วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2020, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...ในปัจจุบันนี้ ก็เกิดจาก
ความอยากให้ร่างกายของเรานี้
ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ติดเชื้อโควิด -19
อยากให้ร่างกายแข็งแรง
อยากให้ร่างกายไม่ตายไปจากโรค
โควิด -19นี้

.แต่ความจริงมันก็มาบอกเราว่า
เป็นไปไม่ได้นะ เพราะคนที่ติดโรคก็มีนะ
คนที่ติดโรคโควิด -19 นี้ก็มี
และก็ตายจากโรคนี้ก็มี
มันก็เลยทำให้ ”ใจ” ของเราไม่สบายขึ้นมา

“ทั้งๆที่เรายังไม่ได้ติดโรค
ทั้งๆที่เรายังๆไม่ตาย”

.แต่พอรู้ว่ามีโอกาสที่จะติดได้ ที่จะตายได้
มันก็เลยทำให้เรา..
“เกิดความทุกข์ใจขึ้นมา”.
................................
.
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะหน้ากุฏิ 18/4/2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










“.. เพราะว่าโดยปกติ พอความทุกข์เบาลงสักนิด เราก็จะถอนหายใจ ฮ่าาา…แล้วก็ไปทำอย่างอื่น นี่เป็นปัญหามุนุษย์เรา จึงเป็นเหตุให้เราต้องหยุด ให้มีขันติความอดทนสักนิด บางทีเราคิดว่า เรามีขันติ ความอดทนต่อความลำบากอย่างเดียว แต่ให้เรา #มีขันติความอดทนเวลาเราสุขสบายสักหน่อย

เพราะว่า จะได้อยู่กับความรู้สึกอันนั้น จะได้ทำให้แจ้ง ทำให้เข้าใจว่า รสชาติของการดับทุกข์เป็นอย่างนี้ แล้วก็มีกำลังใจที่เริ่มคิด พิจารณาว่า ได้ทำอะไรครั้งนี้ที่ทำให้ได้เย็นกว่าเมื่อก่อน สงบกว่าเมื่อก่อน ชัดเจนกว่าเมื่อก่อน แล้วมันจะลงรอย และมีความมั่นใจมากขึ้น ในอริยมรรคมีองค์ 8 หนทางปฏิบัติ …”

พระราชโพธิวิเทศ (ปสันโนภิกขุ)










"การปรนนิบัติพ่อแม่ เป็นแค่การชำระดอกเบี้ย
เท่านั้นเอง เพราะหนี้พ่อแม่ ไม่ใช่หนี้ธรรมดา
แต่เป็นหนี้ศักดิ์สิทธิ์

พระพุทธองค์จึงทรงสอนว่า นอกเหนือจาก
การปฏิบัติพ่อแม่แบบทิศหกแล้ว ชาวพุทธเรา
ต้องพยายามส่งเสริมให้ท่านทำแต่คุณงามความดี
เรียกว่า เป็นกัลยาณมิตรของบิดามารดา"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ











"พระพุทธองค์ท่านก็ทรงสอนว่า
ร่างกายจิตใจ มันก็เป็นอยู่อย่างนั้น
มันจะเป็นของมันอยู่อย่างนั้น
มันจะไม่เป็นไปอย่างอื่น

คือ เริ่มเกิดขึ้นมา แล้วก็แก่
แก่มาแล้วก็เจ็บ เจ็บมาแล้วก็ตาย
อันนี้เป็นความจริงเหลือเกิน
มันก็เป็นสัจธรรมอยู่แล้ว
ก็มองดูมันด้วยปัญญาให้เห็นมันเสียเท่านั้น

ถึงแม้ว่าไฟ มันจะมาไหม้บ้านของเราก็ตาม
ถึงแม้ว่าน้ำ มันจะท่วมบ้านของเราก็ตาม
ก็ให้มันเป็นเฉพาะบ้าน เฉพาะเรือน
ถ้าไฟมันไหม้ ก็อย่าให้มันไหม้หัวใจเรา
ถ้าน้ำมันท่วม ก็อย่าให้มันท่วมหัวใจเรา
ให้มันท่วมแต่บ้าน ให้มันไหม้แต่บ้าน
ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกกายของเรา

ส่วนจิตใจของเรานั้น ให้มันมีการปล่อยวาง
เพราะในเวลานี้มันสมควรแล้ว มันสมควรที่จะปล่อยแล้ว"

หลวงปู่ชา สุภัทโท












"ชีวิตคู่นั้น...
ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด
อยู่ด้วยกันต้องแข่งกันยอมแพ้
ให้อภัยกัน ถนอมน้ำใจกัน
เพราะตอนไม่เหลืออะไร
ก็มีแต่คนในครอบครัว
นี่แหละที่ยังอยู่กับเรา
คอยปลอบเรา ทุกข์กับเรา
และดูแลเราจนลมหายใจสุดท้าย"

- พระอาจารย์คม อภิวโร












" สตินี่...ทำให้มันมีกำลังดีแล้ว
จิต...มันจึงจะล่วง เพราะสติ...คุ้มครองจิต
ตัวสติ...ก็คือ จิตนั่นแหละ
แต่ว่า...ลุ่มลึกกว่า

สตินั่น อบรมจิต
ครั้นอบรมจนขั้นจิตรู้...เท่าตามความเป็นจริงแล้ว
มันจะหายความหลง พบความสว่าง
ความหลงนั้นก็คือ...ไม่มีสติ
ครั้นมีสติคุ้มครอง หัดไปจนแน่วแน่แล้ว
ให้มันแม่นยำ
ให้มันสำเหนียกแล้ว
มัน จะรู้แจ้งทุกสิ่ง ทุกอย่าง

สติ...แก่กล้า
จิต ย่อมทนไม่ได้ เมื่อ...ทนไม่ได้ ก็สงบลง
ครั้นสงบลงแล้ว มัน...ก็รู้
เดี๋ยวนี้ มันไม่มีปัญญา มันก็ส่ายไป - มา

เพราะ มันไปหลายทาง
จิต...ไปหลายทางเพราะเป็นอาการ ของมัน
เมื่อผู้วางภาระ คือ...ว่าง
ไม่ยึดถือว่า ขันธ์ ๕ นี้ เป็นตัว เป็นตนแล้ว
ไม่ยึดถือแล้ว...ปลง
เป็น...ผู้วางภาระ ก็มีความสุข
จะยืน เดิน นั่ง ก็มีความสุข

ไม่ยึดถือ...
เพราะ...รู้ตามความเป็นจริง ของมันเเล้ว."

(หลวงปู่ขาว อนาลโย )
วัดถ้ำกลองเพล













" ผู้ให้ธรรมทาน ได้ชื่อว่า
ให้มนุษย์สมบัติ สวรรค์
สมบัติ และนิพพานสมบัติ

การให้ธรรมเป็นทาน
ขอเพียงผู้ให้ มีศรัทธา
ทางธรรม ก็สามารถให้ทานได้

คนที่รู้ธรรมมาก น้อย
หรือไม่รู้เลยก็ให้ได้
เป็นพระหรือฆารวาส
ก็สามารถให้ธรรมได้
ด้วยการสร้างธรรมทาน
จึงกระทำได้ทุกคน

ผู้ปรารถนาอยากได้บุญ
ที่สูงที่สุด คือ การสร้าง
มหาบุญกุศล ด้วยการ
ทำหนังสือธรรมะ หนังสือ
ธรรม หนังสือสวดมนต์
ที่มีคำสอนของพระพุทธเจ้า
ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้

ผู้รับธรรม รับแล้วก็ต้อง
เอาไปปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ
ก็ไม่เกิดผลดีอันใดๆ
เปรียบเหมือนมีดินแล้ว
ไม่ยอมปลูก มีอาหารแล้ว
ไม่ยอมกิน มีไม้แล้วไม่ยอม
ปลูกบ้าน มีเงินแล้วไม่ยอมใช้
สิ่งเหล่านี้ถึงจะมีก็เหมือนไม่มี

