ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

พระพุทธศาสนาเถรวาท
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57914
หน้า 9 จากทั้งหมด 12

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 พ.ย. 2019, 11:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก
ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน
พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด
เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง
แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ
ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี
อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี
แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี
เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ
สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้
ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน
ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง
จะไม่มีทางคิดถูก
ต้องตั้งใจฟังมาก
เพราะความจริง
มีอยู่แล้วไงคะ
ไม่มีใครทำ
เข้าใจไหม
ที่ไม่รู้ก็คือ
ไม่รู้จักฟังไงคะ


การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ
ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน
แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ
ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น
:b20:
พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา
แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น
ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ
เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร
เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ
เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น
และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ
:b16:
:b12: :b12:


คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


cool
คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
:b12:
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 พ.ย. 2019, 11:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก
ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน
พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด
เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง
แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ
ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี
อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี
แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี
เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ
สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้
ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน
ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง
จะไม่มีทางคิดถูก
ต้องตั้งใจฟังมาก
เพราะความจริง
มีอยู่แล้วไงคะ
ไม่มีใครทำ
เข้าใจไหม
ที่ไม่รู้ก็คือ
ไม่รู้จักฟังไงคะ


การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ
ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน
แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ
ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น
:b20:
พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา
แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น
ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ
เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร
เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ
เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น
และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ
:b16:
:b12: :b12:


คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


cool
คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
:b12:
:b32: :b32:


งั้นถามใหม่ เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะดังว่านั้นแล้ว คิดตามแล้วมันได้อะไรขึ้นมา หนึ่งนะ

สองแล้วใครไปทำ ไปทำนั่นทำนี่ใครไปทำ

ตอบเป็นข้อๆนะ

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 พ.ย. 2019, 11:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกทุกโลก
ตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดด้นเดาเอามาสอน
พระองค์สอนให้เข้าใจทุกอย่างละเอียด
เพื่อไม่ให้ใครเอาไปคิดแต่งต่อเติมเอง
แต่ทรงแสดงความจริงตรงจริงจริงๆ
ตรงตามที่กำลังปรากฏว่ากำลังมี
อะไรที่ไม่ได้กำลังปรากฏว่ามี
แปลว่าไม่มีและสิ่งที่กำลังมี
เพียงปรากฏให้รู้ว่ามีสั้นๆ
สั้นจนไม่มีใครคิดเดาได้
ต้องฟังแล้วคิดตามก่อน
ถ้าคิดตามไม่ถูกต้อง
จะไม่มีทางคิดถูก
ต้องตั้งใจฟังมาก
เพราะความจริง
มีอยู่แล้วไงคะ
ไม่มีใครทำ
เข้าใจไหม
ที่ไม่รู้ก็คือ
ไม่รู้จักฟังไงคะ


การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องเข้าใจความจริงตรงทางตรงคำ
ตรงความจริงที่กำลังมีเสียงให้ได้ยิน
แล้วคิดถูกตรงตามได้เข้าใจตรงๆค่ะ
ลองคิดตามทีละคำตรงความจริงของเห็น
:b20:
พระองค์บอกว่าเห็นเป็นจิตเป็นธัมมะไม่ใช่เรา
แต่ตอนนี้เราน่ะคิดเห็นผิดเห็นว่าเป็นตัวเราเห็น
ก็เห็นเป็นจิตเป็นธัมมะชนิดหนึ่งเห็นเป็นเห็นตรงๆ
เห็นไม่ใช่เราและเดี๋ยวนี้กำลังมีเห็นแต่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร
เพราะเห็นเป็นเห็นเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่นคิดถูกหรือยังคะ
เห็นไม่ใช่คนไม่ใช่แมวไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มดนกหนูหรือสิ่งใดทั้งสิ้น
และเห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วเห็นก็ดับไปเห็นไม่ตั้งอยูนานอะไรเลยก็มันดับไปแล้วกำลังเห็นผิดรู้ยังคะ
:b16:
:b12: :b12:


คุณโรสฟังแล้วได้ความจริงว่ายังไง ไหนยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆสักเรื่องสิ ไม่ต้องมาก เอามาอย่างเดียวพอ เอ้า นี่เหวี่ยงแหไปเรื่อย ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


cool
คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
:b12:
:b32: :b32:

:b12:
สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน
บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว
บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ
และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ
จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า
สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ
บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ
สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:

สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน
บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว

บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ
และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ
จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า
สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ
บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ
สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0



ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด

ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน
บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว

บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ
และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ
จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า
สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ
บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ
สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0



ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด

ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม

หนักใจแทนคุณกรัชกายจริงๆ
ไม่มีเรามีแต่สิ่งที่กำลังมีจริงๆคือธัมมะ
ธัมมะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีตรงปัจจุบัน
สิ่งที่มีจริงนั้นไม่ใช่คนสัตว์สิ่งของมีแต่หลงจำผิดเป็นอัตตา
อัตตาตัวตนคือสักกายะทิฏฐิและยึดสิ่งต่างๆนอกตัวคืออัตตานุทิฏฐิ
ชีวิตมีจริงๆสั้นเพียงแค่1ขณะตรงปัจจุบันขณะเท่านั้นลมหายใจคือนิมิตหลอกจิต
ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้วไม่มีตัวตนแล้วจะยึดอาณาปาณะไปอีกนานไหมคะ
ขณิกะมรณาตายทุกขณะ/จิตแต่ละ1ขณะคือขณิกะสมาธิคือตั้งมั่นตรงทางทีละ1ทางไม่ปนกันและดับเป็นอากาศธาตุ
ที่คิดว่ามีลมหายใจยาวๆนั้นน่ะคือตัวตนทำกิเลสหลอกจิตตนไปตามที่ต้องการอยากทำไม่ฟังคำตถาคตเพื่อให้เข้าใจถูกตามได้ไง
https://youtu.be/rGZYXeIhFQ4
:b12:
:b29: :b29:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วน
บอกแล้วบอกอีกว่าตถาคตนับให้แล้ว

บอกว่าเดี๋ยวนี้จิตเกิดดับตรงทางตรงขณะ
และดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะจิตเนี่ยบอกว่าหัดฟังให้เข้าใจ
จะได้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดอะไรลงไปบ้างนั่นน่ะมีแต่เอาตัวตนไปทำไม่ยอมฟังให้เข้าใจว่า
สภาพธรรมที่ดับไปนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปทุกวินาทีมีความไม่รู้ทั้งหมดที่มีไปแล้วยังหลงไปทำอะไรอีกคะ
บอกว่าให้ฝึกหัดดัดนิสัยตนเองให้หยุดความอยากไปโดยการเริ่มต้นฟังให้จิตเข้าใจถูกตรงตามคำสอนได้ไงคะ
สังขารขันธ์จึงจะคิดปรุงแต่งจิตถูกตรงตามคำสอนได้ตรงเข้าใจไหมว่าเข้าใจตรงจริงได้ทีละ1ทางตรง1คำจริงๆ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0



ที่ถามเป็นข้อๆ คุณโรสไม่ตอบ เหมือนแม่สุจินในคลิปเด๊เรย ตามคลิปมีคนถามเรื่องอานาปานสติ ไม่ตอบ แต่เลี่ยงพูดไล่สิ่งที่ตัวคิด

ถ้างั้นถามใหม่ ที่ว่า ตถาคตนับให้แล้ว ... เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆใช่ไหม

หนักใจแทนคุณกรัชกายจริงๆ
ไม่มีเรามีแต่สิ่งที่กำลังมีจริงๆคือธัมมะ
ธัมมะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีตรงปัจจุบัน
สิ่งที่มีจริงนั้นไม่ใช่คนสัตว์สิ่งของมีแต่หลงจำผิดเป็นอัตตา
อัตตาตัวตนคือสักกายะทิฏฐิและยึดสิ่งต่างๆนอกตัวคืออัตตานุทิฏฐิ
ชีวิตมีจริงๆสั้นเพียงแค่1ขณะตรงปัจจุบันขณะเท่านั้นลมหายใจคือนิมิตหลอกจิต
ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้ว
ไม่มีตัวตนแล้วจะยึดอาณาปาณะไปอีกนานไหมคะ
ขณิกะมรณาตายทุกขณะ/จิตแต่ละ1ขณะคือขณิกะสมาธิคือตั้งมั่นตรงทางทีละ1ทางไม่ปนกันและดับเป็นอากาศธาตุ
ที่คิดว่ามีลมหายใจยาวๆนั้นน่ะคือตัวตนทำกิเลสหลอกจิตตนไปตามที่ต้องการอยากทำไม่ฟังคำตถาคตเพื่อให้เข้าใจถูกตามได้ไง
https://youtu.be/rGZYXeIhFQ4
:b12:
:b29: :b29:


นี่ก็พูดเหมือนสุจิน คิกๆๆ
อ้างคำพูด:
ก็บอกแล้วว่า1ขณะจิตที่ดับไปแล้วลมหายใจก็ไม่มีแล้ว


ถ้ายังงั้น ตอนนี้ คุณโรสก็ไม่หายใจแล้ว คือ หยุดหายใจไปแล้ว ตอบ หยุดหายใจ หรือ ยังหายใจอยู่

1. หยุดหายใจแล้ว

2. ยังหายใจอยู่

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 เอ้า :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
:b1:
:b4: :b4:


ขณะจิตเดียวของคุณโรส ยาวแค่เท่าใด

ถ้ายังงั้น ตอนนี้ คุณโรสตายแล้ว หรือ ยังมีชีวิตอยู่ ตอบ ตายยัง หรือ ยังหายใจอยู่

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
:b1:
:b4: :b4:


เขาถามว่า ที่เห็นนั่นน่า ที่เอามาให้คุณโรสดูนั่นน่า ธัมมะใช่ไหม ตอบ ใช่ ไม่ใช่ :b13:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 04:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ
เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ)
คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 04:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ
เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ)
คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ


ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 05:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ
เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ)
คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ


ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ :b32:

onion
ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไคร่ตรองเหตุและผลตามได้
ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่ขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต
เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็ดปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 พ.ย. 2019, 05:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ
เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ)
คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ


ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ :b32:

onion
ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไตร่ตรองเหตุและผลตามได้
ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่สิ้นคิดขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต
เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็เปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555
:b32: :b32: :b32:

ไปเปิดพจนานุกรมไป๊
บวชแล้วรับได้แค่ปัจจัยสี่
ใช้สอยได้แค่อัฏฐบริขารเท่านั้น
มือถือคอมพิวเตอรใช่อัฏฐบริขารไหมคะ555หลับไหลจริงๆ
:b30:
:b35: :b35:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 พ.ย. 2019, 05:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท

Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คุณกรัชกายคะ
คุณสนทนามาก็นาน
ยังไม่เข้าใจหรือคะว่า
ทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริงตรงกับภาษาบาลีว่าธัมมะ
คำว่าทุกอย่างเป็นธัมมะแปลว่าไม่มีใครสักคนเลยนี่
มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นคือคิดว่ามีตัวตนหลงว่าตนรู้หรือคะ
ก็ตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะแล้วเดี๋ยวนี้คิดว่ามีตัวเราไปทำ...ผิดไหมคะ
https://youtu.be/RErL7YH_hm0
:b55: :b55: :b55:


เมื่อทุกอย่างเป็นธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง นี่ก็ธัมมะใช่ไหม

รูปภาพ

ตอบ แค่ใช่ ไม่ใช่ พอ :b32:

1. ใช่

2. ไม่ใช่


:b12:
ชีวิตมีสั้นเพียงชั่วคราวขณะจิตเดียว
ตถาคตตรัสรู้ว่าเดี๋ยวนี้ดับไปถึงแสนล้านขณะจิต
คิดให้เข้าใจถูกตามได้ใช่ไหมหรือคิดว่าจะไปทำให้รู้อย่างพระองค์ได้
ก็พระพุทธเจ้ามีได้แค่1พระองค์เท่านั้นที่เหลือทำได้แค่คิดตามให้ตรงกับความจริงที่มีตรงปัจจุบันไงคะ
ไม่มีตัวเรามีแค่ธัมมะที่ไม่ใช่ตัวตนเข้าใจถูกตามได้ตอนที่กำลังมีตัวตนรู้ว่ายึดมั่นอยู่ว่าตัวตนสำคัญจึงไม่ยอมฟังไงคะ
ตอนเป็นโยมเนี่ยมีคนเอาเงินมาให้จับได้ใช้จ่ายได้แต่บวชแล้วรับเอามาใช้ไม่ได้เพราะสละแล้วก่อนบวชไม่ลาสิกขาก็ตกนรกชัวร์
:b1:
:b4: :b4:

มีแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
คิดอ่านตามให้ตรงคำนะคะ
เข้าใจให้ตรงความหมายของคำด้วยนะคะ(รับไม่ได้=รับไม่ได้)(บวช=สละแล้วคือบ้วนน้ำลายทิ้งละเก็บเอามาใส่ปากอีกได้รึ)
คนถวายเงินเอากิเลสไปเพิ่มให้นักบวชไงคะเข้าใจไหมทำตามใจกิเลสตนเองคืออยากถวายไงคะ


ทั้งแม่สุจินต์แห่งบ้านธัมมะ กับ สาวก ไม่ได้รู้ธัมมะหรือเข้าใจธัมมะอะไรหรอก แต่เป็นความเข้าใจธัมมะผิด เป็นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อธัมมะ :b32:

onion
ตอนเป็นคนเท่านั้นที่ฟังแล้วคิดไคร่ตรองเหตุและผลตามได้
ตอนที่บวชแล้วรับเงินนั้นน่ะเป็นตอนที่ขาดการระลึกตามคำสั่งสอนของตถาคต
เพราะโลภมากตาโตเห็นกิเลสตนเองเป็นใหญ่รับเงินไม่ได้ก็ดปลี่ยนชื่อเงินเรียกว่าปัจจัยซะจะได้รับได้ไม่ผิดวินัย555
:b32: :b32: :b32:

ไปเปิดพจนานุกรมไป๊
บวชแล้วรับได้แค่ปัจจัยสี่
ใช้สอยได้แค่อัฏฐบริขารเท่านั้น
มือถือคอมพิวเตอรใช่อัฏฐบริขารไหมคะ555หลับไหลจริงๆ
:b30:
:b35: :b35:


มันขัดกันหมด พูดพร่ำอยู่ทุกสิ่งอย่างเป็นธัมมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธัมมะอะไรของแก :b13:

หน้า 9 จากทั้งหมด 12 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/