ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=58363
หน้า 5 จากทั้งหมด 8

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 05:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

๓.สังยุตตนิกาย (ชุมนุมพระสูตรที่เกี่ยวกับหัวเรื่องเดียวกันๆ คือ ชุมนุมพระสูตรที่จัดรวมเข้าเป็นกลุ่มๆ เรียกว่า สังยุตต์ หนึ่งๆ ตามเรื่องที่เนื่องกัน หรือตามหัวข้อ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวม ๕๖ สังยุตต์ มี ๗,๗๖๒ สูตร)



เล่ม ๑๕ สคาถวรรค รวมคาถาภาษิตที่ตรัสและกล่าวตอบบุคคลต่างๆ เช่น เทวดา มาร ภิกษุณี พราหมณ์ พระเจ้าโกศล เป็นต้น จัดเป็นกลุ่มเรื่องตามบุคคลและสถานที่ มี ๑๑ สังยุตต์



เล่ม ๑๖ นิทานวรรค ครึ่งเล่มว่าด้วยเหตุและปัจจัย คือ หลักปฏิจจสมุปบาท นอกนั้น มีเรื่องธาตุ การบรรลุธรรม สังสารวัฏ ลาภสักการะ เป็นต้น จัดเป็น ๑๐ สังยุตต์



เล่ม ๑๗ ขันธวารวรรค ว่าด้วยเรื่องขันธ์ ๕ ในแง่มุมต่างๆ มีเรื่องเบ็ดเตล็ดรวมทั้งเรื่อง สมาธิ และทิฏฐิต่างๆ ปะปนอยู่บ้าง จัดเป็น ๑๓ สังยุตต์



เล่ม ๑๘ สฬายตนวรรค เกือบครึ่งเล่ม ว่าด้วยอายตนะ ๖ ตามแนวไตรลักษณ์ เรื่องอื่นมีเบญจศีล ข้อปฏิบัติให้ถึงอสังขตะ อันตคาหิกทิฏฐิ เป็นต้น จัดเป็น ๑๐ สังยุตต์



เล่ม ๑๙ มหาวารวรรค ว่าด้วยโพธิปักขิยธรรม ๓๗ แต่เรียงลำดับเป็นมรรค (พร้อมทั้งองค์ธรรมก่อนมรรค) โพชฌงค์ สติปัฏฐาน อินทรีย์ สัมมัปปธาน พละ อิทธิบาท รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น นิวรณ์ สังโยชน์ อริยสัจจ์ ฌาน ตลอดถึงองค์คุณของพระโสดาบัน และอานิสงส์ของการบรรลุโสดาปัตติผล จัดเป็น ๑๒ สังยุตต์

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 05:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

๔. อังคุตตรนิกาย (ชุมนุมพระสูตรที่เพิ่มจำนวนขึ้นทีละหน่วย คือ ชุมนุมพระสูตรที่จัดรวมเข้าเป็นหมวดๆ เรียกว่า นิบาต หนึ่งๆ ตามลำดับจำนวนหัวข้อธรรมที่เพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่หมวด ๑ หมวด ๒ ฯลฯ ไปจนถึงหมวด ๑๑ รวม ๑๑ นิบาต หรือ ๑๑ หมวดธรรม มี ๙,๕๕๗ สูตร)


เล่ม ๒๐ เอก-ทุก-ติกนิบาท ว่า ด้วยธรรม หมวด ๑ (เช่น ธรรมเอกที่ฝึกอบรมแล้ว เหมาะแก่การใช้งาน ได้แก่ จิต องค์คุณภายในอันเอกที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ ได้แก่ ความไม่ประมาท ฯลฯ รวมทั้งเรื่องเอตทัคคะ) หมวด ๒ (เช่น สุข ๒ สิบสามชุด, คนพาล ๒ บัณฑิต ๒ ปฏิสันถาร ๒ ฤทธิ์ ๒ ฯลฯ) หมวด ๓ (เช่น มารดาบิดามีฐานะต่อบุตร ๓ อย่าง ความเมา ๓ อธิปไตย ๓ สิกขา ๓ ฯลฯ)

เล่ม ๒๑ จตุกกนิบาท ว่าด้วยธรรม หมวด ๔ (เช่น อริยธัมม์ หรือ อารยธรรม ๔ พุทธบริษัท ๔ ปธาน ๔ อคติ ๔ จักร ๔ สังคหวัตถุ ๔ ฯลฯ)


เล่ม ๒๒ ปัญจก-ฉักกนิบาต ว่าด้วยธรรม หมวด ๕ (เช่น พละ ๕ นิวรณ์ ๕ อภิณหปัจจเวกขณ์ ๕ นักรบ ๕ ฯลฯ) และ หมวด ๖ (เช่น สาราณียธรรม ๖ อนุตตริยะ ๖ คารวตา ๖ อภัพพฐาน ๖ ฯลฯ)


เล่ม ๒๓ สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ว่า ด้วยธรรมหมวด ๗ (เช่น อริยทรัพย์ ๗ อนุสัย ๗ อปริหานิยธรรม ๗ สัปปุริสธรรม ๗ กัลยาณมิตรธรรม ๗ ภรรยา ๗ ฯลฯ) หมวด ๘ (เช่น โลกธรรม ๘ คุณสมบัติของภิกษุที่จะไปเป็นทูต ๘ ทาน ๘ ทานวัตถุ ๘ ทิฏฐธัมมิก-สัมปรายิกัตถิกธรรม ๘ ฯลฯ) และหมวด ๙ (เช่น อาฆาตวัตถุ ๙ อนุปุพพนิโรธ ๙ อนุปุพพวิหาร ๙ นิพพานทันตา ๙ ฯลฯ)

เล่ม ๒๔ ทสก-เอกาทสกนิบาต ว่า ด้วยธรรม หมวด ๑๐ (เช่น สังโยชน์ ๑๐ สัญญา ๑๐ นาถกรณธรรม ๑๐ วัฑฒิธรรม ๑๐ ฯลฯ) และหมวด ๑๑ (เช่น ธรรมที่เกิดต่อจากกันตามธรรมดา ไม่ต้องเจตนา ๑๑ อานิสงส์เมตตา ๑๑ ฯลฯ)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 05:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

๕.ขุททกนิกาย (ชุมนุมพระสูตร คาถาภาษิต คำอธิบาย และเรื่องราวเบ็ดเตล็ดที่จัดเข้าในสี่นิกายแรกไม่ได้ ๑๕ คัมภีร์)

เล่ม ๒๕ รวมคัมภีร์ย่อย ๕ คือ

๑.ขุททกปาฐะ รวมบทสวดย่อยๆ เช่น มงคลสูตร รตนสูตร กรณียเมตตสูตร
๒.ธรรมบท บทแห่งธรรม หรือบทร้อยกรองเอ่ยเอื้อนธรรม มี ๔๒๓ คาถา
๓.อุทาน พระสูตรแสดงคาถาพุทธอุทาน มีความนำเป็นร้อยแก้ว ๘๐ เรื่อง
๔.อิติวุตตกะ พระสูตรที่ไม่ขึ้นต้นด้วย "เอวมฺเม สุตํ" แต่เชื่อมความเข้าสู่คาถาด้วยคำว่า "อิติ วุจฺจติ" รวม ๑๑๒ สูตร
๕.สุตตนิบาต ชุมนุมพระสูตรชุดพิเศษ ซึ่งเป็นคาถาล้วน หรือมีร้อยแก้วเฉพาะส่วนทีเป็นความนำ รวม ๗๑ สูตร

เล่ม ๒๖ มีคัมภีร์ย่อย ๔ ซึ่งเป็นบทประพันธ์ร้อยกรองคือคาถาล้วนได้แก่


๑.วิมานวัตถุ เรื่องผู้เกิดในสวรรค์อยู่วิมาน เล่าการทำความดีของตนในอดีต ที่ทำให้ได้ไปเกิดเช่นนั้น ๘๕ เรื่อง
๒.เปตวัตถุ เรื่องเปรตเล่ากรรมชั่วในอดีตของตน ๕๑ เรื่อง
๓.เถรคาถา คาถาของพระอรหันตเถระ ๒๖๔ รูปที่กล่าวแสดงความรู้สึกสงบประณีตในการบรรลุธรรม เป็นต้น
๔.เถรีคาถา คาถาของพระอรหันตเถรี ๗๓ รูป ที่กล่าวแสดงความรู้สึกเช่นนั้น

เล่ม ๒๗ ชาดก ภาค ๑ รวมบทร้อยกรองคือคาถาแสดงคติธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ และมีคาถาภาษิตของผู้อื่นปนอยู่บ้าง ภาคแรก ตั้งแต่เรื่องที่มีคาถาเดียว (เอกนิบาต) ถึงเรื่องมี ๔๐ คาถา (จัตตารีสนิบาต) รวม ๕๒๕ เรื่อง


เล่ม ๒๘ ชาดก ภาค ๒ รวมคาถาอย่างในภาค ๑ นั้น เพิ่มอีก แต่เป็นเรื่องอย่างยาว ตั้งแต่เรื่องมี ๕๐ คาถา (ปัญญาสนิบาต) ถึงเรื่องมีคาถามากมาย (มหานิบาต) จบลงด้วยมหาเวสันดารชาดก ซึ่งมี ๑,๐๐๐ คาถา ภาคนี้มี ๒๒ เรื่อง บรรจบทั้งสองภาค เป็น ๕๔๗ ชาดก

เล่ม ๒๙ มหานิทเทส ภาษิตของพระสารีบุตรอธิบายขยายความพระสูตร ๑๖ สูตร ในอัฏฐกวรรคแห่งสุตตนิบาต

เล่ม ๓๐ จูฬนิทเทส ภาษิตของพระสารีบุตรอธิบายขยายความพระสูตร ๑๖ สูตร ในปารายนวรรค และขัคควิสาณสูตร ในอุรวรรคแห่งสุตตนิบาต


เล่ม ๓๑ ปฏิสัมภิทามรรค ภาษิตของพระสารีบุตร อธิบายข้อธรรมที่ลึกซึ้งต่างๆ เช่น เรื่อง ฌาน ทิฏฐิ อานาปาน อินทรีย์ วิโมกข์ เป็นต้น อย่างพิสดาร เป็นทางแห่งปัญญาแตกฉาน


เล่ม ๓๒ อปทาน ภาค ๑ บทประพันธ์ร้อยกรอง (คาถา) แสดงพระอรหันต์ โดยเฉพาะในอดีตชาติ เริ่มด้วยพุทธอปทาน (ประวัติของพระพุทธเจ้า) ปัจเจกพุทธอปทาน (เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า) ต่อด้วยเถรอปทาน (อัตตประวัติแห่งพระอรหันตเถระ) เริ่มแต่พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ พระอนุรุทธะ ฯลฯ พระอานนท์ ต่อเรื่อยไปจนจบภาค ๑ รวม ๔๑๐ รูป

เล่ม ๓๓ อปทาน ภาค ๒ คาถาประพันธ์แสดงอัตตประวัติพระอหันตเถระต่ออีกจนถึงรูปที่ ๕๕๐

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 ธ.ค. 2019, 08:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

Kiss
คิดตรงเป็นไหมไม่มีอ้อมไปไหน
การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือเรียนความจริงที่กำลังมีที่กายใจตัวเอง
ไม่ใช่ไปคิดถึงคำต่างๆที่ตถาคตบัญญัติไว้ทั้งหมด
แต่เป็นการรู้ตรงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่ามีเดี๋ยวนี้ทันที
การู้ความจริงตรงสัจจะที่กายใจตัวเองกำลังมีรู้ตรงได้ทีละ1ทาง
เพราะจิตแต่ละทางเกิดไม่พร้อมกันเกิดสลับกันเป็นแต่ละ1ทางไม่ปนกัน
แต่ตอนนี้คนกันมั่วไปหมดทั้ง6ทางจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือสัจจะที่รู้ตามคำสอนได้
ไม่พึ่งคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้จักกิเลสตัวเองแล้วจะรู้อะไรได้เพราะมันไม่มีอะไรเหลือแล้วNOW
https://youtu.be/4bXu8bI0RgM
onion onion onion

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 08:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

Rosarin เขียน:
Kiss
คิดตรงเป็นไหมไม่มีอ้อมไปไหน
การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือเรียนความจริงที่กำลังมีที่กายใจตัวเอง
ไม่ใช่ไปคิดถึงคำต่างๆที่ตถาคตบัญญัติไว้ทั้งหมด
แต่เป็นการรู้ตรงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่ามีเดี๋ยวนี้ทันที
การู้ความจริงตรงสัจจะที่กายใจตัวเองกำลังมีรู้ตรงได้ทีละ1ทาง
เพราะจิตแต่ละทางเกิดไม่พร้อมกันเกิดสลับกันเป็นแต่ละ1ทางไม่ปนกัน
แต่ตอนนี้คนกันมั่งไปหมดทั้ง6ทางจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือสัจจะที่รู้ตามคำสอน
ไม่พึ่งคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้จักกิเลสตัวเองแล้วจะรู้อะไรได้เพราะมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว
https://youtu.be/4bXu8bI0RgM
onion onion onion


กายใจ กิเลส คุณโรสพืด เอ้ย พูดทุก คคห. แต่ไม่รู้ว่าอะไร :b32: แล้วจะพูดไปเพื่ออะไร เหมือนคนพูดถึงผี แต่ไม่เคยเห็นผี ผีผีผี ก็วาดภาพผีเอา ผีใครผีมัน :b12:

คุณโรสพูดถึงกิเลส ก็ว่า ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ พอเราถามว่าพระพุทธเจ้ามีกิเลสไหม ก็เฉไฉไปนั่นมานี่ มานี่ไปโน่น แล้วจะพูดไปเพื่ออะไร คิกๆๆ ไม่เข้าใจ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 08:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

(ต่อ)

ต่อนั้น เป็นเถรีอปทาน แสดงเรื่องราวของพระอรหันตเถรี ๔๐ เรื่อง เริ่มด้วยพระเถรีที่ไม่คุ้นนาม ๑๖ รูป ต่อด้วยพระเถรีที่สำคัญ คือ พระมหาปชาบดีโคตมี พระเขมา พระอุบลวรรณา พระปฏาจารา ฯลฯ พระยโสธรา และท่านอื่นๆ


ครั้นจบอปทานแล้ว ท้ายเล่ม ๓๓ นี้ มีคัมภีร์ พุทธวงส์ เป็นถาคาประพันธ์แสดงเรื่องของพระพุทธเจ้าในอดีต ๒๔ พระองค์ ที่พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันเคยได้ทรงเฝ้าและได้รับพยากรณ์ จนถึงประวัติของพระองค์เอง รวมเป็นพระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์

จบแล้ว มีคัมภีร์สั้นๆ ชื่อ จริยาปิฎก เป็นท้ายสุด แสดงพุทธจริยาในอดีตชาติ ๓๕ เรื่องที่มีแล้วในชาดก แต่เล่าด้วยคาถาประพันธ์ใหม่ ชี้ตัวอย่างการบำเพ็ญบารมีบางข้อ


ขุททกนิบาตนี้ เมื่อมองโดยภาพรวม ก็จะเห็นลักษณะที่กล่าวว่าเป็นที่ชุมนุมของคัมภีร์ปลีกย่อยเบ็ดเตล็ด คือ แม้จะมีถึง ๑๕ คัมภีร์ รวมได้ถึง ๙ เล่ม แต่


- มีเพียงเล่มแรกเล่มเดียว (๒๕) ที่หนักในด้านเนื้อหาหลักธรรม แต่ก็เป็นคัมภีร์เล็กๆ ในเล่มเดียวมีถึง ๕ คัมภีร์ ทุกคัมภีร์มีความสำคัญและลึกซึ้งมาก


- อีก ๓ เล่ม (๒๘-๒๙-๓๐) คือ นิทเทส และ ปฏิสัมภิทามรรค แม้จะแสดงเนื้อหาธรรมโดยตรง แต่ก็เป็นคำอธิบายของพระสาวก (พระสารีบุตร) ที่ไขความพุทธพจน์ที่มีอยู่แล้วในคัมภีร์ข้างต้น (ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของอรรถกถา)


- ที่เหลือจากนั้นอีก ๘ คัมภีร์ ล้วนเป็นบทประพันธ์ร้อยกรอง ที่มุ่งความไพเราะงดงามให้เร้าความรู้สึก เช่นเสริมศรัทธาเป็นต้น คือ


เล่ม ๒๖ วิมานวัตถุ เปตวัตถุ เถรคาถา เถรีคาถา เล่าประสบการณ์ความรู้สึก และคติของคนดี คนชั่ว ตลอดจนพระอรหันตสาวกที่จะเป็นตัวอย่าง/แบบอย่างสำหรับเร้าให้เกิดความรู้สึกสังเวช เตือนใจ และเร้ากำลังใจ ให้ละความชั่ว ทำความดี และบำเพ็ญเพียรอริยมรรค


เล่ม ๒๗-๒๘ ชาดก แสดงคติธรรมที่สั่งสอนและเร้าเตือนให้กำลังใจจากการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าเอง


เล่ม ๓๒-๓๓ อปทาน พุทธวงส์ จริยาปิฎก เป็นบทร้อยกรอง บรรยายประวัติ ปฏิปทา และจริยา ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวก ในแนวของวรรณศิลป์ที่จะเสริมปสาทะและจรรโลงศรัทธาในพระรัตนตรัย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 08:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

ก่อนต่ออภิธรรมปิฎก ขอถามคุณโรสขั้นรายการหน่อย

ที่กรัชกายพูดว่า คคห. บน จริง ไม่จริง มีช้อยให้เลือก 2 ข้อ

1. ไม่จริง

2. จริง

ข้อไหน 1 หรือ 2

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 09:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

ค.พระอภิธรรมปิฎก


ประมวลพุทธพจน์หมวดพระอภิธรรม คือ หลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นเนื้อหาวิชาล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคล หรือ เหตุการณ์ แบ่งเป็น ๗ คัมภีร์ (เรียกย่อหรือหัวใจว่า สํ วิ ธา ปุ ก ย ป) ๑๒ เล่ม ดังนี้

๑.ธัมมสังคณี
๒.วิภังค์
๓.ธาตุกถา
๔.ปุคคลบัญญัติ
๕.กถาวัตถุ
๖.ยมก
๗.ปัฏฐาน

(ทำความเข้าใจข้อความที่ขีดเส้นใต้ให้ชัด แล้วนำไปเทียบกับพระสูตรก่อนหน้า)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 09:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

เล่ม ๓๔ (ธัมม)สังคณี ต้นเล่มแสดงมาติกา (แม่บท) อันได้แก่บทสรุปแห่งธรรมทั้งหลายที่จัดเป็นชุดๆ มีทั้งชุด ๓ ชุด เช่น จัดทุกสิ่งทุกอย่างประดามี เป็นกุศลธรรม อกุศลธรรม อัพยากตธรรม ชุดหนึ่ง เป็นอดีตธรรม อนาคตธรรม ปัจจุบันธรรม ชุดหนึ่ง ฯลฯ และชุด ๒ เช่นจัดทุกสิ่งทุกอย่างเป็น สังขตธรรม อสังขตธรรม ชุดหนึ่ง โลกียธรรม โลกุตรธรรม ชุดหนึ่ง เป็นต้น รวมทั้งหมดมี ๑๖๔ ชุด หรือ ๑๖๔ มาติกา


ตอนต่อจากนั้น ซึ่งเป็นเนื้อหาส่วนสำคัญของคัมภีร์นี้เป็นคำวิสัชชนาขยายความมาติกาที่ ๑ เป็นตัวอย่าง แสดงให้เห็นกุศลธรรม อกุศลธรรม และอัพยากตธรรม ที่กระจัดกระจายไปในแง่ของจิต เจตสิก รูป และนิพพาน

ท้ายเล่มมีอีก ๒ บท แต่ละบทแสดงคำอธิบายย่อหรือคำจำกัดความข้อธรรมในมาติกาที่กล่าวถืงข้างต้นจนครบ ๑๖๔ มาติกา ได้คำจำกัดความข้อธรรมใน ๒ บท ต่างแนวกันเป็น ๒ แบบ (แต่บทท้ายจำกัดความไว้เพียง ๑๒๒ มาติกา)

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 ธ.ค. 2019, 09:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คิดตรงเป็นไหมไม่มีอ้อมไปไหน
การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือเรียนความจริงที่กำลังมีที่กายใจตัวเอง
ไม่ใช่ไปคิดถึงคำต่างๆที่ตถาคตบัญญัติไว้ทั้งหมด
แต่เป็นการรู้ตรงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่ามีเดี๋ยวนี้ทันที
การู้ความจริงตรงสัจจะที่กายใจตัวเองกำลังมีรู้ตรงได้ทีละ1ทาง
เพราะจิตแต่ละทางเกิดไม่พร้อมกันเกิดสลับกันเป็นแต่ละ1ทางไม่ปนกัน
แต่ตอนนี้คนกันมั่งไปหมดทั้ง6ทางจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือสัจจะที่รู้ตามคำสอน
ไม่พึ่งคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้จักกิเลสตัวเองแล้วจะรู้อะไรได้เพราะมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว
https://youtu.be/4bXu8bI0RgM
onion onion onion


กายใจ กิเลส คุณโรสพืด เอ้ย พูดทุก คคห. แต่ไม่รู้ว่าอะไร :b32: แล้วจะพูดไปเพื่ออะไร เหมือนคนพูดถึงผี แต่ไม่เคยเห็นผี ผีผีผี ก็วาดภาพผีเอา ผีใครผีมัน :b12:

คุณโรสพูดถึงกิเลส ก็ว่า ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ พอเราถามว่าพระพุทธเจ้ามีกิเลสไหม ก็เฉไฉไปนั่นมานี่ มานี่ไปโน่น แล้วจะพูดไปเพื่ออะไร คิกๆๆ ไม่เข้าใจ

Kiss
ทุกคนท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ
ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้
แต่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน
โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ
ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน
ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ
ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง
กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง
ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาถ
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 09:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

Rosarin เขียน:

ทุกคท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ
ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้
แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน
โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ
ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน
ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ
ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง
กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง
ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาถ


วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 09:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

เล่ม ๓๕ วิภังค์ ยกหลักธรรมสำคัญๆ ขึ้นมาแจกแจง แยกแยะอธิบายกระจายออกให้เห็นทุกแง่ และวินิจฉัยจนชัดเจนจบไปเป็นเรื่องๆ รวมอธิบายทั้งหมด ๑๘ เรื่อง คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อริยสัจจ์ ๔ อินทรีย์ ๒๒ ปฏิจจสมุปบาท สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ โพชฌงค์ ๗ มรรคมีองค์ ๘ ฌาน อัปปมัญญา ศีล ๕ ปฏิสัมภิทา ๔ ญาณประเภทต่างๆ และเบ็ดเตล็ด ว่า ด้วยอกุศลธรรมต่างๆ อธิบายเรื่องใด ก็เรียกว่า วิภังค์ ของเรื่องนั้น เช่น อธิบายเรื่องขันธ์ ๕ ก็เรียก ขันธวิภังค์ เป็นต้น รวมมี ๑๘ วิภังค์

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 ธ.ค. 2019, 09:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ทุกคท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ
ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้
แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน
โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ
ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน
ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ
ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง
กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง
ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาถ


วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ

คำสอนตรงมากๆ
พระพุทธศาสนา
แปลให้ตรงคำสอน
พระคือผู้ประเสริฐ
พุทธรู้ตื่นเบิกบาน
ศาสนาคือคำสอน
แปลรวมกันได้ว่า
พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม
ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 18:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ทุกคท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ
ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้
แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน
โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ
ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน
ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ
ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง
กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง
ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาถ


วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ

คำสอนตรงมากๆ
พระพุทธศาสนา
แปลให้ตรงคำสอน
พระคือผู้ประเสริฐ
พุทธรู้ตื่นเบิกบาน
ศาสนาคือคำสอน
แปลรวมกันได้ว่า
พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม
ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ
:b32: :b32:



:b32: โจทก์เขาถามว่า วัตถุที่พูดบ่อยๆนั่นมันอะไร ให้โอกาสอีกที ทีนี้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ว่านั่นมาดู :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 18:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส)

เล่ม ๓๖ มี ๒ คัมภีร์ คือ ธาตุกถา นำข้อธรรมในมาติกาทั้งหลาย และข้อธรรมอื่นๆ อีก ๑๒๕ อย่าง มาจัดเข้าในขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ ว่า ข้อใด จัดเข้าได้ หรือ ไม่ได้ในอย่างไหนๆ และ ปุคคลบัญญัติ บัญญัติ ความหมายของชื่อที่ใช้เรียกบุคคลต่างๆ ตามคุณธรรม เช่น ว่า โสดาบัน ได้แก่ "บุคคลผู้ละสังโยชน์ ๓ ได้แล้ว" ดังนี้เป็นต้น

หน้า 5 จากทั้งหมด 8 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/