ผู้รับนำเอาธรรมนั้นไปใช้
ไปปฏิบัติตามจะเกิด
ประโยชน์นับภพนับชาติ
ไม่ได้ ย่อมได้สมบัติ
ในสุขคติภพ
และถึงพระนิพพานสมบัติ
อันเป็นที่สุด

ฉะนั้นผู้ใดให้ธรรมเป็น
ทานก็เท่ากับ เอามนุษย์
สมบัติ สวรรค์สมบัติ และ
นิพพานสมบัติ ไปให้กัน
เลยทีเดียว มีแต่หาความสุข
ความเจริญอย่างที่สุดมิได้

ธรรมย่อมรักษา
ผู้ประพฤติธรรม ธรรมที่
บุคคลประพฤติอยู่เป็นนิจ
ย่อมนำสุขมาให้ "

โอวาทธรรม
สมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พรฺหมฺรํงสี)












ความสงบเป็นธรรมเครื่องอยู่ของใจ

"เดี๋ยวนี้ชอบมีการพูดกันบ่อยๆ พูดกันมากๆ ในวงการผู้ปฏิบัติธรรมว่า จิตสงบมากไม่เกิดปัญญา

คำพูดอันนี้ เป็นคำพูดของผู้ที่จิตยังไม่สงบพอ และไม่สมควรจะพูดอย่างนี้ การพูดอย่างนี้จะบั่นทอนความพยายามในการทำจิตให้สงบ เพราะหากมีความพยายามน้อยไปหรือไม่มีความพยายามเอาเสียเลย ใจก็จะไม่มีโอกาสเข้าสู่ความสงบได้ เพราะความสงบเป็นธรรมเครื่องอยู่ของใจ

ต้องเป็นผู้ที่มีจิตสงบแล้ว จิตที่สงบควรที่จะใช้ ควรที่จะเอามาใช้ทำการทำงานให้เป็นประโยชน์ แต่ก็ไม่สนใจที่จะเอาจิตที่สงบนั้นมาทำการทำงาน ปล่อยให้สงบอยู่อย่างนั้นไปเสีย ประโยชน์อันเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาด้วยจิตที่สงบนั้นก็ไม่เกิดขึ้น

เหมือนกับเรามีเรือนชานบ้านช่องเป็นที่อยู่ หากไม่สนใจที่จะออกมาจากบ้านไปทำการทำงานอะไร ประโยชน์อันเกิดจากการจากงานก็จะไม่เกิดขึ้น เรามีเรือนชานบ้านช่องเป็นที่อยู่ ในเมื่อไปทำการทำงานกลับมาพักผ่อนอยู่เป็นสุข ถ้าหากว่าไมมีเรือนเป็นที่อยู่ที่อาศัย ทำการทำงานแล้วไม่มีเรือนเป็นที่พักอาศัยนั้น อันนี้ใช้ไม่ได้"

..... หลวงปู่แบน ธนากโร











แก่.เจ็บ.ตาย.เน่อ หมั่นปฏิบัติเข้าไวไว. เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว.

โอวาทธรรม
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ










#เดินจงกรม #ยืนภาวนา #นั่งสมาธิ
#ไหว้พระสวดมนต์ #นั่นแหละได้บุญเยอะ

สมัยหนึ่ง (ปี ๒๔๙๖)
“หลวงปู่จันทา ถาวโร” ไปวิเวกอยู่ที่ถ้ำเป็ด
ภูเหล็ก อ.สว่างแดนดิน
(ปัจจุบันเป็น อ.ส่องดาว จ.สกลนคร)
กับหลวงพ่อไค ท่านเป็นคนภูไท
อายุมากแล้ว (๖๐-๗๐ ปี)
หลวงปู่จันทาได้เห็นผีกินผี
เมื่อผีเหล่านั้นกลับไปหมดแล้ว

ในขณะที่นั่งภาวนาอยู่นั้น
ไม่นานก็มีฝูงเทพบุตรเทพยดามาจากภูเขาใหญ่
รูปร่างสวยงามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ
มาเป็นร้อยๆ มากราบไหว้
แล้วก็ขอรับพระไตรสรณคมน์ และศีล ๕
เมื่อได้โอกาสสนทนากันท่านได้เล่าไว้ว่า..

หลวงปู่จันทา ได้ถามเทวดาเหล่านั้นว่า
“โยม…ขณะที่อาตมาเดินจงกรมตั้งแต่ ๖ โมงเย็นจนถึง ๕ ทุ่มนั้น ได้ยินเสียงดังสนั่นราวกับว่าภูเขาเหล็กมันจะพังลงมา นั่นเป็นเสียงอะไร?”

เทวดาได้ตอบกลับมาว่า
“โอ๋…เป็นเสียงที่ข้าพเจ้าสาธุการส่วนบุญกับท่าน
การเดินจงกรมมีบุญมากนะท่าน
ก้าวขวาลงสู่พื้นดินนั่น พุทโธ ดังตึ้งนะ!!
แหมบุญมากอัศจรรย์ใจ
พวกข้าพเจ้าจึงมาสาธุการส่วนบุญด้วย”

นั่นแหละ…บุญในศาสนาพุทธ
คือ เดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ
ไหว้พระสวดมนต์ นั่นแหละได้บุญเยอะ!!
จากนั้นก็ถามเขาต่อไปอีกว่า…

“เมื่ออาตมาไหว้พระสวดมนต์ว่า
อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ภควาฯ…
แล้วเสียงที่เคยดังนั้นเงียบหายไป
นั่นเป็นเพราะเหตุไร?”

เทวดาก็ตอบว่า …
“โอ๋…พวกข้าพเจ้าหยุดส่งเสียงไม่ให้ไปกระทบ
อรหัง สัมมาสัมพุทโธฯ นั้น
กลัวจะเป็นบาป
ได้แต่อนุโมทนาสาธุการส่วนบุญเท่านั้น
ไม่ให้มีเสียงไปกระทบ อรหัง
ผู้ไกลจากข้าศึกคือกิเลส
สัมมาสัมพุทโธ เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
จะอุบัติบังเกิดในโลกแต่ละกัปแต่ละกัลป์นั้น
ก็เป็นของยาก!!

เพราะการสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้านั้นแสนยาก นั่นแหละ!!..เมื่อมีขึ้นแล้วก็เป็นโชคลาภอย่างดี
จะไปสวดที่สวรรค์ก็ชนะทั้งนั้น!!
จะไปสวดที่พรหมโลกก็ชนะทั้งนั้น
จะไปสวดที่นรกอเวจี ไฟนรกก็ดับ
น้ำร้อนแสบเย็นเค็ม ก็กลับกลายเป็นน้ำหวาน
ให้สัตว์นรกได้กินเป็นอาหาร”
“อันชื่อเสียงเรียงนามของ
อรหังฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ
สัมมาสัมพุทโธ นั้นเป็นของดีเลิศแท้นะท่าน

พวกข้าพเจ้าถึงแม้ว่าจะได้ไปสวรรค์แล้ว
ก็ไม่ลืมไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา เดินจงกรม
บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ยึดเอาพระนิพพานเป็นที่ไปอยู่เป็นนิจ
ธรรมทั้งหลายเหล่านี้เป็นธรรมที่ส่งผล
ให้ไปพระนิพพานได้
อย่างต่ำก็ไปสวรรค์
อย่างกลางก็พรหมโลก
อย่างสูงที่สุด วิมุตติหลุดพ้น คือ พระนิพพาน
เบื้องหน้ามีเท่านั้นแหละ !!
ฉะนั้น พวกข้าพเจ้าจึงไม่ให้มีเสียงกระทบ
นี่ข้อสำคัญมั่นหมาย”

นั่นแหละ!!
เทวดาเขาก็เป็นสักขีพยานนะว่า
การเดินจงกรมเป็นบุญใหญ่
ยืนภาวนาก็เป็นบุญใหญ่
ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิก็เป็นบุญใหญ่หลวงนะ

พระอาจารย์จันทา ถาวโร












สร้างกฐินร้อยกองพันกอง. ยังไม่ได้บุญเท่ากับการภาวนา. ทำไมไม่พากันทำเอา.

หลวงพ่อ. ฉลวย อาภาธโร.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร