ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
มีแล้วไม่ต้องทำ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=58408 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2019, 10:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | มีแล้วไม่ต้องทำ |
เรื่อง "มีแล้วไม่ต้องทำ" ขอให้คุณโรสตอบตรงๆคำถามสักทีเถอะ สาธุ 3 ครั้ง [quote] Rosarin เห็นมีจริงๆไหม ได้ยินมีจริงๆไหม ทุกอย่างเลยที่กำลังมี กำลังเป็นไปเป็นสิ่งที่มีจริง ชาวมคธเขาใช้คำว่าธัมมะไงคะ คนไทยทับศัพท์คำว่าธัมมะแต่ไม่รู้คำแปล คริคริคริพูดคำเดียวกันกับพระพุทธเจ้าแต่ปัญญามีไหมคะ พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่ามีแล้วไม่ต้องทำไงคะ viewtopic.php?f=1&t=56337&p=454414#p454414 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2019, 10:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
"มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 17 ธ.ค. 2019, 12:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2019, 16:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา ![]() ![]() ![]() คิกๆๆสุดยอด คุณโรสขอรับ คุณรีบไปศึกษาไปเรียนให้ชัดๆเถอะขอรับ ยอมรับว่า กรัชกายอายแทนผู้รู้ที่เขามาอ่านจริงๆนะ ไปเอามาแต่ไหน ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ ![]() เสียเวลารดน้ำต้นไม้ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 17 ธ.ค. 2019, 23:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา ![]() ![]() ![]() คิกๆๆสุดยอด คุณโรสขอรับ คุณรีบไปศึกษาไปเรียนให้ชัดๆเถอะขอรับ ยอมรับว่า กรัชกายอายแทนผู้รู้ที่เขามาอ่านจริงๆนะ ไปเอามาแต่ไหน ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ ![]() เสียเวลารดน้ำต้นไม้ ![]() ![]() คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า ![]() พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท 1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6 2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50 3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24 4นิพพาน1เดียว ![]() ย่อลงมามีจิเจรุนิ จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์ ขันธ์แปลว่าเกิดดับ เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5 จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ 1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว ![]() นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ ![]() ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ ![]() ![]() https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2019, 05:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า ![]() พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท 1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6 2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50 3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24 4นิพพาน1เดียว ![]() ย่อลงมามีจิเจรุนิ จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์ ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5 จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ 1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว ![]() นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ ![]() ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ ![]() ![]() https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8 คุณโรสต้องเรียนให้เป็นเรื่องราว ไม่ใช่จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาต่อกันมาชนกันเอาตามความเข้าใจของตน บอกว่ามันมั่ว มั่ว บอกไม่เชื่อ ![]() จริงๆนะอ่านไปขำไป น้ำตาไหลเลย นี่ยังไม่ได้ล้างหน้านะ เปิดดู คคห.คุณโรสก่อน คิกๆๆ พุทธศาสนาในไทยไปไม่รอด |
เจ้าของ: | Rosarin [ 18 ธ.ค. 2019, 09:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า ![]() พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท 1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6 2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50 3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24 4นิพพาน1เดียว ![]() ย่อลงมามีจิเจรุนิ จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์ ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5 จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ 1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว ![]() นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ ![]() ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ ![]() ![]() https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8 คุณโรสต้องเรียนให้เป็นเรื่องราว ไม่ใช่จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาต่อกันมาชนกันเอาตามความเข้าใจของตน บอกว่ามันมั่ว มั่ว บอกไม่เชื่อ ![]() จริงๆนะอ่านไปขำไป น้ำตาไหลเลย นี่ยังไม่ได้ล้างหน้านะ เปิดดู คคห.คุณโรสก่อน คิกๆๆ พุทธศาสนาในไทยไปไม่รอด ![]() บอกยังไงก็ไม่ฟังเพราะปัญญามีไม่พองัยคะ ![]() กว่าจะปรุงขึ้นมาเป็นคนทั้งตัวน่ะไม่มีคน เห็นเป็นเห็นเกิดรู้ว่าเห็นเพราะมีจิตไม่ใช่มีคน คนที่คิดว่ามีตัวแล้วคือมีอุปาทานขันธ์ยึดว่ามีตัวคน ![]() ยึดตัวเองนั่นแหละเหนียวแน่นมั่นคงมากบอกไม่ฟังกำลังมีกิเลสอวิชชาและกำลังเห็นผิด ถ้ารู้ความจริงแบบพระพุทธเจ้าว่าเห็นแค่สี1สีสะท้อนแสงมาให้แสบตาดับมืดทันทีจะเห็นผิดไหม เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วคิดก็คิดแล้วไม่รู้ตัวว่าคิดเห็นผิดไม่เคยคิดถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้า https://youtu.be/T4iEoGjz-uY ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 18 ธ.ค. 2019, 16:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
![]() เข้าใจความปกติตามภพภูมิไหมคะ ถ้าเป็นสวรรค์แต่ละชั้นก็มีหัวหน้าและบริวาร สำหรับโลกมนุษย์ที่เป็นชมพูทวีปก็มีหลายชนชั้นวรรณะ จะเป็นคนขอทานหรือเป็นกษัตริย์จะเป็นมนุษย์สัตว์หรือพรหมก็ตาม หรือจะเป็นอริยบุคคลอยู่ภพภูมิไหนก็ตามยังไม่ดับกิเลสจนถึงนิพพานแล้วนั้น คุณค่ามันเท่ากันเพราะคือจิต+เจตสิก+รูปหรือจะอยู่ในภพอรูปพรหมก็คือมีกิเลสอยู่ยังต้องเกิดอีก จะรู้ความจริงตามคำสอนได้ก็ต้องฟังคำสอนให้เข้าใจโดยละเอียดการปลีกตัวออกไปคือการไม่พึ่งตถาคต เพราะปัญญาไม่เกิดทุกขณะจิต/ปัญญาเกิดได้ตามลำดับต้องกำลังฟังต่อเนื่องสังขารขันธ์จึงปรุงถูกตามได้ และเมื่อปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเพราะมีการระลึกตามคิดตามได้เฉพาะเมื่อระลึกถูกตัวตนตามคำสอนได้อยู่ ส่วนสัญญาคือการจำนั้นมีการจำทุกขณะจิตจะมีหรือไม่มีปัญญาจิตก็จำทุกอย่างโดยเฉพาะจำว่ามีตัวเรา จึงทำทุกอย่างเพื่อตัวเราจะได้ตัวเราจะดีแต่ไม่เคยจำถูกตามคำสอนเลยว่าตัวเราไม่มีจึงไม่มีคนและวัตถุ ส่วนการปลีกตัวตนออกไปทำนั้นน่ะขาดการคิดไตร่ตรองตามคำสอนแล้วเพราะมีตัวเราอยากทำมาก แปลว่าลืมระลึกตามคำสอนแล้วขาดสติแล้วเพราะเอาสัญญาจำเอาไปทำเพื่อความอยากได้เพิ่มมาก จนไม่ฟังให้เข้าใจไม่ยึดหลักกาลามสูตร10แต่ถือทิฏฐิมานะตนเป็นใหญ่ในการจะทำลืมฟัง ตถาคตแสดงพระธรรมเพื่อให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงถูกตัวตนตามได้ไม่ได้บอกว่า ให้ไปตั้งสำนักนะทำตามๆกันนะเชื่อครูอาจารย์นะ...อย่างงั้นรึ...บอกไม่ฟังดันทุรังจะทำ ไปท่องจำตำราเป็นตั้งๆทำไมนั่นน่ะปัญญาของพระพุทธเจ้าเอาสัญญาที่ไปอ่านมาทำ เลือกเอาบางตอนมาคิดและทำเองโดยหลงเชื่อผู้อื่นบอกให้ทำลืมฟังคำสอน555 ฟังเพื่อทบทวนความจริงที่มีผู้ทำตามๆกันหรือสิ่งที่ตนเองเลือกทำไม่ฟังก็ทำผิด เดี๋ยวนี้เลยไม่ฟังไม่ไตร่ตรองว่าที่เคยทำมันถูกหรือผิดก็จะไม่เลิกทำเด็ดขาด ตัวอย่างที่ทำตามกันผิดๆคือบวชแล้วรับเงินรับทองคนให้ไม่รู้คนรับไม่บอก คนรับคิดว่าอาตมาได้ใช้เงินที่ได้ในชาตินี้แต่โยมได้บุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า โกหกทั้งเพทั้งระยองบุญก็ไม่ได้แถมคนให้จนไม่มีบ้านจะอยู่ข้าวก็ซื้อกิน บวชแล้วจำวัดมีทั้งคนกราบไหว้และได้เงินฟรีๆกินๆนอนๆงานก็ไม่ต้องทำ บวชแล้วไม่เห็นเขาจะกลัวตกนรกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยค่ะ555 จะเลิกเอาเงินไปประเคนให้โจรไหมถ้าไม่รู้ว่าการบวชแล้วรับเงินคือมิจฉาอาชีโว ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2019, 19:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: Kiss เข้าใจความปกติตามภพภูมิไหมคะ ถ้าเป็นสวรรค์แต่ละชั้นก็มีหัวหน้าและบริวาร สำหรับโลกมนุษย์ที่เป็นชมพูทวีปก็มีหลายชนชั้นวรรณะ จะเป็นคนขอทานหรือเป็นกษัตริย์จะเป็นมนุษย์สัตว์หรือพรหมก็ตาม หรือจะเป็นอริยบุคคลอยู่ภพภูมิไหนก็ตามยังไม่ดับกิเลสจนถึงนิพพานแล้วนั้น คุณค่ามันเท่ากันเพราะคือจิต+เจตสิก+รูปหรือจะอยู่ในภพอรูปพรหมก็คือมีกิเลสอยู่ยังต้องเกิดอีก จะรู้ความจริงตามคำสอนได้ก็ต้องฟังคำสอนให้เข้าใจโดยละเอียดการปลีกตัวออกไปคือการไม่พึ่งตถาคต เพราะปัญญาไม่เกิดทุกขณะจิต/ปัญญาเกิดได้ตามลำดับต้องกำลังฟังต่อเนื่องสังขารขันธ์จึงปรุงถูกตามได้ และเมื่อปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเพราะมีการระลึกตามคิดตามได้เฉพาะเมื่อระลึกถูกตัวตนตามคำสอนได้อยู่ ส่วนสัญญาคือการจำนั้นมีการจำทุกขณะจิตจะมีหรือไม่มีปัญญาจิตก็จำทุกอย่างโดยเฉพาะจำว่ามีตัวเรา จึงทำทุกอย่างเพื่อตัวเราจะได้ตัวเราจะดีแต่ไม่เคยจำถูกตามคำสอนเลยว่าตัวเราไม่มีจึงไม่มีคนและวัตถุ ส่วนการปลีกตัวตนออกไปทำนั้นน่ะขาดการคิดไตร่ตรองตามคำสอนแล้วเพราะมีตัวเราอยากทำมาก แปลว่าลืมระลึกตามคำสอนแล้วขาดสติแล้วเพราะเอาสัญญาจำเอาไปทำเพื่อความอยากได้เพิ่มมาก จนไม่ฟังให้เข้าใจไม่ยึดหลักกาลามสูตร10แต่ถือทิฏฐิมานะตนเป็นใหญ่ในการจะทำลืมฟัง ตถาคตแสดงพระธรรมเพื่อให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงถูกตัวตนตามได้ไม่ได้บอกว่า ให้ไปตั้งสำนักนะทำตามๆกันนะเชื่อครูอาจารย์นะ...อย่างงั้นรึ...บอกไม่ฟังดันทุรังจะทำ ไปท่องจำตำราเป็นตั้งๆทำไมนั่นน่ะปัญญาของพระพุทธเจ้าเอาสัญญาที่ไปอ่านมาทำ เลือกเอาบางตอนมาคิดและทำเองโดยหลงเชื่อผู้อื่นบอกให้ทำลืมฟังคำสอน555 ฟังเพื่อทบทวนความจริงที่มีผู้ทำตามๆกันหรือสิ่งที่ตนเองเลือกทำไม่ฟังก็ทำผิด เดี๋ยวนี้เลยไม่ฟังไม่ไตร่ตรองว่าที่เคยทำมันถูกหรือผิดก็จะไม่เลิกทำเด็ดขาด ตัวอย่างที่ทำตามกันผิดๆคือบวชแล้วรับเงินรับทองคนให้ไม่รู้คนรับไม่บอก คนรับคิดว่าอาตมาได้ใช้เงินที่ได้ในชาตินี้แต่โยมได้บุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า โกหกทั้งเพทั้งระยองบุญก็ไม่ได้แถมคนให้จนไม่มีบ้านจะอยู่ข้าวก็ซื้อกิน บวชแล้วจำวัดมีทั้งคนกราบไหว้และได้เงินฟรีๆกินๆนอนๆงานก็ไม่ต้องทำ บวชแล้วไม่เห็นเขาจะกลัวตกนรกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยค่ะ555 จะเลิกเอาเงินไปประเคนให้โจรไหมถ้าไม่รู้ว่าการบวชแล้วรับเงินคือมิจฉาอาชีโว ![]() ![]() ![]() พร่ำใหญ่ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2019, 20:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง 5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ ขันธ์มีอยู่ 5 ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์ 5 รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา ![]() ![]() ![]() ความหมายตระกูลขันแต่ละตระกูลๆ ขัณฑ์ ส่วน, ท่อน หรือชิ้น ที่ถูกตัด ทุบ ฉีก ขาด หัก แตก หรือแยกกันออกไป, ของที่ถูกตัด ฉีก ขาดเป็นส่วนๆ เป็นชิ้นๆ เป็นท่อนๆ, คำว่า จีวรมีขัณฑ์ ๕ หรือ จีวรห้าขัณฑ์ หมายถึงจีวรที่ประกอบขึ้นจากแผ่นผ้าที่ตัดแล้ว ๕ ชิ้น ขัณฑสีมา สีมาเล็กผูกเฉพาะโรงอุโบสถที่อยู่ในมหาสีมา มีสีมันตริกคั่น ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม ขันธปัญจก หมวดห้าแห่งขันธ์ อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (นิยมเรียก ขันธบัญจก) ขันธมาร ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัยปรุงแต่งขึ้น เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ถูกปัจจัยต่างๆ มีอาพาธ เป็นต้น บีบคั้นเบียดเบียนเป็นเหตุขัดขวาง หรือรอนโอกาส มิให้สามารถทำความดีงามได้เต็มที่ หรืออาจตัดโอกาสนั้นโดยสิ้นเชิง ขันธ์ กอง, พวก, หมวด, หมู่ ลำตัว, หมวดหนึ่งๆ ของรูปธรรมและนามธรรมทั้งหมดที่แบ่งออกเป็น ๕ กอง คือ รูปขันธ์ กองรูป เวทนาขันธ์ กองเวทนา สัญญาขันธ์ กองสัญญา สังขารขันธ์ กองสังขาร วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ เรียกรวมว่า เบญจขันธ์ (ขันธ์ ๕) |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2019, 20:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 19 ธ.ค. 2019, 00:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เฮ้อ... บอกไม่ฟัง แค่ลืมตาเห็น ยังไม่ทำอะไร ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอเห็นผิดก็คิดผิด คิดผิดก็จำผิดแล้วก็ ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง ![]() ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ https://youtu.be/zK95sP2ycPI ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ธ.ค. 2019, 14:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: "มีแล้วไม่ต้องทำ" เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ ![]() https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M: อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM: ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5 แต่คิดตามได้ตรงทีละ1 ขันธ์แปลว่าเกิดดับ ขันธ์มีอยู่5ขันธ์ แต่ไม่มีตัวตน มีแต่อุปาทานขันธ์ ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ ![]() เฮ้อ... บอกไม่ฟัง แค่ลืมตาเห็น ยังไม่ทำอะไร ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอเห็นผิดก็คิดผิด คิดผิดก็จำผิดแล้วก็ ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง ![]() ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ https://youtu.be/zK95sP2ycPI ![]() ![]() คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ธ.ค. 2019, 15:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
Rosarin เขียน: เฮ้อ... บอกไม่ฟัง แค่ลืมตาเห็น ยังไม่ทำอะไร ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอเห็นผิดก็คิดผิด คิดผิดก็จำผิดแล้วก็ ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง ![]() ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ https://youtu.be/zK95sP2ycPI ![]() ![]() คุณโรสเขาเป็นอะไร ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น คำถามครับ 1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง 2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 ธ.ค. 2019, 14:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มีแล้วไม่ต้องทำ |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เฮ้อ... บอกไม่ฟัง แค่ลืมตาเห็น ยังไม่ทำอะไร ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอเห็นผิดก็คิดผิด คิดผิดก็จำผิดแล้วก็ ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง ![]() ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ https://youtu.be/zK95sP2ycPI ![]() ![]() คุณโรสเขาเป็นอะไร ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น คำถามครับ 1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง 2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน ![]() โรสปกติดี คิดตามคำสอน ระลึกตามคำสอน ตรงที่กำลังเห็นปกติค่ะ รู้ว่าคนทุกคนลืมตาดูตามปกติเห็นอะไร ![]() ตอนนี้ที่เข้าใจถูกตามที่มองเห็นคนห่มจีวรโกนหัวโกนคิ้วรับเงินใช้เงินแบบชาวบ้านค่ะ ไม่รู้สึกตัวว่าเอานิสัยเดิมแบบคฤหัสถ์ก่อนบวชมาทำตอนที่บวชตั้งสัจจะขอทำตามตถาคต เป็นคนที่นอกรีตนอกรอยไม่ทำตามที่ลั่นวาจาตอนขอบวชได้แต่ท่องแบบนกแก้วนกขุนทองเป็นโมฆบุรุษ มีโอกาสเกิดได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่ไม่รู้ไม่เข้าใจว่านักบวชต่างจากชาวบ้านตายตกนรกแน่นอน ![]() บอกตร๊งตรงบวชแล้วรับเงินรับเช็คถือเงินใช้เงินในเพศบรรพชิตก็คิดเองไม่ได้...เพราะหน้ามืดโลภอยากได้ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |