วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2020, 05:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


" เกลียดก็ทุกข์
โกรธก็ทุกข์ แล้วเราจะ
เกลียด จะโกรธไปให้เรา
เป็นทุกข์ทำไม

คนที่เราเกลียด คนที่
เราโกรธ เขาไม่ทุกข์ไป
กับเราหรอก เราทำให้เรา
ทุกข์เองทั้งสิ้น

แต่ถ้าเราปล่อยวาง ไม่สน
ใจเขา ไม่รับรู้เรื่องเขา ใจ
เราก็ไม่หมกหมุ่น กับเรื่อง
ของเขาอีก เราก็ไม่ทุกข์
เพราะใจมันสงบ ”

โอวาทธรรม
หลวงปู่ไพบูลย์ สุมังคโล








เกิดมาเป็นมนุษย์ ในชาตินี้ ควรรีบเร่งอย่าชักช้าจะเสียการ จงพยายามฝึกจิตฝึกใจ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้ได้ทัน เพราะงานของจิต ต้องถือว่าเป็นงานเร่งด่วน โดยมีความตายคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว ถ้าแม้ว่าเผลอสติเพียงแว้บเดียว..ความตายก็มาถึงตัวทันที

หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล









...ทานเป็นการให้ ไม่ใช่เป็นการเอา
ทานให้เอาออกไป ไม่ใช่ให้เอาเข้ามา
ทานเอาเข้ามา ดีตอนเอาเข้า
แต่เวลาไม่ได้ก็จะเสียใจ

.ตอนต้นเวลาให้ทานไป
จะรู้สึกไม่สบายใจ ถ้ายังหวงอยู่
พอให้ไปแล้ว มันก็หมดภาระกับเราไป
ไม่ต้องห่วง เราก็จะสบายใจ

.การให้ไม่ได้ให้เฉพาะเงินทองข้าวของอย่างเดียว
ให้ลูกก็ได้ ให้สามีก็ได้ ให้ภรรยาก็ได้ ให้ไปเลย
ให้แล้วจะสบายใจ เก็บไว้แล้วหนักอกหนักใจไปเปล่าๆ
ให้ไปแล้ว..เบาใจ ตัดไปเลย ให้ไปเลย

.พระเวสสันดรท่านให้หมดเลย .."ท่านจะภาวนา"
ถ้ากังวลกับลูกกับเมีย ก็จะภาวนาไม่สงบ
ถ้ามีใครมาขอรับผิดชอบ ขอรับไปเลี้ยงต่อ
ก็ให้เขาไปเลย แล้วจะสบายใจ

...มีลูกศิษย์คนหนึ่งชอบมาคุยธรรมะอยู่เรื่อยๆ
เขาบอกว่า เขามีความสุขกับครอบครัวกับภรรยา

.
เราก็เตือนว่า...ไม่แน่นะ
สักวันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เป็นก็ได้
พออีกสักปีหนึ่งก็เกิดขึ้น
ภรรยาบอกขอเลิก จะไปมีสามีใหม่
ใจวุ่นเลย ...วิ่งมาหาเรา
บอกว่าอยากจะทำร้ายเขา

.เราก็ให้สติเขาว่า
มันเป็นเรื่องที่เราไปบังคับไม่ได้
ไม่ใช่ตัวเราของเรา
"สิ่งที่เราบังคับได้ก็คือ..ใจของเรา"
ให้ทำใจให้สบาย คิดว่าเป็นการทำบุญ
ให้ทานไป ก็จะมีความสุข

.คิดเสียว่าถึงเวลาที่เขา..ต้องจากเราไป
จะจากไปแบบไหน ”ก็จากไปเหมือนกัน”
จากไปขณะที่เป็น..ก็จากกัน
จากไปขณะที่ตาย..ก็จากกัน
ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจรู้ไว้ล่วงหน้าว่า
เหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นแน่
ถ้าไม่เกิดขึ้นในวันนี้
ก็ต้องเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

.เรื่องการจากกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
เพียงแต่จะจากกันแบบไหน
ถ้าจากแบบที่พอใจก็มีความสุข
เช่นเราอยากให้เขาไป พอเขาไปเราก็ดีใจ
แต่ถ้ายังไม่อยากให้เขาไป..ก็จะเสียใจ

.
"ปัญหาอยู่ที่เรา" เขาต้องไปแน่ๆ เราต้อง
เตรียมตัวเตรียมใจ ให้รับได้ทั้งสองแบบ
ถ้ายังอยู่ ก็ให้เขาอยู่ไป
ถ้าไปก็ดี เราจะได้มีอิสรภาพ
จะได้เป็นตัวของเราเอง
จะทำอะไรก็ไม่ต้องคอยขออนุญาต
ไม่ต้องคอยกังวลว่าเขาจะคิดอย่างไร

.”เป็นการปรับ..ใจ..เท่านั้นเอง”
ไม่เห็นยากเย็นอะไร.
...........................................
จุลธรรมนำใจ14 กัณฑ์ 385
ธรรมะบนเขา 17/8/2551
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี














#ท่านผู้ใดจะสนใจในชีวิตของตนเกี่ยวกับพุทธศาสนาก็ให้สนใจ

"เวลานี้ยังมีลมหายใจอยู่ ตายแล้วจะเกิดประโยชน์อะไร ไม่เกิดประโยชน์ กุสลา
ธมฺมา ตายเปล่าๆ สวดเปล่าๆ ถ้าเจ้าตัวไม่สนใจเสียแต่บัดนี้ กุสลา ธมฺมาๆ ไม่ทราบ
ว่าได้เรื่องอะไร ถือขลังอะไรกับเวลาตาย
ซึ่งไร้ผลไร้ประโยชน์ไปหมดแล้ว ที่ถูกตามหลักศาสนธรรม ก็ควรสนใจกับ กุสลา ธมฺมา ธรรมที่ยังคนให้ฉลาดตั้งแต่ยังมีชีวิต​ มีลมหายใจอยู่ จะเกิดผลเกิดประโยชน์ประจักษ์
ใจตัวเอง

#กุสลา_ธมฺมา_แปลว่าธรรมยังคนให้ฉลาด

เมื่อยังเป็นคนยังมีชีวิตอยู่ไม่ฉลาด
ตายแล้วจะเอาความฉลาดมาจากไหน จง
คิดดูให้ดีเสียแต่บัดนี้ อย่าให้สายเกินแก้
จะแก้ไม่ได้ จะแก้ไม่ตก จะขาดทุนสูญดอก
จะหาทางออกไม่ได้ ควรหาความฉลาดเสีย
แต่บัดนี้ เราเป็นลูกชาวพุทธให้คำนึงถึงพุทธ พุทธไม่ใช่คนโง่คนเขลาเบาปัญญา คนที่ฉลาดแหลมคมที่สุดในสามแดนโลกธาตุนี้
คือพุทธะ ได้แก่พระพุทธเจ้า ธรรมะอันประเสริฐ ก็ไม่มีใครสามารถค้นขึ้นมาได้ มีพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นสามารถขุดค้นขึ้นมาได้ นี่แหละของประเสริฐในโลก มีแก้วอัศจรรย์สามดวงกลมกลืนเป็นธรรมแท่งเดียวกันอยู่คู่กับโลกชาวพุทธเรา

#ฉะนั้นชีวิตของเราเกิดมาแล้วอย่าให้ตายทิ้งไปเปล่าๆ เหมือนต้นไม้ใบหญ้า เพราะเราเป็นมนุษย์ทั้งคน มิใช่ต้นไม้ใบหญ้า จะทำตนแบบนั้นไม่ถูกไม่ควร เวลาตายแล้วนิมนต์พระวัดนั้นวัดนี้ไป กุสลา ธมฺมา ๆ ได้ประโยชน์อะไร นั่นเป็นเพียงตามรอยบุญกุศลไปเท่านั้น มิใช่การจับตัวบุญตัวกุศลด้วยการบำเพ็ญของตัวเอง นั่นเป็นสิ่งไม่แน่นอนนัก สิ่งที่แน่ใจจริงก็คือ ต้องบำเพ็ญด้วยตัวเองให้เต็มสติกำลังตอนยังมีชีวิตลมหายใจอยู่ นี่คือวิธีจับตัวบุญตัวกุศลที่ถูกต้องไม่ข้องใจไม่สงสัย ตายแบบสุคโต

#นี่เวลายังมีชีวิตอยู่ไม่สนใจกับอรรถกับธรรมกับบุญกุศลอะไรเลย มั่วสุมอยู่กับอบายมุขตลอดวัย เวลาตายแล้วให้พระไปหาบุญหากุศลที่ไหนมาให้ ถ้าหากเป็นไปได้อย่างนั้นจริงๆ แล้วมันจะยากอะไร หลวงตาบัวนี่ก็ไม่ต้องบวช จะอยู่ให้สะดวกสบาย อยากกินเหล้าเมาสุรา เกี้ยวพาราสีสีกาอย่างสนุกสนาน สะดวกสบายไปตามแบบคนที่มีผู้รับรอง กุสลา มาติกา อย่างอุ่นหนาฝาคั่งอยู่แล้ว ตายแล้วจึงให้พระมา กุสลา ธมฺมา ๆ ไปสวรรค์กันเลย ไม่ต้องยุ่งยากลำบากใจขวนขวายบุญกุศลศีลทานใดๆ ในเวลามีชีวิตอยู่ แต่นี้มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนี่ ต้องฝึกฝนอบรมเจ้าของให้เป็นคนดีทุกวิธี ทุกวิถีทางแทบล้มแทบตาย.. "

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน











"ยิ้มจากใจที่สดใส ให้กับคนรอบ ๆ กาย
เพราะว่าโลกนี้ขาดรอยยิ้ม บ่ ได้
โดยเฉพาะที่คนยืนหน้ากระจก
ยิ้มให้เขาหลาย ๆ แล้วบอกเขาว่า
พรุ่งนี้ ฉันจะต้อง ดีขึ้น ดีขึ้น ดีขึ้น..."

หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ
วัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร











วัวกินน้ำบริสุทธิ์แล้วน้ำนั้นกลายเป็นน้ำนม
แต่งูกินน้ำบริสุทธิ์แล้วน้ำกลายเป็นยาพิษ
ธรรมะเป็นของบริสุทธิ์หมดจด
ซึ่งเรารับมาศึกษาและปฏิบัติแล้วเหมือนดื่มลงไป
ดื่มพระธรรมต้องดื่มเป็นวัวอย่าเป็นงู
ให้ธรรมเกิดเป็นน้ำนม ไม่ใช่ยาพิษ

ที่จริงคนเรายังสู้งูไม่ได้
งูไม่เคยเป็นอันตรายเพราะยาพิษในตัวของมัน
แต่ผู้ปล่อยให้ยาพิษคือทิฏฐิมานะเกิดขึ้นในใจ
เพราะธรรมะที่ได้ศึกษาและปฏิบัติแล้วก็ป่วยอยู่ทุกวัน

พระอาจารย์ชยสาโร











" ให้ทราบว่าในโลกนี้
ไม่มีแก่นสารอันใด

เกิดมาแล้วก็ต้องตาย
เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง
ที่จะเอาได้ ก็เป็นเรื่อง
ของดวงจิตเท่านั้น

ฉะนั้นจึงให้รู้จักทำจิต
คลายจากความชั่ว
ความเศร้าหมอง
ทำจิตใจให้เป็นบุญ
เป็นกุศล เป็นจิตที่สงบ
ผ่องใส เป็นสมาธิ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร









" สมบัติทั้งหลาย มัน
เป็นสมบัติของแผ่นดิน
เมื่อเวลาเราตายไป
สมบัติทั้งหลายเหล่านั้น
ก็อยู่บนแผ่นดิน
มันไม่ได้ไปไหน

แม้แต่ตัวของเรา
ผลที่สุดก็ลงสู่แผ่นดิน
เป็นสมบัติของแผ่นดิน

สมบัติของเรามีอะไร
ทำบุญไว้ ทำบาปไว้ อันนี้
ล่ะเป็นสมบัติของตัวเรา "

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร













#การแก้กรรม

“การแก้กรรม ตัดเคราะห์ ต่อชะตา ด้วยการเซ่นไหว้บวงสรวงทำพิธี ของหมู่นี่นั่นในศาสนาพุทธของเฮา บ่มีดอก

#อิหยังต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว_มันแก้บ่ได่ดอกเนาะ

ขั่นสิแก้กรรมพระพุทธองค์เพิ้นทรงสอนวา ให้แก้ที่ใจจะของ. แก้ที่การเฮ็ดจะของ.

#ให้เฮ็ดโตใหม่ให้มันดีขึ้น_นั่นละคือการแก้กรรมที่เห็นผลอิหลี

บ่ต้องไปเสียเงินเสียทอง เสียเวลาไปทำพิธีเลย”

….แปลความ”การแก้กรรม ตัดเคราะห์ ต่อชะตา ด้วยการเซ้นไหว้ บวงสรวงทำพิธี ของเหล่านี้นั้นในศาสนาพุทธของเรา ไม่มีหรอก อะไรต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว มันแก้ไม่ได้หรอกนะ ถ้าจะแก้กรรมพระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่า ให้แก้ที่ใจตัวเองแก้ที่การกระทำตัวเอง ให้ทำตัวใหม่ให้มันดีขึ้น นั่นแหละคือการแก้กรรมที่เห็นผลจริง ไม่ต้องไปเสียเงินเสียทอง เสียเวลาไปทำพิธีเลย”

เทศนาธรรมบรรยาย
พระหลวงปู่จื่อ พนฺธมุตฺโต
วัดเขาตาเงาะ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ










“อยู่ในสถานที่ใดต้องอดทน อยู่กับพ่อแม่ก็อดทน
ถ้าเราเป็นพ่อแม่ ก็ต้องอดทนต่อลูก เป็นลูกน้องก็อดทน
เป็นเจ้านายก็อดทน มันมีความอดทนอยู่คนละแนว

ถ้าทุกคนมีความอดทน การอยู่ด้วยกันถึงจะหนักหนา
สาหัสขนาดไหน ก็เป็นไปในแนวที่ดีได้ เพราะเรามีความอดทน”

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก











"ผู้ชนะนั้นมักเข้าใจว่า ตนเองเป็นผู้ได้ แต่โดยที่แท้
เป็นผู้เสีย คือ เสียไมตรีจิตของอีกฝ่ายหนึ่งไปหมดสิ้น
หรือจะเรียกว่าได้ ก็คือ ได้เวร เพราะผู้แพ้ก็จะผูกใจ
เพื่อจะเอาชนะต่อไป

จึงเป็นอันว่า ไม่ได้ความสุขด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ส่วนผู้ที่ละได้ทั้งแพ้ และชนะ จึงจะได้ความสงบสุข
ทั้งนี้ ก็ด้วยการไม่ก่อเรื่องที่จะต้องเกิดมีแพ้ มีชนะกันขึ้น

แต่เมื่อจะต้องให้มีเรื่องให้แพ้ฝ่ายหนึ่ง ชนะฝ่ายหนึ่ง ก็ควรจะต้องมีใจหนักแน่น พอที่จะเผชิญได้ทุกอย่าง"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร