วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 06:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



เฉลยเองแล้วกัน ไม่ถูกใจค้านได้ ความหมายสภาวะ,สภาวธรรม พร้อมตัวอย่าง

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา

สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

ตย.

อ้างคำพูด:
ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว
ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น



http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

สภาวธรรม หมายถึง รูปนามมันเป็นของมันอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีตัวตนอีกทั้งไม่มีผู้สร้างผู้บันดาล

หากไปคิดว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้เป็นไปเช่นนี้เช่นนั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นเห็น ก็ดำริผิด มีพยายามใดๆก็เป็นความพยายามผิด

:b32:
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเองเป็นไปเองตามเหตุตามปัจจัย
แล้วเอาตัวตนไปทำไปสร้างอะไรขึ้นมาอีกอยู่ล่ะคะ
แสดงว่าทำไปตามความคิดตัวตนที่เข้าใจผิดว่าทำได้...มันก็เป็นเช่นนั้นเอง555
:b32: :b32:



แล้วเราเห็นความไม่มีตัวตนหรือยังล่ะ หรือ ที่พูดว่าไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา ไปจำจากไหนมา จากหนังสือ จากคำพูดของคนนั้นคนนี้

1. เห็นเอง
2. จำมา

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b13:

ฟังเพื่อละไม่รู้
ฟังแล้วรู้คือละ
ถ้าไม่ฟังก็ไม่ละ
ก็มีตัวตนไปทำ
คือทำอวิชชาเพิ่ม
เมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟัง
รู้สึกตัวไหมว่ากำลังไม่ทำฟังอยู่
เนี่ยมาบอกให้ทำปัญญาให้ตรงตามคำสอน
ไม่ทำสุตมยปัญญาแปลว่าไม่เคยทำปัญญาใหม่เพิ่มขึ้นเลยนะคะ
https://youtu.be/Zft4Gmc9ODQ
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



เฉลยเองแล้วกัน ไม่ถูกใจค้านได้ ความหมายสภาวะ,สภาวธรรม พร้อมตัวอย่าง

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา

สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

ตย.

อ้างคำพูด:
ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว
ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น



http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

สภาวธรรม หมายถึง รูปนามมันเป็นของมันอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีตัวตนอีกทั้งไม่มีผู้สร้างผู้บันดาล

หากไปคิดว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้เป็นไปเช่นนี้เช่นนั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นเห็น ก็ดำริผิด มีพยายามใดๆก็เป็นความพยายามผิด

:b12:
พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

ฟังเพื่อละไม่รู้
ฟังแล้วรู้คือละ
ถ้าไม่ฟังก็ไม่ละ
ก็มีตัวตนไปทำ
คือทำอวิชชาเพิ่ม
เมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟัง
รู้สึกตัวไหมว่ากำลังไม่ทำฟังอยู่
เนี่ยมาบอกให้ทำปัญญาให้ตรงตามคำสอน
ไม่ทำสุตมยปัญญาแปลว่าไม่เคยทำปัญญาใหม่เพิ่มขึ้นเลยนะคะ
https://youtu.be/Zft4Gmc9ODQ


ไม่เคยตอบตรงคำถามสักปี

ก็บอกแล้วว่า ฟัง อ่าน มันลึกไม่พอ ดังตัวอย่าง คคห.ที่ยกมา

ปัญญา มีสามระดับ

สุตมยปัญญา
จินตามยปัญญา
ภาวนามยปัญญา

สุตะผิวนอกสุด บางทีนั่งฟังเขาพูดเข้าหูซ้ายออกหูขวา ฟังไปสัปหงกไป ถ้าจะอุปมาก็เหมือนคนร้อนแดดได้เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นหน่อย คิกๆๆๆ พอออกแดดอีกร้อนอีก เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นมาหน่อย วนไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


เห็นเน้นจังกายใจๆ รู้เปล่ากายใจอยู่ที่ไหน เอาชัดๆ

บอกแล้วว่าเคยฟังแล้ว เหมือนเคยบอกแล้วว่า เสียงดีเสียงเพราะพูดมีจังหวะจะโคนชัดถ้อยชัดคำนี่โอสมกับเคยเป็นครูเป็นอาจารย์ นี่ยอมรับ แต่มาพูดธัมมะเสียงก็ยังดีแต่ที่พูดนะมันเป็นทิฏฐิของคนๆหนึ่ง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q


เอานะที่นี้จะถามเรื่องกายใจ

นี่กายใจไหม

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว
เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 22:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


เห็นเน้นจังกายใจๆ รู้เปล่ากายใจอยู่ที่ไหน เอาชัดๆ

บอกแล้วว่าเคยฟังแล้ว เหมือนเคยบอกแล้วว่า เสียงดีเสียงเพราะพูดมีจังหวะจะโคนชัดถ้อยชัดคำนี่โอสมกับเคยเป็นครูเป็นอาจารย์ นี่ยอมรับ แต่มาพูดธัมมะเสียงก็ยังดีแต่ที่พูดนะมันเป็นทิฏฐิของคนๆหนึ่ง

cool
ตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีกายตรงไหนก็ตรงนั้นแหละมีตัวตนแล้วกำลังมีอวิชชาอยู่ค่ะ
ที่ไม่มีคือไม่รู้ว่ากำลังมีกิเลสเท่ากับไม่รู้ตัวว่าไม่มีตัวตนเดี๋ยวนี้จะรอเอาไปคิดได้เมื่อไหร่ล่ะคะ
:b12:
:b4: :b4:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 20 เม.ย. 2020, 22:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ฟังเพื่อละไม่รู้
ฟังแล้วรู้คือละ
ถ้าไม่ฟังก็ไม่ละ
ก็มีตัวตนไปทำ
คือทำอวิชชาเพิ่ม
เมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟัง
รู้สึกตัวไหมว่ากำลังไม่ทำฟังอยู่
เนี่ยมาบอกให้ทำปัญญาให้ตรงตามคำสอน
ไม่ทำสุตมยปัญญาแปลว่าไม่เคยทำปัญญาใหม่เพิ่มขึ้นเลยนะคะ
https://youtu.be/Zft4Gmc9ODQ


ไม่เคยตอบตรงคำถามสักปี

ก็บอกแล้วว่า ฟัง อ่าน มันลึกไม่พอ ดังตัวอย่าง คคห.ที่ยกมา

ปัญญา มีสามระดับ

สุตมยปัญญา
จินตามยปัญญา
ภาวนามยปัญญา

สุตะผิวนอกสุด บางทีนั่งฟังเขาพูดเข้าหูซ้ายออกหูขวา ฟังไปสัปหงกไป ถ้าจะอุปมาก็เหมือนคนร้อนแดดได้เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นหน่อย คิกๆๆๆ พอออกแดดอีกร้อนอีก เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นมาหน่อย วนไป

cool
คิดตื้นๆให้มันลึกซึ้งยังทำไม่เป็น
แล้วปัญญาขั้นสูงกว่าจะเกิดได้ไหม
บอกว่าอ่านคือจิตคิดนึกไม่ใช่จิตเห็น
คิดไปตามอดีตสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนอยู่ไงคะ
จิตเห็นไม่มีคิดนึกปนเพราะเห็นเกิดที่จักษุประสาท
แต่จิตคิดนึกเกิดที่หทยวัตถุรูปพิเศษตรงกลางหัวใจซึ่งมองไม่เห็น
อ่ะทีนี้ลองคิดให้ลึกซึ้งสิ...เห็นมีแสง...คิดไม่มีแสง...ตอนนี้กำลังคิดผิดว่าคิดพร้อมเห็นได้
เข้าใจไหมว่ากำลังปล่อยจิตปล่อยใจให้คิดอ่านไปตามความคิดเห็นผิดอยู่ลืมฟังเพื่อให้คิดตรงตามคำตถาคต
:b20:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 08:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q


เอานะที่นี้จะถามเรื่องกายใจ

นี่กายใจไหม

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว
เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน.



ข้ามนี่ไปอีก คิกๆๆๆ เขามีกายใจไหมเนี่ย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


เห็นเน้นจังกายใจๆ รู้เปล่ากายใจอยู่ที่ไหน เอาชัดๆ

บอกแล้วว่าเคยฟังแล้ว เหมือนเคยบอกแล้วว่า เสียงดีเสียงเพราะพูดมีจังหวะจะโคนชัดถ้อยชัดคำนี่โอสมกับเคยเป็นครูเป็นอาจารย์ นี่ยอมรับ แต่มาพูดธัมมะเสียงก็ยังดีแต่ที่พูดนะมันเป็นทิฏฐิของคนๆหนึ่ง

cool
ตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีกายตรงไหนก็ตรงนั้นแหละมีตัวตนแล้วกำลังมีอวิชชาอยู่ค่ะ
ที่ไม่มีคือไม่รู้ว่ากำลังมีกิเลสเท่ากับไม่รู้ตัวว่าไม่มีตัวตนเดี๋ยวนี้จะรอเอาไปคิดได้เมื่อไหร่ล่ะคะ
:b12:
:b4: :b4:



"ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ" นี่มีกายใจไหม ตอบ

1. ไม่มี
2. มี

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ฟังเพื่อละไม่รู้
ฟังแล้วรู้คือละ
ถ้าไม่ฟังก็ไม่ละ
ก็มีตัวตนไปทำ
คือทำอวิชชาเพิ่ม
เมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟัง
รู้สึกตัวไหมว่ากำลังไม่ทำฟังอยู่
เนี่ยมาบอกให้ทำปัญญาให้ตรงตามคำสอน
ไม่ทำสุตมยปัญญาแปลว่าไม่เคยทำปัญญาใหม่เพิ่มขึ้นเลยนะคะ
https://youtu.be/Zft4Gmc9ODQ


ไม่เคยตอบตรงคำถามสักปี

ก็บอกแล้วว่า ฟัง อ่าน มันลึกไม่พอ ดังตัวอย่าง คคห.ที่ยกมา

ปัญญา มีสามระดับ

สุตมยปัญญา
จินตามยปัญญา
ภาวนามยปัญญา

สุตะผิวนอกสุด บางทีนั่งฟังเขาพูดเข้าหูซ้ายออกหูขวา ฟังไปสัปหงกไป ถ้าจะอุปมาก็เหมือนคนร้อนแดดได้เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นหน่อย คิกๆๆๆ พอออกแดดอีกร้อนอีก เข้าร่มไม้ เออรู้สึกเย็นมาหน่อย วนไป

cool
คิดตื้นๆให้มันลึกซึ้งยังทำไม่เป็น
แล้วปัญญาขั้นสูงกว่าจะเกิดได้ไหม
บอกว่าอ่านคือจิตคิดนึกไม่ใช่จิตเห็น
คิดไปตามอดีตสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนอยู่ไงคะ
จิตเห็นไม่มีคิดนึกปนเพราะเห็นเกิดที่จักษุประสาท
แต่จิตคิดนึกเกิดที่หทยวัตถุรูปพิเศษตรงกลางหัวใจซึ่งมองไม่เห็น
อ่ะทีนี้ลองคิดให้ลึกซึ้งสิ...เห็นมีแสง...คิดไม่มีแสง...ตอนนี้กำลังคิดผิดว่าคิดพร้อมเห็นได้
เข้าใจไหมว่ากำลังปล่อยจิตปล่อยใจให้คิดอ่านไปตามความคิดเห็นผิดอยู่ลืมฟังเพื่อให้คิดตรงตามคำตถาคต
:b20:
:b4: :b4:



ฟุ้งซ่าน เลอะเทอะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


เห็นเน้นจังกายใจๆ รู้เปล่ากายใจอยู่ที่ไหน เอาชัดๆ

บอกแล้วว่าเคยฟังแล้ว เหมือนเคยบอกแล้วว่า เสียงดีเสียงเพราะพูดมีจังหวะจะโคนชัดถ้อยชัดคำนี่โอสมกับเคยเป็นครูเป็นอาจารย์ นี่ยอมรับ แต่มาพูดธัมมะเสียงก็ยังดีแต่ที่พูดนะมันเป็นทิฏฐิของคนๆหนึ่ง

cool
ตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีกายตรงไหนก็ตรงนั้นแหละมีตัวตนแล้วกำลังมีอวิชชาอยู่ค่ะ
ที่ไม่มีคือไม่รู้ว่ากำลังมีกิเลสเท่ากับไม่รู้ตัวว่าไม่มีตัวตนเดี๋ยวนี้จะรอเอาไปคิดได้เมื่อไหร่ล่ะคะ
:b12:
:b4: :b4:



"ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ" นี่มีกายใจไหม ตอบ

1. ไม่มี
2. มี

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b32:
ก็บอกแล้วว่าที่ถามเนี่ยกำลังมีนิวรณธรรมสงสัยคนอื่นถึงมาถามแสดงว่าไม่รู้จักตนเองตรงๆเลย
กำลังมีความคิดว่ามีตาหูจมูกลิ้นกายใจมีตัวมีตนเนี่ยเรียกว่ามีอุปาทานขันธ์เป็นตัวเองยึดมั่นตัวตน
บอกว่าจะรู้สึกตัวถูกตามคำสอนได้ต้องกำลังฟังแล้วคิดตามอยู่ทำให้คิดถูกตามได้ว่ากำลังเป็นยังไง
ก็เดี๋ยวนี้ตัวเองน่ะมีหมดทุกอย่างแล้วคือตัวตนกิเลสอุปาทานอวิชชาที่ไม่มีคือไม่ทำปัญญาตรงตามคำสอน
ฟังให้รู้สึกตัวว่าตัวเองไม่รู้ตัวว่ากำลังมีกิเลสและยึดอัตตาตัวตนประมาทไม่ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้นอยู่ค่ะ
ทุกอย่างเกิดแล้วเป็นแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะไม่เคยคิดถูกตามคำสอนได้เลยสักคำมัวแต่ไปทำอวิชชา
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 17:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีเห็นมาใช้เทียบกับคุณโรสได้ ของบ้านธัมมะใช้ฟัง แต่ของเขานี่คิดแยก

กดดู (รูปใหญ่เกิน)

https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/ ... e=5EC44134

เขาแนะนำว่ายังงี้

อ้างคำพูด:
บางที เราอาจจะไม่รู้ว่าการแยกธาตุนั้นทำอย่างไร ให้ทุกคนทำตามนี้นะ คือ เห็นใครสักคนก็ได้หญิง-ชายก็ได้คนที่เรารักก็ได้ แล้วเริ่มด้วยการจินตนการว่า กำลังลอกผิวหนังของคนคนนั้นออก แล้วก็จะเห็นเนื้อแดงๆ หลังจากนั้นก็เอาเนื้อแดงๆออกก็จะเห็นอวัยะวัยภายใน แล้วเอาอวัยวะภายในออกก็จะหลือแต่กระดูก เมื่อเอากระดูกออกไป แล้วไอ้คนที่เรารักมันหายไปไหนแระ มองไม่เห็นแระ หายไปไหนเนาะ เรามองไม่เห็นจิตใจเค้าแน่นอนถูกไหม ที่เราไปหลงรักหลงชอบ ฆ่ากันแย่งกัน เรารักเราลองหลงชอบอะไร หลงชอบผิวหนังรึ หลงชอบเส้นผมรึ หลงชอบนมเหรอ หลงชอบหัวใจ หรือหลงชอบไส้ติ่งของเค้ารึ หลงชอบกระดูกรึ ถ้าเราชอบสิ่งใดก็เอาสิ่งนั้นไปเดี่ยวๆเราจะยังชอบไหม เอาแขนของเขาไปเดี่ยวเอาไปนอนกอด เอานมข้างนึงของเค้าไปนอนกก เอาไหมแบบนั้น บางคนก็บอกว่าชอบที่จิตใจ งั้น จิตใจเค้าอยู่ตรงไหน ถ้าเอาจิตใจเค้าไป เอาไปทำไม ชอบทำไม หาคำตอบให้ตัวเองซิ จิตใจของเค้ามันมีประโยชน์อะไรต่อตัวเรารึ หรือถ้าชอบทั้งร่างกาย งั้นก็เอาร่างกายไปอย่างเดียว ไม่มีจิตใจ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีลมหายใจเรายังชอบมั้ย ลองหาคำตอบของการหลงรัก หลงชอบนะว่าเราชอบตรงไหน วิธีนี้ใช้ได้กับความโกรธด้วยนะ เราจะไปโกรธไส้ติ่งเค้ารึ จะโกรธหัวนมเค้า หรือจะโกรธ ติ่งหู เอาแบบนี้ฝึกคิดนะ ทำทุกวัน เราก็จะยอมรับเลยว่า เออ คนคนนึงมันก็ไม่มีอะไรเลยเนาะ ก็แค่ก่อนเนื้อก้อนนึงที่มีลมหายใจเคลื่อนที่ได้ เมื่อเราเห็นใครสักคนที่เราชอบหรือเราเกลียดก้อนเนื้อนั้น อาจจะทำอะไรที่เราไปรู้สึกว่าชอบบ้าง เกลียดบ้างๆ เราก็เตือนตัวเองว่า เออ ก็ก่อนเนื้อธรรมดา ไม่ต้องไปรู้สึกอะไร ถ้ายังทำไม่ได้ แปลว่ากิเลสยังหนาอยู่ การยังอยู่ในวัฎสงสารนี้ยังอีกยาวนาน

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

ถ้าเทียบตามที่เขาแนะนำ นี่ก็เป็นกายคตาสติ พอได้ มันจะต้องคิดให้เห็นจนติดตาติดใจ

คิดในห้องคนเดียวเหมือนไม่มีอะไรใจสลด พอออกไปเดินตามศูนย์การค้า เห็นคนสวยๆขาวๆอวบๆขาขาวๆ ถูกใจ :b15: เห็นคนหล่อๆเท่ห์ๆเหมือนพระเอกในดวงใจ :b13: ลืมหมดเลย :b32: กลับมาบ้านนึกได้ อ้าว เอาใหม่คิดใหม่แยกธาตุใหม่ ฯลฯ
ถ้าเทียบกับปัญญาสามระดับ นี่ก็เท่ากับจินตามยปัญญา เดี๋ยวมีเดี๋ยวลืม

ส่วนของคุณโรสฟังเอา เข้าศาลาฟังธรรมนั่งฟังคนที่เรานับถือพูด โอ้เก็ตๆๆปลื้ม พอออกไปบ้าน ได้ยินเสียงเพลงเป็นต้นที่ถูกใจหลุดไปอีก ได้ยินเสียงคนข้างๆซุบซิบนินทา หลุดไปอีก เดี๋ยวมีเดี๋ยวลืม

แต่ถ้าฟังคนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิพูด ตนเองก็ไม่เข้าใจเรื่องที่เขาพูดแต่ปลื้มคนพูดจังถูกใจคนพูด ก็หลงเข้ารกเข้าพงไม่ได้ยินเสียงกู่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


พระธรรมคำสอนมีที่กายใจของทุกคนตรงปัจจุบันตามคำสอน
พระธรรมคำสอนทุกคำมีไว้ให้เทียบความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
และจะรู้ความจริงตรงตามได้ต้องคิดตามตรงคำตรงที่กายใจมี
บัญญัติคำในพระธรรมคำสอนเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านะคะ
เข้าใจไหมคะว่าปัญญาตนเองจะมีเกิดขึ้นได้เกิดจากกำลังคิดตามได้
คือต้องกำลังคิดตามได้ตรงความจริงที่ร่างกายตนเองกำลังมีตรงคำถึงจะจำได้ตรงสัจจะ
ฟังไลฟ์สดออนไลน์หน่อยดีไหมคะจะได้เลิกปรุงสัญญาเก่าที่ไปจำบัญญัติคำเอาไว้แล้วคิดว่าเป็นปัญญา
https://youtu.be/AmhXwSTjN0Q
:b12:
:b32: :b32:


เห็นเน้นจังกายใจๆ รู้เปล่ากายใจอยู่ที่ไหน เอาชัดๆ

บอกแล้วว่าเคยฟังแล้ว เหมือนเคยบอกแล้วว่า เสียงดีเสียงเพราะพูดมีจังหวะจะโคนชัดถ้อยชัดคำนี่โอสมกับเคยเป็นครูเป็นอาจารย์ นี่ยอมรับ แต่มาพูดธัมมะเสียงก็ยังดีแต่ที่พูดนะมันเป็นทิฏฐิของคนๆหนึ่ง

cool
ตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีกายตรงไหนก็ตรงนั้นแหละมีตัวตนแล้วกำลังมีอวิชชาอยู่ค่ะ
ที่ไม่มีคือไม่รู้ว่ากำลังมีกิเลสเท่ากับไม่รู้ตัวว่าไม่มีตัวตนเดี๋ยวนี้จะรอเอาไปคิดได้เมื่อไหร่ล่ะคะ
:b12:
:b4: :b4:



"ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ" นี่มีกายใจไหม ตอบ

1. ไม่มี
2. มี

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b32:
ก็บอกแล้วว่าที่ถามเนี่ยกำลังมีนิวรณธรรมสงสัยคนอื่นถึงมาถามแสดงว่าไม่รู้จักตนเองตรงๆเลย
กำลังมีความคิดว่ามีตาหูจมูกลิ้นกายใจมีตัวมีตนเนี่ยเรียกว่ามีอุปาทานขันธ์เป็นตัวเองยึดมั่นตัวตน
บอกว่าจะรู้สึกตัวถูกตามคำสอนได้ต้องกำลังฟังแล้วคิดตามอยู่ทำให้คิดถูกตามได้ว่ากำลังเป็นยังไง
ก็เดี๋ยวนี้ตัวเองน่ะมีหมดทุกอย่างแล้วคือตัวตนกิเลสอุปาทานอวิชชาที่ไม่มีคือไม่ทำปัญญาตรงตามคำสอน
ฟังให้รู้สึกตัวว่าตัวเองไม่รู้ตัวว่ากำลังมีกิเลสและยึดอัตตาตัวตนประมาทไม่ฟังเพื่อให้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้นอยู่ค่ะ
ทุกอย่างเกิดแล้วเป็นแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะไม่เคยคิดถูกตามคำสอนได้เลยสักคำมัวแต่ไปทำอวิชชา
onion onion onion



ไม่ตอบ คคห.ข้างบนนั่นใช่ไหม ถ้างั้นเอาใหม่ คนๆนี้เขามีกาย มีใจไหม

จิตบอกให้หยุดหายใจ
ผู้รู้ช่วยบอกหน่อยค่ะ เป็นอันตรายหรือปฏิบัติผิดทางไหมค่ะ เพราะฝึกทำเองโดยไม่มีครูบาอาจารย์สอนค่ะ หนูฝึกดูจิตมาประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ แรกๆก็เห็นจิตฟุ้งซ่านมาก
ช่วงหลังๆจิตเริ่มสงบ ไม่ไหลออกไปตามอารมณ์ข้างนอก แต่เริ่มเห็นจิต เฉยๆบ้าง สุขบ้าง
บางครั้งรู้สึกหดหู่เป็นทุกข์เบื่อโลกมากๆเลยค่ะ มันเป็นของมันเองควบคุมอารมณ์นี้ไม่ได้
ได้แต่ตามดูเฉยๆรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของเราเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ
บางครั้งก็นอนดูจิตไปเรื่อยๆแล้วเหมือนว่าตัวเองจะเคลิ้มๆไป แต่ยังมีสติรู้สึกตัวค่ะ
อยู่ดีๆจิตก็พูดว่า ลองหยุดหายใจตายดูหน่อยสิ แล้วหนูก็หยุดหายใจตามไปด้วย บังคับร่างกายไม่ได้เลยค่ะ ตอนนั้นขยับร่างกายไม่ได้ด้วยค่ะ
รู้สึกเริ่มกลัวก็เลยพยายามฝืนจนหายใจได้ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัดและรีบสูดลมหายใจเข้าปอดค่ะ ถ้าปล่อยไปนานกว่านี้ คิดว่าตัวเองต้องตายจริงแน่ๆเลยค่ะ
เกิดจากอะไรค่ะ หนูทำผิดทางไหมค่ะ ถ้าเกิดเป็นอีกจะทำอย่างไรดีค่ะ

ถ้าเทียบกับสอง ตย.ก่อนหน้า คุณโรส ฟัง เขาคิด แต่ ตย. นี้ภาวนา (ภาวนามยปัญญา) โฟกัสข้อความที่ขีดเส้นใต้ ไม่ใช่ตัวตนมันต้องเห็นจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ไม่ใช่คิดวาดภาพเอา ไม่ใช่ฟังจากคนอื่นพูดให้ฟัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2020, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:


ไม่ตอบ คคห.ข้างบนนั่นใช่ไหม ถ้างั้นเอาใหม่ คนๆนี้เขามีกาย มีใจไหม

จิตบอกให้หยุดหายใจ
ผู้รู้ช่วยบอกหน่อยค่ะ เป็นอันตรายหรือปฏิบัติผิดทางไหมค่ะ เพราะฝึกทำเองโดยไม่มีครูบาอาจารย์สอนค่ะ หนูฝึกดูจิตมาประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ แรกๆก็เห็นจิตฟุ้งซ่านมาก
ช่วงหลังๆจิตเริ่มสงบ ไม่ไหลออกไปตามอารมณ์ข้างนอก แต่เริ่มเห็นจิต เฉยๆบ้าง สุขบ้าง
บางครั้งรู้สึกหดหู่เป็นทุกข์เบื่อโลกมากๆเลยค่ะ มันเป็นของมันเองควบคุมอารมณ์นี้ไม่ได้
ได้แต่ตามดูเฉยๆรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของเราเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ
บางครั้งก็นอนดูจิตไปเรื่อยๆแล้วเหมือนว่าตัวเองจะเคลิ้มๆไป แต่ยังมีสติรู้สึกตัวค่ะ
อยู่ดีๆจิตก็พูดว่า ลองหยุดหายใจตายดูหน่อยสิ แล้วหนูก็หยุดหายใจตามไปด้วย บังคับร่างกายไม่ได้เลยค่ะ ตอนนั้นขยับร่างกายไม่ได้ด้วยค่ะ
รู้สึกเริ่มกลัวก็เลยพยายามฝืนจนหายใจได้ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัดและรีบสูดลมหายใจเข้าปอดค่ะ ถ้าปล่อยไปนานกว่านี้ คิดว่าตัวเองต้องตายจริงแน่ๆเลยค่ะ
เกิดจากอะไรค่ะ หนูทำผิดทางไหมค่ะ ถ้าเกิดเป็นอีกจะทำอย่างไรดีค่ะ

ถ้าเทียบกับสอง ตย.ก่อนหน้า คุณโรสฟัง เขาคิด แต่ ตย. นี้ภาวนา (ภาวนามยปัญญา) โฟกัสข้อความที่ขีดเส้นใต้ ไม่ใช่ตัวตนมันต้องเห็นจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ไม่ใช่คิดวาดภาพเอา ไม่ใช่ฟังจากคนอื่นพูดให้ฟัง


เห็นมา เอามาให้เทียบอีก :b1:
ข้างบนเขาก็ยังยึดยังติด (อุปาทาน) ในรูปนามยังกลัวตาย (ความจริงรูปนามมันเป็นเช่นนั้นมันไม่ตายหรอก :b32: แต่มันหลอกว่าจะตาย เราเลยกลัว)

ส่วนข้างล่างนี่

รูปภาพ

คนอ่านแล้วคิดตามเหตุตามผลแล้วร้องอ๋อ เออๆๆจริงๆอย่างนั้นตรรกะพื้นๆ
คคห. บนลึกกว่า เพราะเขาสัมผัสสภาวธรรมเอง แต่เขายึดสภาวะนั้น จึงไปต่อไม่ได้
ถ้ามีคำถามว่า ผู้ปฏิบัติแบบนั้นจะไปต่อต้องทำอย่างไร? คำตอบ คือ ต้องกำหนดรู้สภาวะนั้นทุกๆขณะ รู้สึกอย่างไรเป็นอย่างไร ต้องกำหนดอย่างนั้น รู้สึกจะเป็นจะตายจะอ้วกแตกอ้วกแตนก็กำหนดจิตตรงๆสภาวะ ไม่เลี่ยงหนีความจะเป็นจะตายนั่น ตัวอย่างวิธี จะตายหนอๆๆๆ :b12: คุณโรสไม่เข้าใจ :b1: แต่บอกคนที่ทำกรรมฐานซึ่งทำจริงๆให้มีทางออกมีทางไปต่อ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2020, 04:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


การเกิดดับนามรูปมีเหตุปัจจัย

พระพุทธเจ้าแสดงเหตุของธรรม

พร้อมกับการดับลงของเหตุ

สมบูรณ์ ต้น กลาง ปลาย

ธรรมทั้งปวงล้วนเกิดแต่เหตุ

หากไม่แจ้งแทงทะลุ

มันก็จะกลายเป็นลัทธิลอกเลียนแบบนะครับ

คืออยากจะเป็นพุทธ แต่ไม่ยอมรับคำสอนของพระพุทธเจ้า

แต่อ้างชื่อพระพุทธเจ้า และตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า

มันถึงกลายเป็นมอจฉาทิฏฐิอยู่อย่างนี้

อ้างว่าอวิชชาเป็นแบบนั้นแบบนี้
ตัวเองนั้นอวิชชาล้นหัวดูไม่ออก

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 82 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron