ยังอีกยังไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีอวิชชา555
ก็ตัวเองไม่รู้ว่าคำสอนคิดถูกตรงตามได้แค่ตอนที่ฟัง
ตอนที่ไม่ฟังก็ไปเพื่อทำตามความอยากของตัวเองไงคะ

ตาก็ไม่มีใครทำ
หูก็ได้ยินแล้ว
เป็นตัวก็เป็นแล้ว
บอกแล้วว่าไม่ได้ทำ
เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว
มัวแต่ไปเพื่อทำตามกิเลสตัวเอง
ลืมและประมาทไม่ฟังคำสอนให้เข้าใจก่อน
ผู้ที่ฟังคำสอนจากพระโอษฐ์ฟังเข้าใจแล้วก็กลับบ้านมีใครขอนอนเฝ้าวัดไหม555
ไม่รู้ใช่ไหมว่าพระพุทธเจ้าอนุญาตให้จำวัดได้เฉพาะผู้ที่ผ่านการบรรพชาอุปสมบทญาติโยมมีบ้านก็กลับบ้าน

บวชคือสละอาคารบ้านเรือนแล้ว
ไม่มีห่วงสัมบัติพัสถานเงินทอง
เพราะใช้ได้แค่ปัจจัยสี่และ
อัฏฐบริขาร8อย่าง
มืดก็จุดเทียน
วัดคนสร้าง
ให้อยู่ฟรี
ไม่มีห่วงที่จะตายลงแล้วเป็นเปรตเฝ้าวัด555
เห็นแค่สีกระทบตาดับมืดแล้วเห็นสิ่งภายนอกน่ะอะไร
มีให้เห็นจริงๆเหรอกุฏิศาลาเงินที่รับมาใช้น่ะเห็นดับนานแล้วไม่มีตัว

ก็เล่นพูดเอาเองตีความเอาเองทั้งเพทั้งระยองเกาะเสม็ด (เกาะแก้วพิสดาร) นะฮับ ภาษากะเหรี่ยงว่า พูดเองเออเอง

เอาอีกแระ วนมาอีกแระ ก็บอกแล้วว่า เลอะเทอะ เสียเวลาเปล่า

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วแต่ไม่รู้ว่าไม่มี
ก่อนเห็นไม่มีเห็นพอเห็นก็กระทบตาแล้วดับมืดหายไปในตาดำไม่เหลือซากที่เห็น
คุณกรัชกายเห็นอะไรนอกตาตัวเองได้ไหมในเมื่อตถาคตบอกว่าเห็นดับทันทีที่กระทบตาดำ

ทั้งในตาทั้งนอกตาเห็นเองไม่ได้
นอกจากฟังแล้วคิดไตร่ตรอง
เกิดเป็นปัญญาที่เข้าใจตาม
ไม่มีตัวเรามีแต่ธัมมะที่
กำลังเกิดดับทีละ1
หมดไปตลอด
ไม่รู้ตลอด
=มีอวิชชา
(อวิชชาแปลว่าโง่)

คำสอนของพระพุทธเจ้าเกิดจากตรัสรู้
ไม่รู้ใช่ไหมว่าเอาไปทำตามไม่ได้เพราะคนที่
จะทำจนถึงเป็นพระพุทธเจ้าแล้วมาทำแค่บอก
คือพระพุทธเจ้าพระองค์หน้าตัวเราชาตินี้เป็นได้แค่สาวก(สาวก=ผู้ฟัง)
ทำได้แค่ฟังและไตร่ตรองตามให้เกิดปัญญาของตัวเองค่ะ

ไม่รู้ว่าอะไรอะไรที่คิดว่ามีนอกตัวนั้นน่ะไม่มี
และอะไรอะไรที่คิดว่ามีที่ตัวพอดับแล้วก็ไม่มี
เข้าใจขึ้นมาสักนิดคือเริ่มมีปัญญาบ้างไหมคะ
หรืออ่านไปก็งั้นแหละตูจะทำตามที่คิดต่อไป
555ไม่เคยฟังเพื่อให้ระลึกตามคำของตถาคตได้แล้วจะเกิดสติได้เหรอ555

เห็นไม่ใช่เรา
เราเห็นอะไร
และคิดอะไร
ตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ไม่มีคิด
เห็นเกิดและดับภายในตาดำ
คิดเกิดและดับภายในใจที่หทยวัตถุ
เห็นกะคิดเป็นคนละขณะจิตไม่เกิดร่วมกัน
ตอนนี้เห็นอะไรคิดอะไรอยู่บอกว่าคิดพร้อมเห็นไปด้วยคือคิดเห็นผิดไตร่ตรองให้เข้าใจสิ

ฟุ้งซ่าน

เราน่ะ
ตัวเรานั่นแหละ
สิกขาแปลว่าศึกษาพระพุทธศาสนาถูกตรงตามคำสอนมั๊ย
หรือเอาแต่อ่านตำราแล้วท่องจำแบบตำราเรียนแล้วก็คิดว่ามีความรู้555
ปัญญาตรงตามคำสอนต้องรูู้ความจริงที่ตัวเองกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงกับคำสอนคำไหน555
เอาแต่จำบัญญัติคำต่างๆแล้วก็คิดแต่จะเอาตัวตนไปทำตามความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดของตัวเองไม่ฟังเลย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงและเข้าถึงความจริงที่แท้จริงของทุกๆคำที่พระองค์บัญญัติคือความจริงที่รู้แล้ว
พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อให้ผู้ที่ฟังเท่านั้นเข้าถึงความจริงของสิ่งที่ตัวเองกำลังมีตอนที่ฟังทันที
พระพุทธเจ้ากล่าวแต่ละคำหลังจากที่ตรัสรู้ให้ผู้ที่ไปเฝ้าฟังและเสด็จไปเทศนาโปรดบุคคลที่จะได้บรรลุธรรม
ผู้ที่ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็มีแต่ฟังคำที่สาวกอรหันต์กล่าวคำของพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุธรรมตอนที่ฟัง
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปอ่านตำรามาก่อนฟังธรรมจากพระโอษฐ์มั๊ยรู้ล่วงหน้าไหมว่าจะบรรลุเป็นพระโสดาบัน
คิดว่าจำทุกๆคำในพระไตรปิฏกได้ก็ฉลาดแล้วรู้แล้วงั้นหรือกิเลสเต็มฟังบ้างนะจะได้เริ่มมีปัญญาขึ้นมาบ้าง
https://youtu.be/ceU-b2aJbzo

เห็นแล้วก็ได้แต่ปลง คือ ไปหยิบศัพท์นั่นนี่ของเขามาแล้วก็มามโนนั่นนี่เอาเอง นี่แหละที่เขาเรียกธรรมปฏิรูปปฏิสังขรณ์



นั่นแสดงว่าไม่อ่านตำราทางพุทธศาสนาเบย และสื่อว่าตัวคุณโรสและเจ้าสำนักรู้ตรงคำสอน

ถ้ายังงั้นถามนี่ เขาเป็นอะไร

ที่เรากำลังเห็นอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไร
1.คิดเองก็ต้องบอกว่าเราเห็นแน่นอน
2.คิดตามคำสอนคือจิตเห็นไม่ใช่เราเห็น
ตอบถูกก็ต้องเป็นข้อ2แสดงว่าเข้าใจ
ถามต่อไปว่าแล้วจิตเห็นที่กำลังเห็นเนี่ยอยู่ตรงไหน
1.คิดเองก็จะบอกว่าจิตเห็นอยู่ทุกๆที่ตรงที่มีสิ่งต่างๆให้เห็น
2.คิดตามคำสอนก็ต้องบอกว่าจิตเห็นเกิดที่ตาดับในลูกกะตา
ตกลงเป็นเราคิดเห็นอยู่เหมือนเดิมหรือว่าเริ่มคิดเห็นถูกตามได้ตอนอ่านคำตอบข้อที่2คะ
ลืมตาดูให้มันรู้จักความปกติของธัมมะตามคำสอนที่ตัวเองมีให้มันเข้าใจไม่ต้องคิดไปทำหลับตาทำอิทธิฤทธิ์

ไม่ต้องไปตั้งชื่อให้มันหรอก เห็นก็เห็น คิกๆๆ ได้ยินก็ได้ยิน ได้กลิ่นก็ได้กลิ่น ลิ้มรสก็ลิ้มรส สัมผัสก็สัมผัส คิดก็คิด

ย้ำอีกทีว่า คิดแบบสำนักคุณโรสเนี่ยนะ สักวันเถอะคงเอาไม้เสียบลูกชิ้นแทงตา แทงหู ตัดเส้นเอ็น