วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 22:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2019, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมแค่อนุโมทนาบุญกลับเป็นพลังหนุนที่ยิ่งใหญ่เพราะอะไร?

วิธีการเสริมสร้างอำนาจจิตโดยใช้พลัง"ผู้อื่น"

มนุษย์สามารถสร้างอำนาจจิตของตนโดยพลังของ"ผู้อื่น"ได้ 3 วิธีคือ

ในทุกวัน ทุกเวลานาที รังสีจิตทั้งหลายในบรรยากาศจะมีทั้งรังสีหยาบ ละเอียด ดี ชั่ว วิธีที่จะเลือกดูดซับรังสีจิตที่ดี และประณีตให้เข้ามาในตนทำได้ 3 ประการ คือ

1. เข้าใกล้ผู้มีพลังจิตที่ประเสริฐ ทันทีที่เราเข้าใกล้ผู้มีพลังจิต"อันประเสริฐ"ด้วยความชื่นชม ยินดี อนุโมทนา อานุภาพจิตของท่านจะเหนี่ยวนำเราให้ปรับสภาวะเข้าสู่ "ความประเสริฐดั่งท่าน"ด้วยเสมือนเหล็กธรรมดาที่เข้าไปอยู่ในรัศมีสนามแม่เหล็ก ย่อมถูกเหนี่ยวนำให้เป็นแม่เหล็กอ่อนๆ ได้ด้วยกระนั้น ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าบรมครูจึงตรัสว่า

"การพบเห็นสมณะ..เป็นมงคลแห่งชีวิตประการหนี่ง"

ในขณะเดียวกันถ้าจิตยังไม่ยิ่งใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับคนที่มีอำนาจจิตทรามด้วย

ดังคำสอนเรื่องมงคลแห่งชีวิตประการแรกที่ว่า ชีวิตจะได้ดีนั้น สิ่งแรกเลยที่จะต้องทำให้ได้ คือ

"อย่าส้องเสพสมาคมกับคนชั่ว คนพาล"

"จงเสวนาสมาคมกับบัณฑิต"

เมื่อทำได้ดังนี้ ความดีอื่นๆ ในชีวิตก็จะตามมาอีกมากมาย

2. ในทุกขณะจะมีคนทำความดีอยู่เสมอ พึงระลึกถึงบุคคลเหล่านั้น แล้วอนุโมทนาสาธุ การอนุโมทนากับภาวะที่ดีใด จะทำให้ท่านยกระดับจิตของตนให้ใกล้เคียงกับภาวะนั้นด้วย และหากเขาเหล่านั้นอุทิศส่วนกุศลให้เป็นการทั่วไป ซึ่งมีอยู่ตลอดเวลา เมื่อท่านอนุโมทนา ท่านก็จะได้ดูดซับพลังแห่งคุณความดีเข้าไว้ในตนทันที เป็นการทำบุญทางลัดอย่างหนึ่ง บุคคลที่ทำความดีมหาศาลที่เราพึงระลึกเสมอๆ คือ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อเป็นแบบอย่าง เป็นต้น

3. จัดเวลา ฝึกตน ให้สอดคล้องกับท่านผู้มีอำนาจจิตหรือชนส่วนใหญ่ จากการวิจัยพบว่า เมื่อคนหลายคนมาฝึกจิตร่วมกันในทิศทางการฝึกเดียวกัน อานุภาพจิตโดยรวมในบรรยากาศจะมีพลังมาก อย่างน้อยเท่ากับกำลังสองของจำนวนคน เช่น ฝึกจิตร่วมกัน 9 คน พลังรวมของรังสีจิตในบรรยากาศจะเท่ากับ 9 x 9 = 81 คน เป็นต้น

ดังนั้นจะเป็นการฉลาดที่จะฝึกตนให้ตรงกับที่คนส่วนใหญ่ในสังคมฝึก หรือตรงกับที่ท่านผู้ทรงพลังจิตฝึก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วง "1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม" และ "ตี 3 ถึง 6โมงเช้า" ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว พลังจิตชั่วร้ายในบรรยากาศจะมีน้อยมาก และพลังจิตอันประเสริฐจะเข้มข้นมาก เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนทั้งหลายพักกิจกรรมและพักผ่อนแล้ว และผู้ฝึกตนกำลังฝึกจิตกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ตอนตี 3 ถึง 6 โมงเช้า" คนส่วนใหญ่ยังหลับอยู่ มีเฉพาะผู้ฝึกตนเท่านั้นที่กำลังทำกิจฝึกจิตกันอยู่ ในเวลาดังกล่าว ถ้าท่านตื่นขึ้นมาฝึกตน ท่านจะได้รับพลังจิตอันประเสริฐอย่างมากมาย

(จากหนังสือการเสริมสร้างพลังจิต)

หมั่นฝึกตน จักเป็นคนที่ได้ธรรม

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย





"โลก...เป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุด
ปัญหาที่เข้ามาคือ...บทเรียน
มารทั้งหลายคือ...ครูของเรา

โลกมันสอนเรา บางทีก็สนุกสำราญ บางทีก็เศร้าโศก บางทีก็ทารุณโหดร้าย

คุณต้องเรียนให้ได้ทุกบท จะบอกว่าไม่ชอบวิชานี้ ไม่เรียนมันไม่ได้

เส้นทางนี้...ผู้ปฏิบัติล้วนผ่านมาแล้วทุกคน
ทุกข์...คือบทเรียนที่เราต้องสอบให้ผ่าน"

โอวาทธรรม
พระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร)






“ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด
ธรรมข้อหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลึกลับที่สุด
เป็นที่พึ่งถาวรแก่เราได้ ก็คือ
อตฺตาหิ อตฺตโนนาโถ
พึ่งตนรู้ตน แล้วก็จะรู้ในสิ่งทั่วไป
เพราะตนนั้นแหล่ะ เป็นเหตุ
เป็นต้นเหตุของทุกสิ่ง”

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท




"ใครจะคิดชั่วเหลวไหล
ให้เป็นเรื่องของเขา ใจเราไม่ต้องคิด

คนใดจะพูดชั่วเหลวไหล
ไม่มีประโยชน์ เป็นเรื่องของเขา

ตัวเราทุกคน สิ่งใดไม่ดี ไม่มีประโยชน์
ไม่พูดเสียเลย เพียรพยายามระวังรักษากาย
รักษาวาจา รักษาใจ"

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร






"คุณจะจนหรือจะรวย ก็ขึ้นอยู่กับว่า
คุณยังอยากได้อีกเท่าไหร่ ถึงจะรวย
คุณมีแสนล้าน คุณอยากได้อีกแสนล้าน
คุณก็จนแสนล้าน คุณมีหนึ่งร้อย คุณไม่ขาด
คุณไม่อยาก คุณก็รวย"

หลวงปู่หา สุภโร






"เรื่องของใจ มันพาให้วุ่น คิดโน่นคิดนี่
ไปคิด ไปติด กับคนนั้นคนนี้
มันเป็นอยู่อย่างนั้น ไม่ดูหัวใจตัวเอง

ถ้าดูหัวใจตัวเองแล้ว จะไม่เป็นอย่างนั้น
นี่คิดดูสิ ดีก็อยู่ที่ปากเขา ชั่วก็อยู่ที่ปากเขา
เขาติฉินนินทา ก็อยู่ที่ปากเขาโน่น
เราไม่เอามาเป็นอารมณ์ ก็ไม่มีอะไรๆ ล่ะ

คนที่มีธรรม เป็นอย่างนั้นนะ
มีแต่คนไม่มีธรรมนั่นล่ะ ที่วิ่งวุ่นอยู่ตลอดเวลา
หากอบรมแล้ว จิตมันจะลงพรึ่บเลย
ได้กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
กราบครูบาอาจารย์เท่านั้น"

หลวงปู่ลี กุสลธโร






"ข้อสำคัญที่สุดของการปฏิบัติ คือ
ต้องไม่ประมาท ต้องปฏิบัติให้เต็มที่ตั้งแต่วันนี้
ใครจะรู้ว่าความตาย จะมาถึงเราเมื่อไร
เคยเห็นไหม เพื่อนเรา คนที่เรารู้จัก ที่ตายไปแล้ว
นั่นน่ะ เขาเตือนเรา

ถ้าเราปฏิบัติไม่เป็นเสียแต่วันนี้ เวลาจะตาย
มันก็ไม่เป็นเหมือนกัน เหมือนกับคนที่เพิ่งคิด
หัดว่ายน้ำ เวลาใกล้จะจมน้ำตาย นั่นแหละ
ก็จมตายไปเปล่าๆ"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร