ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระพุทธศาสนาเถรวาท http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57914 |
หน้า 5 จากทั้งหมด 12 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ต.ค. 2019, 11:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ขณะที่กำลังฟังและกำลังเข้าใจถูกตัวตนตามได้ ขณะนั้นแหละรู้สึกตัวแล้วว่ามีความไม่รู้มากมาย แต่พอหยุดฟังปุ๊บคิดตามเห็นผิดของตนทันทีค่ะ ยิ่งฟังยิ่งรู้ว่ามีกิเลสคือมีความไม่รู้ไม่มีประมาณ อ่านตามตาเนื้อเห็นผิดท่องจำไว้มากแต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส555 ฟังบ้างเถอะ อะไร อะไร ที่คิดเองอยู่นั่นน่ะ ไม่ตรงตามอริยสัจจะน๊า คำสอนคิดเองผิดทันทีนะจ๊ะ https://youtu.be/P9cS-GYeQDU อ้างกันจัง อริยสัจจะ อริยสัจจ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถามจริงๆ อะไรที่ว่าอริยสัจจ์ ไหนตอบให้กรัชกายนอนตายตาหลับที จนป่านนี้แล้ว555 คำสอนเริ่มต้นจากฟัง คำจริงตรงตามที่กำลังมี ตรงที่กายใจตนเองกำลังเป็น ไม่ใช่การไปทำหรือแสวงหามาเพิ่ม การฟังคือคิดไตร่ตรองตามเสียงคำใหม่ตลอด ไม่มีคำเดิมหรือขณะจิตเดิมตลอดเวลาไม่มีขณะไหนกลับมาอีกเข้าใจไหมล่ะคะ ไม่ฟังก็เลยไม่เคยคิดถูกตรงตามได้เลยระลึกไม่ถูกว่ารู้ตรงสัจจะตรงกับคำไหนแค่คำเดียวนะ คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงขณะต้องคิดถูกตรงตามได้ทีละน้อยจนกว่าจะมีปัญญาคิดถูกตัวตนตามได้ไงคะ https://youtu.be/2oc-aPUlec4 ถามอย่างตอบอย่าง เอาเห็นๆนี่เถอะ ไม่ต้องไปคิดมาก ปวดหัวเปล่าๆ คุณโรสไปตักบาตรเทโวเขาเปล่า มองไม่เห็น รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ต.ค. 2019, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 31 ต.ค. 2019, 09:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 31 ต.ค. 2019, 18:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล. |
เจ้าของ: | Rosarin [ 01 พ.ย. 2019, 19:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล. คำสอนของพระพุทธเจ้า คืออริยสัจจธรรมตรงจริง มีความตรงและความจริง เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 01 พ.ย. 2019, 19:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล. คำสอนของพระพุทธเจ้า คืออริยสัจจธรรมตรงจริง มีความตรงและความจริง เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ ครองผ้าเพียง3ผืน บิณฑบาตเป็นวัตร ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้ ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 02 พ.ย. 2019, 16:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล. คำสอนของพระพุทธเจ้า คืออริยสัจจธรรมตรงจริง มีความตรงและความจริง เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ ครองผ้าเพียง3ผืน บิณฑบาตเป็นวัตร ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้ ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ ที่ถามลองตอบสิ เมื่อไม่ให้ใช้เงินจะให้ทำอย่างไร ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ละเดือนๆ นี่ก็ความเป็นจริงในการดำรงชีวิต ตอบสิ จะให้พระทำยังไง ตอบชัดๆเตาปูนไปเบย อย่าบอกนะให้ใช้ก้อนกรวดแทนเงิน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 02 พ.ย. 2019, 18:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ พระ=ผู้ประเสริฐ พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนา=คำสอน เถระ=มั่นคง วาทะ=คำพูด คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย โครม โครม โครม อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า อาบัติทุกประเภททำให้ ศีลขาดและอายุพรรษา เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป ต่อหางแถวสามเณร ประมาทกันจริงนะ เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล. คำสอนของพระพุทธเจ้า คืออริยสัจจธรรมตรงจริง มีความตรงและความจริง เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ ครองผ้าเพียง3ผืน บิณฑบาตเป็นวัตร ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้ ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ ที่ถามลองตอบสิ เมื่อไม่ให้ใช้เงินจะให้ทำอย่างไร ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ละเดือนๆ นี่ก็ความเป็นจริงในการดำรงชีวิต ตอบสิ จะให้พระทำยังไง ตอบชัดๆเตาปูนไปเบย อย่าบอกนะให้ใช้ก้อนกรวดแทนเงิน สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา สมบัติเงินทองมาแจกไหม โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง บวชรับเงินตกนรก ตามคำตถาคต |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 03 พ.ย. 2019, 10:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา สมบัติเงินทองมาแจกไหม โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง บวชรับเงินตกนรก ตามคำตถาคต ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ตอบสิ ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 04 พ.ย. 2019, 21:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา สมบัติเงินทองมาแจกไหม โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง บวชรับเงินตกนรก ตามคำตถาคต ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ตอบสิ ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ ทำผิดตามตามกันโดย ไม่ฟังคำสอน 555 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 พ.ย. 2019, 19:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา สมบัติเงินทองมาแจกไหม โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง บวชรับเงินตกนรก ตามคำตถาคต ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ตอบสิ ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ ทำผิดตามตามกันโดย ไม่ฟังคำสอน 555 จะให้ถอยหลังย้อนกลับไปเมื่อ สองพันกว่าปี คือใช้เทียน คิกๆๆๆ การศึกษาวินัย ต้องเปิดดูต้นบัญญัติ ที่เรียกว่า อาทิกัมมิกะ พระพุทธเจ้าบัญญัติวินัยนั้น จะต้องมีเหตุเกิดก่อน อย่างที่บอกว่าการเผยแผ่ศาสนาครั้งพุทธกาลมีหลายศาสดาที่แข่งขันกันเผยแผ่อยู่ เช่น นิครนถนาฏบุตร เป็นต้น ศาสนานี้เคร่งมากแม้แต่ผ้าก็ไม่นุ่ง กลับมาเรื่องพุทธครั้งกระโน้น คือ เมื่อมีภิกษุรับเงินทอง (เว้นแต่เขาทำตกหรือลืมไว้ที่วัดต้องเก็บคืนเจ้าของ) ถูกสังคมสมัยติเตียน พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติวินัยข้อนี้ (ปาจิตตีย์ - อาบัติมีหลายประเภท บางอย่างปลงได้ ปาจิตตีย์ปลงได้ บางอย่างปลงไม่ได้) แต่ครั้งกระนั้นวัดวาอารามมีผู้สร้างให้ ภิกษุสามเณรคงมีผู้อุปัฏฐากอุปถัมภ์ก็ดำรงอยู่ได้ ทีนี้ มายุคปัจจุบันก็อย่างที่เห็นค่าน้ำไฟก่อสร้างนั่นนี่ แต่คนโบราณท่านก็คิดถึงวินัยข้อนี้นะ ท่านจึงเลี่ยงโดยจัดเป็นปวารณา (มีใบปวารณา) หรือ ตอนที่ถวายก็กล่าวคำถวายอุปโลกน์มอบให้เป็นปัจจัย 4 แต่สำนักแม่สุจิน จะให้ถอยหลังกลับไปใช้เทียน ไม้ขีดไฟ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 08 พ.ย. 2019, 00:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา สมบัติเงินทองมาแจกไหม โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง บวชรับเงินตกนรก ตามคำตถาคต ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ตอบสิ ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ ทำผิดตามตามกันโดย ไม่ฟังคำสอน 555 จะให้ถอยหลังย้อนกลับไปเมื่อ สองพันกว่าปี คือใช้เทียน คิกๆๆๆ การศึกษาวินัย ต้องเปิดดูต้นบัญญัติ ที่เรียกว่า อาทิกัมมิกะ พระพุทธเจ้าบัญญัติวินัยนั้น จะต้องมีเหตุเกิดก่อน อย่างที่บอกว่าการเผยแผ่ศาสนาครั้งพุทธกาลมีหลายศาสดาที่แข่งขันกันเผยแผ่อยู่ เช่น นิครนถนาฏบุตร เป็นต้น ศาสนานี้เคร่งมากแม้แต่ผ้าก็ไม่นุ่ง กลับมาเรื่องพุทธครั้งกระโน้น คือ เมื่อมีภิกษุรับเงินทอง (เว้นแต่เขาทำตกหรือลืมไว้ที่วัดต้องเก็บคืนเจ้าของ) ถูกสังคมสมัยติเตียน พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติวินัยข้อนี้ (ปาจิตตีย์ - อาบัติมีหลายประเภท บางอย่างปลงได้ ปาจิตตีย์ปลงได้ บางอย่างปลงไม่ได้) แต่ครั้งกระนั้นวัดวาอารามมีผู้สร้างให้ ภิกษุสามเณรคงมีผู้อุปัฏฐากอุปถัมภ์ก็ดำรงอยู่ได้ ทีนี้ มายุคปัจจุบันก็อย่างที่เห็นค่าน้ำไฟก่อสร้างนั่นนี่ แต่คนโบราณท่านก็คิดถึงวินัยข้อนี้นะ ท่านจึงเลี่ยงโดยจัดเป็นปวารณา (มีใบปวารณา) หรือ ตอนที่ถวายก็กล่าวคำถวายอุปโลกน์มอบให้เป็นปัจจัย 4 แต่สำนักแม่สุจิน จะให้ถอยหลังกลับไปใช้เทียน ไม้ขีดไฟ เอาตรงๆนะ พวกคุณคิดว่า ตนเองรู้ไปหมด แต่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ความจริง ที่ไม่มีใครรู้เองได้ เอาแบบตรงที่สุดนะ แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง คำเดียวเนี่ยมี1ไหม หรือแค่คิดก็เลยขณะ ปัจจุบันขณะ ขณิกมรณะ ขณิกสมาธิ คือความจริง ที่ทรงตรัสรู้ แสนโกฏิขณะ คิดว่านับได้ไหม เอาให้ตรงขณะนะ เพราะตอนคิดไม่มีเห็น ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 พ.ย. 2019, 14:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
Rosarin เขียน: เอาตรงๆนะ พวกคุณคิดว่า ตนเองรู้ไปหมด แต่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ความจริง ที่ไม่มีใครรู้เองได้ เอาแบบตรงที่สุดนะ แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง คำเดียวเนี่ยมี1ไหม หรือแค่คิดก็เลยขณะ ปัจจุบันขณะ ขณิกมรณะ ขณิกสมาธิ คือความจริง ที่ทรงตรัสรู้ แสนโกฏิขณะ คิดว่านับได้ไหม เอาให้ตรงขณะนะ เพราะตอนคิดไม่มีเห็น ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ เพ้อไปใหญ่ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 พ.ย. 2019, 15:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
เขารุกไปข้างหน้า แต่ชาวพุดในไทยไม่น้อยคิดถอยหลัง ไม่แปลกใจว่าทำไมพุทธในอินเดียซึ่งเป็นแผ่นดินพ่อจึงถูกทำลาย พุทธในอินโดฯ จึงสลาย ต่อไปสักไม่เกิน 100 ปี ก็แถวๆนี้แหละ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 พ.ย. 2019, 09:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธศาสนาเถรวาท |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอาตรงๆนะ พวกคุณคิดว่า ตนเองรู้ไปหมด แต่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ความจริง ที่ไม่มีใครรู้เองได้ เอาแบบตรงที่สุดนะ แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง คำเดียวเนี่ยมี1ไหม หรือแค่คิดก็เลยขณะ ปัจจุบันขณะ ขณิกมรณะ ขณิกสมาธิ คือความจริง ที่ทรงตรัสรู้ แสนโกฏิขณะ คิดว่านับได้ไหม เอาให้ตรงขณะนะ เพราะตอนคิดไม่มีเห็น ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ เพ้อไปใหญ่ ถ้าคิดว่าชอบการปฏิบัติมากนัก งั้นมาดูกันสิว่าแต่ละคนกำลังทำอะไร พระพุทธเจ้าตรัสว่าภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง ครานี้มาดูกันว่าบวชแล้วรับเงินผิดไหมรู้แล้วว่ารับต้องตกนรกยังทำใช่ไหม แล้วคนที่ชอบขนเงินไปถวายเนี่ยทำเพราะไม่รู้ว่าจะทำให้ผู้รับต้องตกนรกใช่ไหม อยากได้บุญแต่ไม่รู้ว่าตนเองทำผิดไม่ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าใช่ไหมมีแต่เชื่อและทำตามๆกัน ฟังบ้างนะจะได้ทิ้งวิธีทำผิดแบบตามๆกันได้ https://youtu.be/ltstw8Yz4xc |
หน้า 5 จากทั้งหมด 12 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |