ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=58363 |
หน้า 6 จากทั้งหมด 8 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 ธ.ค. 2019, 18:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
เล่ม ๓๗ กถาวัตถุ คัมภีร์ที่พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานการสังคายนาครั้งที่ ๓ เรียบเรียงขึ้นเพื่อแก้ความเห็นผิดของนิกายต่างๆ ในพระพุทธศาสนาครั้งนั้น ซึ่งได้แตกแยกกันออกไปแล้วถึง ๑๘ นิกาย เช่น ความเห็นว่า พระอรหันต์เสื่อมจากอรหัตผลได้ เป็นพระอรหันต์พร้อมกับการเกิดได้ ทุกอย่างเกิดจากกรรม เป็นต้น ประพันธ์เป็นคำปุจฉา วิสัชนา มีทั้งหมด ๒๑๙ กถา |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 05:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
เล่ม ๓๘ ยมก ภาค ๑ คัมภีร์ยมกนี้ อธิบายหลักธรรมสำคัญให้เห็นความหมาย และขอบเขตอย่างชัดเจน และทดสอบความรู้อย่างลึกซึ้ง ด้วยวิธีตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ๆ (ยมก แปลว่า คู่) เช่น ถามว่า "ธรรมทั้งปวงที่เป็นกุศล เป็นกุศลมูล หรือว่า ธรรมทั้งปวงที่เป็นกุศลมูล เป็นกุศล" "รูป (ทั้งหมด) เป็นรูปขันธ์ หรือว่ารูปขันธ์ (ทั้งหมด) เป็นรูป" "ทุกข์ (ทั้งหมด) เป็นทุกขสัจจ์ หรือว่า ทุกขสัจจ์ (ทั้้งหมด) เป็นทุกข์" หลักธรรมที่นำมาอธิบายในเล่มนี้ มี ๗ คือ มูล (เช่นกุศลมูล) ขันธ์ อายตนะ ธาตุ สัจจะ สังขาร อนุสัย ถามตอบอธิบายเรื่องใด ก็เรียกว่า ยมก ของเรื่องนั้นๆ เช่น มูลยมก ขันธยมก เป็นต้น เล่มนี้ จึงมี ๗ ยมก เล่ม ๓๙ ยมก ภาค ๒ ถามตอบอธิบายหลักธรรมเพิ่มเติมจากภาค ๑ อีก ๓ เรื่อง คือ จิตตยมก ธรรมยมก (กุศล - อกุศล - อัพยากตธรรม) อินทรียยมก บรรจบเป็น ๑๐ ยมก |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 07:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
เล่ม ๔๐ ปัฏฐาน ภาค ๑ คัมภีร์ปัฏฐาน อธิบายปัจจัย ๒๔ โดยพิสดาร แสดงความสัมพันธ์อิงอาศัยเป็นปัจจัยแก่กันแห่งธรรมทั้งหลายในแง่ ด้าน ต่างๆ ธรรมที่นำมาอธิบายก็คือ ข้อธรรมที่มีในมาติกา คือ แม่บท หรือบทสรุปธรรม ซึ่งกล่าวไว้แล้วในต้นคัมภีร์สังคณีนั่นเอง แต่อธิบายเฉพาะ ๑๒๒ มาติกาแรกที่เรียกว่า อภิธรรมมาติกา ปัฏฐานเล่มแรกนี้ อธิบายความหมายของปัจจัย ๒๔ เป็นการปูพื้นความเข้าใจเบื้องต้นก่อน จากนั้น จึงเข้าสู่เนื้อหาของเล่ม คือ อนุโลมติกปัฏฐาน อธิบายเป็นปัจจัยแก่กันแห่งธรรมทั้งหลายในแม่บทชุด ๓ (ติกมาติกา) โดยปัจจัย ๒๔ นั้น เช่นว่า กุศลธรรมเป็นปัจจัยแก่กุศลธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัยอย่างไร กุศลธรรมเป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัยอย่างไร อกุศลธรรมเป็นปัจจัยแก่กุศลธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัยอย่างไร กุศลธรรมเป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมโดยอารัมมณปัจจัยอย่างไร ฯลฯ ฯลฯ (เล่มนี้ อธิบายแต่ในเชิงอนุโลม คือ ตามนัยปกติ ไม่อธิบายตามนัยปฏิเสธ จึงเรียกว่า อนุโลมปัฏฐาน) |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2019, 15:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ทุกคนท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้ แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาภ วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ คำสอนตรงมากๆ พระพุทธศาสนา แปลให้ตรงคำสอน พระคือผู้ประเสริฐ พุทธรู้ตื่นเบิกบาน ศาสนาคือคำสอน แปลรวมกันได้ว่า พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ โจทก์เขาถามว่า วัตถุที่พูดบ่อยๆนั่นมันอะไร ให้โอกาสอีกที ทีนี้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ว่านั่นมาดู กระทบมหาภูตรูปทั้งวันเอาล่ะสิมหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งตอนที่กายไปกระทบก็ไม่มีเราแล้ว คนเดียวนอนแค่หลังติดพื้นหลังเดียวไม่รู้กระทั่งว่าเห็นบาตรเห็นกุฏิเห็นศาลาไม่ได้ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2019, 16:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
จักขุวิญญาณรู้ได้แค่มีสีมากระทบที่ตาดำดับมืดทันทีมีวัตถุนอกตาได้ไหมคะ ทีนี้วัตถุต่างๆเนี่ยเป็นการประกอบของธาตุ4มารวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด การจะรู้ว่ามีที่ตั้งไม่ใช่จากการมองเห็นเพราะมหาภูตรูปเห็นไม่ได้ รู้ที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายสัมผัสคือใช้ประสาทกายสัมผัส |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 16:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ทุกคนท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้ แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาภ วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ คำสอนตรงมากๆ พระพุทธศาสนา แปลให้ตรงคำสอน พระคือผู้ประเสริฐ พุทธรู้ตื่นเบิกบาน ศาสนาคือคำสอน แปลรวมกันได้ว่า พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ โจทก์เขาถามว่า วัตถุที่พูดบ่อยๆนั่นมันอะไร ให้โอกาสอีกที ทีนี้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ว่านั่นมาดู กระทบมหาภูตรูปทั้งวันเอาล่ะสิมหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งตอนที่กายไปกระทบก็ไม่มีเราแล้ว คนเดียวนอนแค่หลังติดพื้นหลังเดียวไม่รู้กระทั่งว่าเห็นบาตรเห็นกุฏิเห็นศาลาไม่ได้ เพ้อเจ้อไปตามอัธยาศัย ไหนคุณโรสลองตอบชัดๆตามที่ถามสักทีสิ บาตร, กุฏิ, ศาลา มีไหม ตอบ มี ไม่มี |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 16:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
Rosarin เขียน: Kiss จักขุวิญญาณรู้ได้แค่มีสีมากระทบที่ตาดำดับมืดทันทีมีวัตถุนอกตาได้ไหมคะ ทีนี้วัตถุต่างๆเนี่ยเป็นการประกอบของธาตุ4มารวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด การจะรู้ว่ามีที่ตั้งไม่ใช่จากการมองเห็นเพราะมหาภูตรูปเห็นไม่ได้ รู้ที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายสัมผัสคือใช้ประสาทกายสัมผัส เลอะเทอะเปรอะเปื้อน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2019, 17:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss จักขุวิญญาณรู้ได้แค่มีสีมากระทบที่ตาดำดับมืดทันทีมีวัตถุนอกตาได้ไหมคะ ทีนี้วัตถุต่างๆเนี่ยเป็นการประกอบของธาตุ4มารวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด การจะรู้ว่ามีที่ตั้งไม่ใช่จากการมองเห็นเพราะมหาภูตรูปเห็นไม่ได้ รู้ที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายสัมผัสคือใช้ประสาทกายสัมผัส เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เห็นแค่สี1สี คนเรานะถ้าคิดเองได้ พระพุทธเจ้าจะบอกให้ฟังไหม เออแล้วฟังเนี่ยก็ต้องฟังจากคนที่ไม่ลำเอียง คือเถรตรงก็บอกแล้วว่าความจริงอ้อมหลงทางไปแล้ว มันก็หลงทางไปแล้วและไม่รู้ด้วยว่าเดินหลงทางและหาทางไม่เจอ พอมีคนมาตะโกนบอกในความมืดเนี่ยไม่สนใจขุดไม่เจอตาน้ำบอกว่าทางนี้ๆก็ไม่ฟัง ตาก็ไม่บอดบอกให้คิดตามตอนมองดู/ดูว่าตัวเองเห็นอะไรแตกต่างจากเห็นของตถาคตมากขนาดไหน ไม่เห็นอ่ะ...บอดสนิท |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2019, 17:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss จักขุวิญญาณรู้ได้แค่มีสีมากระทบที่ตาดำดับมืดทันทีมีวัตถุนอกตาได้ไหมคะ ทีนี้วัตถุต่างๆเนี่ยเป็นการประกอบของธาตุ4มารวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด การจะรู้ว่ามีที่ตั้งไม่ใช่จากการมองเห็นเพราะมหาภูตรูปเห็นไม่ได้ รู้ที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายสัมผัสคือใช้ประสาทกายสัมผัส เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เห็นแค่สี1สี คนรานะถ้าคิดเองได้ พระพุทธเจ้าจะบอกให้ฟังไหม เออแล้วฟังเนี่ยก็ต้องฟังจากคนที่ไม่ลำเอียงว คือเถรตรงก็บอกแล้วว่าความจริงอ้อมหลงทางไปแล้ว มันก็หลงทางไปแล้วและไม่รู้ด้วยว่าเดินหลงทางและหาทางไม่เจอ พอมีคนมาตะโกนบอกในความมืดเนี่ยไม่สนใจขุดไม่เจอตาน้ำบอกว่าทางนี้ๆก็ไม่ฟัง ตาก็ไม่บอดบอกให้คิดตามตอนมองดู/ดูว่าตัวเองเห็นอะไรแตกต่างจากเห็นของตถาคตมากขนาดไหน ไม่เห็นอ่ะ...บอดสนิท เห็นสี1ขณะมีแค่1สีกระทบตาดำแล้วมืดทันที/สีล้วนสีเดียวกระทบประสาทตาเอากระดาษเปล่ามานั่งดูซะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 19:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ทุกคนท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้ แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาภ วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ คำสอนตรงมากๆ พระพุทธศาสนา แปลให้ตรงคำสอน พระคือผู้ประเสริฐ พุทธรู้ตื่นเบิกบาน ศาสนาคือคำสอน แปลรวมกันได้ว่า พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ โจทก์เขาถามว่า วัตถุที่พูดบ่อยๆนั่นมันอะไร ให้โอกาสอีกที ทีนี้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ว่านั่นมาดู กระทบมหาภูตรูปทั้งวันเอาล่ะสิมหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งตอนที่กายไปกระทบก็ไม่มีเราแล้ว คนเดียวนอนแค่หลังติดพื้นหลังเดียวไม่รู้กระทั่งว่าเห็นบาตรเห็นกุฏิเห็นศาลาไม่ได้ เพ้อเจ้อไปตามอัธยาศัย ไหนคุณโรสลองตอบชัดๆตามที่ถามสักทีสิ บาตร, กุฏิ, ศาลา มีไหม ตอบ มี ไม่มี เอาคำพูดของตัวเองแท้ๆมาถาม แต่ก็ตอบไม่ได้ พูดไปเรื่อยเปื่อยแต่หาเข้าใจเนื้อสาระสิ่งที่พูดนั้นไม่ อันนี้ชัดเตาปูน เอ้ย ไม่ใช่ ชัดเจน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ธ.ค. 2019, 19:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ข้อต่อไป เล่ม ๔๑ ปัฏฐาน ภาค ๒ อนุโลมติกปัฏฐาน ต่อ คือ อธิบายความเป็นปัจจัยแก่กันแห่งธรรมทั้งหลายในแม่บทชุด ๓ ต่อจากเล่ม ๔๐ เช่น อดีตธรรมเป็นปัจจัยแก่ปัจจุบันธรรมโดยอารัมมณปัจจัย (พิจารณา รูป เสียง เป็นต้น ที่ดับเป็นอดีตไปแล้ว ว่าเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เกิดความโทมนัสขึ้น ฯลฯ) เป็นต้น เล่ม ๔๒ ปัฏฐาน ภาค ๓ อนุโลมทุกปัฏฐาน อธิบายความเป็นปัจจัยแก่กันแห่งธรรมทั้งหลาย ในแม่บทชุด ๒ (ทุกมาติกา) เช่น โลกียธรรมเป็นปัจจัยแก่โลกียธรรม โดยอารัมมณปัจจัย (รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ) ดังนี้ เป็นต้น เล่ม ๔๓ ปัฏฐาน ภาค ๔ อนุโลมทุกปัฏฐาน ต่อ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2019, 19:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ทุกคนท่องกาลามสูตร10ไว้ก่อนทำ ไว้ใจหน้าคนที่จะรับเงินใช่ไหมถึงให้ แค่พระพุทธเจ้าบอกให้ฟังคำสอนก่อน โรสเป็นหญิงประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ได้แต่งตัวให้ดูดีไปหลอกชาวบ้านแล้วขอเงิน ขอบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทนะ ทำไม่ได้ก็รู้จักตัวเองสิว่าต้องลาสิกขาบทหรือหน้าบาง กิเลสหนาอยากได้เงินแบบไม่ต้องทำงานได้ลาภได้ชื่อเสียง ทั้งมีคนมากราบไหว้ทั้งคนเข้าใจผิดให้เงินหาทางสร้างวัตถุมากๆเพื่อเรียกลาภ วัตถุตามที่คุณโรสเข้าใจได้แก่อะไร เอาชัดๆ คำสอนตรงมากๆ พระพุทธศาสนา แปลให้ตรงคำสอน พระคือผู้ประเสริฐ พุทธรู้ตื่นเบิกบาน ศาสนาคือคำสอน แปลรวมกันได้ว่า พระพุทธศาสนาคือคำสอนผู้ประสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน มีคำว่าวัตถุที่แปลและตีความตรงความหมายคำสอนไหม ตถาคคยกตัวคนขึ้นแทนคำสอนหรือคะหรือยกให้อาจารย์คนไหนเป็นศาสดาแทนตถาคตเหรอ โจทก์เขาถามว่า วัตถุที่พูดบ่อยๆนั่นมันอะไร ให้โอกาสอีกที ทีนี้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ว่านั่นมาดู กระทบมหาภูตรูปทั้งวันเอาล่ะสิมหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งตอนที่กายไปกระทบก็ไม่มีเราแล้ว คนเดียวนอนแค่หลังติดพื้นหลังเดียวไม่รู้กระทั่งว่าเห็นบาตรเห็นกุฏิเห็นศาลาไม่ได้ เพ้อเจ้อไปตามอัธยาศัย ไหนคุณโรสลองตอบชัดๆตามที่ถามสักทีสิ บาตร, กุฏิ, ศาลา มีไหม ตอบ มี ไม่มี เอาคำพูดของตัวเองแท้ๆมาถาม แต่ก็ตอบไม่ได้ พูดไปเรื่อยเปื่อยแต่หาเข้าใจเนื้อสาระสิ่งที่พูดนั้นไม่ อันนี้ชัดเตาปูน เอ้ย ไม่ใช่ ชัดเจน ถ้ามีปัญญาอ่านเข้าใจ ก็รู้คำตอบไปแล้ว บอกหลายครั้ง ว่าไม่เข้าใจ อ่านใหม่ จนกว่าจะได้คำตอบ เพราะการถามคือผู้ถามสงสัยค่ะ คนถูกถามไม่สงสัยค่ะการตอบง่ายๆทำให้คนถามสิ้นคิดค่ะ การตอบคำถามที่ถูกต้องตามคำตถาคตคนอ่านต้องคิดให้ลึกซื้งถึงจะได้คำตอบ ถ้าตอบไม่ได้แสดงว่าปัญญาคนถามมียังไม่พอจึงต้องฟังต่อไปจนกว่าจะหายสงสัยจึงจะเลิกถามงัยคะ อ่านทบทวนก็ได้คำตอบเพราะคนถูกถามตอบไว้ละเอียดทุกกระทู้เลยจ้ะ |
เจ้าของ: | muisun [ 23 ธ.ค. 2019, 20:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
ความสงสัยเป็นเครื่องกั้นการใส่ดี ดับความสงสัยได้เป็นโสดา ตอบง่ายๆ ใส่ดีได้ ตอบยากๆ ใส่ดีไม่เป็น วนซะจนหาที่จบไม่เจอ ตอบไม่ได้ย่อมมีอาการ 5 อย่าง 1.ฉุนเฉียวแสดงความโกรธ 2.เก้อเขิน คอตก ซบเซา 3.พูดกลบเกลื่อนไปเรื่องอื่น 4. พูดจาเย้ยหยันลบหลู่ ดูหมิ่น 5. นิ่งเงียบ พูดไม่ออก การตอบได้ ผู้ฟังจะรู้ทันและเข้าใจ หมดความสงสัย หมดคำถามทันที จากสายสืบนิสัยศาสตร์ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 24 ธ.ค. 2019, 05:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
Rosarin เขียน: ถ้ามีปัญญาอ่านเข้าใจ ก็รู้คำตอบไปแล้ว บอกหลายครั้ง ว่าไม่เข้าใจ อ่านใหม่ จนกว่าจะได้คำตอบ เพราะการถามคือผู้ถามสงสัยค่ะ คนถูกถามไม่สงสัยค่ะการตอบง่ายๆทำให้คนถามสิ้นคิดค่ะ การตอบคำถามที่ถูกต้องตามคำตถาคตคนอ่านต้องคิดให้ลึกซื้งถึงจะได้คำตอบ ถ้าตอบไม่ได้แสดงว่าปัญญาคนถามมียังไม่พอจึงต้องฟังต่อไปจนกว่าจะหายสงสัยจึงจะเลิกถามงัยคะ อ่านทบทวนก็ได้คำตอบเพราะคนถูกถามตอบไว้ละเอียดทุกกระทู้เลยจ้ะ ตอบตรงไหน เขาถามว่าเนี่ยมีไหม บาตร, กุฏิ, ศาลา มีไหม บาตร มีไหม กุฎิ มีไหม ศาลา มีไหม เคยเห็นศาลาไหม คุณโรสไม่เข้าใจพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจสมมุติบัญญัติ ไม่เข้าใจปรมัตถ์ ฟังดู ดูดูเหมือนจะพูดปรมัตถ์ แต่ไม่เข้าใจปรมัตถ์ ตัวอย่างที่พูดที่ยกมานั่นแหละ คุณโรสพยายามจะพูดปรมัตถ์ แต่ไม่เข้าใจปรัมัตถ์ ไม่เข้าใจสมมุติ จบข่าว เสียเวลาหุงข้าวเช้าเปล่าๆ คนรุ่นยายรุ่นย่า ตื่นขึ้นมาหุงข้าวใส่บาตร ใช้ฟืนใช้ถ่าน แต่ปัจจุบันนี้ดีหน่อยใช้หม้อไฟฟ้า แต่คุณโรสก็ให้กลับไปใช้ฟืนใช้ใต้อีก คิกๆๆ ปัดโท่โว้ย |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 24 ธ.ค. 2019, 05:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไตรปิฎก และอรรถกถา (เพื่อคุณโรส) |
เข้าเรื่องข้อต่อไป เล่ม ๔๔ ปัฏฐาน ภาค ๕ ยังเป็นอนุโลมปัฏฐาน แต่อธิบายความเป็นปัจจัยแก่กันแห่งธรรมทั้งหลายในแม่บทต่างๆ ข้ามชุดกันไปมา ประกอบด้วยอนุโลมทุกติกปัฏฐาน ธรรมในแม่บทชุด ๒ (ทุกมาติกา) โยงกับธรรมในแม่บทชุด ๓ (ติกมาติกา) เช่น อธิบาย "กุศลธรรมที่เป็นโลกุตรธรรมเป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เป็นโลกียธรรม โดยอธิปติปัจจัย" เป็นอย่างไร เป็นต้น อนุโลมติกทุกปัฏฐาน ธรรมในแม่บทชุด ๓ (ติกมาติกา) โยงกับธรรมในแม่บทลชุด ๒ (ทุกมาติกา) อนุโลมติกติกปัฏฐาน ธรรมในแม่บทชุด ๓ (ติกมาติกา) โยงกับธรรมในแม่บทชุด ๓ (ติกมาติกา) โยงระหว่างต่างชุดกัน เช่น อธิบายว่า "กุศลธรรมที่เป็นอดีตธรรม เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เป็นปัจจุบันธรรม" เป็นอย่างไร เป็นต้น อนุโลมทุกทุกปัฏฐาน ธรรมในแม่บทชุด ๒ (ทุกมาติกา) กับ ธรรมในแม่บทชุด ๒ (ทุกมาติกา) โยงระหว่างต่างชุดกัน เช่น ชุดโลกียะโลกุตระ กับ ชุดสังขตะอสังขตะ เป็นต้น |
หน้า 6 จากทั้งหมด 8 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |