วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2019, 05:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ความหลุดพ้น ที่มนุษย์ทุกคนพึงหานั้น อยู่ที่ตนเอง หากตนเองมุ่งปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะได้พบไม่ยาก ขอให้มุ่งปฏิบัติเถิด อาตมามุ่งปฏิบัติ จึงได้ค้นพบทางที่จะเดินไปสู่ทางดับ อาตมามาสู่ชั้นพรหมโลกนี้ ได้พบกับโยมชายผู้นี้ ได้ขอให้อาตมาแสดงธรรมโปรดให้กับมนุษย์ได้รู้ ธรรมะที่อาตมาจะสอนนั้น เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้
อาตมาเป็นศิษย์ มีความรู้เพียงน้อย ได้แต่ฟังและนำมาบอกเล่าต่อให้ได้รู้
" การหลุดพ้นนั้น จะต้องทำจิตของตนให้หมด
กิเลส หมดสิ้นจากทุกข์ทุกอย่าง หมดสิ้นจากราคะ หมดสิ้นจากสิ่งที่อยากจะได้ สิ่งที่เรียกว่า โลภ โกรธ หลง (โลภะ โทสะ โมหะ) ตัดสิ่งนี้ให้หมดสิ้น และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้พบทางหลุดพ้น อาตมาทำตามวิธีนี้ จึงได้พบกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า เป็นทางดับที่แท้จริง "
อาตมาขอแสดงธรรมเพียงเท่านี้
เจริญพร

หลวงพ่อเกษม เขมโก
สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง







ขอให้กิเลสสิ้นไปด้วยความเพียรของเราเถอะ
มีความเพียรเป็นหลักตั้ง
ความเพียรนี้แหละจะเป็นกุญแจเปิดตู้มรรคผลนิพพาน
ถ้าขี้เกียจเสียอย่างเดียวไม่เป็นท่า
เรื่องกินแล้วขยันยิ่งกว่าลิงใช้ไม่ได้อย่างนั้น
การประกอบความเพียรให้เร็วให้คล่องตัว
สติปัญญาให้คล่องตัว
นั้นละกิเลสจะกลัว

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน







"....เกศา-ผม, โลมา-ขน, นขา-เล็บ, ทันตา-ฟัน, ตโจ-หนัง
ตะจะปริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ปูโรนานัปปการัสสะอสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่างๆ นี้แหละ
ลืมตาขึ้นมา ให้มันเห็น แล้วตั้งใจทำอยู่อย่างนั้น
ไม่ใช่ทำวันเดียว เดือนเดียว หรือปีหนึ่ง ทำเอาตาย เอาชีวิตเป็นแดน......."

หลวงปู่ขาว อนาลโย






“ไปเดือดร้อนอะไรกับคนนินทา ใครนินทา
เราไม่ได้ยิน ไม่ใส่ใจก็สบาย คนนินทาน่ะ
เป็นยาชูกำลังที่จะเตือนตัวเอง เขาติดีกว่าเขาชม
จะได้รู้ตัว ถ้าเราเป็นอย่างนั้น จะได้ปรับปรุง
เราจะไปโกรธเขาทำไม ถ้าไปโกรธเขาก็เรียกว่า
เราแพ้ตัวเอง”

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร







“เมื่อเราเห็นด้วยตนเอง และเข้าใจเรื่องกิเลสแล้ว
เราจะเห็นความทุกข์หลายๆ อย่าง ในชีวิตเรานี้
ไม่จำเป็นเลย มันไม่ได้เกิดเพราะดวงไม่ดี หรือเพราะ
กรรมเก่า แต่เกิดเพราะความคิดผิดของเราต่างหาก”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ






“ใครจะว่าเราดี เราชั่วนั้น
ไม่ใช่อยู่ที่คนพูด แต่อยู่ที่
การกระทำของเราต่างหาก
ถ้าหากเขาว่าเราดี แต่เราไม่ดีจริง
ก็ไม่มีความหมาย”

หลวงพ่อเกษม เขมโก






"เมื่ออะไรเกิดขึ้นในชีวิต
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่คนอื่นทำให้
อย่าคิดว่าเป็นโชคชะตาราศี
อย่าคิดว่าดวงดี ดวงไม่ดี
อย่าคิดว่าอะไรๆ มาทำให้เป็น
แต่จงคิดให้ถูกต้องว่า
ฉันเองนี่แหละ เป็นผู้ทำสิ่งนั้น"

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ








“กรรมดีหรือชั่ว ถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่น จะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั่นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด
ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเรา พูดจริงพูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องของกรรม
พอตายไปแล้ว ยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก
จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว จะอธิบายบอกเล่าให้ฟังเอง”

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม







“อย่าลืมว่ารากเหง้าของความทุกข์ อยู่ที่ใจเราเอง
ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น หากไม่แก้ที่ใจของตน จะไปไหน
ก็หนีทุกข์ไม่พ้น”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล







“คนที่เจริญสติเป็น แล้วเห็นความไม่พอใจเกิดได้
แล้วสามารถระงับความไม่พอใจที่เกิดขึ้น หากมีผู้ใด
แสดงออก ทางกาย วาจา ใจ ให้ความไม่พอใจเกิดขึ้น
เราจะระงับใจว่า เพราะเขาไม่มีสติ เจริญสติไม่เป็น
ไม่สามารถยับยั้งการพูด การแสดงออก ไม่สามารถ
ดูแลจิตใจตัวเองได้ เราย่อมให้อภัยทาน แก่ผู้ที่ปฏิบัติ
ได้น้อยกว่า ด้วยความเมตตา
ผู้มีสติปัญญามากกว่า ย่อมหาความสงบสุขให้แก่ใจ
ด้วยอภัยทาน"

หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป







“โดยปกติในชีวิตประจำวัน
เมื่อเกิดอารมณ์หงุดหงิด ไม่พอใจ
เราชอบระบายความรู้สึกออกไป
โดยการดุ หรือพูดอะไร ให้คนอื่นเจ็บใจ
แต่ถ้าเรารู้สึกตัว แล้วไม่พูดอย่างงั้น
เราก็จะได้ ธรรมะหลายข้อ
ความรู้สึกตัวว่า กำลังหงุดหงิด คือ สติ
การที่ไม่ทำตามความรู้สึกนั้น คือ ความอดทน
และ เมื่อความเศร้าหมองในใจเราหาย
เกิดสำนึกในความไม่เที่ยงของอารมณ์
ความไม่เป็นตัวเป็นตนของอารมณ์นั่น คือ
ตัวปัญญา
การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เป็นอย่างนี้”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ








"ทำความดี อย่าไปท้อ คนไม่เห็นความดีของเรา
ก็ขอให้เราเห็นความดีของเรา ก็แล้วกัน
เราทำความดีเพื่อเรา ไม่ได้ทำความดีเพื่อผู้อื่นใด"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน





"โลกแห่งเทคโนโลยี ชวนให้หลง
เครื่องประหยัดเวลา ทําให้เสียเวลาง่ายขึ้น
เครื่องสื่อสาร อาจทําให้ทะเลาะกันบ่อยขึ้น
อยู่ในโลกยุ่งเหยิง ต้องมีสติ สํารวมระวัง รู้เท่าทัน"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ








"สิ่งที่ให้ร้ายได้ที่สุดก็คือ คำพูด
ให้ดีที่สุดก็คือ คำพูด
ต้องได้ระมัดระวังกันอย่างมาก
เป็นสิ่งที่ให้โทษ ให้คุณมากที่สุด
ก็คือคำพูด
ท่านจึงว่า ปากเป็นเอก เลขเป็นโท
หนังสือเป็นตรี ทั้งนี้ก็เพราะ
ปากเป็นหนึ่งในการแสดงออก
แก่ผู้อื่น และสังคมนั่นเอง"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน







"เมตตาธรรม เป็นคุณธรรมที่สามารถตัดห่วงโซ่
แห่งเวรกรรมได้ เมื่อมีผู้ใดกระทำสิ่งที่น่าเจ็บใจ
หรือสิ่งที่ไม่ชื่นชอบให้แก่เรา หากเรามีเมตตาพอ
เราก็ให้อภัยเขาได้ ไม่ผูกโกรธต่อเขา เราก็จะ
ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา เมื่อเราไม่มีความคิด
แก้แค้น เวรทุกอย่าง ก็สิ้นสุดลง"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ







“คนจำนวนมากรักแล้วทุกข์
เพราะเชื่อว่ารักแล้วจะไม่ทุกข์”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







"ผู้ที่มีความพอแล้ว ย่อมมีความพอใจ
ในภาวะ และฐานะของตน จนกระทั่ง
ไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องนำตน
ไปเปรียบกับผู้อื่น"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ







"อย่าพยายามทำคนอื่นให้เหมือนใจเรา
เพราะเราก็ทำให้เหมือนใจคนอื่นไม่ได้
อย่าทำตัวเป็นผู้รับฝ่ายเดียว
จงทำตัวเป็นผู้ให้ด้วย
อย่าทำตัวให้เด่นกว่างาน
จงพยายามทำงานให้เด่นกว่าตัว
อย่าทำบ้านให้แข็งแรงกว่าพื้นฐาน
จงทำพื้นฐานให้แข็งแรงกว่าบ้าน
อย่าพยายามทำสิ่งที่ได้ให้เท่ากับใจ
จงพยายามทำใจให้เท่ากับสิ่งที่ได้"

หลวงปู่จันทร์ กุสโล







"ปัญญาทางพุทธศาสนา ไม่ได้หมายถึงว่า
เป็นคนไอคิวสูง เป็นคนเฉลียวฉลาดทางโลก
แต่หมายถึงว่า เป็นผู้ฉลาดทางธรรม
ความฉลาดทางธรรม มีความหมายว่า
เรามีอุบายที่จะระงับทุกข์ได้ แก้ปัญหาในชีวิตได้
จนถึงระดับไม่มีปัญหา"

พระอาจารย์ญาณธัมโม







"ลองลดความคาดหวังดูบ้าง ยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น
คุณจะพบว่า จิตนิ่งขึ้น และดิ้นน้อยลง จะว่าไปแล้ว
ความทุกข์นั้น มิได้มาจากไหน แต่มาจากใจ ที่ดิ้นรน
ขัดขืน เพราะไม่ยอมรับความจริงนั่นเอง"

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล






“โดยมาก คนเรามักมีอคติ คนนี้พวกเราเข้าข้าง
ทำดีเราก็สรรเสริญ แม้ทำไม่ดี เราก็ยังยกย่อง
คนไหนที่ไม่ใช่พวกเรา ทำดีอย่างไร เราก็อิจฉา
ไม่ชอบ ไม่พอใจ เพราะไม่ใช่พวกเรา ยิ่งถ้าทำไม่ดีแล้ว
เราก็ไม่ยอมให้อภัย
นั่นมันไม่ดีสำหรับใจเรา ไม่ใช่ดีชั่วอยู่ที่ตัวเขา
แต่ดีชั่วมันอยู่ที่ใจเราเสียแล้ว เพราะเราคิดไม่ดีกับคนอื่น"

หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ









“เครื่องวัดความเจริญของจิตใจ
ขอให้เราดูว่า เรามีความเมตตากรุณา
มากขึ้นหรือน้อยลง มีความเห็นแก่ตัว
มากขึ้นหรือน้อยลง อันนี้แหละ
เป็นเครื่องวัดจิตใจของพวกเรา”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต








“จงคิดเสียว่า...
เรามีกรรมเก่าที่เคยทำให้เขาไม่ชอบใจไว้
มาชาตินี้ เขาจึงได้จองล้างจองผลาญเรา
เราคิดให้อภัยเสีย มันก็จะปลอดภัย”

หลวงปู่ฤาษีลิงดำ








"เป็นครูสอนคนอื่นก็ดีอยู่ หากสอนตัวเองด้วย
ก็จะดีมากขึ้น เราตรวจคะแนนให้คนอื่น ข้อนี้ถูก
ข้อนั้นผิด เราเคยตรวจดูตัวเองบ้างหรือเปล่า
วันเวลาผ่านไป ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คะแนนฝ่ายดี
กับคะแนนฝ่ายชั่วนั้น ข้างไหนมันมากน้อยกว่ากัน
กลับไปตรวจตัวเองเด้อ
ศีลมีมากหลายข้อ ไม่ต้องรักษาหมดทุกข้อดอก
รักษาแต่ใจของเจ้าอย่างเดียวให้ดี กาย วาจาก็จะดี
ไปด้วยกันนั่นแหละ"

หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต







“รักได้ ชอบได้ อย่าไปหวังอะไรไปมากมายกว่านี้
มีหวังได้ แต่อย่าหวังมากมาย จนเกินไป เพราะว่า
สุดท้ายแล้ว มนุษย์ ก็ย่อมเป็นมนุษย์วันยังค่ำ
ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ดี เพราะมันคือความจริง
ความจริง ก็ย่อมคือความจริง ไปวันยังค่ำ
สุดท้ายความจริง ก็ย่อมปรากฏเสมอ ไม่วันใดหรือวันหนึ่ง”

ท่านพุทธทาสภิกขุ







"เวลาโกรธขึ้นมา
ด๊อกเตอร์กับ ป.๔
ก็โง่พอๆ กัน"

หลวงปู่ชา สุภัทโท








"ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีการสูญเสียใดๆ
ที่น่าเสียใจเท่ากับ การเสียเวลา
เสียเวลาเพียงหนึ่งวินาที ก็เท่ากับสูญเสีย
ส่วนหนึ่งของชีวิต อายุที่เราได้นั้นคือ
ชีวิตที่เราสูญเสียไป"

หลวงปู่จันทร์ กุสโล






“อย่าเข้าใจว่าโกรธทีหนึ่งแล้ว ก็แล้วไปนะ
โกรธทุกที จะเพิ่มอนุสัยแห่งความโกรธ
คือ ความเคยชินแห่งความโกรธ ให้เข้มข้นทุกที
เราจะโกรธง่ายขึ้นทุกที”

ท่านพุทธทาสภิกขุ








"บางคน ถือเอาการไปเที่ยววัดว่าเป็นบุญ
ถ้าอานิสงส์ของการเข้าวัด เกิดเพราะกายอย่างเดียว
พวกกระรอก กระแต นก หนู หรือสัตว์อื่นๆ
ซึ่งอาศัยอยู่ในวัด ก็น่าจะได้บุญมากกว่าคน
ซึ่งมักจะอยู่ไม่นานเลย
มันสำคัญที่ใจ ถ้าโยมมาถวายจังหันหรือจำศีล
แต่มาคุยกันเรื่องทางโลก เอาเรื่องนั้น เรื่องนี้มาพูดกัน
ก็เท่ากับเอาโลกมาทับวัด มาวัดต้องเข้าใจความหมาย
และจุดมุ่งหมาย ของการเข้าวัดอย่างแท้จริง"

หลวงปู่ชา สุภัทโท






"เราไปที่ใด เกิดที่ใด ผลทานที่เราให้ไปนั่นแหละ
จะตามสนับสนุนเรา ให้เป็นคนมีความสุขความเจริญ
นึกอะไรก็ไหลมาเทมา เพราะเราเคยให้มาแล้ว
สิ่งที่ให้ไปนั้น คือมิตร คือสหาย สิ่งที่พึ่งเป็นพึ่งตายของเรา
เมื่อเรานึกถึง ผลทานย่อมไหลมาเทมา เมื่อนึกถึงบุญต้องมา
เพราะเป็นของของเรา ที่เคยสร้างไว้แล้ว ให้ไปแล้ว
ต้องกลับมาสนองตัวเรา โดยไม่ต้องสงสัย"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน





"คนเรานั้นโดยมาก กายกับใจมันไม่ค่อยจะตรงกัน
บางคนทำทาน แต่ใจก็ยังโลภอยู่ เช่น คนที่ทำทาน
เพราะปรารถนาอยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี
ทำบาทเดียว จะขอแลกเอาตั้งหมื่นตั้งแสนก็มี
บางคนรักษาศีล แต่ใจก็ยังโกรธเกลียด พยาบาท
อิจฉาริษยา คนนั้นคนนี้อยู่ บางคนนั่งสมาธิภาวนา
เพราะอยากไปเกิดเป็นคนรูปสวยรูปงาม ก็มี
บางคนก็อยากไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้า อยู่บนสวรรค์
บางคน ก็อยากจะเป็นนั่นเป็นนี่ ล้วนแต่ต้องการ
สิ่งตอบแทนทั้งนั้น บุญกุศลอย่างนี้ ก็ยังใช้ไม่ได้"

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร








"คนเรา คิดเรื่องอะไรบ่อยๆ
จิตใจของเรา จะชินกับความคิดอย่างนั้น
และคล่องในความคิดเช่นนั้น กลายเป็นนิสัย
ถ้าเราคิดไปในทางอิจฉาพยาบาทบ่อยๆ
เราจะกลายเป็นคนอิจฉาพยาบาท
ถ้าเราคิดไปในทางให้อภัย เราก็จะกลายเป็น
ผู้ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อใคร
เราจึงต้องพยายามป้องกันภัย ไม่ให้ชินในสิ่งเสื่อมเสีย
และ พยายามสร้างความเคยชินในสิ่งดีงาม ถึงแม้ว่า
จะไม่หลุดพ้นจากกิเลสโดยสิ้นเชิง มันก็ยังเป็นประโยชน์
ต่อชีวิตเรามาก"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ








"อาหารที่อยู่ในชามข้าว ของเรานี้
มันก็ดีขณะเวลา ที่อยู่ในปากเท่านั้น
ประเดี๋ยว อีกไม่นานไม่ช้า มันก็กลับกลาย
เป็นของเสียบูดเน่า เท่านั้น
ในโลกไม่มีอะไร ที่น่ายินดี และน่าพอใจ
พอที่จะไปยุ่ง ไปยินดีกับมันนักหนา
สตรีและบุรุษ ที่อยู่ร่วมกันรักกันส่วนมาก
เพราะอำนาจกาม ธรรมชาติของกามใหม่ๆ
ก็มีรสอร่อย นานไปก็เป็นของบูดเน่าเสีย
เหมือนกันนั้นแหละ"

ท่านพ่อลี ธัมมธโร







“ไปว่าคนอื่น ตัวเราดีแล้วหรือ?”
ยิ่งเราเห็นว่ามีคนชั่วมากเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้ว่า
เรานั่นแหละที่ชั่วเสียเอง เพราะไม่มีคนดีที่ไหน
สนใจความชั่วของคนอื่น มากกว่าของตนเอง
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ จงอย่าเพ่งโทษผู้อื่น
เพราะนอกจากจะไม่ก่อประโยชน์แล้ว
ยังเป็นสิ่งที่สูบกินเวลาชีวิต ให้สูญไปเปล่า ๆ
ถ้าเขาไม่ดี แล้วเราไปวิจารณ์ จิตใจเราจะขุ่นมัว
แต่ถ้าเขาดี แล้วเราไปวิจารณ์ เราเองนั่นแหละ
ที่จะเป็นคนไม่ดีเสียเอง
สรุปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดีหรือไม่
เราก็เสีย ทั้งขึ้นทั้งล่อง

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron