วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2020, 05:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...มีใครรับประกันว่า
เราจะอยู่ไปถึงอายุ ๘๐, ๙๐ บ้าง

..อาจจะเกิดอุบัติเหตุ อาจจะเจอโรคระบาด
โรคภัยไข้เจ็บอะไรที่ไม่รู้มาก่อนก็ได้

“แล้วโอกาสอันดี ที่จะได้ปฏิบัติก็ไม่มี”

..เพราะเวลามี
เราเอาไปทำทางโลกแทน
แทนที่จะเอามาทำทางธรรม

..“ให้คิดถึงความตายบ้าง
ให้คิดถึงความไม่แน่นอนของชีวิตบ้าง”
มันจะได้ไม่ประมาท.
.......................................
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะบนเขา 19/5/2562
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











#การเจริญพระกรรมฐานที่ถูกต้อง
"การเจริญพระกรรมฐาน
ไม่ได้หมายความว่า ใช้เวลา
นั่งสมาธิเสมอไป ถ้าเราใช้แต่
เวลาที่นั่งสมาธิ มีเวลาสงัด
จิตใจของเราจึงจะกำหนดถึง
พระกรรมฐาน อย่างนี้ใช้ไม่ได้"
#เนื้อแท้การเจริญพระกรรมฐาน
"กองใดกองหนึ่งก็ตาม ต้องใช้อารมณ์
ของเรานี้ นึกถึงกรรมฐาน
เป็นปกติตลอดวัน อย่างนี้จึงจะได้
ชื่อว่า ท่านเข้าถึงพระกรรมฐาน
และพระกรรมฐานเข้าถึงท่าน.."

โอวาทธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง








หากหมายเอาว่า บุญคือความสุข ความสงบแล้วหล่ะก็ ให้รู้ว่าการปล่อยวางภาระทุกอย่างในโลกได้ นั่นคือบุญ ลำดับแรก ที่ต้องทำให้ได้ก่อนตาย จะรอลมหายใจสุดท้ายถึงจะละจะวางย่อมไม่ทันกาลเสียแล้ว เพราะเวลาเช่นนั้นเราไม่ได้ยินยอมแต่เราถูกบังคับให้ปล่อยวางทุกอย่างโดยไม่เต็มใจ ถ้าเป็นเช่นนั้น จิตจะเสวยปาบหรือบุญ เป็นทุกข์หรือเป็นสุข ทุกคนย่อมทราบคำตอบดี

โอวาทธรรม
พระอาจารย์ .รังสรรค์
7กุมภาพันธ์2563










#ไล่ไม่หนี_ตีไม่ไป_คือลูกศิษย์หลวงปู่มั่น

คนพูดทั่วไปว่า "หลวงปู่มั่นท่านดุ" แท้จริง
ถ้าทำถูกก็ไม่ดุ ถ้าทำผิดก็จะดุ มีเรื่อง
เล่าว่าครั้งหนึ่งมีหลวงตา ๒ รูปเดินทางมา
วัดป่าบ้านหนองผือ กุฏิพระต่างๆ เต็มแล้ว
กุฏิละ ๑ รูป พระพักเต็ม หลวงปู่มั่นจึงให้ไป
พักที่ศาลา ตกตอนเย็น ๕ โมง พระก็ทำความเพียร นั่งสมาธิ เดินจงกรม ไม่มีเสียง เงียบสงบ พระในวัดรู้ระเบียบปฏิบัติเช่นนี้ทุกวัน ส่วนหลวงตาทั้ง ๒ รูปนั้น ตกเย็นก็นั่งสูบบุหรี่ ชวนกันคุยเสียงดัง หลวงปู่มั่นเดินจงกรมอยู่ห่างจากศาลาประมาณ ๑ เส้น ได้ยินเสียงพูดคุยส่งเสียงดัง จึงเดินตรงไปที่ศาลาเอามือไขว้หลังดุหลวงตาทั้งสองรูปนั้นเป็นการใหญ่ หลังจากหลวงปู่มั่นเดินกลับไปแล้ว พระรูปหนึ่งรีบเก็บข้าวของสัมภาระเดินทางออกจากวัดไป ส่วนพระอีกรูปได้คิดว่าเราทำผิดก็ต้องถูกดุ เรายอมรับผิดแล้วก็จะไปขอขมาโทษท่าน ถึงเวลาค่ำพระที่ปฏิบัติต่างก็เดินขึ้นกุฏิหลวงปู่มั่น หลวงตารูปนั้นก็เดินตามมาฟังธรรมด้วย หลวงปู่มั่นเห็นเข้าก็ดุว่าพระรูปนั้นอีก พระรูปนั้นถึงกับหมอบกราบอยู่เช่นนั้น ให้หลวงปู่มั่นท่านดุ เสร็จแล้วก็เอาขันดอกไม้ไปขอขมาท่าน
หลวงปู่มั่นจึงว่า ดีแล้ว "ไล่ไม่หนี ตีไม่ไป คือลูกศิษย์" เป็นลูกศิษย์เมื่อทำผิด ก็ยอมให้ดุด่า ส่วนหลวงตาอีกรูปหนึ่งหนีไปนั้นก็หาบเอากิเลสหนีหายไป จึงว่าหลวงปู่มั่นดุนั้น ถ้าถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด

#ปกิณกรรม_หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต
#จากหนังสือ_สุขินทริยเถรานุสรณ์
#ธรรมประวัติ_หลวงตาพวง_สุขินทริโย










ทำอย่างไรใจข้าพเจ้าจะสงบระงับ มีอุบายอะไร...ก็อุบายไม่ขี้เกียจนั่นแหละ อุบายมันอยู่ที่ไหน อุบายมันอยู่ที่ความเพียร ทำอย่างไรข้าพเจ้าจะสู้กับกิเลสราคะ โทสะ โมหะ ในใจได้...ไปสู้ที่ไหน ก็สู้ด้วยความเพียร สู้ด้วยความตั้งใจมั่น เราตั้งใจลงไปแล้วให้มันมั่นคง อย่าไปถอย

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร







"พ่อแม่เป็นผู้ให้เกิด เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ให้วิชาความรู้
เป็นผู้ให้ทรัพย์สมบัติ เป็นผู้ให้น้ำจิตน้ำใจทุกอย่าง
เพราะฉะนั้น ใครยังมีพ่อแม่อยู่ รีบอุปถัมภ์อุปัฏฐาก
รีบทำบุญกับท่าน อย่าปล่อยให้ท่านลำบาก"

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย








"มิตรผู้มีปัญญา
ย่อมสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้อง
ให้เกิดประโยชน์ ปราศจากโทษ
ส่วนมิตรที่ขาดปัญญา
แม้ปรารถนาดี ก็เหมือนมุ่งร้าย"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ








"..#จิตดวงเดียวนี้ทำไมจึงเป็นไปได้หลายอย่างนักนะ เดี๋ยวเป็นความเศร้าหมอง เดี๋ยวเป็นความผ่องใส เดี๋ยวเป็นสุข เดี๋ยวเป็นทุกข์ ไม่คงที่ดีงามอยู่ได้ตลอดไป

ทำไมจิตละเอียดถึงขนาดนี้แล้วจึงยังแสดงอาการต่างๆ อยู่ได้ พอสติปัญญาเริ่มหันความสนใจเข้ามาพิจารณาจิตดวงนี้ ความรู้ชนิดหนึ่งที่ไม่คาดไม่ฝันก็ผุดขึ้นมาภายในใจว่า..

ความเศร้าหมองก็ดี ความผ่องใสก็ดี ความสุขก็ดี ความทุกข์ก็ดี เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งสิ้น และเป็นอนัตตาทั้งมวลนะ

เท่านั้นแลสติปัญญาก็หยั่งทราบจิตที่ถูกอวิชชาครอบงำอยู่นั้นว่าเป็นสมมุติที่ควรปล่อยวางโดยถ่ายเดียวไม่ควรยึดถือ..”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน











มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีใครมาทำให้เราทุกข์.. ถ้าหากว่าไม่มีจิตใจเราผสมโรง

พระอาจารย์ ชยสาโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร