะจิตเดียวของคุณโรส ยาวแค่เท่าใด ถ้ายังงั้น ตอนนี้ คุณโรสตายแล้ว หรือ ยังมีชีวิตอยู่ ตอบ ตายยัง หรือ ยังหายใจอยู่ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ เขาถามว่า ที่เห็นนั่นน่า ที่เอามาให้คุณโรสดูนั่นน่า ธัมมะใช่ไหม ตอบ ใช่ ไม่ใช่ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ) คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ) คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 05:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ) คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไคร่ตรองเหตุและผลตามได้ ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่ขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็ดปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 05:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ) คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไตร่ตรองเหตุและผลตามได้ ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่สิ้นคิดขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็เปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555 ไปเปิดพจนานุกรมไป๊ บวชแล้วรับได้แค่ปัจจัยสี่ ใช้สอยได้แค่อัฏฐบริขารเท่านั้น มือถือคอมพิวเตอรใช่อัฏฐบริขารไหมคะ555หลับไหลจริงๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 05:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คุณกรัชกายคะ คุณสนทนามาก็นาน ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่ มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ https://youtu.be/RErL7YH_hm0 เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ 1. ใช่ 2. ไม่ใช่ ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้ ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์ มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ) คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไคร่ตรองเหตุและผลตามได้ ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่ขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็ดปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555 ไปเปิดพจนานุกรมไป๊ บวชแล้วรับได้แค่ปัจจัยสี่ ใช้สอยได้แค่อัฏฐบริขารเท่านั้น มือถือคอมพิวเตอรใช่อัฏฐบริขารไหมคะ555หลับไหลจริงๆ มันขัดกันหมด พูดพร่ำอยู่ทุกสิ่งอย่างเป็นธัมมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธัมมะอะไรของแก |
หน้า 9 จากทั้งหมด 12 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |